เรื่องเล่า (Storytelling) UKM 10 : กลุ่มการเรียนการสอน


การเรียนการสอนครั้งนี้ “งานได้ผล คนเป็นสุข”

การเสวนาเครือข่ายจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย ครั้งที่ 10
หัวข้อ การบริหารจัดการที่ดี (Good Governance): อะไร ทำไม และอย่างไร
วันที่ 27-28 พฤษภาคม 2550
ห้องแกรนด์คอนเวนชั่น ชั้น 2 โรงแรมแกรนด์ปาร์ค อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
 

1.  กรอบแนวเรื่องเล่า (Storytelling)

      ความสำเร็จของงาน ภายใต้หลักการ แนวทางการบริหารจัดการที่ดี (Good Governance) 10 หลัก  อันได้แก่ หลักคุณธรรม หลักนิติธรรม หลักความโปร่งใส หลักการมีส่วนร่วม หลักการสำนึกแห่งความรับผิดชอบ หลักความคุ้มค่า หลักการจัดการทรัพยากรมนุษย์ หลักการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หลักการบริหารจัดการ หลักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่นำมาใช้ในการทำงานว่ามีเคล็ดลับหรือมีปัจจัยความสำเร็จอย่างไร  ที่เป็นเรื่องจากประสบการณ์จริง เล่าโดยไม่ตีความ เล่าให้เห็นคน เห็นอารมณ์ เห็นวิธีคิด เห็นสภาพแวดล้อมจำเพาะ เล่าโดยใช้หลัก CAR Technique ซึ่งประกอบด้วย
·       C: Content เนื้อหาของเรื่องที่จะเล่า
·       A: Action วิธีการหรือแนวทางปฏิบัติที่นำไปสู่ความสำเร็จ
·       R: Result ผลสำเร็จที่เกิดขึ้น
 

 2. ผู้เล่าเรื่อง
ชื่อ-สกุล...รศ.ดร. อรรณพ วราอัศวปติ    ตำแหน่ง   อาจารย์หมวดวิชาศึกษาทั่วไป
สังกัดหน่วยงาน ฝ่ายวิชาการและวิเทศสัมพันธ์   มหาวิทยาลัย มหาสารคาม
เบอร์โทรติดต่อ  089-424-9989             Email-Address : [email protected] 
3. เรื่องเล่าโดยสังเขป 
ชื่อเรื่อง
   การสอนวิทยาศาสตร์นิสิตการปกครองท้องถิ่น
 ·       C: Content เนื้อหาของเรื่องที่จะเล่า

           เมื่อภาคเรียนที่ผ่านมาต้องร่วม สอนวิชา วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นวิชาศึกษาทั่วไป ที่นิสิตเกือบทุกหลักสูตรของ มหาวิทยาลัยมหาสารคามต้องลงทะเบียนเรียน นอกเหนือจากการสอนนิสิตภาคปกติแล้วยังต้องไปสอนนิสิตภาคพิเศษด้วย  เรื่องที่จะนำมาเล่านี้เป็นการไปสอน นิสิตภาคพิเศษของสาขาวิชาเอก การปกครองท้องถิ่น  ซึ่งมาเรียนกันเฉพาะในวันเสาร์และอาทิตย์  การจัดการเรียนการสอนจึงต่างจากภาคปกติ โดยจัดการเรียนการสอนแต่ละครั้งแบบใช้เวลาทั้งวัน  แทนการสอนครั้งละคาบ ๆ ละ 2  ชั่วโมงเหมือนภาคปกติ   ในการสอนครั้งนี้ผมต้องจัดการเรียนการสอนใน 3  หัวเรื่อง ด้วยกัน คือ เรื่อง วิวัฒนาการและพันธุศาสตร์  เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ และ เรื่อง มิติวิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาพื้นบ้าน  นอกจากเรื่องของระยะเวลาที่แตกต่างแล้ว นิสิตภาคพิเศษกลุ่มนี้ยังเป็นนิสิตที่ประกอบด้วย คนที่ทำงานแล้ว  มีความหลากหลายในเรื่องอายุ ประสบการณ์การทำงานของผู้เรียนมาก  จำนวนนิสิต 98 คน  ตามรายชื่อที่ได้จากระบบการลงทะเบียน Online ของมหาวิทยาลัย จึงต้องคิดวางแผนการจัดการเรียนการสอน ที่แตกต่างไปจากการสอนภาคปกติ เพื่อให้การเรียนการสอนเป็นไปด้วยดี  และ เกิดผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์
·       A: Action วิธีการหรือแนวทางปฏิบัติที่นำไปสู่ความสำเร็จ     
         
