blog-tag : เหมือนเธอ..เป็น..ผู้ร้ายข้ามแดน??..(ภาคสุดท้าย)...


..ผู้ร้ายกำลังจะเดินทางข้ามแดนแล้ว.. มาส่งฉันถึงหน้าประตูเครื่องบินเลยนะ...

ต้องขออภัยหลายๆท่านที่หนีไปโต้คลื่นแถวหาด Waikiki มาหนึ่งสัปดาห์..คิดถึงทุกๆคนค่ะ...พอได้พักผ่อนก็ทำให้เพิ่มพลังกลับมาเขียน tag ตามสัญญา..โปรดดูภาพความสดใส สวยงามจากเมืองHonolulu...เลยได้ทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยว...เป็นเจ้าถิ่นที่ไม่เหมือนเจ้าถิ่นตัวจริง..5555

เหตุการณ์ที่จะเล่าก็เกี่ยวเนื่องก่อนจะได้มาอยู่...มากิน..มาเที่ยวอย่างอิสระได้อย่างนี้.. ก็ต้องไปเผชิญกับสิ่งที่เราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน...อกสั่นขวัญหาย...เป็นเหตุการณ์ระทึกใจ..เรื่องของเรื่อง..เกิดขึ้นที่ Honolulu International Airport...เมื่อหลายปีก่อน..ขาเข้าประเทศอเมริกา...เช้าตรู่ประมาณเจ็ดโมงเช้า...อดหลับอดนอนมาบนเครื่องฯ ต้องมาเจอด่านตรวจคนเข้าเมืองของอเมริกา...โดยเฉพาะฮาวายนี่จะวุ่นวายสุดๆ เพราะต้องมีใบแจกแจงเอาของสด..ของแห้ง..พืชผัก..ผลไม้..เนื้อสัตว์มาด้วยหรือเปล่า..เมืองไทยนี่ขึ้นชื่อเรื่องชอบนำของที่ไม่อนุญาตมาด้วยเป็นประจำ..ทำให้พอเห็นพาสปอร์ตไทยก็กาหมายหัวสีแดงไว้เลย

แต่ก่อนจะถึงด่านตรวจกระเป๋าก็ต้องไปคุยกับเจ้าหน้าที่ประทับตราขาเข้า..พิจารณาว่าสมควรประทับตราให้เข้าหรือไม่..หรือจะอยู่ได้นานแค่ไหน..ฉันเข้ามาที่ฮาวายในตอนนั้นใกล้ๆจะคริสต์มาสเมื่อหลายปีก่อน..ตอนนั้นแต่งงานแล้วกับคนที่นี่..แต่ซ่าส์กลับบ้าน..เพื่อไปงานแต่งงานน้องสาว..แล้วฉันก็กลับมาฮาวายด้วยวีซ่าท่องเที่ยวอายุ 10 ปีที่มีอยู่..คิดเองว่าน่าจะใช้ได้..แต่พอเจ้าหน้าที่รู้ว่าเราแต่งงานกับคนที่นี่แล้วใช้วีซ่าท่องเที่ยวเข้ามาเท่านั้นแหล่ะ ...เป็นเรื่อง...

เจ้าหน้าที่ตม.ฮาวายบอกฉันว่า "คุณสร้างปัญหาใหญ่โต ทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนแล้ว"...ฉันก็งง..อะไรกันเนี่ย..เค๊าก็ให้ฉันเข้าไปนั่งรอในห้องพิเศษเพื่อสืบสวนสอบสวน..ชักได้กลิ่นไม่ค่อยดีซะแล้ว..ยังไง..อะไรกันเนี่ย..นั่งรอไป..รอมา..หนึ่งชั่วโมงผ่านไป..สองชั่วโมงผ่านไป..โอ๋ย..อะไรกันนักกันหนา..แล้วหนุ่มที่บ้านมารออยู่ข้างนอกจะทำไงเนี่ย..สมองก็คิดสับสน..

เกิดปวดจะเข้าห้องน้ำ..เธอผู้เป็นเจ้าหน้าที่หน้าตาจีนๆ ก็ต้องพาไปเข้าห้องน้ำ แถมยืนเฝ้ารอฉันหน้าห้องน้ำซะด้วย สงสัยกลัวเราหนีมั๊ง...ทำไมต้องเว่อร์กันซะขนาดนี้..คิดเองในใจ

ซักพักใหญ่ก็จะขอสัมภาษณ์..ถามว่าต้องการล่ามแปลไทยหรือไม่..ฉันก็บอกว่าไม่ต้อง..ฉันแปลของฉันเองได้..ในใจก็ตื่นเต้นๆ..เอาไงเอากัน..เราต้องเป็นผู้กำหนดชะตาตัวเอง..รอไปมาจนเที่ยง...กลัวเราหิว..เจ้าหน้าที่ชายหนุ่มสั่ง plate lunch พร้อมชาร้อนมาให้กิน...กินก็ไม่ค่อยลง..ง่วงนอนจะแย่ Jetlag..จะกินยังไงไหวมาเกิดเรื่องวุ่นวายอีกไม่รู้จะออกหัวหรือก้อย..เค๊าก็ถามโน่นนี่ จำไม่ได้เท่าไหร่..เค๊าบอกว่ารู้ไม๊ว่าเข้าเมืองด้วยวีซ่าผิดประเภท..ผิดร้ายแรง ต้องถูกส่งกลับเมืองไทยวันรุ่งขึ้นทันที..แถมไปเรียกเจ้าหน้าที่สายการบินมาเตรียมจองตั๋วขากลับอีกต่างหาก...อะไรกันเนี่ย...ใครจะช่วยเราได้เนี่ย..ถ้าเราไม่ช่วยตัวเราเอง..คิดใหญ่เลย..ทำไงดีๆ..

กว่าจะถึงบางอ้อ..ก็เอาการอยู่..ทำให้เพิ่งรู้ว่า..เมื่อแต่งงานกับคนที่นี่แล้ว จะต้องยื่นหนังสือทำเรื่องอยู่ต่อ..แล้วทำหนังสือขออนุญาติออกนอกประเทศ.. แต่เราไม่รู้..หนูไม่รู้จริงๆ  ฉันก็บอกเค๊าว่าขออยู่แค่ช่วงคริสต์มาสกับครอบครัวแล้วค่อยกลับไทยจะได้ไม๊?...คิดในใจเสียตังค์ค่าตั๋วเครื่องบินไปกลับแล้วจะให้บินกลับวันรุ่งขึ้น..อย่างนี้ก็แย่น่ะสิ..(ยังมีการมาต่อรองอีกแน่ะ)..เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองผู้หญิงสองคน..คนหนึ่งเห็นใจว่าไม่รู้..ก็จะให้อยู่ต่อ 3 เดือน.. แต่อีกคนใจร้าย..จะให้กลับเลย..เค๊าก็พูดนั่นนี่และให้โอกาสเราข้อสุดท้ายก่อนจบแล้วส่งตัวกลับว่ามีอะไรจะถามไม๊? เราก็พูดว่า "การที่เราจะกลับมาใช้เวลาช่วงวันหยุดคริสต์มาสกับครอบครัว...มันผิดตรงไหนหรือ?..ฉันก็ยอมรับแล้วว่าทำไม่ถูกต้องเรื่องขั้นตอน เพราะไม่รู้จริงๆ..หากรู้ว่าเป็นวิธีที่ผิด..จะไม่ยอมทำหรอก..ฉันก็ยินดีจะกลับไทยอยู่แล้ว มีเรื่องที่ต้องทำอีกเยอะ...ทำไมจะให้ฉันอยู่จนผ่านพ้นเทศกาลคริสต์มาสไปก่อนเพื่อใช้เวลากับครอบครัวบ้างไม่ได้เชียวเหรอ..ฉันขอเพียงแค่นี้..จะได้ไม๊?"

เจ้าหน้าที่สาวสองคน..คิดไปมา..ปิดห้องถกเถียงกันเอง...คนหนึ่งให้..อีกคนไม่ให้...ตัดสินใจกันไม่ได้..เลยโทรถามหัวหน้า..ทางโทรศัพท์..แบบเปิดสปีคเกอร์..เราก็ได้ยินเสียงผู้ชายบอก"โอเค"ทันที..คนที่นี่เค๊าให้ความสำึคัญกับครอบครัวมากๆ ยิ่งเทศกาลสำคัญ..เราก็เลยโชคดี..เจ้าหน้าที่ผู้ชายก็พูดกับฉันว่า ..คุณโชคดีมากนะที่ได้อยู่ต่อ..ที่ี่ผ่านมา..มีแต่ถูกส่งกลับไทยวันรุ่งขึ้นหมด...(คิดในใจ เป็นเพราะยอมเค๊าหรือเปล่า?)...เค๊าก็โทรเรียกชายหนุ่มที่บ้านซึ่งรออยู่ให้มารับเรา...ปาไปบ่ายสามโมงแล้ว..แต่เค๊าก็ยึดพาสปอร์ตเราไว้..เฮ่อ..กลัวฉันหนีจริงๆนะเนี่ย...

เรื่องก็ไม่ได้จบเพียงเท่านี้..ออกมานั่งรอชายหนุ่มมารับ..อย่างหมดเรี่ยวแรง อย่างกับไปต่อสู้อะไรมามากมาย...นั่งรอตรงเก้าอี้ด้านนอกสนามบินจุดรับ-ส่งผู้โดยสารขาเข้า...เหนื่อยสุดๆ...อยากอาบน้ำจัง..ไม่ได้อาบน้ำมาเกินกว่า 24 ชั่วโมงแล้วมั๊ง...พอเค๊ามารับ..ดีใจสุดๆ...เราก็ช่วยกันขนกระเป๋าเดินทางขึ้นรถ..กลับมาบ้านนั่งเล่าเหตุการณ์ระทึกใจให้ฟังว่าเหมือนเป็นผู้ร้ายเลย...เค๊าก็ทำอาหารให้กิน..ผ่านไปเกือบชั่วโมง เพิ่งนึกได้จะเอากระเป๋าสะพายโชว์เอกสารให้ดู...หายไปไหนหว่า??? กระเป๋าสะพายหนังสาน พร้อมกระเป๋าสตางค์ ลืมทิ้งไว้ตรงม้านั่งที่สนามบิน..อะไรจะโชคร้ายขนาดนี้..เคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ..รีบขับรถกลับไป..มันหายไปแล้วววว.....ทำไงดีๆๆๆ....อีกล่ะ

ทำไงดี...ไปเดินตามหาพนักงานรักษาความปลอดภัยแถวๆนั้น..เค๊าหายไปไหนกันหมดเนี่ย..ในที่สุดก็เจอคนหนึ่ง..ก็เลยเล่าให้ฟังว่ากระเป๋าฉันวางตรงนี้ คุณรู้เรื่องหรือเปล่า...มีใครมาแจ้งไม๊..??? 

ฟ้าหลังฝน ย่อมสดใสเสมอ..เค๊าบอกว่าเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเก็บได้ พร้อมให้เราตามไปแสดงตัวรับกระเป๋าคืน...โอ้โห..อะไรจะโชคดีขนาดนั้น..ที่นี่ยังมีคนดีๆอยู่...พอเข้าไปหาเค๊าในห้อง.. เค๊ากำลังง่วนกับการนับธนบัตรไทย..จากกระเป๋าฉัน...เพื่อทำหนังสือแจกแจงรายละเอียดของหาย..ฉันก็ดีใจสุดขีด..ขอบคุณเค๊ามากมาย.. แถมเสนอยกธนบัตรไทยให้เป็นที่ระลึก..เค๊าก็ไม่เอา ต่อมาภายหลังก็เขียนคาร์ดไปขอบคุึณส่งไปให้คนดีคนนั้น....

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วหลายสัปดาห์พร้อมๆกับคริสมาสจบลง...เราก็ได้เวลากลับบ้านเราตามสัญญา..ฉันก็ต้องมาหาสาวเจ้าหน้าที่หน้าจีนๆคนเดิม เธอก็นำทางฉันไป...ทำตั๋วให้...ไปนั่งรอกับฉัน เหมือนเป็นเพื่อนกัน...จนได้เวลาขึ้นเครื่อง..ก็นำทางฉันขึ้นเครื่องคนแรก..ผู้ร้ายกำลังจะเดินทางข้ามแดนแล้ว..เธอมาส่งถึงหน้าประตูเครื่องบินเลย เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวนะเนี่ย..(ไม่รู้จะภูมิใจดีไม๊เนี่ย??)  สาวเจ้าก็ส่งพาสปอร์ตให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องสายการบินญี่ปุ่นดูแลพาสปอร์ทแทนเรา..ถึงนาริตะก็ส่งต่อกัน..พนักงานหนุ่มสายการบินญี่ปุ่น ช่วงรอต่อเครื่องที่นาริตะ..เดินยิ้มๆเข้ามาถามฉันว่า เรื่องเป็นไงเหรอ? พอเล่าให้ฟัง..ก็ยิ้มกับฉันแบบขำๆ..พอมาถึงเมืองไทย.. เป็นคนแรกที่ได้ออกจากเครื่อง..แถมได้ไปนั่งในห้องทำงานของเจ้าหน้าตม.ของไทย..เค๊าก็ถามอีก..พอเราเล่าให้ฟังก็บอกว่า ..นึกว่าเรื่องอะไรซะอีก..ก็ประทับตราพาสปอร์ทส่งคืนให้ เราก็ไม่ต้องไปรอเข้าแถว..ในความโชคร้ายก็มีโชคดี...เป็นประสบการณ์ความน่าตื่นเต้นเร้าใจที่ยากจะลืมเลือน..

บทเรียนที่มีค่าครั้งนี้สอนอะไรมากมายตั้งแต่...

  • จำเป็นที่ต้องตรวจสอบ ศึกษาข้อมูลขั้นตอนให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ..ในเรื่องเอกสารสำคัญต่างๆที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการเดินทางกฏระเบียบของแต่ละประเทศ ไม่ใช่คิดเอาเอง..
  • เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน ต้องมีสติ ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อตัวเองอย่างมีเหตุผลและไม่ยอมแพ้หรือย่อท้อ หรือท้อถอยต่ออุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้น
  • สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ดี ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
  • ในความโชคร้าย ก็สามารถมีความโชคดีเกิดขึ้นไ้ด้ แต่ก็จะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ ต้องมีสติรู้ตัวอยู่ตลอด
หมายเลขบันทึก: 198345เขียนเมื่อ 3 สิงหาคม 2008 08:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:22 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (30)

อย่างแรกเลยครับที่ผมเข้ามาอ่านบันทึก คือ มาด้วยความ"คิดถึง"ครับ

ภาพสวยมาก (ถึงมากที่สุดครับ)

ผมเป็นคนชอบท้องฟ้าในแต่ช่วงเวลา ให้ความรู้สึก อารมณ์ ที่ต่างกัน

ฟ้าที่ "ท่าน้ำนนท์"

ฟ้าที่ "โครงการหลวงบ้านวัดจันทร์" เชียงใหม่

สวัสดีค่ะคุณอุ๊

อ่านการผจญภัยแล้ว...อดจะตื่นเต้น ตกใจแทนไม่ได้....

รับขวัญ..กลับมาอยู่กับเนื้อกับตัวนะคะ....^_^....

  • ชอบที่คุณอุ๊สรุปค่ะ....
  • จำเป็นต้องตรวจสอบ ศึกษาข้อมูลขั้นตอนให้รอบคอบก่อนตัดสินใจในเรื่องเอกสารสำคัญต่างๆที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกับการเดินทางกฏระเบียบของแต่ละประเทศ ไม่ใช่คิดเอาเอง..
  • เมื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน ต้องมีสติ ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อตัวเองอย่างมีเหตุผลและไม่ยอมแพ้หรือย่อท้อ หรือท้อถอยต่ออุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้น
  • สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนที่ดี ทำให้รู้ว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
  • ในความโชคร้าย ก็สามารถมีความโชคดีเกิดขึ้นไ้ด้ แต่ก็จะไม่เกิดขึ้นบ่อยๆ ต้องมีสติรู้ตัวอยู่ตลอด
  • ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ดี ๆ ค่ะ 
  • คิดถึงคุณอุ๊...อยู่เสมอค่ะ...^_^...

Pสวัสดีค่ะคุณเอก

กึ้ดเติงคุณเอกขนาด..เหมือนกันนะเจ๊า.. (เขียนถูกเปล่า?)..555 พยายามสุดฤทธิ์จะใช้ภาษาเหนือ..

ขอบคุณมากค่ะที่นำภาพท้องฟ้าแสนจะสดใส สวยงาม ฝีมือระดับนี้ก็มีแต่คุณเอกน่ะแหล่ะ ชอบทุกๆภาพเลยค่ะ มุมกล้องก็สุดๆค่ะ นับถือผีมือเช่นกันค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ แว๊บมาแบบกามนิตเลยนะคะ...

Pสวัสดีค่ะคุณคนไม่มีราก

ขอบคุณค่ะแวะมาทักทายและอ่านเรื่องที่ไม่น่าจะเกิด...ตอนนั้นโดนบ่นจากทุกคนค่ะว่าหาเรื่องจริงๆนะเนี่ย..แต่ก็ผ่านพ้นมาได้ด้วยดี...

..คิดถึงคนไม่มีรากเสมอๆเหมือนกันเลยค่ะ ดูแลรักษาสุขภาพนะคะ ;)

โอ๊ะ โอ๋ พี่อุ๊จ๋า

* อ่านไปลุ้นไป แต่ในที่สุดหญิงเหล็กก็ผ่านมาได้นะคะ

* .... ปูเชื่ออย่างหนึ่งว่า ในความโชคร้าย ยังมีเรื่องดีๆ

* และ คนดีๆ ย่อมคู่ควร กับสิ่งดีๆ และแคล้วคลาดภัยค่ะ

* ...

* ฟ้างามมาก ๆ ค่ะ พี่อุ๊จ๋า ... ชอบสุดๆ ... ว่าทำไม

* สมาชิกรักฟ้าเมฆ หายไปคนนึง ไปเที่ยวนี่เอง ...

* คิดถึงนะคะ ... ขอบคุณภาพงามๆ ของพี่อุ๊ และ คุณเอก ด้วยค่ะ

....  ภาพที่รร. ศรีสะเกษ ค่ะ

Pสวัสดีค่ะน้องปูจ๋าคนดี

ขอบคุณค่ะที่ให้กำลังใจกันสุดฤทธิ์นะคะ..แคล้วคลาดค่ะ

พี่กลับมาแล้วตามสัญญาค่ะ...รูปน้องฟ้าและนายเมฆของน้องปูก็สวยงามไม่เหมือนใครเช่นกันค่ะ คิดถึงน้องปูเสมอๆนะคะ..น้องปูเดินทางชีพจรลงเท้า ไปหลายจังหวัดเลยนะคะ พักผ่้อน ดูแลสุขภาพด้วยนะ อย่ามัวแต่มองท้องฟ้าจนเพลินไปนะคะ..

 

  • สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมค่ะ
  • รูปสัตว์น่ารักจัง
  • ถือว่าเป็นบทเรียนที่ต้องจำไปตลอดเลยนะคะ
  • ถ้าเป็นหนูมะขามคงได้กลับวันรุ่งขึ้นแน่เลย
  • บางที่เรื่องเอกสารนี่ก็สร้างความยุ่งยากให้เราได้ไม่น้อยเลยนะคะ
  • แต่ว่าสุดท้ายจบแบบว่าได้ฉลองคริสต์มาสกับครอบครัว  ก็ถือว่าต้นร้ายปลายดีนะคะ

คุณอุ๊คะ

เป็นประสบการณ์การผจญภัยที่ตื่นเต้นเร้าใจค่ะ ในที่สุดก็ได้อยู่ฉลองความสุขวันคริสต์มาสและปีใหม่กับครอบครัวนะคะ

Pสวัสดีค่ะหนูมะขาม

ขอบคุณค่ะที่แวะมาเยี่ยม แล้วชอบ hawaiian gecko หลังบ้านพี่เอง นกเหลือง 2 ตัวจิ๋ว ได้มาจากสนามกอล์ฟค่ะ เป็นครั้งแรกที่ถ่ายนกเหลืองน้อยสำเร็จ เป็นปลื้มเลยเอามาลงไว้ค่ะ

เรื่องของพี่ก็เป็นบทเรียนให้ตัวเองเรื่องตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อน จริงๆอเมริกามีระบบข้อมูลที่ดี เช็คทาง Internet ได้แทบทุกเรื่อง เราเองไม่รอบคอบเอง ประมาณคิดเองเออเอง...5555 แย่จัง ห้ามเลียนแบบ..

Pสวัสดีค่ะคุณดาวลูกไก่ฯ

เรื่องผจญภัย ตื่นเต้น เกือบไปแล้วมั๊ยล่ะ...ตอนหลังมาเจ้าจีนเจ้าหน้าที่มาส่งและนั่งรอด้วยกัน ยังมีชวนเค๊าคุยอีก..ดีที่เค๊าก็ไม่ถึงขนาดเหมือนหุ่นยนต์ทำตามหน้าที่อย่างเดียว...ยังใจกล้าอีกนะคะ

ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่าน คริสต์มาสช่วยชีวิตค่ะ งานนี้..

สวัสดีครับ

  • แวะมาทักทาย
  • และมมาอ่านบันทึกครับ
  • สบายดีนะครับ
  • คิดถึงจึงมาหา
  • แล้วจะเข้ามาเยี่ยมใหม่ครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณอุ๊ ตื่นเต้นจริงๆนะคะ พี่เข้าใจความรู้สึกเช่นนั้นดีเลยค่ะเวลามีปัญหาที่ตม.ในต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในดินแดนที่เราคือคนผิวสี ผมดำ แต่การตั้งสติ ไม่ตกใจ ไม่โวยวาย ช่วยได้เสมอในเหตุการณ์คับขัน

เรื่องของคุณอุ๊ได้ให้ข้อเตือนใจที่เป็นประโยชน์มากค่ะ แต่ละประเทศเขามีข้อบังคับไม่เหมือนกันต้องศึกษาให้ดี

ภาพเมฆสวยมากเลยค่ะ ดร.บัญชาทำให้พวกเราซึ่งปกติรักความงามของธรรมชาติอยู่แล้ว ตอนนี้ต้องเพิ่มความใส่ใจเก็บภาพเมฆสวยๆมาฝากบรรดาสมาชิกผู้รักมวลเมฆ อิ อิ แล้วเขามาตั้งให้พี่เป็นประธาน(กำมะลอ)ของชมรมซะอีกแน่ะ

Pสวัสดีค่ะคุณครูโย่ง

สบายดีค่ะ ชาร์ตไฟมาเต็มพลังเลยค่ะ..ขอบคุณคุณครูโย่งค่ะที่แวะมาทักทาย ถามไถ่พร้อมกับความคิดถึง คุณครูโย่งดูท่าจะงานยุ่งๆ เหมือนกันนะคะ คงสบายดีนะคะ ยังไงก็ดูแลรักษาสุขภาพด้วยค่ะ อย่าหักโหม.. :)

Pสวัสดีค่ะพี่นุช

ขอบคุณพี่นุชมากค่ะที่เข้าใจ...ตอนนั้นสุดๆแล้วค่ะ..ทั้งเหนื่อย..ทั้งกลัว..ทั้งงงๆ..ทีแรกยังไม่รู้ตัวค่ะ..ทำให้ตอนนั้นคิดเยอะมากๆค่ะ..จนมึนตึบว่าจะหาทางออกยังไงดี...และจริงๆด้วยค่ะ เราต้องตั้งสติให้ได้ เหมือนอยู่คนเดียวในโลกยังไงยังงั้น..คิดว่าน่าจะเป็นบทเรียนที่ดีให้กับคนอื่นๆได้บ้าง..เค๊าก็ถามว่าทำไมไม่ถามใคร หรือปรึกษาใครเลยเหรอ..ก็นี่แหล่ะค่ะ ถ้าถามจะมาอยู่ให้เธอซักเหรอ?? ..555

ส่วนภาพเมฆ..วันนั้นสวยใสมากๆค่ะ ..พอเห็นคนอื่นถ่ายฟ้าอยู่..อัตโนมัติ็รีบเอากล้องมาถ่ายตามเลยค่ะ..จริงๆด้วยค่ะ เรื่องเมฆนี่เป็นเพราะพี่ชิว ทำให้คนหลงรักธรรมชาติอย่างเรา..ตั้งใจถ่ายรูปท้องฟ้ามากยิ่งขึ้น แต่พี่นุชเหมาะเป็นประธานนะคะ พออ่านถึงคำว่า"กำมะลอ" ขำกลิ้งเลยค่ะ พี่ชิวปลื้มภาพถ่ายเมฆสีรุ้งของพี่นุชน่ะค่ะ..ยังไงๆ พี่นุชก็เหมาะสมอยู่ดีค่ะเพราะรักความงามของธรรมชาติด้วยค่ะ

พี่นุชลองดูเมฆรูปนี้สิคะ ว่าเหมือนอะไร?? เป็นเวอร์ชั่นต่อจากภาพแรกข้างบนค่ะ

  • เหมือนดูหนังวอสดิสนี่เลยครับพี่อุ๊..
  • ชอบปลาครับ
  • แล้วชอบเหมือน ๆ 6 ครับ
  • เอาฟ้าต่างประเทศมาฝากครับ

ภาพเมฆสีทองที่คุณอุ๊ให้ดูนั้นพี่มองว่าเหมือน "เสือกำลังโจนทะยาน" อิ อิ ท่าจะจินตนาการเกินไปหรือเปล่าคะ

ที่เข้าใจคุณอุ๊เพราะพี่ก็เคยมีปัญหาครั้งหนึ่งที่แอร์พอร์ตอัมสเตอร์ดัม หลายปี(มั่กๆ)มาแล้วค่ะ ช่วงนั้นไปอบรมที่ฮอลแลนด์อยู่สี่เดือน และช่วงวันหยุดก็จะชอบไปเที่ยวที่ต่างๆทั้งในและนอกฮอลแลนด์ สมัยนั้นยังไม่มีการรวมเป็นChengenเช่นทุกวันนี้ และพี่ไม่ได้ทำวีซ่าแบบmultiple entries (ก็ยุคนั้นคนเรายังโง่อยู่ค่ะ) บินไปเที่ยวอังกฤษ กลับมา อิ อิ เพิ่งเห็นว่าวีซ่าเราเข้าเมืองได้ครั้งเดียว รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ให้เขาดูหลักฐานบัตรประจำตัวที่เรามาอบรม และตั๋วบินกลับเมืองไทยว่าฉันไม่คิดจะทำอะไรผิด แต่มันพลาดกันได้ เรายิ้มแย้มบอกเขา เขาก็พาไปทำ Visa on arrival เฮ้อ โล่งอก

แล้วภาพนี้คุณอุ๊ว่าเหมือนอะไรดีคะ

อ้อ ลืมบอกว่าชอบเจ้าตัวที่เหมือนกิ้งก่าบวกตุ๊กแก หน้าตาน่าเอ็นดู และสีสันแสนเริดค่ะ

Pสวัสดีค่ะน้องเกษตรฯ

พี่ยังงงเล็กว่าเหมือนหนังดิสนีย์ตรงไหนนะเนี่ย..คิดใหญ่เลย.. :) แต่ก็ถือว่าให้ควาามเพลิดเพลินกับน้องเกษตรฯ พี่ก็ดีใจมากแล้วค่ะ

ส่วนที่ชอบปลา พี่ก็หาใหญ่เลยว่าไม่เห็นมีปลาตรงไหน..สุดท้ายก็มาถึงบางอ๋อ..แหม..ชอบปลาหรือคนหิ้วปลาคะ??55555

 

Pสวัสดีค่ะพี่นุช

ขอบคุณพี่นุชค่ะที่แวะมาตอบคำถามให้....โอ้โห..จินตนาการพี่นุช คล้ายๆกับอีก 3-4 คนด้วยค่ะ ตอนเห็นทีแรกก็คิดเหมือนพี่นุชค่ะ ว่าเหมือนเสือกระโจนจริงๆด้วย... แล้วก็ถามน้องสาวที่เป็นญาติยืนอยู่ใกล้ๆ เธอก็ตอบเหมือนกันค่ะ.. จินตนาการเราคล้ายๆกันนะคะ ดีจัง...

เรื่องวีซ่าเข้าหลายครั้งกับครั้งเดียวนี่ก็ทำให้งงๆ เหมือนกันค่ะตอนแรกๆ..สงสัยแถบยุโรปจะเยอะนะคะเพราะเชื่อมต่อกันหมด..จะได้เก็บตังค์เยอะขึ้น...

ส่วนภาพเมฆของพี่นุช ก็เก๋สุดๆค่ะ....เหมือนเป็นคุณแม่นั่งพับเพียบเล่นกับลูกน้อย แบบคอยจับให้ลูกยืนเต้นรำอยู่ค่ะ ..บรรยายยาวไปไม๊คะ เป็นไงคะ จินตนาการสุดกู่เลยค่ะ...555 ไม่รู้ว่าพี่นุชเห็นเป็นอะไรนะคะ

ส่วนเจ้า gecko ตุ๊กแกฮาวายเนี่ย น่ารักนะคะ สีตาบ๊องแบ๊วสีฟ้าของเค๊าค่ะ น่าเอ็นดูอย่างที่พี่นุชว่า แถมสีก็เริ่ดจริงๆด้วยค่ะ

 

สวัสดีค่ะ พี่อุ๊ที่คิดถึง

  • อีกแล้วคร๊าบ พี่สาวเรา ช่างสมกับเป็นนักเล่าเรื่องจริง ๆ ค่ะ
  • อ่านบันทึกของพี่อุ๊แล้วรู้สึกตื่นเต้นเงียบ ๆ อยู่คนเดียวทุกทีเลยค่ะ (เอ๊ะ ยังไงหว่า)
  • อ่านมาทั้งหมด มองไม่เห็นความกลัวของพี่อุ๊เลยค่ะ มีแค่ความกังวลของความยุ่งยากที่อาจเกิดขึ้นเท่านั้น
  • นี่แหล่ะค่ะ ที่เค้าเรียกกันว่า ความดี ความถูกต้อง จะทำให้เราผ่องแผ้ว และสง่างาม
  • เน๊อะ พี่อุ๊เน๊อะ
  • ทานอะไรหรือยังคะ
  • น้องครูปูเกรงว่าพี่อุ๊จะซูบไปหน่ะค่ะ เลยหิ้วเมนูนี้มาฝากค่ะ
  • หุ..หุ..

สมัยนี้ไปยุโรปสะดวกเรื่องเดินทางไปประเทศโน้นประเทศนี้กว่าแต่ก่อนมากทีเดียวค่ะ ส่วนใหญ่ประเทศที่คนไทยมักชอบจะไปกันก็เข้าอยู่ในกลุ่มChengen แล้ว ยกเว้นอังกฤษนะคะ

ภาพเมฆและแสงอาทิตย์อบอุ่นที่ภูชี้ฟ้าของคุณเอกสวยมากค่ะ

ภาพเมฆของพี่เราเห็นตรงกันเรื่องเต้นรำค่ะ แต่ของพี่จินตนาการว่าเป็นสาวเริงระบำที่กำลังวาดลวดลายกระโปรงพริ้วกับเจ้านกเพนกวินค่ะ ว้าว ขำตัวเองจริงๆ

Pสวัสดีค่ะน้องครูปูที่คิดถึง

พี่อุ๊ทำตามสัญญาแล้วนะคะ เหตุการณ์ในตอนนั้น กลัว คิดสารพัด เพราะเราอยู่ต่างถิ่นด้วยค่ะอย่างที่พี่นุชบอก ถ้าเค๊าจะทำอะไรเรา เราก็ยากที่จะไปต่อกรกับเค๊า ก็คิดจนตกผลึก ฮึดสู้ค่ะ..อาจจะเป็นเรื่องของดวงด้วยค่ะ..เฮงๆ..ขอบคุณค่ะสำหรับกำลังใจดีๆจากครูปูจอมแก่น..

ขอบคุณน้องครูปูที่เป็นห่วงนะคะ พี่สงสัยจะซูบยาก..5555 แต่เกี๊ยวน้ำนี่ของโปรดเลยนะคะ สาวน้อยช่างรู้ใจจริงๆค่ะ

  • ว้าวโชคดีมากๆนะคะ
  • อ่านแล้วลุ้นจบอย่างมีความสุขพระเอกนางเอกได้ครองรักกันใช่ไหมคะ

"ยังจำไม่เคยลืมเลือน คอยเตือนตัวเองเอาไว้ อย่าทำอย่างพี่อุ๊ไง ก็เก็บเอาไว้สอนใจเรื่อยมา" 555 จำได้ดี ขอร้องแปลงเป็นเพลงคุณลำไยหน่อยนะ แป๊บเดียวก็ผ่านไปหลายปีแล้วเนอะ เหตุการณ์ระทึกขวัญ เรื่องนี้เกิดเพราะพี่พูดแต่ความจริง ไม่คิดโกหกไง แต่บังเอิญไปผิดระเบียบเขาเข้า

โอย...ที่ขำกว่านี้ยังมี จำได้ไม่ลืม วันที่พี่ต้องกลับแล้วโทรมาหาเราหลังเวลาเครื่องขึ้น เราก็รู้เลยว่าเสร็จ มีไรอีกแน่นอน แล้วก็จริงด้วย โก๊ะสุดๆ พอมาอีกครั้งพี่อลันถึงต้องมาด้วยไง มาเพื่อควบคุมความประพฤติ ไม่ให้เพลินจนไม่ยอมกลับตามกำหนด ; P คนนี้คุมแน่นหนากว่าเจ้าหน้าที่อีก รับรองได้

Pสวัสดีอีกครั้งค่ะพี่นุช

ชอบภาพเมฆที่ภูชี้ฟ้าของคุณเอกมากเหมือนกันเลยค่ะ เป็นสีเหลืองทองอ่อนๆ ดูนวลตานะคะ

ภาพเมฆของพี่นุชนั้น จินตนาการได้กว้่างไกลจริงๆค่ะ พอพี่นุชบอกว่าเป็นสาวเต้นรำกับนกเพนกวิน ก็ดูเป็นนกเพนกวินเหมือนจริงๆด้วยค่ะ น่ารักดี..ชอบๆ..เพนกวิน.. ที่เห็นภาพทีแรกสุด ก็เห็นปิ๊งเป็นสาวนั่งพับเพียบแล้วล่ะค่ะ ..คิดได้ไงเนี่ย..

Pโอ้โห..คุณนารี..ทำเหมือนอ่านหนังสือนิยายเลยนะคะ ตอนนั้นคิดอย่างเดียว.. ฉันคิดถูกไม๊หนอที่..หา...สิ่งที่ทำให้ชีวิตตื่นเต้นเกินไปหรือเปล่า...เพื่อนสนิทๆกันเคยบอกว่า ทำไมชีวิตเธอมีสีสันเรื่องราวตื่นเต้นตลอด ไม่ราบเรียบแบบคนอื่นนะ....ฮึ่ม..น่าคิด...

ขอบคุณคุณนาีีรีที่แวะมาช่วยลุ้นนะคะ

Pซูซานน้องรัก ขอบใจนะเรื่องเพลงแปลงน่ะ น่ารักดี..ส่วนอีกเรื่อง..ใช่เรื่องที่มารู้ว่า..พาสปอร์ตหมดอายุ..ก็ตอนจะขึ้นเครื่องออกนอกประเทศ..เรื่องนี้ก็ทำให้ปะป๋าบ่นไม่หยุดเหมือนกัน...ไม่รู้จะมีใครเป็นเหมือนพี่มั่งนะเนี่ย... พาสปอร์ตจะมีความหมายก็ต่อเมื่อเดินทางเท่านั้น...พอถึงที่หมายเมืองไทยแล้วก็ไปวางไว้ตรงไหนก็ไม่รู้..พอจะกลับออกนอกประเทศ เอาล่ะ..อยู่ไหนเนี่ย..มาหากันอีกทีให้วุ่น..ตลกตรงที่เวลาออกนอกอเมริกา เค๊าไม่สนใจนะว่าจะหมดอายุหรือเปล่า..ไปจัดการเองดาบหน้า..แต่บ้านเราละเอียดกว่า..นะเนี่ย

ส่้วนเรื่องคนคุมเนี่ย วัตถุประสงค์ที่แท้จริงคือ เค๊าติดใจครอบครัวชวนชิมต่างหาก..ชอบอาหารเมืองไทยมากเลยอยากมาเมืองไทยสุดๆ..ไม่ได้มาคุมอะไรหรอก..ตามมากิน... :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท