มื้อเย็นที่มีความหมาย นายดิน น้องผึ้ง และหมอเบิร์ด
เล่าเรื่องสุนทรียสนทนาในตอนก่อนแล้วเครียดนิดๆ คงติดต่อมาจากน้าอึ่งอ๊อบ ทำอะไรที่เป็นสาระหน่อยให้เครียดไปหมด เล่าเรื่องไร้สาระมั่งดีกว่า
เมื่อจบวงสนทนาที่ห้องนั่งเล่น น้องผึ้งกับนายดินก็พาเรามาที่ร้านตองตึง อยู่ระหว่างโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์กับสนามบินเก่าที่คนชอบวิ่งแอบไปวิ่งทุกครั้งที่ไปเชียงราย อาหารก็เป็นอาหารพื้นเมืองทางเหนือ มีแกงแค ใส้อั่ว อะไรอีกก็จำไม่ได้ จดก็ไม่ได้จด รูปก็ไม่ได้ถ่าย กินอะไรก็ไม่ลง เพราะไม่รู้หมอเบิร์ดจะมาคุยด้วยรึเปล่า บอกไว้ว่าไปทำงานที่พะเยา พยายามจะรีบกลับมาให้ทันคุยด้วย นั่งคอยาวรอ ข้าวปลาไม่ต้องกินมันละ ( แปลว่าคอยชะเง้อดู.... อิอิ )
น้องผึ้งนี่น่ารักมาก ขอบอก คุยเก่ง เป็นกระบวนกรที่เก่งมาก ( แต่วงน้ำชาบอกว่ายังใหม่อยู่ ขนาดใหม่ๆยังขนาดนี้ แล้วที่เก่าๆจะขนาดไหนล่ะเนี่ย )
น้องผึ้งจะร่วมวงสนทนาด้วยถ้าว่างจากภารกิจช่วยคุณเมต้อนรับแขก เป็นผู้ฟังที่ดี เก็บรายละเอียดต่างๆเก่ง แต่จะมีจังหวะพูดที่เหมาะสม ถ้าได้พูดละก้อ น่าดูเหมือนกัน จากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กัน ก็ได้รับความรู้ต่างๆหลายอย่างจากน้องผึ้ง ช่วยให้เข้าใจเรื่องที่ติดค้างในหัวใจอยู่ได้มากทีเดียว เป็นขวัญใจของวงสนทนาบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นเลย
นายดินนี่เป็นหนุ่มน้อยที่มีบุคคลิกเงียบขรึม อาจารย์วิศิษฐ์เล่าให้ฟังว่าเรียนแบบ Home School นายดินสนใจการแพทย์แบบธิเบต วิธีการเล่าเรียนก็ต้องไปอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของอาจารย์ที่ธิเบตเลย มีการทำโครงการนักเรียนแลกเปลี่ยนด้วยนะ คือลูกของหมอธิเบตก็ถูุกส่งมาอยู่ที่เชียงรายเหมือนกัน นายดินต้องไปปรนนิบัติที่บ้านอาจารย์ ทำเกือบทุกอย่าง ฟังดูยังกะหนังบู๊ลิ้มเลย
ที่ห้องนั่งเล่นนายดินจะเป็นผู้ฟังที่ดี คือพูดน้อยมาก คิดว่า มื้อเย็นนี้คงจะกินกันเงียบๆ แต่ที่ไหนได้ พอน้องผึ้งเห็นบรรยากาศทึมๆ ก็เลยแหย่ว่าหมอดินนี่ มีวิชาแพทย์แผนธิเบต เก่งมากคนนึง แค่นั้นแหละก็เกิดความชุลมุน เกิดการแย่งคิวหมอดินกัน นักการอิ่มอาศัยความเก๋า ไวกว่าคนอื่น ได้คิวแรกเลย
นายดินก็คว้ามือมาจับชีพจร ( เรียกแม๊ะรึเปล่า ? อิอิ ) แล้วค่อยๆซักประวัติ ใช้เวลานานพอสมควร ท่าทางเคร่งขรึมขณะตรวจ แต่หลังจากตรวจเสร็จก็วินิจฉัยแล้วแนะนำ คราวนี้เป็นที่สนุกสนานเลย มีเสียงหัวเราะไม่ขาดสาย นายดินเลยกลายเป็นพระเอกของมื้อนี้ไปเลย หลังจากนั้นสาวๆก็แย่งกันให้หมอดินตรวจ หมอดินตั้งข้อสังเกตว่าทีมนักการมีแต่พวกที่เป็นโรคหัวใจ พวกอกหัก ใจง่าย ใจถึง ใจเต็มร้อย ฯ
นายดินนี่ไม่ใช่รอบรู้แต่เรื่องแพทย์แผนธิเบตนะครับ คุยกันอยู่นายดินก็พูดเรื่อง Bonding นักการอิ่มตื่นเต้นมาก ร้องว่าใช่เลยๆๆๆๆ สงสัยปิ๊งแว๊บ หรือคลิกอะไรสัักอย่างเข้าให้
Bonding เองก็เป็นเรื่องที่คนชอบวิ่งสนใจอยู่มาก เพราะมีหลายโครงการที่ทำร่วมกับประชาชนแล้วไม่ประสบความสำเร็จ ( เท่าที่ควร ) เพราะเราทำความเข้าใจ ให้ความรู้ ลงไปทำงานด้วยกัน ติดตามผลสักระยะหนึ่งก็เริ่มตีบตัน ไม่รู้จะไปทางไหนต่อ รู้สึกว่าอะไรๆก็เริ่มยากขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้จะทำอะไรต่อ ทีมงานก็มีงานหลายด้านเหลือเกิน รู้สึกเสียดายความพยายามที่ลงมือลงแรงกันไป แล้วไม่ได้ผล
นายดินเล่าให้ฟังว่ากระบวนกรไม่ใช่แค่ชวนผู้เข้ารับการอบรมเล่นเกมให้สนุกสนาน แก้ง่วงแล้วมาอบรมกันต่อ แต่ต้องทำให้เกิด Bonding มีความผูกพันกัน เป็นเครือข่ายกัน ติดต่อพูดคุยกันเป็นนิจ ก็จะเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันไปตลอด
นักการอิ่มคงปิ๊ง แว๊บหรือคลิกตรงนี้นี่เอง โครงการต่างๆที่พวกเราชอบทำกันก็อยู่บนสมมุติฐานที่ว่า ชาวบ้านไม่รู้ ถ้ารู้แล้วก็คงจะทำ ก็เลยจับชาวบ้านมานั่งฟังปรมาจารย์ทั้งหลายบรรยายๆๆๆๆๆ ให้รู้ พอไปติดตามผลก็ไม่เข้าใจว่าทำไมชาวบ้านไม่ทำ คงไม่รู้จริงก็จับเอามาอบรมใหม่ เพิ่มชั่วโมงบรรยายเข้าไป จะได้รู้เรื่องดี มันไม่ง่ายยังงั้นหรอกลุง อิอิ ป่านนี้ยังทำกันอยู่เป็นล่ำเป็นสัน
ถึงจะพัฒนาการฝึกอบรมมาเป็นแบบชาวบ้านมีส่วนร่วม ร่วมกันคิด มีแบบฝึกหัดให้ปฏิบัติ เหมือนที่มหาชีวาลัยกำลังทำอยู่ ถ้าขาด Bonding ก็อาจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควรก็ได้ อิอิ
Bonding ก็คงไม่ใช่ง่ายๆแบบว่าประกาศจัดตั้งเครือข่าย ให้ชุมชนส่งรายชื่อมา แล้วประกาศจัดตั้งเป็นเครือข่าย แต่ไม่รู้จักคำว่า Bonding ชาติหน้าตอนดึกๆก็ไม่สำเร็จ ใครอยากรู้เรื่อง Bonding ก็ไปหานายดินที่เชียงรายแล้วกัน อิอิ
ขออภัยแฟนทั้งหลาย 2 เรื่อง เรื่องแรกคือการใช้ศัพท์ภาษาอังกฤษ Bonding เพราะเป็นศัพท์ที่ใช้ในวงสนทนาจริงๆ เลยไม่อยากเปลี่ยนให้เสียอรรถรส อิอิ
เรื่องที่สองคือ หัวข้อมีชื่อหมอเบิร์ดอยู่ด้วยแต่ไม่ออกโรงเลย ต้องขออธิบายว่าเป็นเพราะต้องการชื่อเรื่องไปทาง เนื้อเรื่องไปทาง ไม่ใช่ๆๆๆ เพราะเขียนเรื่องหมอเบิร์ดไปแล้ว อีกอย่างบล็อกนี้ก็ยาวมากแล้ว ให้นายดินกับน้องผึ้งเป็นพระเอกนางเอกดีกว่า อิอิ
เขียนแบบ หักเหลี่ยมโหด ว่างั้นเถอะ
ไปคนละทาง ในเส้นรอบวง เดี๋ยวก็เขอกัน
1. ครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์
สวัสดีค่ะ
ตามมาอ่าน มาเรียนรู้ค่ะ อยากมี Bonding มั่งค่ะ...อิอิ
สวัสดีค่ะคุณหมอสุธีที่เคารพ
เห็นหัวเรื่องมี..สองแคว..เลยเข้ามาดู..ว่าเขาทำอะไรกันที่พิดโลก..อิๆๆ....คุณหมอเอง.. คงสนุกดีน่ะค่ะกับกิจกรรมต่างๆ..โอกาสหน้ามีอะไรให้รับใช้ เพื่อประโยชน์สำหรับประชาชนชาวสองแคว..แจ้งให้ทราบได้เลยน่ะค่ะ..ยินดีมากค่ะ....
ด้วยความเคารพ
ยายหมูอ้วนเอง
สวัสดีค่ะคุณหมอสุธีที่เคารพ
เรียนถามนอกเรื่องนะคะ..ไม่ทราบว่า พื้นที่แถวมหาวิทยาลัยนเรศวร..จะยกให้ไปอยู่ในความดูแลของเทศบาลฯหรือยังค่ะ
เพราะดูการทำงานของอบต.ท่าโพธิ์ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นระบบเลยค่ะ..คือดิฉันมีที่ดินอยู่แถวมหาวิทยาลัยนเรศวรประมาณสิบไร่ ถมดินแล้ว..กลับเมืองไทยคราวที่แล้ว ไปรังวัดที่ดินอีกครั้งหนึ่ง เพราะซื้อมาจะครบสิบปีแล้ว..ค่ะ..ปรากฏดินถูกขุดหายไปเป็นทางยาวประมาณ80เมตร กว้าง 1เมตร..ไปถาม นายก อบต นายกฯ..บอกว่าน้ำท่วมแถว มหาลัย..เลยจำเป็นต้องมาขุดคลองแถวนั้น แต่เผอิญมันรุกล้ำเข้ามาในที่ดินดิฉัน..แล้วดินก็หายไป..(เห็นช่างรังวัดเขาเล่าให้ฟังน่ะค่ะ..ไม่ได้เข้าไปดูเองเนื่องจากมีหญ้าขึ้นเต็มไปหมดแล้ว..)....ก็เลยแจ้งนายก อบต.เป็นลายลักษณ์อักษรในเบื้องต้นว่า ดิฉันได้รับความเสียหายอย่างไรและ ให้ช่วยจัดการหาดินมาถมให้เหมือนเดิม..เมื่อเลยฤดูฝนไปแล้ว..แต่ก็เองยังไม่มีโอกาสได้ไปเช็ค ว่า อบต.ได้ดำเนินให้แล้วหรือยัง..นะค่ะ..
ด้วยเหตุนี้..จึงคิดว่าถ้าพื้นที่แถวนั้น ถ้ายกให้อยู่ในความดูแลของเทศบาลก็คงจะดีกว่า...ค่ะ คิดว่าคงจะเป็นระบบมากกว่านี้ (ความคิดเห็นค่ะ)
ด้วยความเคารพ
จิรประภา มากลิ่น
3. paew
4. อ.ลูกหว้า
6. J. Maglin
สวัสดีค่ะคุณหมอสุธี
เห็นด้วยว่าค่ะน้องดินและคุณผึ้งนั้นน่ารักมากๆและประกายตาสุกใส กระจ่างเชียวล่ะค่ะ การคุยกันวันนั้นเบิร์ดก็ได้คำว่า bonding เช่นเดียวกัน และได้เห็นวิธีการตรวจแบบหมอธิเบตที่น่าสนใจมากๆ และจะเน้นการรักษาด้วยสมุนไพร อาหาร และจิตใจ คล้ายๆกับวิถีดั้งเดิมของหลายๆแห่งเลยนะคะ
นอกจากนี้ก็ขอประทานกราบเรียนว่าเบิร์ดได้รับขนมเรียบร้อยแ้ล้ว ตั้งแต่สองทุ่มครึ่งของคืนวันที่ 10 มี.ค.ค่ะ แต่วันนี้ทั้งวันเบิร์ดต้องไปนิเทศที่ อ.แม่ฟ้าหลวง ( บ้านเทอดไทย ที่ขุนส่า ราชายาเสพติดที่เคยแย่งชิงแผ่นดินกับเราไงคะ ยิงกันสนั่นดอยเลย อิ อิ อิ ) ทำให้มารายงานตัวช้าหน่อยค่ะ และพรุ่งนี้เบิร์ดจะเอาของฝากไปฝากหมอหน่อยให้ถึงมือเลยนะคะ
เกือบลืมแน่ะค่ะ เบิร์ดกอดนักการเมี่ยงและฝากกอดนักการอิ่ม รวมทั้งให้มากอดคุณหมอด้วยล่ะค่ะ แต่นักการเมี่ยงบอกว่า " เมี่ยงไม่กล้ากอดคุณหมอหรอก " อิ อิ อิ ^ ^
สวัสดีค่ะ อ.หมอคนชอบวิ่ง
สวัสดีค่ะคุณหมอสุธี
อ่านดูแล้ว bonding เหมือนความรู้สึกเชื่อมโยงใกล้ชิดผูกพันผ่าน ความไว้วางใจ
เหมือนกระบวนการสร้างความสัมพันธ์ มีความเป็นมิตรและมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันนะคะ
ไม่ทราบจะถูกหรือเปล่าค่ะ
keyword : Bonding ชอบใจคะ ตรงมีความผูกพันกัน ทำอย่างไรจะพยายามติดต่อกัน อิอิ ขอบคุณคนชอบวิ่งนะคะ กับบันทึกดีๆ บทความที่ดี ของคนชอบวิ่งนะคะ
16. สุวรรณา