กุสินาราคลินิคก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ 2000 เพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหา มหาราชินี ซึ่งใน โอกาสนั้น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี โดยเอกอัครราชทูตธวัธชัย ทวีศรี (ในขณะนั้น) วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์และมูลนิธิ Harnam Singh Harbans Kaur Charitable Trust New Delhi ได้ร่วมกันตั้งขึ้นในบริเวณวัดไทยกุสินาราเพื่อให้การรักษาพยาบาลแก่คนยากจนในท้องถิ่นกุสินาราและรอบข้าง ซึ่งที่ผ่านมา 6 ปี ปรากกว่าคลินิคกุสินาราได้ให้การรักษาพยาบาลคนป่วยไปแล้วกว่า 2 แสนคน รวมทั้งผู้แสวงบุญจากทุกประเทศที่ไปเยือนกุสินารา
ต่อมาเมื่อเห็นประโยชน์ของการให้บริการดังกล่าว ผู้ร่วมก่อตั้งก็ได้จัดสร้างอาคารคลินิคใหม่เพื่อรองรับผู้ป่วยได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในวันที่ 1 มีนาคม 2005 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จแทนพระองค์เป็นประธานวางศิลาฤกษ์อาคารคลินิคหลังใหม่ ซึ่งคาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จภายในปี 2009 และล่าสุด เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2007 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีอินเดียได้ให้เกียรติไปทำพิธีเปิดห้องตรวจรักษาที่สร้างเสร็จในขั้นแรกอย่างเป็นทางการ นับเป็นความสำเร็จที่น่าชื่นชม แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลอินเดียได้ตระหนักถึงบทบาทของพระธรรมทูตไทยและงานของคนไทยที่ดำเนินการผ่านวัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์เป็นอย่างมาก ปัจจุบันมีพระราชรัตนรังษี ประธานสงฆ์ เป็นผู้นำศรัทธาการก่อสร้าง มีพระครูปลัด ดร.คมสรณ์ คุตตธมฺโม เป็นผู้อำนวยการดูแลและบริหาร
คลินิคแห่งนี้เป็นการสร้างเพื่อเป็นพุทธอนุสรณ์แห่งการประชวรหนัก ด้วยพระปักขันธิกาพาธของพระพุทธองค์ ก่อนการเสด็จดับขันธปรินิพพาน ณ กุสินารานคร ทั้งยังเป็นเสมือนสะพานบุญเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอินเดียที่ควรจะได้รับการสนับสนุนต่อไปปัจจุบันคลินิคมีแพทย์ 1 คนเภสัชกร 2 คน ผู้ช่วยพยาบาล 1 คนซึ่งเป็นขาวอินเดีย ประจำอยู่ (ยังไม่มีนางพยาบาล ) ซึ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการและจำนวนผู้มาใช้บริการ ทั้งนี้ คลินิคคิดค่ารักษาพยาบาลเพียง 8 รูปี หรือถ้ายากจนไม่มีเงิน ก็ไม่คิด และเปิดรักษาฟรีในทุกวันพระสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 8 ปี และผู้สูงอายุเกิน 60 ปี โดยเฉลี่ยจะมีคนไข้มาทำการรักษาประมาณวันละ 150 -200 คน
การไปเป็นอาสาสมัครช่วยงานที่คลินิคกุสินาราถือเป็นงานมหากุศลสำหรับอาสาสมัครจากประเทศไทยซึ่งคงไม่เป็นงานสบายเลย แต่ถือว่าต้องไปสร้างบุญบารมีในแดนพุทธภูมิ ไปเห็นและสัมผัสกับวิถีชีวิตของคนอินเดียที่ยากจนและได้เรียนรู้สาระของชีวิตที่มีคุณค่าโครงการส่งอาสาสมัครหมอ/พยาบาลไปช่วยคลินิคกุสินารานี้ เป็นโครงการเล็กๆ ที่เกิดขึ้นอยางอัศจรรย์ใน G2K ทำให้มีการจัดพิมพ์หนังสือ "คนหนึ่งวาด คนหนึ่งแต่ง" จำหน่ายเพื่อนำรายได้ไปใช้เป็นค่าเครื่องบินและค่าใช้จ่ายที่จำเป็นสำหรับอาสาสมัครในการไปปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าว เท่านั้นโดยไม่มีอะไรตอบแทนทั้งสิ้น นอกจากบุญ..................... และผลบุญ ที่ อาสาสมัครหรือผู้ที่ทำบุญส่งอาสาสมัครไปจะได้แน่นอนก็คือ อนิสงส์ แห่ง พระพุทธพจน์ ที่ตรัสว่า อโรคยา ปรมา ลาภา ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ ในชาตินี้และทุกๆ ชาตินั่นเอง
ด้วยความปรารถนาดี
สาธุ สาธุ สาธุ
อนุโมทนาค่ะ
ขอบคุณในอนุโมทนาจิตนี้ครับ
ช่วยกันนะครับ
สวัสดีครับท่านทูต พลเดช วรฉัตร
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับที่แวะมาทักทาย
แนะนำ ชี้แนะ ติติง วิจารณ์ได้เสมอครับ เพราะนี่เป็นเอกลักษณ์ของ G2K ที่ทำให้ผมสมัครเป็นสมาชิกเพียงแห่งเดียว
ผมถือว่าเป็นการช่วยกันมอง หลายมุมและเคารพความคิดของมุมอื่นที่ต่างกัน
ผมเป็นคนที่ติดดินครับ (ถามท่านเอกชัยได้ครับ)
จะยินดีอย่างมาก ถ้าจะให้เกียรติ ช่วยแนะนำกัน
สิ่งที่สำคัญในโครงการบุญเล็กๆ นี้คือ
สร้างตนจากการไปผ่านชีวิตที่อินเดียครับ
ผมเคยไปสัมผัสมาแล้ว และเห็นว่า ห้องเรียนนี้มีคุณค่า คนไทยไปช่วยอินเดีย แต่ก็คือช่วยทั้งอินเดียและช่วยทั้งประเทศไทยครับ
ด้วยความปรารถนาดี
สวัสดีค่ะ
การทำงานของหมอและเจ้าหน้าที่ เป็นสิ่งที่ทำด้วยใจ เมตตาธรรมสูงยิ่ง คนไข้วันละ ๑-๒๐๐ คน นึกออกเลยว่าเหนื่อนขนาดไหน แค่ต้องพูด แนะนำเรื่องเดิมๆซ้ำกันเป็นร้อยเที่ยว ก็ลองนึกดู
ขออนุโมทนาบุญทุกท่านที่นั่นด้วย และอนุโมทนากับผู้เห็นสิ่งควรให้ความอนุเคราะห์ต่อมนุษย์โลกด้วยกัน ที่จัดตั้งกองทุนกุสินาราฯ
รู้สึกยินดีที่จะมีส่วนในงานบุญครั้งนี้ ทั้งการจะได้ไปเอง และทำหนังสือหาทุนเพื่อผู้อื่นต่อไป
ในหนึ่งชีวิตของคน มีโอกาสทำสิ่งที่เกินควรเกินคาดได้ไม่กี่อย่างหรอกค่ะ ช่วยกันซื้อหนังสือ เพื่อมีส่วนร่วมในบุญด้วยกันนะคะ
ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ กับหนังสือบุญ "คนหนึ่งวาด คนหนึ่งแต่ง" สาธุ สาธุ สาธุ
เป็นสรุปที่กระทัดรัดและได้ใจความคลุมเนื้อหาที่ต้องการให้ผู้อ่านได้ทราบโครงการอาสาสมัครพยาบาลไปช่วยงาน พยาบาลที่โรงพยาบาลกุสินาราได้ทราบว่า นอกจากจะได้บุญกุศลแล้ว ยังจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ช่วยส่งเสริมสัมพันธภาพอันดีระหว่างไทยกับอินเดียอีกทางหนึ่งด้วย ผมสนับสนุนและจะซื้อหนังสือหลาย ๆ เล่มเพื่อสมทบกองทุนนี้ด้วยผู้หนึ่ง
ร่วมบุญกันนะครับ
บุญก็คือได้ทำ..........เท่านั้นเองครับ
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