ประสบการณ์ดูแลคนไข้หวัดใหญ่ 2009ที่บ้าน


การดูแลคนไข้หวัดใหญ่2009 ที่บ้าน

 ในที่สุดไข้หวัดใหญ่ 2009 ก็เข้าบ้าน.........ดิฉันมีลูก 3 คน ลูกสาวคนโตอยู่ชั้น ม.6 ลูกสาวคนที่ 2 อยู่ชั้น ม.1 ส่วนลูกชายคนสุดท้อง อยู่ชั้น ป.3 แถมคนนี้มีโรคประจำตัวเป็นโรคหอบหืด ดิฉันทราบเป็นอย่างดีว่าลูกคนนี้เป็น 1 ในกลุ่มเสี่ยงหากเกิดการติดเชื้อขึ้น จึงรับรองได้ว่าโอกาสที่จะได้รับเชื้อจากการทำงานพยาบาลของแม่ไม่มีแน่นอน..........แต่.... ตัวแปรสำคัญอีกตัวหนึ่งที่จะเป็นผู้นำเชื้อเข้าบ้านได้ก็คือ  เด็ก ม. 6 ..ที่ต้องเดินทางไปสอบในที่ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการสอบเอนทรานส์นั่นเอง...จะไม่ให้ไปก็เกรงว่าลูกจะเสียโอกาสการเรียน..เสี่ยงเป็นเสี่ยง... ดิฉันบอกวิธีการเป็นอย่างดีแก่ลูกว่าควรจะป้องกันตนเองอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่  แต่ระยะเวลายาวนานที่ต้องโดยสารรถทัวร์อาจเป็นโอกาสช่องทางหนึ่งที่ได้รับเชื้อนี้มา....

เมื่อลูกมาบอกอาการว่า ..แม่คะ..หนูมีอาการปวดหัว เจ็บคอ ไอ ปวดเมื่อยตามตัว บริเวณข้างๆลำคอ มีก้อนโต คลำได้ 3 ก้อน หนูเป็นมา 2 วันแล้วค่ะมาบอกแม่วันนี้เพราะรู้สึกแย่...เท่านี้ก็พอจะทราบแล้วค่ะว่าลูกมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัด2009ได้สูง  เพราะมีประวัติเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดมา มีอาการแสดงของไข้หวัดใหญ่ และที่สำคัญต่อมน้ำเหลืองฟ้องชัดเจนว่ามีการติดเชื้อเพราะโตจนคลำได้ แต่บางคนก็ไม่โตนะคะ..ดิฉันจึงเริ่มต้นอันดับแรกเลยหลังจากพาไปพบแพทย์แล้ว คือ ..แยกลูกคนนี้ออกจากทุกคนโดยเฉพาะจากน้องคนเล็ก..พอดีที่บ้านมี 2 ชั้น (ดิฉันคงจะขังแกไว้แน่ถ้าที่บ้านมีชั้นเดียว)จึงให้ลูกอยู่ชั้นบนคนเดียว ห้ามล็อกประตุเพื่อแม่จะได้ขึ้นไปดูแลได้ตลอดเวลา ให้เอาขวดน้ำดื่ม แก้วน้ำ ถ้วยชามจานช้อนแยกเด็ดขาด เวลาทำความสะอาดถ้วยชามก็แยก บอกน้องๆว่าห้ามขึ้นไปหาพี่สาวโดยเด็ดขาดจนกว่าแม่จะอนุญาต ตอนนั้นยังไม่ทราบผล PCR เลยนะคะ แต่ก็จำเป็นต้องทำเพราะประวัติเสี่ยงชัดเจน

ตอนกลางคืนดิฉันจะขึ้นไปดูแลขณะลูกหลับโดยการวัดไข้ เมื่อพบว่ามีไข้ก็จะปลุกให้ลูกทานยาลดไข้ และให้เช็ดตัวลดไข้ไม่ว่าจะดึกดื่นเพียงใด ซึ่งลูกก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หากไอก็ให้ดื่มน้ำอุ่น และให้รับประทานยาแก้ไอเป็นเวลา เมื่อน้องๆไปโรงเรียนก็จะอนุญาตให้ลงมาเดินเล่น โดยใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา และหยุดเรียนเพื่อป้องกันการไปแพร่ระบาดแก่เพื่อนๆตั้งแต่วันจันทร์ ถึงวันศุกร์ โชคดีของเพื่อนๆที่รู้ว่าเป็นไข้หวัดวันอาทิตย์

เมื่อน้องๆอยู่บ้านแต่พี่จำเป็นต้องลงมา ก็จะให้น้องเข้าไปอยู่ในห้องอีกห้องหนึ่งก่อน จนพี่สาวกลับขึ้นห้องถึงปล่อยน้องๆออกมา แม่จะยืมหนังวีดีโอ และหนังสืออ่านเล่นมาให้ขณะอยู่ข้างบน การเข้าไปเยี่ยมในห้องลูก แม่จะใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง ลูกอยากได้อะไรก็จะจัดหามาให้ ไม่ปล่อยออกไปนอกบ้านเด็ดขาด เพื่อป้องกันการไปแพร่กระจายเชื้อแก่ผู้อื่น

......แล้วผลตรวจ PCR ก็ออกมายืนยันว่าติดเชื้อ H1N1จริง........ซึ่งตอนทราบผล PCR อาการไข้ของลูกก็ทุเลาลงมาก เพราะเข้าวันที่ 4 ของการเจ็บป่วยแล้ว ไม่มีอาการแสดงของไข้หวัดใหญ่ จึงไม่จำเป็นต้องรับประทานยาต้านไวรัส เพราะยานี้จะมีประโยชน์กับคนอื่นมากกว่า ในรายที่มีอาการหนักที่ต้องให้ในวันที่ 2 ของการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่

ดิฉันดูแลลูกตามอาการอย่างต่อเนื่องซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วันก็หายดี และอนุญาตให้ลูกลงมาหาทุกๆคนในบ้านได้...ส่วนลูกชายคนเล็กก็ไม่แสดงอาการของการติดไข้หวัดใหญ่จากพี่สาวเลย...ก็ขอเล่าให้อ่านนะคะว่า ดิฉันได้นำคำแนะนำที่ดิฉันได้เคยเขียนเอาไว้ในหัวข้อ...เป็นไข้หวัดแล้วทำอย่างไร...มาใช้ได้ผลจริงๆค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ไข้หวัดใหญ่ 2009
หมายเลขบันทึก: 278829เขียนเมื่อ 21 กรกฎาคม 2009 18:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 03:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณประสบการณ์ดีๆ ที่นำมาเล่าเพื่อให้หลายต่อหลายคนที่กำลังเป็นรับมือกับโรคนี้ได้อย่างปลอดภัยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท