ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน ร้อน
ไม่รู้จะบ่นไปทำไมครับ เราทำตัวของเราเอง เดิมทีบ้านเมืองมีพืชคลุมดินไว้ ก็ไปหักร้างถางพง เอามันออก เปลี่ยนเป็นคอนกรีตไปหมด ประหนึ่งว่าย้ายเข้าไปอยู่ในเตาอบที่กำลังทำงานอยู่
คอนกรีตเปรียบเหมือนเขื่อน แต่แทนที่จะเก็บกักน้ำ กลับกักเก็บความร้อนไว้แทน และระบายความร้อนออกมาในเวลาที่เราไม่ต้องการ
@ แม้ว่าจะเป็นการริดรอนสิทธิ์ ผมก็เห็นว่าควรออกข้อบังคับเพิ่มสัดส่วนพื้นที่สีเขียวในเขตเมืองให้มากกว่านี้อีกนะครับต้นไม้ นำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ในกระบวนการสังเคราะห์แสง นอกจากได้ออกซิเจนเพิ่มแล้ว ยังสามารถซึมซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ได้ด้วย; ต้นไม้ให้ร่มเงา บังแดดไว้พยายามไม่ให้คอนกรีตร้อน เพราะถ้าร้อนแล้ว มันร้อนระอุยาวนาน แม้แดดหมดไปแล้วก็ยังร้อนอยู่
น่านซิครับ มนุษย์เป็นคนทำให้เกิดความร้อนขึ้นบนโลกนี้
โลกกำลังป่วย แล้ววันนึง โลกก็คงจะตาย
ว่าแต่รูปปลาโลมากับวัววิ่งบนน้ำนี่ เห็นแล้วก็อดขำไม่ได้ ฮุๆ
วัวร้อนจนเครียด จึงไปพักร้อนกับโลมาครับ
ความจริงแล้ว แหล่งเก็บกับคาร์บอนไดออกไซด์ที่ใหญ่ที่สุดคือมหาสมุทร ทั้งการดูดซึมที่ผิวมหาสมุทร และการสร้างถังเก็บคาร์บอนไดออกไซด์เหลวครับ
อากาศร้อน ทำให้น้ำในดินหรือในแหล่งน้ำ ระเหยได้ดีขึ้น เมื่อระเหยไปแล้ว ก็เป็น greenhouse gas (มีหลักๆ สามอย่างคือ คาร์บอนไดออกไซด์ มีเทน และไอน้ำ) ทำให้โลกร้อนหนักเข้าไปอีก
ส่วนเมื่อน้ำระเหยออกไปจากดินแล้ว ความชุ่มชื้นก็ลดลง ดินแตกแห้ง เพาะปลูกได้ผลผลิตต่ำลง
อากาศร้อนทำให้ปศุสัตว์เสียน้ำ (คนก็เสียน้ำ แต่ไปหามาดื่มเองได้) ทำให้ผลผลิตลดลง
นี่สามเด้งแล้วครับ มาช่วยกันปลูกต้นไม้ดีกว่าครับ ต้นเล็ก-ต้นใหญ่ คงไม่สำคัญเท่ากับจะปลูกต้นไม้หรือไม่