Avignon อยู่ห่างจาก Aix-en-Provence ประมาณ 92 กม. ผมและญาติก็ออกเดินทางกันแต่เช้า ขับรถ(เช่าเหมือนเดิม)ไปใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ก็ถึงแล้วครับ ...นี่คงเป็นอีกเหตุผมที่มาบ่อยเพราะว่าใกล้นิดเดียว ...
มาทำความรู้จักกับ Avignon กันหน่อยนะคัรบ...
"Avignon" เป็นเมืองเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ 539 ปีก่อนคริสตศักราช เคยอยู่ภายใต้การปกครองของโรมัน เมืองนี้เข้ามามีความเกี่ยวข้องกับศาสนจักร ครั้งเมื่อปี ค.ศ.1309 พระสันตะปาปา Clément ที่ 5 ซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส ไดัเลือกเมืองนี้เป็นที่ประทับ เนื่องจากต้องการหลบหลีกความไม่ปลอดภัย ทางการเมืองภายในโรม หลังจากนั้นมีพระสันตะปาปาผู้สืบทอดบัลลังก์รวม 7 พระองค์ ก็ประทับต่อที่ Avignon นี้ จนถึง ค.ศ.1376 (ปล. ไทย: พระสันตะปาปา / อังกฤษ: pope / ฝรั่งเศส: le pape อ่านว่า เลอ-ป๊าบ)
ปี ค.ศ.1376 พระสันตะปาปา Grégoire ที่ 9 ได้กลับไปประทับและฟื้นฟูศาสนจักรที่โรม จนกระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์ ในปี ค.ศ.1378 ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น ชาวโรมันประท้วงอย่างรุนแรง บังคับให้เลือกพระสันตะปาปาที่เป็นชาวอิตาลี ต่อมาที่โรมได้มีการแต่งแต่พระสันตะปาปาองค์ใหม่ เป็นชาวอิตาลี พระนามว่า Urbain ที่ 4 ...หลังจากนั้น พระสันตะปาปาองค์ต่อๆมาจีงประทับอยู่ที่โรม
...แต่ขณะเดียวกันทางด้านพระราชวังที่ Avignon ก็ได้มีการคัดเลือกพระสันตะปาปา ต่อจากพระสันตะปาปา Grégoire ที่ 9 เช่นกัน และมีผู้สืบทอดต่อมาอีก 2 พระองค์ คือ พระสันตะปาปา Clément ที่ 7 และ Benoît ที่ 8 แต่ศาสนจักรฝ่ายโรมไม่ถือว่า 2 พระองค์นี้เป็นพระสันตะปาปา และถูกเรียกว่าเป็น "Antipape" หรืออาจะเรียกได้ว่าพระสันตะปาปานอกทำเนียบ หลังจากสองพระองค์นี้ก็ถือเป็นการสิ้นสุดของพระสันตะปาปาที่ Avignon
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.palais-des-papes.com
...เหมือนทุกครั้งที่ผมมาที่นี่ จะพาคณะข้ามสะพานออกไปยังจุดชมวิว อีกฟากหนึ่งของแม่น้ำ Rhône (ผมอ่านว่า โคน ซึ่ง ค.จะออกเสียง "เคอะ" ในลำคอ..ยากครับตัว R ในภาษาฝรั่งเศส ) เมื่อมองไป ภาพที่เห็นจะเป็นแบบด้านบนนี้ สวยงามครับ ทุกคนชอบ...
เพื่อมุ่งหน้าไปยัง Le Palais des Papes ผมขับรถข้ามสะพานกลับเข้ามา จะเจอตัวเมือง Avignon ที่มีกำแพงและป้อมปราการล้อมรอบทั้งเมืองไว้
ถึงแล้วครับ...Le Palais des Papes สถาปัตยกรรมแบบ Gothique ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระราชวังแบบ Gothique ที่สำคัญที่สุดในโลก เริ่มสร้างตั้งแต่ปี ค.ศ.1335 รวมเวลาการสร้างไม่น้อยกว่า 20 ปี...ในช่วงที่ผมไป เปิด 9 โมงเช้าถึง หนึ่งทุ่ม..ขึ้นอยู่กับฤดูกาลครับ ในฤดูร้อนน่าจะปิดประมาณ 2-3 ทุ่มได้ครับ
พระราชวังนี้ ยังได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลก จาก UNESCO เมื่อปี ค.ศ.1995 มีความใหญ่โตถึง 15,000 ตารางเมตร ภายในมีโบสถ์ Gothique อยู่ถึง 4 โบสถ์
มาถึงนี่แล้ว ผมยุยงให้ทุกคนที่มาเข้าชมด้านใน ไม่งั้นก็เหมือนมาไม่ถึง Avignon
..สำหรับอัตราค่าเข้าชมที่นี่ บวกกับสะพานขาดที่อยู่ใกล้ๆกัน รวมแล้ว 11.5 ยูโร พกบัตรนักเรียนมาด้วย เหลือ 9 ยูโร อย่าลืมติดมาด้วย..ว่าแล้วก็มาชมด้านในกันครับ
ด้านบนนี้เรียกว่า Le Cloître Benoît XII ...อย่างที่บอกว่ากว้างมาก เอาภาพมาให้ดูเพียงส่วนหนึ่งล่ะกันนะครับ
เดินมาเรื่อยๆ ผมก็มาอยู่ในส่วนที่เป็น ระเบียนชั้นบนของพระราชวังซึ่งเรียกว่า Extérieur terrasse ...จากตรงนี้มองออกไป สามารถเห็นเมือง Avignon ได้โดยรอบครับ
หลังจากที่เหน็ดเหนื่อยเดินชมห้องต่างๆ ของพระราชวังไปร่วม 2 ชั่วโมง ก็กลับออกมาด้านนอก จะมาพบกับลานกว้าง ที่เรียกว่า la place du Palais des papes มีผู้คนเดินกันขวักไขว่ทั้งชาวพื้นเมืองเอง และนักท่องเที่ยว มีทั้งแบบผมทองและผมดำแบบเราๆ เพียบ..
มองไปโดยรอบลานก็จะเห็นตึกเก่าแก่สวยงาม รับกันดีกับพระราชวัง สำหรับตึกด้านบนนี้เป็น L'Hôtel des monnaies ตึกเก่าแก่ซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1619 ปัจจุบันกลายเป็นโรงเรียนการดนตรีชั้นสูง..
...เสร็จจากตรง la place du Palais des papes ผมก็จะพาคณะเดินลัดเลาะเมืองออกไปเพื่อดูสะพานขาด Le Pont St.Bénezet ซึ่งพวกเราตีตั๋วเรียบร้อยแล้ว..ที่ซื้อรวมกับการเข้าชมพระราชวัง..ไป! ขึ้นสะพานกัน
สำหรับประวัติของสะพานนี้ ไม่ทราบแน่นอนว่าใครเป็นคนสร้าง แต่มีเรื่องเล่าขานต่อกันมาว่า เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งชื่อ Bénezet (อ่านว่า เบ-เน-เซ่) ได้ยินเสียงจากสวรรค์สั่งให้เค้าไปสร้างสะพานข้ามแม่น้ำ Rhône ที่เมือง Avignon เด็กเลี้ยงแกะคนนี้ก็ได้ไปบอกชาวบ้านครับ ปรากฎว่าไม่มีใครเชื่อ...จนเจ้าคณะนักบวชที่เมือง Avignon ในขณะนั้นได้บอกกับ เด็กเลี้ยงแกะว่า หากสามารถโยนหินก้อนใหญ่ลงแม่น้ำRhôneได้ พวกเราก็จะเชื่อเจ้า
...เชื่อไหมครับว่าเด็กเลี้ยงแกะ Bénezet คนนี้ก็สามารถยกก้อนหินใหญ่ลงแม่น้ำRhône ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ชาวเมืองนี้ก็เลยเชื่อและศรัทธาจนช่วยกันสร้างสะพานนี้ได้สำเร็จครับ ต่อมาเด็เลี้ยงแกะคนนี้ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็น Saint องค์หนึ่งด้วย
สะพานนี้สร้างขึ้น เมื่อปี ค.ศ. 1177 แล้วเสร็จเมื่อ ปี ค.ศ.1185 เดิมมีความยาวถึง 947 เมตร ประกอบด้วยช่องสะพานถึง 22 ช่อง ตัวสะพานทอดยาวไปถึง Villeneuve เมืองอีกฟากหนึ่งของ Avignon ...ในสมัยนั้นเป็นสะพานหินเพียงสะพานเดียวที่สร้างบนแม่น้ำ Rhône (นับตั้งแต่เมือง Lyon ถึงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน)
...ลองดูภาพด้านล่างนี้ แล้วนำไปเปรียบเทียบกับสะพานปัจจุบันที่เหลืออยู่สองภาพด้านบนนะครับ..
คงจะสงสัยนะครับว่าทำไมถึงเหลืออยู่แค่นี้? ...เท่าที่ทราบ พระเจ้าหลุยส์ที่ 13 สั่งให้ทำลายสะพานนี้...หนนี้หายไป 3/4 ของสะพาน..
ต่อจากนั้นก็ได้มีการพยายามซ่อมแซมสะพานอยู่หลายครั้ง...แต่ด้วยสายน้ำที่ไหลเชี่ยวของแม่น้ำ Rhône สะพานก็พังแล้วพังเล่า...จนเค้าต้องปล่อยทิ้งให้เหลืออยู่ดังเช่นทุกวันนี้
ส่วนภาพด้านล่างนี้ถ่ายจากบนสะพาน Avignon ที่เหลืออยู่นั่นล่ะครับ...เสร็จแล้วก็ต้องรีบลงกลัวมันจะเหลือน้อยไปกว่านี้
ต่อจากนั้นก็กลับเข้ามาเดินเล่นในเมือง ก็มาพบกับ L'Opéra-théâtre d'Avignon เป็นโรงโอเปร่าประจำเมือง ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1825 มีการจัดแสดงละคร เพลง การเต้นรำ ตลอดทั้งปี สมกับเป็นเมืองแห่งศิลปะจริงๆ
จุดสุดท้ายที่ผมไปดูในวันนั้น Temple Saint-Martial ตั้งอยู่บนถนนสายหลักของเมือง la rue de la République เป็นโบสถ์สร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 14
เสร็จจากที่นี่ ผมและชาวคณะก็แยกย้ายกันปฏิบัติภารกิจส่วนตัว ...Avignon นอกจากจะเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานแล้ว ก็ยังมีถนนสายช็อปปิ้งยาวไม่แพ้กัน พอให้เดินจับจ่ายได้ฉ่ำใจ..แล้วเราก็นัดเจอกันหน้าพระราชวังทุ่มครึ่ง! ...บรรยากาศก็เป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ
ปิดท้ายทริปนี้ ผมขอเชิญทุกท่าน มาร้องเพลง เต้นรำ ไปกับผมบนสะพาน Avignon...(พยายามหน่อยนะครับ)
Sur le pont d'Avignon
Refrain (ท่อนสร้อย)
Sur le pont d'Avignon,
On y danse, on y danse,
Sur le pont d'Avignon,
On y danse, tout en rond.
Les beaux messieurs font comm' ça
Et puis encor' comm' ça.
Les bell's dam's font comm' ça,
Et puis encor' comm' ça.
Les cordonniers font comm' ça
Et puis encor' comm' ça.
Les blanchisseuses font comm' ça,
Et puis encor' comm' ça.