เนื่องจากจะเป็นการพบกันครั้งแรกและครั้งเดียว คือ 1 วันเต็ม ๆ เพื่อการเรียนการสอนวิชานี้า  ผมจึงเริ่มต้น ด้วยการแนะนำตัวให้นิสิตทราบสั้น ๆ และบอกกล่าวให้ทราบว่า เป็นการสอนวิชานี้เป็นปีแรกของผม จึงอาจจะแตกต่างกับการสอนของอาจารย์ท่านอื่นที่ผ่านมาก็เป็นได้  ต่อจากนั้นก็สอบถามถึง ข้อมูลเกี่ยวกับนิสิตพอสมควร จึงทราบว่านิสิตกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ทำงานใน องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น  โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนตำบล หรือ อบต. มีทั้งที่เป็น นายก อบต. กรรมการ อบต. และเจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ ของ อบต.  จึงน่าจะมีความหลากหลายในเรื่องของประสบการณ์ต่างกันมากพอสมควร
       
        
ผมเริ่มเข้าสู่การเรียนการสอนโดยนำเอาเทคนิค การจัดการความรู้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้  โดยวิธีการ เล่าเรื่อง หรือ
Storytelling มานำเสนอ  เริ่มด้วยให้นิสิตได้เห็นภาพว่า ความรู้สองประเภท ได้แก่ ความรู้ชัดแจ้ง (Expicit Knowledge) และ ความรู้ฝังลึก หรือ ความรู้ในตัวคน (Tacit Knowledge)  แตกต่างกันอย่างไร ? และ จัดการได้ด้วยวิธีการที่แตกต่างกันอย่างไร ?   และเน้นให้ทราบว่า ในวันนี้ ผมต้องการที่จะมา แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับนิสิต  และ กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในระหว่างนิสิตด้วยกันเอง โดยการเล่าเรื่อง ที่เป็นความรู้ต่าง ๆ ที่มีอยู่ในตัวนิสิตทั้งหลาย ที่เป็นคนทำงานแล้ว  แต่ละคนย่อมมีความรู้จากประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกัน ก็จะได้มีโอกาสนำมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน นำไปคิดต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ต่อไป
   
        หลังจากนำเรื่องด้วย Power Point ตามหัวเรื่องแรกแล้ว ผมได้เน้นประเด็นเรื่องความรู้ในเอกสารตำราหรือสื่อต่าง ๆ ที่เป็นความรู้ชัดแจ้ง สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ตามเวลาและโอกาสที่ตนเองสามารถกำหนดได้  แต่เรื่องความรู้ฝังลึกในคน ต้องเกิดมาจากการมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างคนในกลุ่มเท่านั้น  จึงขอให้ทุกคนใช้โอกาสนี้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด   โดยผมแบ่งนิสิตออกเป็น   8  กลุ่ม ๆ ละ 12  คน  (ซึ่งลงตัวพอดี คือ 96 คน เนื่องจากมีนิสิตไม่สามารถมาเรียนได้ ในวันนั้น 2 คน)   และมอบหมายงานให้นิสิตแต่ละกลุ่ม อภิปรายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันตามหัวข้อที่กำหนด และนำเสนอผลงานหน้าชั้นเรียนให้นิสิตทั้งหมดได้รับทราบ  หัวข้อที่กำหนดในช่วงแรก ตามที่มีในเอกสารที่อยู่ในคู่มือการเรียน เรื่อง วิวัฒนาการและพันธุศาสตร์ แล้วคือ  ข้อดีข้อเสียของการใช้ จีเอ็มโอ (GMO)  และ  การโคลนนิ่ง (Cloning)  รวมทั้งผลกระทบต่อประเทศไทย  โดยให้ 4 กลุ่ม เลขคี่  ทำเรื่อง GMO ส่วนอีก 4 กลุ่มเลขคู่ ทำเรื่อง Cloning  กำหนดให้ใช้เวลาในการอภิปรายและสรุปพร้อมเตรียมการนำเสนอ  1  ชั่วโมง  และให้แต่ละกลุ่มเลือกตัวแทนออกมานำเสนอ กลุ่มละประมาณ  5 นาที  เผื่อเวลาสำหรับตอบคำถามอีก 1-2 นาที  (ใช้เวลารวมประมาณ อีก 1 ชั่วโมง)  จบเรื่องที่หนึ่ง ก็ถึงเวลาพักเที่ยงพอดี 

storytelling
            

          ในช่วงบ่ายยังมีเรื่องที่จะต้องอภิปรายและนำเสนออีกสองเรื่อง คือ เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ และ เรื่อง มิติวิทยาศาสตร์กับภูมิปัญญาพื้นบ้าน  ผมจึงนำเสนอด้วย Power Point ที่เตรียมมาควบทั้งสองเรื่อง และ ให้งานกลุ่มทั้งสองเรื่องไปพร้อมกันเพื่อให้ทันเวลาในเวลาที่เหลือ แต่ครั้งนี้จะเน้นให้แต่ละคนได้เล่าเรื่องของตนให้คนในกลุ่มฟัง  คนละ 2-3  นาที  แล้วแต่ละกลุ่มเลือกเรื่องที่ดีที่สุด ช่วยกันเพิ่มเติมเพื่อให้ออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน   หัวเรื่องที่กำหนด 2  เรื่องคือ   1.  สัตว์หรือพืชท้องถิ่นที่ข้าพเจ้าภูมิใจที่สุด     2. ภูมิปัญญาพื้นบ้าน หรือ ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ข้าพเจ้าภูมิใจที่สุด  โดยให้เวลาแลกเปลี่นเรียนรู้ ประมาณ 1  ชั่วโมง  ก่อนออกมานำเสนอ

show and share

 

·       R: Result ผลสำเร็จที่เกิดขึ้น 
          
จากการจัดการเรียนการสอนตามที่เล่ามาข้างบน  ผมคิดว่าเกิดผลสำเร็จในการเรียนการสอนครั้งนี้พอสรุปได้ดังนี้

          สรุปเป็นคำสั้น ๆ ว่า  การเรียนการสอนครั้งนี้  งานได้ผล คนเป็นสุขคือ ทำให้เกิดการเรียนการสอนเรื่องของวิทยาศาสตร์ แก่นิสิตที่ไม่ใช่ผู้มีพื้นฐานทางด้านวิทยาศาสตร์โดยตรง  ได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อย่างไม่เครียด  ในเรื่องที่กำหนดครบถ้วน ในเวลา 1 วัน   นิสิตได้เห็นความเชื่อมโยงของวิทยาศาสตร์กับเรื่องราวและข่าวคราวตามหน้าหนังสือพิมพ์หรือทีวี ในชีวิตประจำ   เห็นความสำคัญของความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต โดยเฉพาะสิ่งมีชีวิตในท้องถิ่น และ ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ควรช่วยกันรักษา 
   
         ที่ว่า คนเป็นสุข นั้นผมสอบถามนิสิตในตอนท้าย ว่าจากการจัดการเรียนการสอนของผม ตลอดหนึ่งวัน เป็นอย่างไร ? ก็ได้คำตอบว่า  ดีครับ และ เป็นการเรียนการสอนที่ไม่เครียด  ได้เปลี่ยนบรรยากาศในการเรียน  หลาย ๆ คนชอบการที่ให้เล่าเรื่องที่ตนเองภูมิใจ ทั้งพืชหรือสัตว์ที่ภูมิใจ  และ ภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ภูมิใจ  แต่ละคนมีความสุขในการเล่าเรื่อง (อันนี้ผมสังเกตเองในช่วงที่ให้แต่ละคนผลัดกันเล่าเรื่องให้กลุ่มฟัง) 

 4.  เรื่องเล่านี้ใช้หลักการบริหารจัดการที่ดีหลักใดบ้าง ( ต้องให้ผู้อ่านและฟังช่วยกันตัดสินครับ ) 
o  หลักคุณธรรม    oหลักนิติธรรม    oหลักความโปร่งใส   oหลักการมีส่วนร่วม   oหลักความคุ้มค่า   o  หลักการสำนึกแห่งความรับผิดชอบ o  หลักการจัดการทรัพยากรมนุษย์  o หลักการบริหารจัดการ o หลักการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้    o หลักการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  

 

บันทึกอ้างอิง : เปิดห้องใหม่...วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน

หมายเลขบันทึก: 97433เขียนเมื่อ 20 พฤษภาคม 2007 22:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:00 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)
ขอชื่นชมกับวิธีการสอนที่หลุดพ้นจากกรอบ ทำให้การเรียนวิทยาศาตร์ ไม่น่ากลัวอย่างที่เป็นมา และให้เกียรติผู้เรียน ทำให้ผู้เรียนผ่อนคลายพร้อมที่จะเรียนรู้วิทยาศาสตร์อย่างสนุกสนานและได้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม สามารถทำให้ผู้เรียนเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านวิทยาศาสตร์ที่มีผลเป็นรูปมธรรม คราวหน้าอยากเห็น problem orientation

อาจารย์คะ

        น่าสนใจมากค่ะ เข้าไปสอบถามรายละเอียดในเมล์ของอาจารย์แล้วค่ะ

  • สวัสดีครับอาจารย์วิมลพรรณ
    P
  • ขอบคุณครับที่สนใจ  ยินดีที่จะได้แลกเปลี่ยนต่อไปครับ
  • ผมตอบ e-mail ไปแล้วนะครับ
  • รับทราบแล้วครับคุณ Goahead
  • ขอโทษเช่นกันนะครับ   ผมอาจจะหมดความอยาก เก่งเก่งเก่ง ภาษาอังกฤษ ไปแล้ว  ตอนนี้อยาก เก่งเก่งเก่ง ภาษาไทย มากกว่าครับ
  • ขอบคุณครับท่าน I remain
  • PBL จะนิยมใช้กับนิสิต นักศึกษากลุ่มเล็ก ๆ ในสายวิทยาศาสตร์สุขภาพกันมาก โดยเฉพาะสายแพทย์ครับ และต้องใช้เวลาให้ไปค้นคว้าค่อนข้างมาก

เรียนท่านอาจารย์อรรณพ

 

  • ผมว่าทั้ง 10 หลักการบริการจัดการที่ดี ไม่ว่าการมีส่วนร่วม  คุณธรรม  นิติธรรม  ความโปร่งใส่  สำนึกแห่งความรับผิดชอบ  ความคุ้มค่า  การจัดการทรัพยากรมนุษย์  องค์กรแห่งการเรียนรู้  การบริหารจัดการ  และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร  แต่ละกระบวนงานนั้นย่อมแฝงด้วยหลักของรวมอยู่ด้วยไม่มากก็น้อย
  • ซึ่งการดำเนินงานแต่ละอย่างนั้นจุดเน้นของหลักการที่นำมาใช้ก็แตกต่างกันไปตามลักษณะงาน  เน้นความเชื่อมโยง  ความเหมาะสม  และความสอดคล้องกันระหว่างหลักการแต่ละอย่าง
เป็นแนวการทำงานในหัวข้อที่ผมจะเล่าในวันนั้นเช่นกันคิดว่าเรื่องที่จะเล่าไป UKM10 ดีที่สุดสำหรับผมแล้วมั้ง  
  • ขอบคุณ คุณ
    P ที่แวะมาบ่อย ๆ ครับ
  • คงได้มีโอกาสพบกันใน UKM 10 นะครับ
  • ชื่นชมคุณ แจ๊ค
    P ที่เป็นตัวอย่างที่ดีครับ
  • พรุ่งนี้ เจอกันนะครับ
ดีค่ะ ได้ทราบว่าจะเล่าเรื่องต้องมีหลักการเล่า อาจารย์ได้เล่าตามหลักการที่บอก เท่ากับเป็นการสอนเรื่องการเล่าเรื่อง พร้อมตัวอย่างประกอบ นับเป็นการสอนออนไลน์เกี่ยวกับผู้จะเป็นนักเล่าเรื่องเจ้าใหม่อย่างดิฉันด้วย ขอบคุณมากๆ

เรียน ท่านพี่ ปานดา ตามมาเรียนรู้ครับ เหลืออีกครั้ง กลุ่มที่ ๒ จะเรียน จะนำไปปฏิบัติดู ครับ แต่ปัญหา ของ JJ 8อ นักศึกษา ทยอยกันมาครับ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงยังมาไม่ครบ ๘๐ ท่าน

สวัสดีครับ

  • ตามมาเรียนครับ
  • ได้ประโยชน์และคงได้นำไปปรับใช้แน่นอนครับ
  • ขอบพระคุณครับ

ร้ดำดนรดรนรำดรนไส

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท