"เศรษฐกิจแห่งการแบ่งปัน" จุดหมายปลายสะพาน


ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีเงินเก็บสะสมส่วนตัวของตนเอง แต่ทุกคนก็ไม่ขัดสนและไม่ขาดแคลน

สัปดาห์ก่อนได้ไปร่วมงานเสวนาหนึ่ง ชื่อ "สู่ ความเป็นหนึ่งเดียวกัน" จัดโดย "กลุ่มโฟโคลาเร" ซึ่งกลุ่มผู้จัดได้ดำเนินกิจกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ทุกคนก้าวข้ามผ่านเส้นแบ่งของ ศาสนา วัฒนธรรม เชื้อชาติ เพื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างแท้จริง

ฉันรู้สึกประทับใจสิ่งที่พระภิกษุรูปหนึ่ง (จำชื่อท่านไม่ได้ จำได้แค่มุขตลกที่ท่านแนะนำตัวท่านและภิกษุที่มาด้วยว่าให้จำชื่อท่านทั้งสองง่ายๆ ว่า กอล์ฟ กับไมค์) ท่านได้แบ่งปันประสบการณ์ที่ท่านได้เคยร่วมใช้ชีวิตในชุมชนแห่งหนึ่งชื่อ เมือง "LOPIANO" ในประเทศอิตาลี

ชุมชนแห่งนี้มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม ศาสนา และอาชีพใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันด้วยความรักแบบไม่แบ่งแยก ทุกคนช่วยเหลือและแบ่งปันกันอย่างจริงใจ ท่านเล่าว่าคล้ายๆ กับบรรยากาศหมู่บ้านในอดีตที่เราเคยได้ยินกัน แบบที่หาไม่ค่อยได้แล้วในปัจจุบัน

ในเมืองแห่งนี้แต่ละคนประกอบอาชีพตามความสามารถของตน แต่มีหลักการโดยการแบ่งปันรายได้ของตน ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจหรือประกอบอาชีพใด ออกเป็น ๓ ส่วน ส่วนหนึ่งหักเป็นต้นทุน ส่วนที่สองแบ่งไว้เพื่อการลงทุนต่อไป และอีกส่วนสุดท้ายไว้ใช้เพื่อช่วยเหลือซึ่งกันและกันไม่เฉพาะในชุมชน แต่เพื่อทุกส่วนของสังคมโลกที่เดือดร้อนและมีความต้องการ

ดังนั้นทุกคนจึงไม่มีเงินเก็บสะสมส่วนตัวของตนเอง แต่ทุกคนก็ไม่ขัดสนและไม่ขาดแคลน

นี่เป็นภาพที่เป็นจริงในโลกปัจจุบัน ไม่เฉพาะที่เมือง LOPIANO นี้ แต่ยังอีกหลายๆ ส่วนของโลกที่ดำเนินชีวิตด้วยจิตตารมณ์นี้ และที่กำลังจะมีเมืองลักษณะนี้เกิดขึ้นในประเทศไทยในไม่ช้า

นี่เป็นภาพฝันที่ฉันอยากนำพาชุมชนที่ฉันทำงานด้วยให้ไปให้ถึง "มุ่งไปสู่เศรษฐกิจแห่งการแบ่งปัน" (FOR AN ECONOMY BASED ON SHARING) 

แต่งานนี้คงต้องเริ่มต้นจากการทำงาน "ภายใน" ก่อน

 

หมายเลขบันทึก: 103329เขียนเมื่อ 14 มิถุนายน 2007 20:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:02 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • หายไปนานจังเลยครับ
  • ติดต่ออาจารย์ตุ้มที่บล็อกล่าสุดก็ได้ครับ
  • หรือให้ผมส่ง mail ไปให้ดี
  • ขอบคุณครับ

ไม่อยากจะขัดคอว่า จะเป็นไปได้ไหมนะ ?

อัตตานิยมที่วิ่งรอบตัวฉันทุกวันนี้ ทำให้ฉันกลัวมากทีเดียว

วัตถุนิยมที่อยู่ในลมหายใจของคนรอบตัว แม้แต่ตัวฉันเองในบางเวลา ก็ทำให้ฉันไม่แน่ใจ

ง่ายนิยมของเหล่ามนุษย์ตัวน้อยที่ฉันสอน ก็อีก

ไม่ต้องบอกเธอ เธอก็คงรู้ว่า ฉันกำลังท้อว่ะ...

ถ้าเธอเจอสวรรค์แล้ว ส่งสัญญานนะคะ ฉันจะตามไป เห็นไหม ฉันก็เป็นโรคง่ายดายนิยมว่ะ.. แต่จะเอาวัตถุต่างๆ ที่ฉันชอบไปด้วยให้น้อยที่สุด และก็สัญญาว่า จะไม่ใช้อัตตานิยมมากนัก

ขอบคุณ อ.ขจิต มากค่ะ ที่ติดตาม

สุดท้ายติดต่อ อ.ตุ้มไม่ทัน วันนี้เลยไม่ได้เจอกัน เสียดายเหมือนกันค่ะ

ที่หายไปก็เพราะกลับบ้าน ๑ อาทิตย์ กลับมาก็ป่วยอีก ๑ อาทิตย์ เลยได้อ่านที่ อ.ตุ้มแนะนำช้าไปหน่อย ทำให้ประสานงานช้าไป เลยพลาด แถมเพิ่งได้มาอ่านคำแนะนำของ อ.ขจิต เลยทำตามคำแนะนำไม่ทันค่ะ แต่ยังไงก็ขอบคุณมากนะคะ

ดิฉันคงต้องเรียนรู้การสื่อสารผ่าน gotoknow มากกว่านี้ค่ะ ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

สงสัย อ.แหวว จะท้อจริงๆ แหละค่ะ

อาจารย์น่าจะพักผ่อนมากๆ กว่านี้นะคะ เห็นเข้ามาตอบเวลา 00.06 น. ทำงานหนักเหมือนเดิมอีกแล้วนะคะ

หากมีเวลาพักกาย อาจช่วยใจที่ท้อให้ดีขึ้นได้บ้างนะคะ แต่ยังไงก็ยินดีต้อนรับอาจารย์ที่สวรรค์ของเราเสมอค่ะ เอาคอมคู่ใจอาจารย์มาด้วยก็ได้ค่ะ ไม่ห้ามกัน

  • มาขอโทษที่ทำให้ติดต่ออาจารย์ตุ้มได้ช้า
  • แถมส่ง mail ไปให้ช้ามากเป็นเพราะไม่ได้สังเกตว่ามีคนถามอาจารย์ไว้
  • มาให้กำลังใจท่านอาจรย์แหววและคุณpilgrim
  • มีอะไรพอรับใช้ได้ ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับผม
  • ขอบคุณมากครับ

ลำพังแค่แรงของเรา คงจะไม่ไหวจริงๆ แหละครับ
ผมเชื่อว่า ความดีมีพลังในตัวเอง
ถ้าเรายอมเป็นเครื่องมือของความดี ทำกิจการของความดี
ความดีนั้น จะบันดาลให้เกิดสิ่งดีๆตามมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท