ช่วงเดือน พย. ของทุกปี ชาวนาไม่ว่าง

ต้องไปเกี่ยวข้าว ไปรับจ้าง

เวลาออกชุมชน มักไม่เจอคนอยู่ที่บ้าน

บางที ต้องตามไปถึง นา

ผู้ป่วยหลายคน ขาดยา ขาดนัดก็ช่วงนี้ นั่นเอง

เวลา ผม ไปเยี่ยม คนไข้ ถ้าไม่หนัก จริงๆ

จะไม่อยู่บ้าน

แต่คนแก่ คนป่วยหนัก จะต้องอยู่บ้านคนเดียว

หลายคน ความดันโลหิตสูง  เบาหวานขึ้น แต่ไม่มีคนแล

ประกอบกับหน้าหนาว ทำให้คนไข้ มียอดตายพรุ่งสูงขึ้น

ไม่ว่าจะเป็น ตายจากหอบ หรือโรคหัวใจ

ผมเองก็ลำบากมากขึ้น  ต้องขี่มอเตอร์ไซด์ฝ่า ลมหนาว

หากร่างกายไม่แข็งแรง ทำให้ป่วยได้ง่าย

งาน ที่ รพ. ก็ น้อยลง เพราะคนไข้ ไม่ยอมมา รพ.

ทำให้มีเวลา ทำอย่างอื่น เช่น สอน นศ. ทำเอกสารสุขศึกษา

ปกติ ที่ รพ. จะ มีคนไข้เจ็บป่วยเล็กน้อย มานอน รพ. ประมาณ ร้อย

ละ 30

ของผู้ป่วย ทั้งหมด

และ ในทางตรงกันข้าม จะมีผู้ป่วยหนัก ไม่น้อย ที่ไม่ยอม นอน รพ.

บางคน จะไปตายบ้าน  บางคนแค่ไม่อยากนอน รพ.

บางคน ไม่มีใคร มาเฝ้า เลยไม่ได้ นอน รพ.

ทำให้ ช่วงนี้ คนตายกันมาก

เดี๋ยวมาต่อครับ ....

รถอีกคันของผม เก่ามากแล้ว(แก่เหมือนใคร) ใช้ลุยสวนครับ

ข้อคิดในการดูแลผู้ป่วยในฤดูเก็บเกี่ยวข้าว

ภก.ศุภรักษ์ ศุภเอม

1. คนไข้หลายคน ขาดยา ขาดนัด เพราะไม่มีคนดูแล

2. คนไข้บางคน ทำงานหาเงิน จนไม่มีเวลา มาโรงพยาบาล

3. คนไข้มาโรงพยาบาล น้อยลง ทำให้เรามีเวลามากขึ้น

4. อากาศหนาว ระวังคนไข้หอบหืด เสียชีวิต

5. คนไข้โรคไขข้อ จะเจ็บป่วยทรมานมากขึ้น

6. คนไข้หลายคน จะปวดหลังปวดเอว เพราะต้องก้มทำนาทั้งวัน

7. อากาศหนาว ระวังเด็กทารกป่วย

8. คนป่วยไม่มีใครดูแล เพราะ ลูกหลานต้องทำงาน

สิ่งที่ต้องทำ

• ประชาสัมพันธ์เรื่อง อันตรายจากการขาดยา ขาดนัด

• การเฝ้าระวังโรคที่มากับอากาศหนาว

• จัดการเฝ้าระวังดูแลคนป่วย ในชุมชน