โลก อยู่ที่มุมมองของเรา


เปลี่ยนมุมมองความคิด จากการมองแบบ..”ถ้าเป็นฉัน..ฉันจะ...” เปลี่ยนความคิดมาเป็น “ มันเป็นเช่นนี้เอง” โลก อยู่ที่มุมมองของเรา ซาลาเปา(ซึ่งกลัวขนม..จะมาจีบ) และขนมจีบ

อนุทิน @28807 ที่นี่
    แค่ยอมเปิดตาและเปิดใจ สิ่งธรรมดาก็เปลี่ยนไป วาบความคิดได้จาก บันทึกคุณน้องสี่ซี่ แค่ยอมเปิดตา เปิดหูฟัง*กัลยาณมิตร*อย่างแท้จริง เปิดใจ เปลี่ยนมุมมองความคิด สิ่งที่ขัดแย้งในใจก็เปลี่ยนไป โน้ตไว้ก่อน ขอบคุณน้องสี่ซี่ มา ณ ที่นี้ ค่ะ...

**              **                  **              **                  **

 

วันหนึ่งก่อนนั่งตั้งสติ รวมความคิด พักความคิด ตามลมหายใจ จะเรียกอย่างไรก็คงได้ กับเพื่อนสนิท..คุณหงุ่น กัลยาณมิตรเจ้าเก่า

เรามีโอกาสได้พูดคุย ถก..ใช่แล้วค่ะ ถก..เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็น  ประสบการณ์

เธอมีอายุมากกว่าดิฉันเพียงสองสามขวบปี

แต่อายุประสบการณ์ชีวิต เธอมากกว่า กว้างกว่าดิฉันหลาย หลายปี

 

ดิฉันเฝ้าสังเกตุ  พอจะรวบรวมได้เป็นข้อ ๆ ดังนี้

1.เธอเป็นคนเปิดตา  มอง อ่านคน อ่านหนังสือพิมพ์  และเฝ้าติดตามข่าวสารบ้านเมือง  ไม่เลือกข้าง

2.เธอเปิดใจ  เธอชอบที่จะสังเกต บุคลิกคน และเปิดใจยอมรับความแตกต่างของ คนแต่ละคน

3.เธอเปิดหู  รับฟังอย่างอดทนเมื่อมีคน เพื่อน มาหา มาพูดคุย  ไม่ค่อยตัดบท หรือพยายามเปลี่ยนหัวข้อไปในทางที่เธอ “ถูกจริต”

4.เธอไม่ยึดติด  ฐานะทางบ้านเธอมีกินมีใช้  เข้าข่ายคหบดี  แต่เธอมีความสุขกับการทำงานบ้านเอง  เธอกินกับข้าวง่าย ๆ  เธอซื้อกินแบบแม่บ้านถุงพลาสติค  แต่เธอไม่เคยเทมันออกจากถุงจนหมด  เธอมักใช้ช้อนค่อย ๆ ตักกับข้าวออกมาใส่ถ้วยจาน  กะประมาณว่าเราสองคนพอกินอิ่ม

 

ที่เหลือเธอบอกว่า เพื่อให้ถุงพลาสติคยังดูสวยงาม น่ากินไม่ใช่ของเหลือกิน  เธอจะผูกถุงให้ตึง  ไปวางไว้หน้าห้องทำงานของบริษัทของสามี  เพื่อคนงาน หรือพนักงานก็ตามแต่  ใครอยากเลือกอาหารแบบไหนก็เลือกไปเพิ่มเป็นกับข้าวของตนได้

 

 ซาลาเปา(ซึ่งกลัวขนม..จะมาจีบ)  และขนมจีบ   ที่ดิฉันเคยทำให้เธอชิม ก่อนจะพะยี่ห้อขายที่ร้านเล็ก ๆ ของตัวเอง  เธอก็เคยนำมาวางและเป็นที่ชื่นชอบของคนงาน

จริงหรือไม่จริงในส่วนที่ว่า..เป็นที่ชื่นชอบ

แต่ดิฉันได้อานิสงส์ความสุขไปแล้ว

5.เธอเป็นคนเล่าเรื่องซื้อน้ำ ซื้อขนมจากห้างเกิน ๆ มาหน่อย  แล้วให้ลูกชายเดินนำไปให้ รปภ.ของห้าง

โดยครั้งแรก ๆ เธอว่า  ลูกชายของเธอไม่ค่อยกล้านัก  เพราะไม่รู้ว่าจะเกริ่นยังไง พูดอย่างไร

แต่เมื่อผ่านครั้งแรกไปได้  ครั้งต่อ ๆ มาก็ไม่มีปัญหาข้อขัดข้องอะไร

 

 

 

ส่วนดิฉัน   - เรื่องเปิดตาอ่านหนังสือพิมพ์  เฝ้าติดตามข่าวสารบ้านเมือง  ดิฉันเคยพยายามทำตัวอินเทรนด์กับเขาบ้าง   แต่ไม่ถูกจริต  ค่ะ  ต้องฝืน เข้าขั้น  ไม่ชอบอ่านข่าวสารความโหดร้าย  หรือ ความขัดแย้ง ที่ใหญ่ ๆ โต ๆ

-          เป็นคนทนฟังเสียงผุ้อ่านข่าวที่ ฟังดูรุกเร้า ตื่นเต้น ลุ้นหรือวิพากษ์วิจารณ์อะไรที่รุนแรง รวดเร็วไม่ค่อยได้

-          -ยิ่งช่วงแห่งความอึมครึมของการเมือง  ดิฉันไม่เปิดทีวีเอง  แต่แอบ ๆ ฟังเวลาสามีเปิด

-          -วิเคราะห์ข่าวสาร ตามเอาทีหลังจาก หนังสือพิมพ์รายวัน

-          -ข่าวโศกนาฏกรรมอีก  เป็นข่าวที่ดิฉัน ปิดตา ไม่อ่าน ปิดหู ไม่รับรู้  ไม่ฟัง

-          -ข่าวหลาย ๆ ข่าวมาได้จากในนี้ โกทูโน นี่เอง

 

 

 

               -เรื่องเปิดใจ ดิฉันมีค่ะ  แต่ไม่ถึงกับทุ่มเทความสนใจมากนัก  ชอบที่จะสังเกตุคนพอสมควร แต่ไม่ได้ใส่ใจขนาด  เพ่งจนรู้ว่าใคร มีนิสัยอย่างไร  

แต่เรื่องการยอมรับ  ยอมรับนะคะ   เปิดใจยอมรับความแตกต่างของ คนแต่ละคน

 

 

จากบุคลิก ของเราเอง  หลายอย่าง และบางสิ่ง  ดิฉันเป็นคนตกยุค ค่ะ

เช่น  ทีวีช่องไอทีวี เลิก เปลี่ยน เป็นทีไอทีวี  จนสุดท้ายเป็น ทีพีบีเอส???หรืออะไรเนี่ย  ดิฉันก็ไม่ทราบ  จำได้แต่ว่าเบอร์ หก(สำหรับช่องทางยูบีซี ภาคนี้ที่ดิฉันอาศัยอยู่)

 

-เรื่อง  เปิดหู ยิ่งแล้ว  ดิฉันมีระบบปิดหูตัวเอง  ค่อนข้างชำนาญถ้าไม่อยากฟังอะไร  มันจะไม่ได้ยินไปเอง

 

จนกระทั่ง การพบปะพูดคุย  ครั้งล่าสุดของเราสองคน

ดิฉันแค่ยอมเปิดตาและเปิดใจ สิ่งธรรมดา นิสัย  ในตัวเราเปลี่ยนไป

และเมื่อเปิดหูฟัง*กัลยาณมิตร*อย่าง คุณหงุ่น  อย่างแท้จริง

ไม่ใช่ฟังเพื่อให้เรื่องที่เธอ พูด ถก ลอยเข้าหูซ้าย  ลอดออกหูขวา

และไม่ใช่การนั่งฟัง  แต่คิดหาข้อโต้แย้งตลอด  เพื่อมาพูดคุย หรือหักล้าง...

ดิฉันนั่งฟังอย่างจริงจัง

พยายามเก็บทุก ถ้อยคำ ข้อความ 

และคิดตาม

 

 

 

แปลกมาก ๆ ค่ะ

หลังจาก  เปิดใจ เปิดตา  เปิดหูเพิ่มขึ้น

ความคิด ความยึดติด อะไรต่อมิอะไรของเราที่มันพันผูกเราไว้อย่างแน่นหนาโดยไม่ทันรู้ตัว

เกิดการเปลี่ยนแปลง 

เกิดการหลุดพ้นจากพันธนาการเหล่านั้น

อย่างน้อย  เมื่อหลุดพ้น ปลอดจากสิ่งพันธนาการ  กับสิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่า  อัตตา  ความหลง  โมหะ...

ดิฉันเริ่มโยกตัวเราเองออกมา “มองตัวเอง” จากภายนอกตัวเรา

เปลี่ยนมุมมองความคิด จากการมองแบบ..”ถ้าเป็นฉัน..ฉันจะ...”

เปลี่ยนความคิดมาเป็น  “ถ้าเป็นเขา  เราจะทำแบบเขา..หรือเปล่า”

เปลี่ยนความคิดมาเป็น  “ทุกสิ่งผ่านมาแล้วดีหมด”

เปลี่ยนความคิดมาเป็น “ มันเป็นเช่นนี้เอง”

เปลี่ยนความคิดมาเป็น   “สักประเดี๋ยว หรือ อาจสักระยะหนึ่ง  แล้วมันก็จะผ่านไป”

 

 

แปลกแต่จริง  หลังจากที่ดิฉัน  เปิดใจ เปิดตา  เปิดหูเพิ่มขึ้น

สิ่งที่ขัดแย้งในใจ  ติดค้างอยู่ส่วนลึก ๆ  ลึกแค่ไหนไม่อาจรู้ได้  แต่คงลึกไม่ใช่น้อย

สิ่งที่ขัดแย้งในใจนั้น ๆ

มันหลุดกระเด็น กระดอนออกไปได้  ความคิดเราเปลี่ยนไป

 

 

โลก

ขึ้นอยู่กับมุมมองของ เรา จริง ๆ ค่ะ

       

 

 

หมายเลขบันทึก: 228876เขียนเมื่อ 11 ธันวาคม 2008 22:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 ธันวาคม 2014 11:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

เป็นเรื่องที่ดีนะคะ

เปิดตา เปิดใจ เปิดหู ไม่ยึดติด

ขอเอาไปใช้บ้างนะคะ

"แน่แท้พระผู้เป็นเจ้าจะไม่เปลียนแปลงบุคลหนึ่งบุคลได จนกว่าเขาจะเปลียนแปลงตัวเอง"(อัลกรุอ่าน)รังสีความดีของกัลยาณมิตรมันปกคลุมเกิดเป็นอานิสงฆ์ครับท่าน

P 

เปิดตา เปิดใจ เปิดหู ไม่ยึดติด

เปลี่ยนมุมมอง..ลองออกไปเป็นผู้อื่นแล้วโฟกัสมาที่ตัวเราด้วยนะคะ ;P

อ่านด้วยใจเบาๆ วิถีของพี่หงุ่น ทำให้ผมได้เรียนรู้มากขึ้น...ขอบคุณมากครับ

นึกถึงภาษาอังกฤษคำว่า "embrace" เลยค่ะ ทำได้แล้วใจจะเบาสบายมาก

หรือที่พระอ.ฝรั่งสายวัดป่าจะแปลคำว่าเมตตาว่าให้ be freidnly with "it" ไม่ว่า it จะคืออะไรก็ตาม เราไม่ต้องไปชอบหรือไปเห็นดีเห็นงามด้วย แต่เราเริ่มได้จากการเปิดใจเป็นมิตรกับมัน ไม่ต่อต้านหรือปิดกั้นมัน รวมทั้งความรู้สึกลบๆของเราเองด้วย มัทกับเจษฎ์เตือนตัวเองเรื่องนี้เสมอๆเพราะเราเผลอกันได้ทุกวันจริงๆ

สรุปว่าไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร มันก็น่าอยู่ เราโชคดีมาที่เกิดมาเป็นคน อย่าปล่อยให้ชาตินี้เป็นโมฆะชาติ (อีกคำสอนที่มัทพูดกับตัวเองบ่อยๆเวลาเผลอ)

แต่การที่เรามีเมตตาไม่ได้แปลว่าเราจะ"ปล่อย"ให้มันเป็นไปเฉยๆท่าเดียว แบบนี้ก็คงไม่เป็นประโยชน์แน่ เพียงแต่เราต้องจัดการสิ่งที่เราเห็นอย่างใจเบาๆมีสติ จัดการอย่างเป็นมิตร คือจัดการกับตัวเองก่อนที่จะไปริแก้ปัญหาคนอื่นจากไม้บรรทัดของเราเอง

ขอบคุณคุณหงุ่น และพี่หมอเล็กสำหรับบันทึกนี้ค่ะ

ทุกคนเริ่มได้จากการ "พยายามเข้าใจและรู้จักตัวเอง" อย่างที่พี่เขียนไว้ตรงย่อหน้าที่เริ่มว่า "ส่วนดิฉัน" ...ได้เท่านั้นก็เป็นก้าวใหญ่มากๆแล้วค่ะ : )

 

 "embrace" !!! ;P  P

อยากคุยต่อ แต่เดี๋ยวรถจะมารับไปประชุมแล้ว

ขอบคุณ และคิดถึง  Take care นะคะ

 

สวัสดีค่ะพี่ ขอบคุณนะค่ะที่ช่วยเปิดโลกของสี่ให้กว้างขึ้น สี่ชอบที่จะเปิดตาและเปิดใจรับข้อมูลต่างๆ โดยเฉพาะใน GotoKnow.org แห่งนี้เพราะมีกัลยาณมิตรที่แสนดี มีบทเรียนและวิธีการแก้ปัญหาต่างๆมากมายเลือกมาปรับใช้ได้อย่างดีเชียวค่ะ

จากบันทึกของพี่ทำให้สี่ต้องลองเปิดหูเพิ่มขึ้นค่ะ เพราะปกติพูดมาก ขอบคุณนะค่ะ

P  สรุปว่าไม่ว่าโลกจะเป็นอย่างไร มันก็น่าอยู่ เราโชคดีมาที่เกิดมาเป็นคน อย่าปล่อยให้ชาตินี้เป็นโมฆะชาติ (อีกคำสอนที่มัทพูดกับตัวเองบ่อยๆเวลาเผลอ)

แต่การที่เรามีเมตตาไม่ได้แปลว่าเราจะ"ปล่อย"ให้มันเป็นไปเฉยๆท่าเดียว แบบนี้ก็คงไม่เป็นประโยชน์แน่ เพียงแต่เราต้องจัดการสิ่งที่เราเห็นอย่างใจเบาๆมีสติ จัดการอย่างเป็นมิตร คือจัดการกับตัวเองก่อนที่จะไปริแก้ปัญหาคนอื่นจากไม้บรรทัดของเราเอง

ที่ทำเข้ม ๆ ไว้กำลังจะเขียนเรียบเรียงค่ะ   เพราะตรงกับที่พี่และเพื่อนคุยกัน เสมอ ๆ เช่นกัน

  • มีแต่มนุษย์(ส่วนกายหยาบ)เท่านั้นที่จะสามารถปฎิบัติธรรม, ทำกรรมดี หรือ แม้กระทั่งทำกรรมชั่ว...
  • และ  จัดการสางปมกิเลส ปมด้อย ปมโลภ ปมโกรธ ปมโมหะ..

จัดการของตัวเองก่อน  อย่าเพิ่งไปเพ่งผู้อื่น  เลย

P  ขอขอบคุณค่ะ เห็นด้วยกับ คคห ของคุณบังหีม ค่ะ

คุณน้องเอก ขอบคุณค่ะที่อ่านด้วยใจเบา ๆ , เข้าใจ และได้ประโยชน์  ;P

P

จากบันทึกของพี่ทำให้สี่ต้องลองเปิดหูเพิ่มขึ้นค่ะ เพราะปกติพูดมาก ขอบคุณนะค่ะ

***************

ปกติ พี่ไม่พูดมากนัก(มากพอสมควรใช้ได้ อิอิ)  แต่ติดนิสัยฟังไป คิด ค้านไป..พูดตรง ๆ คือ ไม่เปิดใจ(นัก)

วันนั้น รู้สึกงง งง ในตอนแรก ๆ เมื่อฟังมากขึ้น เงียบสงบ คิดตาม...จึงออกเป็นบันทึก

อ้อ เปิดตากับบันทึกของน้องสี่ซี่ก่อน..โดนเลยค่ะ

  • ดีใจที่หมอเล็กได้รู้จักเทคนิกการเปิดใจ เปิดหูนะค่ะ
  • หมออย่างเรามักอวดดีว่า เรา"ฟัง"
  • แท้ที่จริงแล้ว เรามีทิฐิอยู่มากกับความหลงตัวเอง
  • ฝึกตนต่อไปนะน้อง
  • ฝึกการแขวนคำตัดสินในใจก่อนฟัง
  • ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเรื่องของการเปิดใจ
  • กัลยาณมิตรรอบข้างของหมอหลายคน
  • เป็นกัลยาณมิตรที่แท้นะค่ะ
  • ฝึกตนต่อไป ต่อไป แล้วความสงบใจจะตามมา
  • อานิสงฆ์นี้จะเผื่อแผ่ให้คนรอบๆข้างตัวเรา
  • ซึ่งทำให้ตัวเรายิ่งเกิดความสงบ ความสุขยิ่งในใจจะตามมา
  • บรรลุถึงความหมายของพรหมวิหาร 4 ในที่สุด
  • และใช้มันเป็น
  • ความเข้าใจทุกข์ที่อยู่ต่อหน้าจะตามมา
  • และเห็นถึงสมุทัย นิโรธ มรรคด้วยค่ะน้อง
  • เป็นกำลังใจให้ค่ะ

Pนอกจากเปิดใจ เปิดหู เปิดตา

ใช่ค่ะน้องกำลังฝึกเอาตัวเราออกมาจากตัวเรา แล้วค่อยมองกลับมาที่ตัวเราบ้าง แต่ไม่น้อยกว่ามองคนรอบข้าง หรือไกลกว่านั้นที่เขายังมีความยากลำบากกว่าเรา

ทุกข์(สุขน้อย)หรือปม หรือกองกิเลส หรือขยะ หรือสวะ ฯ จะเรียกอะไรก็แล้วแต่...เราต้องสาง จัดการแกะ ปัดกวาด เก็บ..มันด้วยตัวเราเอง

สติ กรรมฐาน สมาธิ และถ้าฝึกให้เกิด "ปัญญา"  ได้ต่อเนื่อง

น้องคิดว่า สิ่งเหล่านี้เป็น เครื่องมือ แบบทดสอบ ตัววัดผล ...เรา(หมายถึงจิตวิญญาณของเรา)ได้

 

ไม่ต้องรอให้อาวุโส ไม่ต้องรอให้มีทุกข์ก่อน ไม่ต้องรออะไรทั้งสิ้น

ฝึกเสียตั้งแต่วันนี้ คือคำตอบเดียวที่จะพาเราผ่านสนามชีวิตได้ แบบ "มันเป็นเช่นนั้นเอง"

ขอบคุณพี่หมอเจ๊ค่ะ

 

กัลยาณมิตรรอบข้างของหมอหลายคน...

*คนไข้ ก็ คือ ครูที่สำคัญยิ่งของเราค่ะ พี่หมอเจ๊เห็นด้วยมั้ยคะ ;P

สวัสดีค่ะพี่หมอ

อ้ะ พี่หมอ เปลี่ยนชือหน้าจอ แล้วรึคะ

14. ภูสุภา

สบายดีนะคะ ลมหนาวมาแล้ว

มาเรียนรู้ ด้วยคน ครักษาสุขภาพนะคะ

P  หายไปไหนคะ นานเลย  คิดถึงจนต้องไปตาม...

สวัสดีค่ะ

เรื่องนี้...ยาว..แต่ดีค่ะ น่่าอ่าน และ อ่านแล้ว...ทำให้เกิดปัญญาค่ะ

ขอบคุณค่ะ

มายิ้ม...รอรับปีใหม่ค่ะ...(^___^)

P พี่ไม่สบายต้อนรับปีใหม่ หลังจากลูกไม่สบาย ลาทีปีเก่า

ว่าแล้วเราทั้งสามพ่อแม่ลูก ก็แพ็คทีมกันไปคาราโอเกะกันเอ๊งกันเองกับหมู่ญาติมิตรที่ต่างจังหวัดในบ้านเราเอง  สนุกประสาไม่สบาย(ดีขึ้นบ้างแล้ว) และเข้านอนเร็วต้อนรับปีใหม่กันค่ะ

P ช่วงนี้ไม่สบาย ได้อ่านหนังสือ เสริมปัญญาให้เรา

หยิบของอ.วศิน อินทสระ มาอ่านสองสามเล่ม

แปลกแต่จริง คุณหงุ่น-เพื่อนแท้ของพี่ เธอไม่ค่อยอ่านแต่ปฏิบัติเลย
เธอสนทนา พูดคุยกับพี่เหมือน/คล้าย ข้อเขียนอาจารย์วศิน อินทสระ(หลักธรรมอันเป็นหัวใจพุทธศาสนา..)

คำพูดหลาย ๆ ถ้อยคำของเธอ ซึ่งพี่คิดว่าถ้ามีเวลา และ สมองเรียบเรียงมาเป็นบันทึก คงเป็นประโยชน์ ค่ะ

เรื่องราวดีๆ อ่านแล้วช่วยให้คนอ่านได้เตือนตน ได้เปิดโลกกว้างขึ้นเช่นกัน ขอบคุณนะครับ

  • P  เปิดโลกกว้าง
  • มองห่าง มองชิด ทุกข์-สุข-โศกอย่างที่เป็น
  • อยู่กับมัน ทุกวินาทีไม่เพียรพยายามละเว้น
  • ฟัง รับรู้ ทุกความคิดเห็น
  • ธรรมชาติเป็น ธรรม ธรรมดา
  • ;P
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท