"สัมผัส 7
สิ่งมหรรศจรรย์แห่งเมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก"
หนองคาย
นอกจากเป็นจังหวัดสุดเขตชายแดนประเทศไทยที่ริมโขง...และเป็นประตูสู่อินโดจีนแล้ว..
จังหวัดหนองคาย
ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ที่น่าสนใจอีกมากมาย
ดังนั้น 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่ชวนมาสัมผัส จึงมีมากกว่า 7 สิ่ง
ดังนี้
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
1
1
ปีมีครั้งเดียว ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องขอชม
“บั้งไฟพญานาค”
ลูกไฟประหลาดสีแดงส้มที่พวยพุ่งขึ้นจากใต้ลำน้ำโขง
เฉพาะในวันออกพรรษา 15
ค่ำ เดือน 11 เท่านั้น ที่มาของภาพยนตร์ที่โด่งดังไปทั่วโลก
สาเหตุของรถติดยาวและนานที่สุดในประเทศ
(รถติดทั้งคืน ยาวกว่า
50 กิโลเมตร) ปัจจุบันมีการขยายถนนและมีการจัดการจราจรที่ดี นักล่าฝัน
ชมรมกอดลม แก๊งค์รถโบราณ
หรือแม้แต่ครอบครัวนักเที่ยว
ก็สามารถสัมผัสสิ่งมหัศจรรย์นี้ได้ไม่ยากนัก
โดยเลือกที่พักได้ทั้งแบบบ้านเช่าเป็นหลัง โรงแรม
โฮมสเตย์ หรือจะกางเต็นท์นอน
(เวลาน่าเที่ยว 2 วัน 1 คืน
พร้อมทั้งพบกับการแสดงแสงสีเสียงพิธีบูชาพญานาค
การแข่งเรือยาวชิงถ้วยพระราชทาน การประกวดนางนพมาศ
และการลอยกระทง)
ที่มา/ค้นเพิ่มเติม
www.dmc.tv/pages/news/2006-10-05-2.htmlhttp://www.kunkroo.com/naga_rocket1.htm
อีก
1
เดียวในโลก สำหรับนักอนุรักษ์ หรือนักนิยมไพร
“กิ้งก่าภูวัว”
กิ้งก่านิสัยตุ๊กแกที่ชอบหลบอยู่ในถ้ำแทนที่จะอยู่ตามต้นไม้
และถ้าหางขาดก็สามารถงอกได้เหมือนตุ๊กแก
คือสิ่งที่ไม่ควรพลาด เพราะไม่สามารถหาดูได้ที่ไหนอีกแล้ว
นอกจากที่นี่
“เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว”
ที่มีพนักงานต้อนรับเป็นนกเงือกตัวโต
ในเขตอำเภอบุงคล้า-บึงโขงหลง แหล่งค้นพบ
สมุนไพรชื่อพระราชทาน
“สิรินธรวัลลี”
หรือ
สามสิบสองประดง ...กางเต้นนอนนับดาวหลังเขา
ฟังเสียงช้างป่าร้อง
แอบมองกระทิงป่าที่มาเกี้ยวพาราสีวัวตัวเมียชาวบ้าน
หรือจะเล่นน้ำตกสบาย ๆ ..เก็บภาพดอกไม้ป่าหลากหลาย
ศึกษาสมุนไพรหายาก..
เป็นอีกทริปที่ลืมไม่ลง
(เวลากินโป่ง
2 วัน 1 คืน)
ที่มา/ค้นเพิ่มเติม
ww.trekkingthai.com/board/show.php?Category=...
www.siamensis.org/.../webboarddetail.php?id=5538
www.trekkingthai.com/board/show.php?Category=...www.yclsakhon.com/index.php?lay=show&ac=artic...
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
2
ถึงแม้เป็นลำดับที่
2 ของประเทศ
แต่สำคัญยิ่งใหญ่ระดับโลก “พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง” ในอำเภอบึงโขงหลง
ด้วยพื้นที่ 8,062 ไร่
มีนกประจำถิ่นและนก อพยพ อย่างน้อย 29 ชนิด พบปลาที่บันทึกแล้ว กว่า
25 ชนิด
ทั้งนกและปลาหลายชนิดใกล้สูญพันธุ์
หาดูที่อื่นยาก มีพันธุ์พืชแปลก ๆมากมาย เช่น
หม้อข้าวหม้อแกงลิง...
หมอกบ่วาย
สมุนไพรที่โด่งดัง ...ฯลฯ บึงโขงหลง
จึงเป็นแหล่งที่นักดูนกต้องไม่พลาด..นักท่องเที่ยวต้องไปยล
(เวลาส่องนก 2 วัน
: เวลาล่องแพ
ขี่เรือเร็ว สกูตเตอร์ 1 วัน)
และในวันที่
2 กุมภาพันธ์ นี้ เป็นวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก
จังหวัดหนองคายก็จะมีพื้นที่ชุ่มน้ำแห่งที่ 2
อีกแห่ง คือ
“พื้นที่ชุ่มน้ำเขตห้ามล่าสัตว์ป่ากุดทิง”
อำเภอบึงกาฬ
ที่มา/ค้นเพิ่มเติม
www.rrb6.net/shownews.php?news=03&id=86
www.onep.go.th/wetlandsthai/sites_khonglong.html
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
3
3
สิ่งที่เป็นคำขวัญของจังหวัดหนองคาย
ถ้าดูส่วนที่ 3 “สะพานไทยลาว”
ซึ่งหมายถึง
“สะพานมิตรภาพไทย-ลาว”
สร้างจากความร่วมมือของ
3 ประเทศ คือ ไทย ลาว และออสเตเลีย
พี่น้องชาวลาวเรียกสะพานนี้ว่า “ขัวใหญ่มิตรภาพ”
เป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ไทยลาวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
เป็นประตูก้าวแรกสู่อินโดจีน ตัวสะพานยาว 2.5 กิโลเมตร
กว้าง 15 เมตร
มีรางรถไฟตรงกลาง
สามารถเดินขึ้นสะพานเพื่อชมวิวสองฝั่งแม่น้ำโขงได้ฟรี..
หรือจะเสียเวลาทำหนังสือผ่านแดนนิดหน่อยก็ไปเที่ยวต่างประเทศได้อย่างไม่ยากเย็นถึง
7 วัน
ยิ่งถ้ามีพาสปอร์ตติดมาด้วยก็ท่องเที่ยวได้เป็นเดือน
ที่มา/ค้นเพิ่มเติม
www.doh.go.th/.../templates1_nk_%20travel.dwt
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
4
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข 4 ก็ปรากฏอยู่ในคำขวัญของจังหวัดเช่นกัน
เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองมาช้านาน
ใช่แล้วครับ
“หลวงพ่อพระใส”
วัดโพธิ์ชัย
พระอารามหลวงนั่นเอง พระพุธรูปปางมารวิชัยที่กล่าวขานถึง
การปกป้องแคล้วคลาดปลอดภัย
บนบานศาลกล่าวสัมฤทธิ์ผลดังใจนึก จากธิดากษัตริย์ล้านช้าง 3
พระองค์
ได้หล่อพระพุทธรูปตามนามของตน
คือ พระเสริม พระสุก และพระใส
โดยในระหว่างอัญเชิญมาประเทศไทย
พระสุกได้แหกแพจมลงแม่น้ำโขง(เวินพระสุก)
คงเหลือพระเสริมและพระใสมาประดิษฐานที่วัดโพธิ์ชัย
และวัดหอก่อง
จนสมัยรัชกาลที่
4
ได้อัญเชิญพระใสมาจากวัดหอก่องมาวัดโพธิ์ชัยเพื่ออัญเชิญพร้อมพระเสริมเข้ากรุงเทพฯ
ปรากฏเป็นอัศจรรย์ว่าเกวียนที่อัญเชิญพระใสเกิดหัก(อีกนามหนึ่งคือหลวงพ่อเกวียนหัก)
เมื่อเปลี่ยนเกวียนใหม่ก็หักอีก
ไม่สามารถอัญเชิญไปได้
จึงได้อัญเชิญประดิษฐานไว้วัดโพธิ์ชัยมาจนถึงปัจจุบัน
ส่วนพระเสริมปัจจุบันประดิษฐาน ณ วัดประทุมวนาราม
กรุงเทพ
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
5
คราวนี้มาถึงประเพณีสนุกสนานกันบ้าง “มหาสงกรานต์อีสานหนองคาย”
คือชื่องานใหญ่
งานปีใหม่ของชาวอีสาน
ที่จัดขึ้นในเดือน
5 ของทุกปี พบกับประเพณีสงกรานต์ 2 ฝั่งโขง
พิธีสมโภชหลวงพ่อพระใส แข่งขันว่ายน้ำข้ามโขง
การประกวดอาหารจากปลาน้ำโขง
การแข่งขันกีฬาพื้นเมือง แข่งขันกีฬาชายหาด
และสนุกสุดยอดกับการเล่นน้ำสงกรานต์ชายหาด
ในบรรยากาศ
พัทยาอีสาน.....อันซีน..อันซีน...
(เวลาสบาย ๆ 3-5 วัน
พร้อมสัมผัส สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข 3 และ 4
ในเขตอำเภอเมืองไปพร้อม ๆกัน)
ที่มา/ค้นเพิ่มเติม
travel.sanook.com/bangkok/bangkok_08716.php
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
6
สุดอลังการอีกครั้งกับ “เมืองหลวงแห่งบาดาล”
หรือ
“พิภพพญานาค”บริเวณวัดอาฮง
อำเภอบึงกาฬ
แก่งอาฮง
คือแก่งขนาดใหญ่ที่มีน้ำลึกมากที่สุดของแม่น้ำโขง
วัดความลึกในหน้าแล้งได้มากกว่า 96 วา
จนได้รับขนานนามว่าเป็น
“สะดือแม่น้ำโขง”
มีลานหินกว้างเกือบ
600 เมตร
มีถ้ำขนาดใหญ่ที่เชื่อกันว่าทะลุไปถึงภูเขางูที่ฝั่งประเทศลาว
และที่แปลกอีกอย่างคือ
“บั้งไฟพญานาค”
ที่ขึ้นที่แก่งอาฮงจะมีลูกไฟสีเขียว
แทนที่จะเป็นสีแดงส้ม
แปลก สวย อลังการ
ทั้งบริเวณวัด และตำนาน
(เวลานั่งดูสะดือ 1
วัน)
สิ่งมหัศจรรย์หมายเลข
7
มาหนองคาย..ได้ขึ้น
“สวรรค์ชั้น
7” รึยัง…ถ้ายัง..ขอเสนอ
“ภูทอก”
หรือ
“วัดเจติยาศิริวิหาร”
วัดที่มีความสูง 460
เมตร กว้างวัดรอบได้ 800 เมตร ใช้เวลาสร้างบันไดนาน 5 ปี
แห่งอำเภอศรีวิไล วัดที่อยู่บนภูเขาหลังตัดที่
สร้างบันไดไม้เวียนรอบหน้าผา
7 ชั้น แต่ละชั้นได้เห็นทิวทัศน์ที่แตกต่างกันไป
แต่ได้ความหวาดเสียวไม่แพ้กัน เมื่อขึ้นถึงชั้นที่ 7
จะสามารถเห็นทิวทัศน์ที่เรียกได้ว่า...
“พานอรามา”
สวยงาม...โอ...สวรรค์ชัดๆ...
(เวลาท่องสวรรค์ 1
วัน)
ที่มา/ค้นเพิ่มเติม
www.geocities.com/srivilaii/t.html
ด้วย 7
สิ่งมหัศจรรย์ดังกล่าว ส่งผลให้ “หนองคาย..เป็นเมืองน่าอยู่อันดับ
7 ของโลก”
และเพราะเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ
7 ของโลก...หนองคาย..จึงเป็นเมืองที่มีสิ่งมหรรศจรรย์..ฯลฯ
น่าสนใจมากครับโดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่งอาฮง นับเป็นสถานที่ที่น่าหลงใหลทั้งในด้านความสวยงามและความเงียบสงบ รวมไปถึงตำนานพญานาคอีกด้วย ถ้ามีวาสนา วันหนึ่งผมคงได้มีโอกาสไปยลด้วยตนเองและเจอคนที่รู้ใจที่นั่น ( อาจจะเป็นนางนาคสักตน )