โครงการนี้ได้รับคัดเลือกเป็น the best practice ของ อศจ. ประจำปี 2550 ภายใต้ชื่อ โครงการพัฒนารูปแบบการสร้างเสริมความปลอดภัยในการขับขี่รถจักรยานยนต์ของนักเรียน/นักศึกษา เปิดไฟใส่หมวกกันน๊อค โครงการนี้เกิดจากนำเอาปัญหามาตั้งเป็นโจทย์ นั้นคือ รายงานการป้องกันภัยยานพาหนะบนถนนตามช่วงฤดูกาล เช่น วันขึ้นปีใหม่ วันสงกรานต์ ในระดับจังหวัดที่แจ้งให้เห็นยอดของอุบัติเหตุซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรถจักรยานยนต์ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดพะเยาเป็นผู้รายงาน ซึ่งสถานศึกษา เห็นว่า ปัญหานี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับตัวนักเรียนนักศึกษาที่ส่วนใหญ่ใช้และมียานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ ทั้งที่ใช้เดินทางมาเรียนและใช้ในชีวิตประจำวัน
ปีก่อนสถานศึกษาได้มีกิจกรรมต่าง ๆ เป็นกิจกรรมเริ่มต้น อันได้แก่ การให้นักเรียน/นักศึกษา ที่มียานพาหนะเป็นรถจักรยานยนต์ที่จะเข้ามาในสถานศึกษา ซึ่งผู้ขับขี่และผู้ซ่อนจะต้องสวมหมวกกันน็อค หากไม่ปฏิบัติตาม ก็ไม่สามารถนำรถเข้ามาจอดในโรงจอดรถของสถานศึกษาได้ อีกทั้งยังมีระบบดูแลความปลอดภัยในโรงรถเพื่อป้องกันการลักขโมย หมวกกันน็อค กันไว้อีกขั้นตอนหนึ่ง มีคณะครูเวรดูแลความเรียบร้อยในการขับขี่และตรวจสอบการสวมหมวกกันน็อค มีกิจกรรมส่งเสริมสร้างจิตสำนึกวินัยจราจร โดยเป็นโครงการนำร่องสำหรับนักเรียนนักศึกษา จำนวน 100 คน เป็นแกนนำ เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน การดำเนินกิจกรรมโครงการดังกล่าว ในระยะแรกไม่ได้รับความร่วมมือจากนักเรียนนักศึกษา แต่เมื่อมีการแจ้งและประกาศให้ทั่วถึง อีกทั้งยัง ได้รับความร่วมมือจากสถานีตำรวจ จัดตั้งด่านตรวจเดือนละ 2 ครั้ง ก็ทำให้การปฏิบัติตามกฎระเบียบที่แจ้งไว้เพิ่มขึ้น
จากโครงการฯ นี้ สถานศึกษาเห็นว่า เกิดประโยชน์ต่อนักเรียนนักศึกษาโดยตรง สำหรับการมีวินัย สุภาพ สามัคคีและมีน้ำใจ สอดคล้องกับคุณธรรมพื้นฐานสำหรับชีวิตการเรียนและใช้ในชีวิตจริง และเพื่อให้เห็นผลเชิงประจักษ์ยิ่งขึ้น จึงทำโครงการฯ นี้ต่อเนื่องในปีถัดมา พร้อมทั้งเพิ่มเติมกิจกรรมและโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงการใหญ่นี้ นำเสนอเป็น the best practice ของสถานศึกษาและเสนอเพื่อคัดเลือกเป็น the best practice ของ อศจ.
โครงการที่ยังคงไว้ได้แก่
กิจกรรมอบรมส่งเสริมและสร้างจิตใต้สำนึกวินัยจราจร
ที่มีแกนนำเพิ่มอีก 100 คน จากปีก่อน
ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายและวินัยจราจร ใบขับขี่
พ.ร.บ.คุ้มครองฯ
และมีโครงการ/กิจกรรมเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องได้แก่
กิจกรรมการขับรถรณรงค์ไปใช้สิทธิ์
กิจกรรมขับขี่เปิดไฟ-สวมหมวกนิรภัยต้านภัยยาเสพติด
กิจกรรมเสียงตามสายในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา
โครงการ
“ขับขี่ปลอดภัย
มีใบขับขี่” โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานขนส่งจังหวัด
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์
จำกด มีกิจกรรมได้แก่ จัดแสดงนิทรรศการความปลอดภัย
การจัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการขับขี่รถจักรยานยนต์เบื้องต้นอย่างถูกต้อง
การจัดทำใบอนุญาตขับขี่รถจักรยานยนต์ให้แก่นักเรียน/นักศึกษา
นอกจากนี้ สถานศึกษายังได้มีประกาศ
ในเรื่อง
การใช้ยานพาหนะในวิทยาลัยและนอกวิทยาลัยที่จะต้องปฏิบัตินั้นคือ
จะต้องจัดเก็บรถที่สถานศึกษาจัดให้เท่านั้น
ขับขี่รถต้องสวมหมวกนิรภัย
ขับขี่และซ้อนท้ายต้องสวมหมวกนิรภัย
ต้องมีบัตรอนุญาตขับขี่และต่อทะเบียน
รถจักรยานยนต์ไม่มีส่วนควบเกินกำหนด (ดัดแปลงสภาพรถ)
ไม่บรรทุกเกินน้ำหนักที่กำหนด (ผู้ซ้อนท้ายมากกว่า 1
คน) นอกจากนี้
สถานศึกษายังได้รายงานผลสถิติเปรียบเทียบการเกิดอุบัติเหตุ
ที่แสดงผลถึง กิจกรรมโครงการนี้
ที่ส่งผลในสถิติลดลงจากปีก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด
คงไม่ต้องแปลกใจอะไรที่โครงการนี้ได้รับคัดเลือกเป็น the best practice ของ อศจ.พะเยา เป็นปีที่ 2 เพราะ เป็นโครงการที่ทำต่อเนื่อง มีกิจกรรมและโครงการสนับสนุนโครงการหลัก มีเครือข่ายในการทำงานจากภายนอก ได้รับการสนับสนุนจากภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชน นักเรียน/นักศึกษาปฏิบัติได้และนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน กำหนดเป็นเรื่องนโยบายหลักของสถานศึกษา การมีส่วนร่วมของนักเรียน/นักศึกษาทุกคน สอดคล้องกับคุณธรรมพื้นฐานหลายด้านไม่ว่า จะเป็นการสร้างวินัยในการขับขี่ ขับขี่รถจักรยานยนต์ด้วยความสุภาพ เกิดความประหยัดเพราะรู้วิธีดูแลรักษาและวิธีการขับขี่ มีความสามัคคีทำกิจกรรมร่วมกันทั้งส่งเสริมประชาธิปไตยและการต้านภัยยาเสพติด ไปจนถึงการมีน้ำใจในการขับขี่ คุณธรรมพื้นฐานทั้งหลายเหล่านี้ สถานศึกษาคงไม่ได้หวังขึ้นเพื่อว่า จะจัดโครงการขึ้นมาแล้วต้องมีการบังคับให้ปฏิบัติตามกฎ ที่ตั้งไว้ แต่สิ่งที่สถานศึกษาต้องการท้ายที่สุดนั้นก็คือ การเกิดจิตสำนึกและตระหนักในเรื่องนี้ อยากให้เกิดขึ้นด้วยตัวของนักเรียนนักศึกษาเอง โดยไม่ต้องใช้กฎระเบียบเป็นข้อบังคับควบคุม
นางสาวพิมพร ศะริจันทร์
ศึกษานิเทศก์ เขียนวันที่ 18 มีนาคม 2552
จากการนิเทศติดตามและประเมินผลโครงการคุณธรรมนำความรู้ ปีการศึกษา
2551 อศจ. พะเยา วันที่ 17 มีนาคม 2552
ไม่มีความเห็น