ผมถูกทำโทษครับ


...สมน้ำสมเนื้อ...

 


ช่วงนี้ปรากฏข่าวที่ครูลงโทษนักเรียนอย่างรุนแรงตามสื่อต่างๆอีกครั้ง กรณีนี้เริ่มมีมากขึ้นเมื่อผู้ปกครองของเด็กไม่ยอมให้ลูกถูกทำโทษอย่างรุนแรงในบางกรณี หรือ ไม่ชอบให้ลูกถูกลงโทษเลย และ บ่อยครั้งที่ครูถูกเพ่งมองว่าใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ

 

เด็กบางคนพ่อแม่อาจจะรักมากเหมือนไข่ในหินเกิดมาไม่เคยตีลูก แล้วครูเป็นใครมาทำลูกฉันได้

 

ครูบางคนเจอเด็กดื้อๆอาจจะอดใจไม่ไหวขอสักที

 

แต่ผมเชื่อมั่นว่าครูส่วนใหญ่กว่าจะลงโทษลูกศิษย์ด้วยไม้เรียวคงต้องจำเป็นจริงๆครับท่านถึงต้องทำ

 

เรื่องนี้ผมมองว่าน่าเห็นใจทั้งสามฝ่ายนะครับ ทั้งผู้ปกครอง เด็ก และครู ถ้าเด็กประพฤติไม่ดีจริงแล้วครูลงโทษแรงเกินไปก็จะมีปัญหา หรือครูไม่ยอมลงโทษเพราะกลัวจะเกิดเรื่องเกิดราวฟ้องร้อง ครูก็อาจจะเสียใจถ้าวันหนึ่งเด็กคนนั้นโตมาอย่างฝังใจกับพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้น ผู้ปกครองก็มีทั้งที่รับได้ รับไม่ค่อยได้และรับไม่ได้เลย กับการถูกลงโทษของลูก เด็กก็มีปนเปไป เรียบร้อย เรียนดี เรียนไม่ดี ซ่า ก๋ากั๋น เป็นเรื่องปกตินะครับผมว่า


บ้านผมอยู่อำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรีครับ แต่ชั้น ม1.-ม6. มาเรียนในเมืองราชบุรีเพราะเรียนตามที่พ่อสนับสนุนครับ พ่อบอกว่าที่นี่วิชาการดี และ มีโอกาสสอบเข้าที่ดีดี เด็กๆไม่รู้เรื่องหรอกครับ รู้ว่ามันโก้ดีได้มาเรียนในเมือง เวลากลับบ้านนี่ยืดเลยครับ เพราะในอำเภอจะมีเด็กมาเรียนในเมืองไม่มากเท่าไร


สำหรับผมประสบการณ์สมัยเรียนมัธยมต้นที่โรงเรียนประจำจังหวัดในจังหวัดราชบุรี ผมเคยถูกทำโทษเหมือนกันครับและถูกตีในห้องปกครองเพราะเป็นโทษที่ไม่สมควร ตอนนั้นจำได้ว่าอยู่มัธยมที่สอง ปกติก็จะเป็นเด็กเรียบร้อยพอใช้ เรียนดีพอประมาณแต่พอขึ้นชั้นมัธยมสองด้วยสาขาวิชาที่เลือกเรียนเลยได้ไปอยู่ห้องท้ายๆซึ่งต้องถือว่าซ่าเอาการอยู่สำหรับชื่อเสีย(ง)ของนักเรียนปลายแถว


จากเพื่อนๆที่แวดล้อมที่ค่อนข้างซ่า ก่ากั๋น ช่วงนั้นทำให้ตัวเองซ่าตามเพื่อนไปด้วย แต่โชคดีที่ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับพวกยาเสพย์ติด ส่วนโทษที่ผมได้รับนั้นเป็นโทษสถานเบาจากการทำผิดบางอย่างแต่ถูกลงโทษจากครูปกครองซึ่งห้องนั้นไม่มีใครอยากย่างกรายเข้าไปหรอกครับ

 

วันนั้นจำได้ว่าโดนหวดไปสามทีแรงๆ ต้องใช้คำว่าหวดเพราะตีจะค่อนข้างเบาๆสั้นๆ แต่นี้ไม้เรียวรุ่นใหญ่และยาว จากความผิดครั้งนั้นไม่เคยจะคิดนำเรื่องราวไปร้องเรียนแต่อย่างใดเพราะเราผิดจริงและก็ไม่อยากให้พ่อแม่รู้และเสียใจ แต่ก็ตั้งใจว่าโดนครั้งเดียวเข็ดแล้วครับ จำได้ว่านั่งระบมไปเป็นอาทิตย์

 

แต่การลงโทษคราวนั้นช่วยให้สำนึกผิดได้มากครับ และไม่ได้มีความโกรธเคืองคุณครูเลยเพราะท่านลงโทษเราตามหน้าที่เพราะเราผิดจริงๆ แต่สมัยนี้น่าจะน้อย หรือ เบาลงและอาจใช้วิธีหันหน้าเข้าหากัน พูดจากันมากขึ้น เพราะครูที่ลงโทษลูกศิษย์แบบถึงเนื้อถึงตัวคงไม่อยากถูกสอบสวนเช่นกัน

 

สำหรับผมการลงโทษก็เป็นสิ่งที่ดีนะครับถ้าทำอยู่ในกรอบ ไม่รุนแรงเกินไป แต่การลงโทษก็ไม่จำเป็นต้องลงไม้ลงมือเสมอไปอาจจะให้ไปทำความสะอาดโรงเรียน ทำเวรพิเศษ เรียกผู้ปกครองมาพูดคุย มีการพูดคุยกันสามฝ่ายหรือมีกิจกรรมสานสัมพันธ์บ่อยๆ หรือ ตีแบบ soft soft ก็น่าจะดีครับถ้าจำเป็น อย่างไรก็ให้ความรักพร้อมๆกับความรู้นะครับ เด็กๆก็ควรมีความเคารพนบนอบต่อครูบาอาจารย์ ผู้ปกครองก็ควรอบรมบ่มนิสัยลูกๆของท่านตามสมควรเพราะท่านก็เป็นครูคนแรกและครูตลอดชีวิตเช่นกันครับ ครูก็ควรมีจริยธรรม คุณธรรมตามกรอบที่เหมาะสมครับ

 

เป็นกำลังใจให้ครูดีและครูที่อาจจะพลาดพลั้งไปที่มีจิตสำนึกกลับตัวทุกท่านนะครับ และ อยากเห็นความเข้าใจทั้งสามฝ่ายของครู เด็ก และ ผู้ปกครอง

 

แต่สำหรับนักเรียนดื้ออย่างผม สงสัยจะสมควรที่โดนตีแรงๆให้หลาบจำครับ ไม่ได้ชอบความรุนแรงนะครับ แต่มันสมควรโดนแบบสมน้ำสมเนื้อกับความผิดครับ

 

 

ภาพจาก www.sarakadee.com

หมายเลขบันทึก: 299477เขียนเมื่อ 21 กันยายน 2009 14:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:35 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

สวัสดีค่ะ

  • ถ้าเป็นสมัยก่อน..ก็คงน่าจะไม่เป็นไรนะคะกับการลงโทษนักเรียน
  • แต่ปัจจุบัน..ทุกอย่างมันเปลี่ยนแปลง  ไม่ว่าด้านวัตถุและจิตใจ
  • ทำไม..เด็กจึงว่ายากต่างกับสมัยก่อน  เพราะสังคมมีส่วนทำร้ายเด็กมาก่อนเกิดแล้วค่ะ....
  • เมื่อเติบโตมาโรงเรียน..บ้านอันอบอุ่น มีเพื่อน ๆ คุณครูคือนางฟ้า (เชื่อเช่นนี้ ๑๐๐ %)  ถ้าหากครูขาดสติสวมวิญญาณนางร้ายไปเสียแล้ว...
  • หมายความว่า...ครูมีส่วนทำร่วมในการทำร้ายเด็ก...ไม่น่าให้อภัยนะคะ
  • เพราะเด็ก..เขาอาจจะทำไม่ถูก เพราะเขาเป็นเด็กขาดประสบการณ์ ครูควรจะแนะนำในทางดีมีเหตมีผล
  • และ..ครูควรมีความสามารถไปทำความเข้าใจ แนะนำ สานสัมพันธ์กับผู้ปกครองว่า...เด็กคนนี้ควรได้รับการดูแลอย่างไรบ้าง
  • ส่วนครูบ้านนอกอย่างพวกพี่คิม..เป็นมากกว่าครูค่ะ
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

เมื่อผมโดนทำโทษโดยถูกครูตีไปจากดรงเรียน

พ่อจะไม่ถามซ้ำว่าทำไมจึงโดน

ผมจะถูกพ่อตีซ้ำอีกที

น้องผมอีกสองคนก็มีชะตาเดียวกัน

...

ผมมาทบทวนสิ่งที่ครูกับพ่อผมทำ..ถูกหรือไม่

ในบริบทเช่นนั้น ครูเป็นครู พ่อเป็นพ่อ

การลงโทษแบบนั้น ทำให้ผมเข็ดหลาบและไม่กล้าทำผิดอีก

แต่วันนี้

บริบทเปลี่ยนไป

ครูเปลี่ยนไป พ่อเปลี่ยนไป

ผมไม่แน่ใจว่าวิธีการลงโทษเดิม ๆ จะยังคงใช้ได้หรือไม่

ผมมีเพื่อนเป็นครู

สอนในโรงเรียนบ้านนอก

ใช้การลงโทษด้วยการตี

เด็กคนหนึ่งเมื่อถูกตี ถูกลงโทษ การทำผิดคร้ังต่อไปจะล้ำลึกขึ้น...

ผมคิดไม่ออกจริง ๆ

ว่าควรจะอย่างไร...

เรื่องทำโทษนี่ ครู ป.1 เคยถูกแจ้งจับมาแล้วนะคะ

พอดีมีญาติเป็นตำรวจก็เลยรอดไป..

บางทีความปรารถนาดีของครู..มันสนองกลับเจ็บๆแบบนี้

ถ้าไม่เหลืออดทนจริงๆ...ครูไม่ทำโทษนักเรียนหรอกค่ะ..ขอยืนยัน

สวัสดีค่ะ

สมัยก่อนจะมีสุภาษิตว่า "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" ครูเปรียบได้กับพ่อแม่คนที่ 2 การลงโทษมักจะทำด้วยความรักและปรารถนาดี เนื่องจากเด็กบางคนก็คือเด็ก ... ยังไม่มีความคิด บางครั้งก็ดื้อและทำผิดกฏระเบียบ ต้องขนาบไว้ไม่ให้ดื้อ ไปผิดทาง...

ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันก็มีครูบางคนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะพอที่จะ "จำกัดให้การลงโทษ" เป็นการทำด้วยความเมตตาต้องการให้ลูกศิษย์เป็นคนดี... แต่กลายเป็นทำตามอารมณ์โกรธหรือกดดัน...

กฎทุกกฏเกิดขึ้น เนื่องจากมีคนละเมิดข้อที่ควรปฏิบัตินั่นเองค่ะ...

เนื่องจากคนไม่มีรากเองก็เป็นเด็กดื้อคนหนึ่ง...แต่ดื้อตาใส ไม่พูด ไม่เถียง แต่ไม่ทำ...ครูก็มักจะโกรธไม่ลง เลยรอดตัวจากการถูกลงโทษหลายครั้งค่ะ เพื่อน ๆ ที่ทำแบบเดียวกัน บอกว่า...ยัยคนนี้มีพระรอดแขวนคอ...แน่เลย

ความจริงเป็นเพราะคุณครูน่ะ ท่านไม่อยากลงโทษเด็กหรอก หากไม่เหลือบ่ากว่าแรง ดังที่คุณครู ป 1 กล่าวนั่นแหละค่ะ

(^___^)

สวัสดีครับ

พี่ครูคิม สังคมเปลี่ยนไปจริงๆ ความกดดัน มีมากขึ้น บางแห่งการศึกษาการเป็นการค้าไป

จิตวิญญาณครู จรรยาบรรณครูเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้นะครับ ไม่งั้นเรื่องทั้งหลายคงไม่เกิดขึ้นครับ

ขอบพระคุณครับ

ให้กำลังใจวิชาชีพครูทุกท่านครับ

ครับ คุณหนานเกียรติ บริบทและสังคมองค์รวมเปลี่ยนไปมากครับ

ให้ยาซ้ำๆอาจดื้อยาได้ครับ

คงต้องบ่มเพาะจริยธรรม คุณธรรมของทั้งครูและศิษย์ครับอย่างต่อเนื่องครับ

เป็นกำลังใจให้ครูดีทุกท่านครับ

สวัสดีครับ

ครู ป1. เห็นด้วยครับว่าคุณครูคงไม่อยากตีลูกศิษย์

แต่พวกดื้อๆนี่ต้องใช้คุณธรรมอย่างสูงในการจัดการครัับ

หวังว่าพวกเขาคงกลับใจได้ก่อนจะสายเกินไปครับ

สวัสดีครับ คุณไม่มีราก

ทำตามกฎแล้วมันเชยแหลก (คิดแบบเด็กๆน่ะครับ)

กฎไม่ได้มีไว้ฝ่า แต่เราต้องเข้าใจว่ากฎมีไว้ให้ทุกคนมีกรอบในการปฏิบัติครับ

ถ้าครูอดทนปลูกฝังสิ่งดีดี

สักวันที่เขามีวุฒิภาวะพอ คงเข้าใจความปรารถนาดีของครูครับ

ขอบพระคุณที่มาเยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายค่ะ

เห็นด้วยกับทุกท่านค่ะ

ว่าเด็กสมัยนี้ไม่เหมือนกับสมัยก่อน เค้ามีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงค่ะ

ใครพูดว่ากล่าวตักเตือนไม่ได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างด้วย เช่น สิ่งแวดล้อม  การอบรมเลี้ยงดู

สมัยก่อนไม่ต้องอะไรมากแค่มีแขกมาบ้านแล้วลูกนั่งเสนอหน้าฟังด้วยท่านแค่มองด้วยสายตาไม่พูดก็หนีไปไกลแล้วไม่กล้า

กลัวถูกตีค่ะ...กลัวไม้เรียวอันเล็กๆ

ให้เกียรติผู้ใหญ่  เคารพคุณครู แต่เดี๋ยวนี้มองให้ตาหลุดก้ไม่กระดิก

สังคมเปลี่ยนตามกาลเวลานะครับ

สิ่งไม่ดีก็ทิ้งไป

อันไหนดีก็เก็บมาใช้ครับ

ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท