เสี้ยวหนึ่งแห่ง ทุ่งขวัญ ๑


จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ในทุกตารางนิ้ว แต่มีเพียงไม่กี่พื้นที่ที่สามารถเปล่งประกายคุณค่าสง่างามทางสถาปัตยกรรม และประวัติศาสตร์ได้สมภาคภูมิ โดยไม่ถูกปนเปื้อนด้วยวิถีสมัยใหม่ รกรุงรังด้วย เพิงขายของ ร้านค้า บ้านเรือน ที่ปลูกสร้างและดำรงชีวิต ดำเนินกิจการ อย่างหยาบกร้าน ไร้สำนึกในโบราณสถานซึ่งมีอยู่แต่เดิม

วันนี้ผู้เขียนขอนำท่านไปรู้จักกับท้องทุ่งโบราณจากยุคกรุงศรีอยุธยา ที่น้อยคนจะรู้จักชื่อ นั่นคือ  ทุ่งขวัญ เนื่องจากผู้เขียนได้รับรู้เรื่องราวประวัติอันน่าทึ่งจากคนข้างกายของผู้เขียนเอง ซึ่งความที่เขาเป็นคนอยุธยา มีความเป็นชาวอยุธยาราวกับชาวอยุธยากลับชาติมาเกิดก็ไม่ปาน เขาได้พยายามฟื้นชีวิตให้เสี้ยวหนึ่งของ ทุ่งขวัญ แห่งนี้ตามกำลังสติปัญญาและกำลังทรัพย์ของตน

ผู้เขียนขอออกตัวว่านี่เป็นการเล่าด้วยความประทับใจที่ ได้ยิน ได้ฟัง และบางส่วนเป็นเอกสารแผ่นๆไม่ทราบที่มา

ดูจากแผนที่จะเห็น ทุ่งภูเขาทอง ทุ่งแก้ว ทุ่งขวัญ และตกแผนที่ไปทางซ้ายบน คือ ทุ่งทะเลหญ้า ทุ่งเหล่านี้มีเรื่องราวทั้งสิ้น อยากทราบเรื่องราวของทุกทุ่งขอเชิญมานั่งสุนทรียสนทนากันกลางทุ่งเมื่อมีโอกาสนะคะ

(แผนที่นี้มาจากแผนที่ซึ่งนักวิชาการหลายท่านใช้ ในโครงการจัดทำ ศูนย์ศึกษาประวัติศาสตร์อยุธยา)

วันนี้จะขอกล่าวถึงเฉพาะ ทุ่งขวัญ ซึ่งในแผนที่ อยู่ซ้ายมือของ คลองสระบัว ด้านขวาคือ ทุ่งแก้ว จุดสังเกตง่ายๆอีกประการคือ อยู่เลยไปทางด้านหลังของ วัดหน้าพระเมรุ อันเป็นวัดที่มีพระประธานทรงเครื่องกษัตริย์งดงามเป็นที่สุด และรอดพ้นจากการเผาทำลายของพม่าครั้งเสียกรุงมาได้ เพราะพม่ามาตั้งค่ายอยู่ที่วัดนี้นั่นเอง

ทุ่งขวัญ เป็น ทุ่งขนาดใหญ่ เล่ากันมาว่า สมัยกรุงศรีอยุธยาคงมีการปลูกข้าว และ ทุ่งขวัญ นั้น ยังอาจเป็นที่ใช้ใน พิธีแรกนาขวัญ ด้วย สำนวนโบราณของคำว่า แก้ว และ ขวัญ เช่น ลูกแก้ว ลูกขวัญ และ ผัวแก้ว เมียขวัญ ล้วนบ่งบอกถึง ความมีคุณค่า ความล้ำเลิศ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ทุ่งขวัญ นั้นมี วัดกลางทุ่ง หลายวัดเรียงราย ประกาศความรู้สึก ให้เห็นความยิ่งใหญ่ของวัด ศรัทธาของผู้คนที่ไปสร้างวัด ด้วยจินตนาการและความเข้าใจในทัศนียศาสตร์ น้อมนำให้ผู้คนมีจิตศรัทธาดั้นด้นเดินลัดเลาะทุ่งไปยังวัดที่ตระหง่าน สง่างดงาม อยู่กลางทุ่ง

นี่เป็นสิ่งบ่งบอกว่า ศาสนา ทุกศาสนามีความเข้าใจใน ทัศนียศาสตร์ การมองเห็นรอบตัว การปรากฏโดดเด่น เข้าถึงจิตใจของผู้คนที่จะจุดประกายศรัทธาด้วยการมองเห็นความงามที่จับใจและนำไปสู่จินตนาการ ยกระดับจิตใจให้ละเอียด สูงขึ้น จากพื้นดินสู่สวรรค์ที่เทพยดาสิงสถิตย์

วัดที่ยังมีซากโบราณสถานให้เห็นชัดเจน ในแถบ ทุ่งขวัญ เช่น วัดจงกลม วัดพญาแมน ส่วนวัดบัว วัดดอกไม้ วัดปราสาท มีแค่สัณฐานพอบ่งบอกได้ว่าบริเวณนั้นเคยเป็นวัด

ชื่อของวัดในปัจจุบันมีการเรียกผิดเพี้ยนไปเอาการอยู่ เช่น วัดพญาแมน นั้น มีหลักฐานว่า เรียก วัดพญาแม้น และ วัดพระยาแมน ส่วน วัดจงกลม นั้นก็ มีปรากฏชื่อว่า วัดทรงกลม เพราะมีเจดีย์ทรงระฆังกลม ผู้เขียนซึ่งรู้น้อย เคยคิดว่าเขาเขียนผิด เพราะเคยได้ยินแต่คำว่า การเดินจงกรม ซึ่งหมายถึงการปฏิบัติธรรมด้วยการเดินกลับไปกลับมาอย่างการมีสติระลึกรู้ตน

ขอเล่าย่อๆถึง วัดพญาแมน และ วัดจงกลม

วัดพญาแมน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนเนินดินสูงกลางที่ราบลุ่ม ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างเมื่อใด แต่วัดพญาแมน นี้จัดว่าเป็นวัดโดดเด่นระดับห้าดาว(ผู้เขียนให้ดาวเองค่ะ)ใน ทุ่งขวัญ เพราะมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ พระเพทราชา เคยมาบวชที่วัดนี้ ก่อนได้เป็นกษัตริย์ ตอนนั้นพระอาจารย์เจ้าอาวาสได้ถวายคำพยากรณ์ว่าท่านจะได้เสวยราชสมบัติ ให้รักษาตนให้ดี เมื่อพระเพทราชา ลาสิกขาบทออกมารับใช้แผ่นดิน จนได้ขึ้นครองราชย์(พ.ศ. ๒๒๓๑-๒๒๔๖) จึงระลึกถึงพระคุณของพระอาจารย์ เสด็จมาถวายนมัสการและทรงโปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์ วัดพญาแมนในราวปี พ.ศ. ๒๒๓๑ ใช้เวลาสองปีเศษจึงแล้วเสร็จ ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็น วัดหลวง และ ทรงพระกรุณาฯตั้งพระอาจารย์เป็นพระราชาคณะคามวาสีด้วย

จากนั้น วัดพญาแมนได้ดำรงฐานะเป็นศาสนสถานศูนย์กลางของชุมชนสืบต่อมาจนกระทั่งสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย

กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน วัดพระยาแมน เป็นสมบัติสำคัญของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๖๐ ตอนที่ ๓๙ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๔๘๖

วัดจงกลม ตั้งอยู่บริเวณชายทุ่งขวัญ ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๒ กรมศิลปากรได้ขุดแต่ง วัดจงกลม พบหลักฐานทางโบราณคดี ทำให้สันนิษฐานว่า วัดจงกลม ได้สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น สิ่งก่อสร้างในระยะแรกประกอบด้วย เจดีย์ประธาน เจดีย์ราย วิหาร และ แนวกำแพงก่ออิฐฉาบปูน ในช่วงรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์เป็นต้นมา ได้มีการบูรณปฏิสังขรณ์วัดจงกลมครั้งใหญ่ มีการสร้างพระอุโบสถและขยายกำแพงวัดขึ้นล้อมรอบเขตพุทธาวาสทั้งหมด หลังเสียกรุงศรีอยุธยาคงชำรุดมาก  เมื่อถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ได้มีการบูรณะซ่อมแซมอีกครั้งโดยใช้อิฐหักเป็นวัสดุในการซ่อมแซม

เจดีย์ประธานของวัดจงกลมนั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่ก่ออิฐถือปูนขึ้นสวมทับเจดีย์ทรงระฆังกลมเตี้ยไว้ภายใน ปัจจุบันเจดีย์ที่มองเห็นดูสูง เพรียว กลม มีช่องปูนเล็กๆมากมายที่นกพากันไปอาศัยอยู่

วัดจงกลม นั้นแต่ครั้งโบราณมีการบูรณะ เพิ่มเติม ต่อเติม หลายครั้งจนพื้นที่บริเวณวัดนั้นมีถึงกว่าสี่ไร่ กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียน วัดจงกลม เป็นสมบัติสำคัญของชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๖๐ ตอนที่ ๕๙ ลงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๔๘๖

 

หมายเลขบันทึก: 262481เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2009 15:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดีค่ะ

*แวะมาเที่ยวทุ่งขวัญกับอาจารย์ เพิ่งเคยได้ยินชื่อและรู้จักวัดต่างๆ จากอาจารย์  ขอบคุณค่ะ

* สุขกายสุขใจนะคะ

ชอบฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ครับ :)

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะพี่นุช

น้องชอบกรุงศรีอยุธยา

ชอบไปเดินชมวังเก่าๆ

ที่สำคัญไปได้บ่อยเพราะไม่ไกลนัก

แต่หาทางเข้าบ้านพี่นุชไม่ถูกแล้วค่ะ

สวัสดีค่ะ
ไปอยุธยาบ่อยมาก ตอนเด็กๆ เว้นห่างไปนาน ช่วงหลังๆนี้ก็ไปอีก เพราะมีกิจการที่นั่นด้วย แต่ตอนนี้ ไม่ค่อยได้ไปอีกแล้ว ชอบอยุธยาค่ะ แต่วัดที่อาจารยืเล่านี้ คือ วัดจงกลม วัดพญาแมน ไม่เคยไปค่ะ

  • เห็นวัดแล้ว
  • ชอบมากๆๆ
  • มีนกบินเต็มเลยครับ
  • ไม่ทราบว่านกอะไร
  • เอาภาพพระอาทิตย์และการอบรมมาฝากครับพี่
  • ภาพนี้ที่แก่งกระจานครับ
  • สวยมากๆๆ
  • คาดว่าพี่นุชต้องชอบ

สวัสดีค่ะอาจารย์P  นาง พรรณา ผิวเผือก (ไม่มีชื่อกลาง) ดีใจค่ะที่มาชมความงามโบราณสถานและท้องทุ่งด้วยกัน

วัดในอยุธยามีมากมายเหลือเกินค่ะ บางทีรถได้ผ่านไปในทางที่เราไม่ค่อยได้ใช้ก็ได้เห็นวัดชื่อแปลกๆ

ขอบคุณที่มาเยี่ยมเสมอค่ะ ขอให้มีความสุขทุกๆวันเช่นกันนะคะ

เขาว่าคนที่ชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ เรื่องราวเก่าแก่ เป็นคนที่เคยมีชีวิตผูกพันมาแต่ครั้งปางก่อนนะคะอาจารย์P  Wasawat Deemarn

ขอบคุณที่มาอ่านค่ะ

วันไหนมาเดินชมวัด นมัสการพระที่อยุธยาขอให้บอกด้วยนะคะน้องบุญรุ่งP  ตันติราพันธ์ จะได้เจอกัน คิดถึงค่ะ หากอยากเข้ามานั่งเล่นที่บ้านพี่จะไปรับ หรือหากอยากสัมผัสบรรยากาศทุ่งขวัญก็จะพาไปกันค่ะ

สวัสดีค่ะคุณพี่ศศินันท์P  Sasinand วัดจงกลม และ วัดพญาแมน ไม่ได้อยู่บนถนนหลัก หรือเส้นทางท่องเที่ยวที่การท่องเที่ยวโปรโมท คนไทยเลยไม่ค่อยรู้จักค่ะ นานๆจะเห็นนักท่องเที่ยวต่างชาติขี่จักรยานซอกซอนเข้าไป

โอกาสหน้าคุณพี่ไปอยุธยาจะขอเป็นไกด์พาชมวัดที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยไปกัน อย่างน้อยก็สองวัดนี้ค่ะ

อาจารย์ขจิตP ขจิต ฝอยทอง มีภาพงามๆมาฝากเสมอ ขอบคุณค่ะ ภาพอาทิตย์อัสดงที่แก่งกระจานงดงามมาก ภาพผู้คนที่เข้าร่วมกิจกรรมเปลี่ยนเร็วไปหน่อยเลยไม่ทราบว่ามีใครบ้าง (อิ อิ สว.ตาลาย)

นกที่เข้าไปอาศัยเจดีย์วัดจงกลมนั้นพี่ไม่เคยเห็นตัวชัดๆค่ะ สันนิษฐานว่าเป็นพวกนกพิราป

หวัดดีคับ อาจารย์..

กู๊ดดี้เข้ามาอ่านบล็อคคับ และได้พบเมืองประวัติศาสตร์ที่คุณแม่ของกู๊ดดี้ เคยใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นเมื่อตอนยังเด็ก (จนถึง ม.ปลาย)

คุณตากู๊ดดี้ (ตอนนี้เสียชีวิตไปแล้ว)เป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาคับ ทำงานเป็นผู้จัดการอยู่ที่โรงงานสุรา สังกัดกรมสรรพสามิต ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังเจดีย์ พระศรีสุริโยทัยคับ

และปัจจุบันที่ทำงาน รวมทั้งบ้านพักของคุณตา ก็ได้ถูกรื้อถอนไปหมดแล้ว คุณแม่หลังจากเข้ามาอยู่ที่บ้านกรุงเทพอย่างถาวร ก็เคยไปแวะเยี่ยมชมสถานที่ในอดีตที่อยุธยา เป็นประจำคับ เพราะไม่ไกลและเดินทางสะดวก แถมคุณแม่ยังได้ไปเยี่ยมเยือนเพื่อนฝูงเก่าได้อีกด้วย..

ขอบพระคุณอาจารย์ที่บันทึกประวัติศาสตร์ไว้ให้คุณแม่ได้รำลึกความหลังคับ.. :)

  • สวัสดีค่ะ เพิ่งไปเที่ยวอยุธยามาเมื่อปลายปีที่แล้วค่ะ
  • อยุธยามีที่เที่ยวโบราณสถานเยอะค่ะ น่าสนใจดีค่ะ
  • เห็นจากภาพนี้ครับพี่นุช
  • นกบินเต็มเลย
  • ที่ไปทำกิจกรรมด้วยกันมีพี่ครูต้อยและพี่ครูสุนันทาครับ
  • แต่อาจารย์เชาว์จากมหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบุรีไปเยี่ยม
  • อันนี้ครับ
  • (สงสาร สว ตาลาย อิอิๆ)

ขอบคุณคุณP  goody krub ค่ะที่มาพบบล็อกนี้และมาคุยกัน ดีจังเลยค่ะที่คุณแม่และคุณยังได้กลับมาเยือนอยุธยากันบ่อยๆ เดี๋ยวนี้ถนนหนทางดีขับรถแค่ชั่วโมงนิดๆก็ถึงแล้ว นอกอำเภอเมืองก็ยังมีอะไรดีๆให้ค้นพบอีกด้วยค่ะ เช่นปราสาทนครหลวง หมู่บ้านทำมีดอรัญญิก วัดสะตือที่อำเภอท่าเรือ

วันหลังจะมากับคุณแม่อีกชวนกันไปชมทุ่งขวัญด้วยซีคะ หากทราบว่าจะไปเมื่อไหร่จะไปต้อนรับค่ะ

ขอบคุณคุณP Bright Lily ที่มาแวะทักทายและ นำภาพโรแมนติคมาฝากค่ะ อยุธยามีวัดและโบราณสถานมากมาย ผู้ที่สนใจศิลปกรรมยุคอยุธยามีอะไรให้เรียนรู้มากมายเลยค่ะ เวลาได้พิจารณาลวดลายต่างๆและสถาปัตยกรรมจากยุคนั้นรู้สึกว่าคนสมัยนั้นละเมียดละไม ใช้ชีวิตวิจิตรมากเลยค่ะ

แล้วไปเยือนอยุธยาอีกนะคะ

อาจารย์ขจิตP  ขจิต ฝอยทอง ชอบแกล้งสว. รอให้ถึงคราวได้รับการแต่งตั้งบ้างแล้วจะชอบมาาาก...^___^

บันทึกของพี่นุชเป็นเรื่องราวที่ทำให้อยากไปเยือนอยุธยาอีกสักครั้ง...

สบายดีนะคะ...คิดถึงค่ะ

เพิ่งพอจะว่าง มาอ่านติดตาม บล็อกเกอร์ในดวงใจต่อ...พี่นุช..ไงคะ

ไม่ผิดหวังเลย ได้ความรู้ไปมากค่ะ

 

ชมภาพ พิธีกรคู่กับอาจารย์วิจารณ์

พี่นุช..งามมากนะคะ ขอบอก

 

  • พี่นุชเจ้า..

ต้อมไม่แน่ใจว่าเคยไปจังหวัดพระนครศรีอยุธยาไหม  o_O  อาจจะเคยไปมาก่อนสมัยยังตัวกระเปี๊ยก หรือ..ไม่เคยไป  ก็ยังสงสัยอยู่ค่ะ    แต่ในอนาคตจะต้องได้ไปอย่างแน่นอน  อิอิ

ทุ่งแก้ว..ทุ่งขวัญ  ชื่องามนะคะ

ทักทายยามฝนพรำพรายค่ะพี่นุชสุดสวาทขาดใจ J

แว้บ ๆ มาผ่อนใจ คลายมึน เดินเล่นในทุ่งขวัญ

ก่อนนี้ก็ ไปเดิน กับใครๆ มาหลายบันทึกแล้วค่ะ อิ อิ

ได้แต่รอคอยวาสนา เมื่อโอกาสอำนวยได้ไปเห็นกะตาสักครั้ง

พี่นุชจ๋า ...  คิดถึงนะคะ

 

น้องตุ่น น้องหมอเล็ก คุณต้อม น้องปู ขอบคุณที่มาแวะค่ะ ปล่อยให้รอนานกว่าจะมาตอบเช่นเคย อิ อิ โปรดอภัย คิดถึงทุกคนค่ะ อยากขอบคุณด้วยเรื่องใหม่ๆที่เข้าคิวรออยู่ยาวเหยียดค่ะ

 

4 ปีที่ศึกษาอยู่ที่อยุธยา ไม่รู้จักจริงๆทุ่งแก้ว  ทุ่งขวัญ  แต่สำหรับทุ่งภูเขาทอง เป็นอดีตที่ประทับใจทำให้ฝึกหัดครูพระนครศรีอยุธยา ชนะเลิศกรีฑา  ผมเป็นนักเรียนโรงเรียนฝึกหัดครูรุ่นสุดท้าย(ตั้งอยู่ที่หัวแหลมครับ) 05.00 น.อ.พลศึกษาจะพาทีมกรีฑาซ้อมวิ่งไปที่ภูเขาทองเกือบทุกเช้า  นึกแล้วน่าเสียดายไม่ได้ให้ความสนใจความเป็นกรุงเก่าเท่าที่ควร  ขอบพระคุณมากครับ

คงมีโอกาสต้อนรับอาจารย์Pนายประจักษ์~natadee กับหลานม่อนที่อยุธยาบ้างนะคะ จะได้มารำลึกถึงความหลังและชื่นชมกับสิ่งดีๆที่ยังพอมีเหลือให้ชมค่ะ คนข้างกายนุชเขาก็เคยเรียนที่การฝึกหัดครูพระนครศรีอยุธยาเช่นกัน หากได้พบกันคงสนทนากันออกรสแน่ๆเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท