สวัสดีครับ...นี่ก็ปาเข้าไปเดือนธันวาคมอีกแล้ว...วันเวลามันผ่านไปเร็วจริงๆนะครับ...แต่ถ้ามองในแง่ดีก็แสดงผมอยู่ในช่วงชีวิตที่มีความสุขสนุกสนาน..จึงมองว่าเวลาผ่านพ้นไปรวดเร็วก็เป็นได้นะครับ...แต่หากมองอีกแง่หนึ่ง...อาจเป็นไปได้ว่าผมต้องทำอะไรที่ค่อนข้างเร่งรีบและมีกำหนดส่ง...จึงทำให้เวลาที่มีอยู่นั้นดูเหมือนน้อยนิดและผ่านไปเร็ว....งงมั้ย ?!?!
อย่าไปคิดตามให้เหนื่อยครับ..เพราะชีวิตเราทุกวันนี้ก็มีอะไรให้ต้องเหนื่อยกายเหนื่อยใจอยู่เป็นประจำอยู่แล้ว...ยิ่งถ้าพูดถึงสถานการณ์ที่บ้านเราตอนนี้...โอย ! มีทั้งแดงทั้งเหลือง...ขอให้โลกสงบสุข...ไปเที่ยวกันดีกว่าครับ!
วันนี้จะพาไปเที่ยว Le Pont du Gard (เลอ-ปง-ดู-กา) สถานที่ทางประวัติศาสตร์ ในต่างจังหวัดนอกเหนือจากตัวปารีส ซึ่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมเป็นอันดับ 2 ลองมาจากอันดับ 1 ได้แก่ Le Mont-Saint-Michel ที่อยู่แถวๆ Normandie ตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศสโน่นล่ะครับ
Le Pont du Gard มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ประมาณ 2,000 ปีได้ เป็นอย่างไรล่ะครับ นานมั้ย...ด้วยความเก่าแก่และไม่ธรรมดาของสะพานส่งน้ำโรมันแห่งนี้ จึงถูกจัดเข้าเป็นมรดกโลกจากองค์การ UNESCO (patrimoine mondial de l'UNESCO) ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985
Le Pont du Gard เป็นสะพานส่งน้ำโรมัน ซึ่งมีความสูง 3 ชั้น ตั้งอยู่ในชุมชน Vers-Pont-du-Gard ใกล้ๆกับหมู่บ้าน Remoulins, เมือง Nîmes และ Uzès อยู่ในเขตการปกครอง Gard (département du Gard)
….ถ้าเดินทางจาก Aix en Provence ..ขับรถไปทางตะวันตก ประมาณ 118 กิโลเมตร ใช้เวลาสบายๆประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้นก็ถึงแล้วครับ
ที่เห็นด้านบนนี้เป็นแม่น้ำ le Gardon (เลอ-กาค-ดง) ซึ่งมองจากมุมสูงที่ต้องเดินไต่ขึ้นไปพอสมควร....ส่วนด้านล่างที่เห็นนั้น...ก็เป็นในส่วนของชั้นแรกที่เราสามารถเดินข้ามไป-มาระหว่างสองฝั่งของแม่น้ำ le Gardon ได้ครับ....ลองสังเกตคนที่เดินไปเดินมานั่นสิครับ..ตัวนิดเดียวเมื่อเทียบกับเจ้าสะพานนี่
เรื่องราวความเป็นมาของสะพานส่งน้ำโรมันแห่งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ในสมัยศตวรรษที่ 1 มีเมืองโรมันชื่อว่า Nemausus ซึ่งปัจจุบันก็คือเมือง Nîmes (นีม) ที่อยู่ใกล้ๆกับ Avignon เมืองที่มีพระราชวังของพระสันตะปาปาไงครับเคยพาไปเที่ยวมาแล้วคงจำกันได้...หาจำไม่ได้ก็แวะไปชมได้ที่...เที่ยว Avignon ชมพระราชวังพระสันตะปาปา
...มาต่อกันครับ เมือง Nemausus หรือ Nîmes ที่ว่าเป็นเมืองโรมันที่ขนาดใหญ่ มีประชากรตอนนั้นประมาณ 20,000 คน ก็ถือว่าเยอะมากแล้ว จึงมีความต้องการที่จะใช้น้ำเยอะเป็นธรรมดา ก็เลยมีการสร้างสะพานส่งน้ำแห่งนี้ขึ้น ในช่วง ค.ศ.40-60 ทำหน้าที่ส่งน้ำจากเมือง Uzès ซึ่งมีแหล่งน้ำที่ได้มาจากแม่น้ำ l'Alzon ไปยังเมือง Nemausus หรือ Nîmes ให้ได้มีน้ำใช้กัน
...โดยเส้นทางส่งน้ำสายนี้มีความยาวถึง 50 กิโลเมตรครับ...และมีข้อสังเกตด้วยว่าบริเวณพื้นที่แหล่งน้ำอยู่สูงกว่าปลายทางที่รับน้ำ เพียงแค่ 12 เมตรเท่านั้น วิศวกรโรมันสมัยนั้นต้องใช้เทคนิคอันสุดยอดเพื่อทำให้น้ำสามารถไหลไปได้ไกลถึง 50 กิโลเมตรเช่นนี้...ความสามารถของมันก็คือส่งน้ำจำนวน 20 ล้านลิตรต่อวันให้ชาวบ้านได้ใช้กันสบายใจครับ
ด้านบนนี้ก็เป็นภาพจากมุมสูงเหมือนกันครับ..หลบมุมอยู่แถวๆตัวสะพาน...ส่วนด้านล่างที่เห็นนี้เป็นชั้นบนสุดของสะพานซึ่งเป็นช่องที่เป็นทางที่น้ำไหล..แต่ก่อนสามารถเดินเข้าไปได้ แต่ปัจจุบันอย่างที่เห็นครับ เจ้าหน้าที่เค้าปิดไว้..ไม่รู้ว่ามีใครไปกระโดดสะพานเล่นหรือป่าว
มาดูสัดส่วนเฉพาะของตัว Le Pont du Gard ที่ปรากฏต่อหน้าเรานี้ มีความสูง 49 เมตร ซึ่งถือว่าเป็นสะพานส่งน้ำโรมันที่สูงที่สุดในโลก และยาว 275 เมตร ตั้งค่อมแม่น้ำ le Gardon อยู่อย่างสง่างาม ...เป็นอย่างไรครับ ความใหญ่โตของเค้า
...ตอนนี้เจ้า Pont du Gard ของเราก็ประสบปัญหาชีวิตครับ...เนื่องจากเค้าตรวจสอบเจอว่าลึกลงไปในน้ำด้านใต้ของตัวสะพานปรากฏว่ามีโพรงหรือช่องว่างในชั้นหิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดการทรุดของตัวสะพานลงมาได้ในอนาคต...รัฐและตัวเมืองนี้จึงมีโครงการที่จะซ่อมบำรุงเพื่อจะรักษาเจ้ามรดกโลกแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลานได้ดูกันต่อไป
ในฤดูร้อน ที่นี่จะมีการเล่นน้ำกันอย่างที่เห็นข้างบนนี้ด้วย...น้ำไม่ได้มีเยอะแบบนี้ทั้งปีนะครับ ผมเคยไปบางช่วงของปีแห้งขอดเหมือนกัน…ถ้าไม่ชอบเล่นน้ำก็มีจักรยานให้ปั่นเล่นกันด้วยนะครับ..ที่นี่อากาศดีมากนะครับ
...เจ้าต้นไม้ที่เห็นด้านบนนี้คือต้นมะกอก ที่ถ่ายมาให้ดูกันนี้ เนื่องมาจากว่าเค้าเป็นพระเอกครับใครๆก็ชอบไปถ่ายรูปด้วย...และก็ไปเห็นรูปเจ้าต้นนี้ด้วยในโปสการ์ดที่ขายอยู่แถวๆนั้น...สังเกตดีๆดูจากลำต้นแล้ว..คงอายุอานามไม่เบาล่ะครับ...ส่วนด้านล่างที่เห็น คือว่าที่ไหนมีคนเยอะ ก็ต้องมีร้านค้า ร้านกาแฟให้ได้นั่งเล่น ได้เสียตังค์กันเช่นนี้...แต่ที่ชอบก็ตรงเจ้าต้นไม้ 6 ต้นนั้น เห็นว่ามันแปลกดี อุตส่าห์ไปถามชื่อจากร้านค้าแถวนั้นมา..ดันจำไม่ได้แล้ว
..ภาพสุดท้าย เป็นชุดอุปกรณ์สำหรับบรรดาน้องหมา ของบรรดานักท่องเที่ยวทั้งหลาย...เพื่อไม่ปล่อยให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมหรือว่าเป็นกับดักเอาไว้ให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่น...เน้นย้ำนะครับว่าสำหรับบรรดาน้องหมาเท่านั้น !!
ปิดท้ายวันนี้ที่ Pont du Gard บน "ธนบัตร 5 ยูโร" ครับ...รับประกันว่า ที่นี่ ห้ามพลาดจริงๆ...
ขอบคุณข้อมูลและอ่านเพิ่มเติมได้ที่ :
• http://www.pontdugard.fr
• http://fr.wikipedia.org/wiki/Pont_du_Gard
• http://www.nimausensis.com/Gard/AqueducRomain.htm
อยากไปบ้างจัง
มาดูและเที่ยวภาพสวยมากคะ น่าสยใจ
สบายดีไหมคะ
อากาศคงหนาวมาก ๆ ที่เมืองไทย ขอนแก่นยังหนาว
สวย สงบ ร่มรื่นน่าไปเที่ยวจังเลยค่ะ เคยไปแค่ปารีส ตอนนั้นเป็นสมาชิก home exchange ค่ะ เราไปพักบ้านเขาที่ฝรั่งเศส เขามาพักบ้านเราที่แคนาดา ก็ไปแบบดุ่ม ๆ ไม่มีไกด์ ไปแค่อาทิตย์เดียว แล้วช่วงนั้นอากาศไม่ดี เลยไม่ค่อยได้ไปไหน อยู่แต่ในปารีส ต้องหาโอกาสไปฝรั่งเศสอีกให้ได้ค่ะ คุณ Pompier เที่ยวคุ้มเลยนะคะ
ทั้งเรื่องและภาพให้ทั้งความรู้และความเพลิดเพลินน่าติดตามมากค่ะ คงมีคนบอกแล้วใช่มั้ยคะว่าทุกเรื่องในบล็อกน่ารวบรวมทำเป็นหนังสือนำเที่ยวโพรวองซ์
ภาพงามมากค่ะ ได้ความรู้ด้วย ขอบคุณนะคะ
สวัสดีครับ
สวยมากเลยครับ ถ่ายมาให้ดูมากๆนะครับ
เอารูปพระธาตุ เมืองคอนมาฝากครับ
แวะมาเที่ยวค่ะ
บรรยากาศสวยจังนะคะ
รักษาสุขภาพนะคะ
สวัสดีครับ พี่คุณนายดอกเตอร์
สวัสดีครับคุณ litelbird
เอามาให้ดู เผื่ออยากจะมาเจอกันแบบนี้บ้าง อิอิ
ไปเที่ยวด้วยหลายครั้งแล้ว..วิวก็สวยแต่มันขาดอะไรไม่รู้..เหมือนดูภาพในหนังสือ..
อยากเห็นหน้าคนพาเที่ยวจัง..
จะมีโอกาสได้เห็นไหมหนอ...
เมืองไทย..ที่ขอนแก่น..หนาววววเย็น..กว่าทุกปีจริงๆค่ะ..
สวัสดีตอนเช้าครับคุณลดา
มา ชมพระเอก อีกรอบนะคะ
ตามมาเที่ยวที่สวยๆ ค่ะ ไม่ทราบว่าได้รับหนังสือหรือยังคะ กลัวว่าช่วงที่สนามบินมีปัญหา ไม่รู้มันไปตกค้างอยู่หรือเปล่า แต่ส่งก่อนนานแล้วตั้งแต่ 19/11/2008
สวัสดีครับคุณซูซาน
สวัสดีค่ะ แวะมาทักทายและเที่ยวชม M.Pompier ค่ะสวยค่ะ
สวัสดีครับคุณPompier
ได้เปิดหูเปิดตา มาเรียนรู้พร้อมทัศนศึกษาด้วย ครับ ขอบคุณครับ
เอาภาพน่ารักๆๆมาฝาก เผื่อจะหายคิดถึงคนที่บ้านบ้าง
สวัสดีครับคุณแม่นีโอ