"I can't compose without you" คำนี้ทำให้ผมระเบิดเสียงหัวเราะออกมา เป็นคำที่นักแต่งเพลงเขาใช้พูดกันมั้งครับ แต่คนนอกอย่างผม ครั้งแรกนึกว่าเป็นคำเสียดสีคำหวานๆ ที่ชอบพูดกัน มาทบทวนอีกครั้ง ก็หวานดีนะครับ เพราะชีวิตนักแต่งเพลงก็คือการแต่งเพลงออกมาให้ได้ หากทำออกมาไม่ได้ ชีวิตเขาคงไร้ค่านะ ดังนั้น "ผมแต่งเพลงไม่ได้หรอกนะ หากไม่มีคุณ" จึงเป็นคำหวานสำหรับผมจากหนังเรื่องนี้ ที่ต้องรีบจดครับ
หนังเรื่องนี้เข้าโรงภาพยนตร์ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เป็นหนังที่บอกกับตัวเองว่า ต้องดู เพราะพระเอกสุดเลิฟ Huge Grant แสดง ดาราคนนี้ชอบหนักๆ จากเรื่อง The Englishman Who Went Up a Hill But Came Down a Mountain หนังเล็กๆ น่ารักๆ ที่ขอแนะนำครับ จะเห็นความพยายามของชุมชนเล็กๆ ที่จะทำเรื่องเล็กๆ สำหรับคนอื่น แต่กับชุมชนเขา มันเป็นเรื่องใหญ่มากครับ
หลังจากหนังเรื่องนั้น Huge Grant ก็ไม่เคยรอดสายตาไปเสียที สำเนียงคนอังกฤษ พูดในลำคอนี่ เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของเขาเลยครับ
ดาราฝ่ายหญิง Drew Barrymore ก็ใช่คนอื่นไกล ชอบเรื่อง My date with drew ครับ
กว่าจะได้ดูก็เป็นแผ่นแล้ว แต่เพลงประกอบนี่ เอามาฟังก่อนแล้ว เพราะทีเดียวครับ
แต่เมื่อดูหนัง ผมชอบเพลงที่พระเอกแต่งเอง ร้องให้นางเอกถึงกับอึ้ง ผมว่าเพลงนี้ใสดี ช่วงเพลงนี่ เปิด Subtitle เป็นภาษาอังกฤษครับ ได้อารมณ์ดี
ช่วงแรกของเรื่องดูผ่านๆ งงๆ แต่มาตั้งใจดูช่วงท้าย จนได้คำเด็ดตามที่จั่วหัวนั่นแแหละครับ
หนังดีครับ ชื่อเรื่องก็สื่อดี เข้าทำเนียบหนังในใจปีนี้เป็นเรื่องที่ ๔ ต่อจาก Cars, Little Miss Sunshine และ Final score
อย่าลืมหามาดูกัน สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มน้ำตาลในเลือดครับ
ปล.คะแนนใน IMDb และ Tomato ไม่ดีครับ สงสัยเขาจะไม่ค่อยชอบแนวน้ำเน่ากัน
มีรูปคู่พระ คู่นาง มาให้ดู
สวัสดีครับ ปรีดิ์
พี่ดูหนังเรื่องนี้ตอนเข้าโรงโดยบังเอิญ เพราะได้ตั๋วมาฟรี ไม่รู้จะดูเรื่องอะไร พอเข้าไปดู ทั้งสามีพี่และพี่ประทับใจบทเพลงที่แปลมาเป็นไทย ว่าแปลได้ไพเราะมาก ยังไม่ได้ไปซื้อเป็นแผ่นมาเก็บเลย แต่สามีพี่เขาไวมาก พอดูหนังไปได้อาทิตย์เดียว ไปซื้อซีดีอัลบั้มเพลงมา ชอบทั้งหนังทั้งเพลงเลยค่ะ
ตามมาเยี่ยมเยียนค่ะ