การผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออกที่กำแพงเพชร


ผลผลิตส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังประเทศจีนและฮ่องกง

การผลิตกล้วยไข่ส่งออกที่กำแพงเพชร  

สวัสดีครับ  ซึ่งห่างเหินจากการเขียนBlog นานถึง2 สัปดาห์เต็มๆครับ   เนื่องจากมีภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากองค์กร คือ  การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานตามระบบส่งเสริมการเกษตรจังหวัดกำแพงเพชร และคู่มือการปฏิบัติงานศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล เพื่อแจกจ่ายให้แก่นักส่งเสริมการเกษตรของจังหวัดกำแพงเพชร ในวันประชุม-สัมมนาเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการเกษตรระดับจังหวัด(PW)ปี2551  ซึ่งกำหนดจัดที่ห้องประชุมคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ระหว่างวันที่ 26-27 พฤศจิกายน 2550 นี้ จึงเกิดอาการล้าๆห่างจาก COM ไปเหมือนกัน  เมื่อฉุกคิดขึ้นมาปิ้งแว๊บ หลุดหรือยังๆๆๆๆๆๆ จึงคิดถึงเพื่อนๆชาวBlog G2K  ตัดสินใจเขียนบันทึกทันที

  

                เริ่มต้นด้วยการผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออกก็แล้วกัน  เผื่อจะมีประโยชน์แก่เพื่อนนักส่งเสริมการเกษตรและเครือข่าย   ในปัจจุบันนี้เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วครับว่า กล้วยไข่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดกำแพงเพชรพืชหนึ่ง ซึ่งมีเกษตรกรชาวสวนกล้วยไข่ ได้เริ่มมีการพัฒนาการผลิตเพื่อการส่งออก โดยมีการปลูกเป็นผืนใหญ่ ไม่น้อยกว่า 500ไร่  แต่เดิมก็มีการวิ่งซื้อโดยตัวแทนบริษัทส่งออก ไม่ว่าจะเป็นในรูปของการรวมกลุ่มผู้ผลิตหรืออื่นฯ

  

                เท่าที่ทราบข้อมูลจากเกษตรอำเภอคลองลาน ว่ามีเกษตรกรรายใหญ่    ที่ทำการผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออก อยู่ในเขตพื้นที่ หมู่ 1 ตำบลสักงาม อำเภอคลองลาน  จังหวัดกำแพงเพชร  คือ        ไร่ธรรมพร  กล้วยไข่ที่ผลิต นี้ผลผลิตส่วนใหญ่จะส่งออกไปยังประเทศจีน และฮ่องกง ซึ่งมีการบรรจุกล้วยไข่ลงกล่อง ในหนึ่งกล่องจะบรรจุได้น้ำหนัก 14 กิโลกรัม ขนาดของกล้วยไข่ที่ส่งออก 1 หวี จะมีน้ำหนัก 1.52 กิโลกรัมต่อหวี  สำหรับกล้วยไข่หวีใหญ่ ใน1 กล่องจะบรรจุได้ 8-9 หวี  หากหวีขนาดกลางจะบรรจุได้ 10-12 หวี และหวีขนาดเล็ก จะบรรจุได้ 15-16 หวี ปัจจุบันชาวสวนที่ขายได้ กิโลกรัมละ 10 บาท

 

 สำหรับกระบวนการผลิตกล้วยไข่เพื่อการส่งออก มีขั้นตอนพอสรุปได้ดังนี้

  

ขั้นที่1  เกษตรกรชาวสวนกล้วยไข่ จะต้องดูแลรักษาต้นกล้วยไข่ (อย่างดี)ตั้งแต่ปลูกจนถึงติดลูก

 

ขั้นที่2  หลักจากทำการตัดปลีทิ้ง โดยทำการห่อเครือกล้วย โดยใช้ถุงพลาสติกห่อหุ้มทั้งเครือ

  

ขั้นที่3  การเก็บเกี่ยว เลือกตัดกล้วยไข่ที่มีผลแก่เต็มที่แล้ว ที่มีความสม่ำเสมอของผลิต

  

ขั้นที่4  การลำเลียงและการขนส่ง ผลผลิตกล้วยทั้งเครือ จากในไร่ถึงโรงบรรจุหีบห่อเพื่อไม่ให้ผิวกล้วยช้ำและเสียหาย

ขั้นที่5 การควบคุมการบรรจุหีบห่อ โดยมีการแยกหวี การคัดหวี  การล้างเอายางกล้วยออก  การคัดเกรด  การจุ่มสารฆ่าเชื้อรา

  

ขั้นที่6  การบรรจุหีบห่อ และการขนส่งไปยังท่าเรือและสนามบิน เพื่อบรรทุกไปยังต่างประเทศผู้สั่งซื้อต่อไป

  แหล่งข้อมูล1.ไร่ธรรมพร หมู่1 ต.สักงาม อ.คลองลาน จ.กำแพงเพชร

                      2.ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบลสักงาม   

                   3.สำนักงานเกษตรอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร        

หมายเลขบันทึก: 147253เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2007 17:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 09:25 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีเจ้า...อ้ายสายัณห์

  • แวะมาเยี่ยมเยียนเจ้า
  • ได้ปิ๊กบ้านหละปูนพ่องก่อ
  • กล้วยไข่เวลาเอามาปลูกที่ลำพูน..ให้ผลผลิตไม่เต็มที่และสู้กล้วยหอมทองไม่ได้
  • กล้วยไข่ที่ส่งออกต้องมี GAP หรือปล่าวคะ
  • ขอบคุณค่ะ

                                 สาวหละปูนเจ้า

  • lสวัสดีครับน้องประหยัด
  • ขอบคุณจ้าดนักเน้อตี้ได้มาแวะแอ่วหา
  • พึ่งไปแอ่วละปูนมาเมื่อวันที่10-11 พย50นี้เอง
  • สำหรับกล้วยไข่หากจะนำไปปลูกที่ละปูน ต้องดำเนินการดังนี้ ดูน้ำดี ดินดีต้องปรับปรุงใส่อินทรีย์วัตถุนั้กๆเด้อ ปลูกแล้วห้ามแลดู จะต้องดูแลดีๆ เต๋มตี้ มันถึงจะออกลูกนะ
  • ความจริงการผลิตกล้วยไข่ที่กำแพงเพชร เพื่อการส่งออกก็ใช้หลักการของ GAP
  • สวัสดีค่ะ คุณเขียวมรกต
  • มาเยี่ยมค่ะ
  • ตกลงเรื่องกินกระยาสารทกับกล้วยไข่ เพราะอะไรค่ะ ยังรอฟังคำตอบอยู่นะคะ อิๆๆ
  • ที่จริงสำนักงานเกษตรจังหวัดกับเทคนิคก็ใกล้ๆกันเรียกว่าบ้านใกล้เรือนเคียงเลย แต่แปลกๆๆ มาเยี่ยมกับบนบล็อก ฮิๆๆ
  • สวัสดีครับอ.มิม
  • ดีใจสุดๆครับที่มาแวะเยี่ยม
  • ความจริงแล้วเท่าที่ทราบการนิยมกินกล้วยไข่กับกระยาสารทนั้นสืบเนื่องมาจากมีการบันทึกทางประวัติศาสตร์  ประเพณีงานสารทหรือวันสารทของไทยเราที่นำกระยาสารทและกล้วยไข่ไปทำบุญที่วัด ซึ่งนิยมปฏิบัติติดต่อกันมายาวนานครับ
  • แต่ต่อมาเมื่อมาถึงยุคของการท่องเที่ยว จ.กำแพงเพชรก็มีกลโรบายประชาสัมพันธ์ในช่วงสารทจึงจัดงานประเพณีกล้วยไข่เมืองกำแพงเพชรนั่นเองครับ
  • บางท่านก็บอกว่าหากทานเฉพาะกระยาสรทจะมีรสหวานมากเพราะมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง นำตาล ฯลฯบางท่านแพ้หวานกินแล้วเจ็บคอ หากกินคู่กับกล้วยไข่ก็จะมีรสที่หวานที่พอเหมาะพอดีครับ
  • ขอบคุณครับที่ลปรร.
  • วันข้างหน้าถ้าใครมาถามอีกว่าทำไมต้องสารทไทยกล้วยไข่จะได้ตอบได้ และไม่ขายหน้าที่เป็นคนกำแพงค่ะ
  • ขอบคุณมากค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท