เกียวโต...กุ๊กกิ๊ก คิกขุ


           มาแล้วค่ะ หลังจากห่างหายจากการเล่าเรื่องโปสการ์ดอยู่นานพอควร เหตุเกิดจากความเหงา...เปล่าหรอก เนื่องจากช่วงนี้ขาดแรงบันดาลใจในการเขียนหน่ะ ดังนั้นเพื่อนพ้องทั้งหลายเข้ามาแวะเวียนแถวๆ บล็อกแม่นีโอ ก็ส่งแรงบันดาลใจมาให้ด้วยนะค๊า อิอิ (อ้อนสุดฤทธิ์)

          ตั้งใจว่าจะเล่าเรื่องโปสการ์ดจากเกียวโต ก็ไม่ได้เล่าสักทีเนื่องจากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกโปสการ์ดเซ็ตไหนมานำเสนอดี อารมณ์รักพี่เสียดายน้องประมาณนั้น สุดท้ายมาตกที่โปสการ์ดสไตล์คิกขุแบบที่แม่นีโอช้อบชอบ เพราะคิดว่าสไตล์สวยงามแบบอื่นของเกียวโต หาชมกันได้เยอะไป...จริงมั้ย

          เกริ่นมาเสียนาน เข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ

          เกียวโต..เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองโรแมนติกที่น่าไปเยือนแห่งหนึ่ง ค่าที่เป็นเมืองเก่ารายล้อมไปด้วยวัดวาอารามและศาลเจ้ามากมาย และไม่ว่าจะไปเยือนในช่วงซากุระเบ่งบาน หรือใบไม้เปลี่ยนสี เกียวโตก็ไม่ทำให้คุณผิดหวัง แต่แม่นีโอได้มาเยือนในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น จึงได้แต่หวังว่าจะได้มาเดินเล่นชิลๆ ที่นี่อีก แต่ตอนนี้มาเที่ยวแบบแว่บๆ กะแม่นีโอก่อนก็แล้วกันค่ะ

          ตามหาอิ๊กคิวซังที่วัดทอง-วัดเงิน

          พูดถึงเกียวโต แน่นอนสถานที่แรกที่แม่นีโอนึกถึงคือ วัดทองหรือปราสาททอง  หรือ คินคะคุจิ (Kinkakuji) ชื่อนี้เราๆรู้จักกันดี ตั้งแต่ดูการ์ตูนอิ๊กคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญาโน่นแหน่ะ    คินคะคุจิได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกแห่งหนึ่ง เราเดินผ่านสวนสวยบริเวณวัดช่างร่มรื่นสวยงามด้วยต้นไม้ใหญ่ น่าเสียดายก็ตรงที่เรามาเร็วไปนิดเพราะใบไม้เพิ่งเริ่มเปลี่ยนสี ตอนนี้ฝนเริ่มตกพรำๆ แต่ไม่เป็นอุปสรรคเลยสักนิดกับการยลโฉมปราสาทงามสีทองเด่นตระการตากลางสระน้ำ และแล้วฟ้าฝนก็เป็นใจ พอแสงแดดสาดส่องมาที่ปราสาท ภาพปราสาท 3 ชั้นสะท้อนลงบนผิวน้ำ ช่างงดงามจับใจ ดื่มด่ำบรรยากาศจนอิ่มเอมแล้ว เราเดินเล่นชมสวนรอบๆ วัดกันต่อ  

          เล่าวัดทอง แล้วจะไม่เล่าวัดเงินก็กระไรอยู่ (ขออ้างอิงจากที่อ่านหนังสือนะคะ เพราะยังไม่ได้ไปดู) ปราสาทเงิน หรือ กิงคะคุจิ (Ginkakuji) ปราสาทคู่แฝดกะปราสาททอง แต่ไม่ได้อาบด้วยสีทองอร้าอร่าม แต่ว่ากันว่าวัดเงินเป็นวัดที่สวยงามจากด้านในไม่ผ่านการปรุงแต่งเหมือนวัดทอง ที่นี่เน้นความละเอียดเอาใจใส่ ต้องค่อยๆ เดินซึมซับความเงียบสงบของตัววัดและอาณาบริเวณรอบๆ ไว้แม่นีโอได้มีโอกาสมา จะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ

วัดทอง

วัดเงิน

          Fushimi Inari……ศาลเจ้าหมื่นเสา  

          สถานที่อีกแห่งที่แม่นีโอชอบมากๆ เห็นจะเป็นศาลเจ้า Fushimi Inari นับเป็นความโชคดีที่ศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนที่แม่นีโอต้องไปร่วมงาน ดังนั้นเมื่อสบโอกาสก็เลยอาศัยเวลาที่เค้าจัดงานปาร์ตี้ออกไปชมศาลเจ้าเสียหน่อย (ไม่ถือว่าเสียการเสียงานใช่มั้ยคะ อิอิ) โดยมีน้องนักเรียนทุนที่นั่นมารับแม่นีโอ เรารีบเดินจ้ำหวังจะทำเวลาให้เร็วที่สุด เราเดินลัดเลาะซอยเล็กซอยน้อยจากโรงเรียนประมาณ 15 นาที ก็ทะลุมาเจอสถานี JR Inari อยู่ซ้ายมือ เหลือบตาไปทางขวาเห็นเสาโทริอิสีแดงขนาดใหญ่เด่นเป็นสง่าอยู่ และแล้วเราก็มาถึง เห็นใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีก็แอบใจสั่นเล็กน้อย ก่อนเข้าตัวศาลเจ้าเราชำระล้างมือล้างไม้ตามธรรมเนียมก่อนการไหว้ศาลเจ้า ไหนๆก็มาถึงศาลเจ้าชื่อดังของเกียวโต ก็ต้องขอพรสักหน่อย ที่นี่นับถือสุนัขจิ้งจอกเพราะเชื่อว่าเป็นฑูตส่งสารถึงเทพเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว จึงมีรูปปั้นสุนัขจิ้งจอกเต็มไปหมด ใครยังจำได้มั่ง..ที่นี่ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังดังเรื่อง Memoirs of Geisha อีกด้วย

          เราเดินผ่านเสาโทริอิที่เรียงรายกันไปเริ่มจากเสาใหญ่ยักษ์ ไปจนถึงเสาขนาดไม่ใหญ่ยักษ์ จากอุโมงค์เสาเดี่ยวจนไปเจออุโมงค์เสาคู่ วุ้ย..เดินชมกันไม่หวาดไม่ไหว ในระหว่างนี้ก็เดินไปก็ดูนาฬิกาไปกลัวจะเดินเพลินไปหน่อย สุดท้ายก็ตัดสินใจพอแต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวกลับไม่ทันคุณนานาโกะ(เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรา)เธอมีเคืองแน่ แหะๆ

          ออกจากตัวศาลเจ้าก็เดินเล่นละแวกศาลเจ้ามีร้านค้า ร้านอาหารน่านั่งหลายร้าน...แต่หมดสิทธิ์จ้ะ แม่นีโอสอดส่ายสายตามองหาโปสการ์ด มีร้านขายโปสการ์ดแฮนด์เมดสวยเก๋อยู่ร้านเดียว ตัดใจซื้อมาเพียง 2 ใบ แหมๆก็ราคาออกจะแพงปานนั้น...ใบละตั้ง 210 เยน

ภาพบนไม่สื่อถึงศาลเจ้าสักเท่าใด เลยแถมศาลเจ้าหมื่นเสาอีกภาพ

          ปราสาทนิโจ ในวันฝนฉ่ำ

หลังกิจกรรมการนำเสนอโครงงานวิทยาศาสตร์ในช่วงเช้า ทีมเจ้าภาพได้จัดพาไปเที่ยวด้วย โดยกำหนดให้เลือก 2 แห่ง คือ วัดคิโยมิสึหรือวัดน้ำใส  และปราสาทนิโจ ซึ่งก่อนมาที่ญี่ปุ่น แม่นีโอได้แจ้งไปว่าขอไปคิโยมิสึ วัดน้ำใสที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี หวังจะไปขอพรและดื่มน้ำศักดิ์สิทธิ์ 3 สาย แต่เอาเข้าจริง...ฝันสลาย เค้าจัดให้เราไปปราสาทนิโจแทน เพราะเห็นว่านักเรียนไทยที่ไปด้วยกัน เลือกไปนิโจกันหมด  เอาหน่ะ...ไหนๆ เค้าก็ให้ไปฟรี รถรับส่งก็จัดให้อย่างดี แถมพอคเก็ตมันนี่อีก 1,000 เยน เค้าบอกว่าเย็นนี้ไม่เลี้ยงข้าวเพราะปล่อยให้ไปเที่ยว และช้อปปิ้งรอบค่ำ ดังนั้นสตางค์ที่ให้ไปยูไปหาข้าวกินเองนะ โห...ใครจะดูแลดีเท่าพี่ยุ่นหล่ะเนี่ย  ดังนั้นไอ้เราก็ไม่รู้จะไปวิ่งเต้นแลกเปลี่ยนทำไม ปราสาทนิโจก็ได้ยังไงก็ได้เที่ยวเหมือนกัน อิอิ

          อย่างที่รู้ๆกันว่าพยากรณ์อากาศของคุณพี่ยุ่นเธอแม่นเอามากๆ วันนี้ก็เช่นกัน ช่วงเช้ายูโตะมาบอกว่าถ้ามีร่มให้เตรียมร่มไว้ด้วยนะ เพราะบ่ายวันนี้ฝนจะตก แหมๆ คุณฝนฟ้าก็ช่างเป็นใจมาตกวันที่จะออกไปเที่ยว  ทีวันที่อยู่ในห้องประชุมหล่ะไม่ตก ทำเอาเซ็งไม่น้อย เลยได้ชมปราสาทนิโจแบบแฉะๆ สวนสวยขึ้นชื่อรอบปราสาทก็อดเดินชม

          ปราสาทนิโจ เป็นสถานที่อีกแห่งที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จึงไม่แปลกใจที่มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมมากพอสมควร (แม้ฝนจะตกก็ตาม)  นิโจต่างจากปราสาทอื่นของญี่ปุ่นตรงที่ไม่ได้เป็นปราสาทเป็นชั้นๆ แต่เป็นปราสาทชั้นเดียว  มีป้อมปราการเป็นหน้าด่านอยู่สองชั้นโดยมีคูน้ำล้อมรอบ  ภายในตัวปราสาทมีการแสดงห้องหับต่างๆ ทั้งห้องทำงานของโชกุน ห้องพักอาศัย จุดเด่นอยู่ที่พื้น ระเบียงเรียกว่า Nightingale Floors ออกแบบมาเพื่อให้มีเสียงคล้ายนกร้องเมื่อเดินเหยียบลงไป เพื่อป้องกันโชกุนที่อยู่ส่วนในปราสาทจากการถูกลอบโจมตี อืมม...สุดยอดภูมิปัญญา

วัดคิโยมิสึ

ปรากฎว่าโปสการ์ดเซ็ตนี้ไม่มีภาพปราสาทนิโจค่ะ เดี๋ยวไปหาโปสการ์ดชุดอื่นมาให้ชมแทนนะคะ

          ไปเดินเล่นย่าน Gion

          ย่านกิออง เปรียบเสมือนย่านเมืองเก่าแห่งเกียวโต ที่เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้แวะเวียนมา ร้านรวงสองข้างทางยังคงเสน่ห์แบบบ้านโบราณ แถบนี้จะพบนักท่องเที่ยวชาวตะวันตกค่อนข้างมาก แม่นีโอคิดว่าหลายคนที่อยากมาเดินเล่นแถบนี้ คงจะมีความหวัง(เหมือนแม่นีโอ) ที่จะได้พบหน้าค่าตาของเกอิชาและไมโกะ ซึ่งเราก็ได้พบจริงๆ ด้วย แต่เธอเดินเร็วมาก ถ่ายรูปแทบไม่ทันเลย แต่แถบๆนี้เราจะพบเห็นผู้คนสวมใส่ชุดกิโมโนและยูกะตะค่อนข้างมาก นี่หล่ะเสน่ห์เกียวโตเค้าหล่ะ..ว่ามั้ย  

          เดินเรื่อยเปื่อยจากย่านกิออง สุดถนนตรงสามแยกจะพบศาลเจ้ายาซากะ (Yasaka Jinja) เป็นสถานที่อีกแห่งที่ควรแวะ มีซุ้มประตูสีแดงส้มขนาดใหญ่เป็นจุดดึงดูดให้เข้าไป ศาลเจ้าแห่งนี้จะเป็นศาลเจ้าหลักในการจัดเทศกาล Gion Matsuri ถ้ามีโอกาสมาในช่วงจัดงานจะพบเกอิชาแต่งตัวเต็มยศเลยทีเดียว

          Gion Matsuri เป็นงานเทศกาลฤดูร้อนของเกียวโต จัดเป็นประจำทุกปีในเดือนกรกฎาคม เป็นงานเทศกาลที่ใหญ่ที่สุด และมีชื่อเสียงที่สุดหนึ่งในสามของเกียวโต อีกสองเทศกาลคือ Jidai Matsuri และ  Aoi Matsuri

ย่านกิออง

Gion Matsuri

Jidai Matsuri

ปิดท้ายด้วยเทศกาล Mifune Matsuri เป็นขบวนแห่เรือโบราณที่แม่น้ำโออิของเกียวโต

          จริงๆ แล้วเกียวโตยังมีสถานที่น่าสนใจอีกเยอะมาก โดยเฉพาะวัดวาอารามต่างๆ แถมการเดินทางก็สะดวก โดยเฉพาะนั่งรถบัสแบบเหมานี่วันละ 500 เยนเท่านั้น ขึ้นลงกี่รอบก็ได้ ถ้าวางแผนดีๆ ก็สามารถแวะเที่ยวสถานที่สำคัญต่างๆของเกียวโตได้แทบทั้งหมด วันนี้เล่าเรื่องจากโปสการ์ดมาเป็นน้ำจิ้มก่อน  ไว้แม่นีโอต้องหาโอกาสไปเยือนเกียวโตอีกแน่นอน...แล้วพบกันใหม่นะคะ

 

หมายเลขบันทึก: 368109เขียนเมื่อ 20 มิถุนายน 2010 16:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

น่ารักมาก..มาก เลย

ดูแล้วสดชื่น

อยากดูของประเทศอื่น ๆ บ้าง

ส่ง link มาอีกนะเจ้ ชอบ ชอบ

ของคิขุอโนเนะต้องยกให้ญี่ปุ่นจริง ๆ นะครับ เค้าช่างมีไอเดียทำของน่ารัก ๆ ชวนให้ซื้อไปหมด แถมคนขายนี่ก็ช่างห่อจริง ๆ ซื้อที่คั่นหนังสือเซตมาชุดหนึ่ง คนขายห่อให้ซะสวยจนเกือบตกรถ เพราะมัวแต่ห่อ พอมาถึงบ้านก็ต้องแกะอยู่ดี ไม่รู้จะห่ออะไรนักหนา เกียวโตมีวัดเยอะมาก คราวที่แล้วไปเก็บได้ซัก 4-5 วัดเอง ปราสาทนิโจก็ยังไม่เคยไป ไม่เป็นไรเก็บเอาไว้ไปเที่ยวใหม่ ญี่ปุ่นครั้งเดียวไม่เคยพอจริง ๆ

สวัสดีค่ะคุณแม่นีโอ คิกขุตามสไตล์ญี่ปุ่นจริงๆค่ะ มีของกระจุกกระจิกตกแต่ง  

สะดุดกับห้องพักชั้นไนติงเกลค่ะ  ชอบโปสการ์ดชุดนี้ค่ะ มีรายละเอียดเยอะดี

ขอบคุณค่ะพี่

@ ฮูหยิน ไว้รอติดตามเด้อ ยังมีอีกหลายเรื่องที่อยากเขียน อิอิ

@ คุณ Cherokee อารมณ์คิกขุแบบนี้หล่ะที่ทำให้อยากไปญี่ปุ่นอีกหลายๆรอบ โดยเฉพาะวัดของเกียวโตนี่ อยากจะไปเจาะลึกจริงๆ แต่เอ๋...ไหงไม่ชอบการห่อของเค้าหล่ะ แม่นีโอว่ามันเป็นเอกลักษณ์ของเค้าดีออก โดยเฉพาะเวลาได้ของขวัญของฝากจากญี่ปุ่นมันตื่นเต้นก็ตรงเค้าห่อสวยนี่หล่ะ แต่หลายครั้งก็ผิดหวังเพราะสวยแต่ห่อ แต่ของข้างในยังไม่โดนใจ  ฮ่าๆๆ

ปล. แล้วจะรอคุณ Cherokee อัพเดทเรื่องตราประทับของญี่ปุ่นนะคะ อิอิ

@ คุณปู พี่ก็ชอบโปสการ์ดของญี่ปุ่นมากมาย เค้าทำออกมาได้น่ารักถูกใจเน๊อะ

  • ธุ พี่เอค่ะ..

จริงๆ แล้ว (เกริ่นนำ....) ต้อมแวะเวียนเข้ามาในบล็อกนี้หลานหน  แต่เจ้าของบล็อกหายจ้อย อิอิ  พี่เอสบายดีไหมคะ?  น้องนีโอเป็นอย่างไรบ้าง? 

ต้อมชอบญี่ปุ่นอยู่อย่างหนึ่งคือ "ความตั้งใจ" ในการทำการบรรจุหีบห่อ   สวยงามเสียจริง   ถึงแม้ว่าหลายๆ ครั้ง..หลายคนๆ จะผิดหวังกับรสชาติอาหารหรือขนมที่บรรจุอยู่ในแพ็คเกจจิ้งน่ารักๆ ก็ตามที  อิอิ   แต่พวกเขาก็ตั้งใจนะคะ

อิอิ  โปสการ์ดที่นำมาให้ชมน่ารักนะคะ  

เอจ๊ะ

น่ารักมากมาย ทั้งหมดทั้งมวลนั้นเป็น post card หรอจ๊ะ หาซื้อที่ไหนเนี่ย น่ารักได้อีก.. ขอบอก

หากต้องการภาพของวัดเงิน (Ginkakuji) บอกมาได้เลยนะจ๊ะ มีภาพตั้งแต่สวนหน้าวัด สวนหินน้อยๆ

สวนหลังวัด จนไปถึงทางออกเลย (ตะว่าอาจมีรูปเราอยู่ในภาพด้วยนะ 5555+)

สาม

น้องต้อมจ๋า...พี่ผิดไปแล้วจ้ะ คราวหน้าจะไม่ปล่อยให้แฟนคลับผิดหวังแล้วจ้า ฮ่าๆๆ

พี่สบายดี หวังว่าน้องต้อมก็คงสบายดีเช่นกัน

ขอบคุณสำหรับโปสการ์ดใบน่ารักที่ส่งมาให้นะคะ :-)

คุณนายสามคะ

ทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เป็นโปสการ์ดหล่ะค่ะ

ได้มาจากแหล่งชอบปิ้งในเกียวโตนั้่นหล่ะ เหตุเนื่องจากฝนตกเลยได้ไปนิโจนิดเดียว ดังนั้นเวลาที่เหลืออยู่เลยได้เดินเจาะลึกร้านค้าแทนหน่ะเธอ เลยได้โปสการ์ดมาเป็นกระบุง เหอๆ ส่วนรูปวัดเงินนั้น ก็ขอบคุณมากมาย แต่คงไม่กล้ายืมมาโพสต์เพราะมีแต่รูปคุณนายใช่ป่ะ...เดี๋ยวแฟนคลับของอิชั้นเค้าไม่กล้าเข้ามาบล็อกนี้อีกหน่ะสิ ฮ่าๆๆๆ แซวเล่นนะคุณนาย ขอบตุณอีกครั้งสำหรับโปสการ์ดจากญี่ปุ่นที่ส่งมาให้อย่างต่อเนื่อง :-)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท