-สวัสดีครับอาจารย์...

"ผู้นินทาฝึกจิต “คิดด้านลบ”

เพื่อนที่พบคบหาพาไปเกี่ยว

ต่างนินทาพาผสมกันกลมเกลียว

แต่ไม่เหลียวแลมอง “เรื่องของตัว”

"คนนินทาชอบจ้อง “มองความผิด”

เลวชอบคิดดีไม่ข้อง “มองไม่ทั่ว”

“ผิดคนอื่นเหลือทน” แสนหม่นมัว

ผิดของตัวมากมายไม่เคยมอง"

-เก็บภาพ "หลวงพ่อโต"มาฝากครับ

คนนินทา ก็ดีนะ เขาคิดถึง

คนเขาดึง เราเกี่ยว เทียวถามหา

จะไปไหน เดินไหน หรือไม่มา

คนถามหา กล่าวอ้าง ช่างแสนดี..555

อิ อิ ชอบเมนท์พี่เยาว์คห. ๒ ค่ะ เข้าทีๆ .. สมัยเด็กๆ ไม่ได้เลยนะคะกับคำนินทา

เดี๋ยวนี้รึคะไม่สนใจนินทาได้นินทาไปไม่มีความหมาย เหมือนพี่ชายเคยบอกตอนประถม

ว่า "การนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอา ต อูด ไปขูดหิน" ขอบคุณค่ะ :)

ขอบคุณค่ะ..คิดถึงคำโบราณ.. " อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน..

• ขั้นแรกสุด....คงลดกรรมจากการนินทานี่กระมังคะคุณครูใหญ่
• ๕๕๕๕๕

น่าอ่านจังครับ...

อาจารย์รักษาสุขภาพด้วยนะครับ

จะได้มีบันทึกดี ๆ พร้อมเสริฟ์ให้ผม

ทานแล้วอิ่มท้อง ย่อยง่าย ไม่ท้องอืด ท้องเฟ้อ และเจริญอาหารครับ

อาจารย์เขียนทุก ๆ บันทึก ได้มีเสน่ห์มากครับ

ลืมไปครับ...

ตอนนี้มีแต่งคนเขียนกลอนเก่งทั้งนั้น ในบันทึกอาจารย์

รวมถึง พี่สาวผม... พี่อุ้มบุญ ขั้นนักเลงกลอนแล้วครับ

ผมกะว่า จะส่งเข้าประกวดซีไรท์ปีนี้ครับ

• นินทาระยะเผาขนเลยนะจ๊ะทิมดาบน้องพี่
• ยังไม่ถึงขั้นหรอกเป็นแค่นักเรียนฝึกหัด
• อย่าเสียงดังไปอายครู ....
• รู้มั๊ยทิมดาบท่านหน่ะ...ขั้นเทพ...แล้ว

เรียนคุณเพชรน้ำหนึ่งครับ

ขอบคุณสำหรับหลวงปูโต วัดอินทร์

อันที่จริงแล้วคนนินทาผู้อื่นคือ ตัวเองมีปมด้อย

เช่นขาดเพื่อนต้องการหาเพื่อนด้วยการชักชวนว่าคนอื่น ไม่รู้ว่านินทาทำตัวตกนรกเอง เพราะจิตหมองเอง ว่าคนอื่นจะทำให้ตนดีได้อย่างไร 

น่าจะผิดแน่

หลังพ้นนรกเสวยกรรมเรื่องปากต่ออีก เช่น เื่รื่องปลาทอง ปากเหม็น ชื่อกปิละ 

นินทาเป็นการบอกว่า ตนเป็นคนพาล คือ "อ่อน" ต้านทานความคิดผิดไม่ได้ 

ทางสังคมก็รวมกลุ่มเฉพาะคนพาลด้วยกัน

แหม....โทษเยอะจริง แต่คนไม่ค่อยจะรู้เท่าไร

เลยนินทากันตรึม ฮาหน่อยก็ดี

เรียนครูป.1ครับ

ขอบคุณสำหรับคำกวี ช่วยกันปรุงให้ได้รสชาติเพิ่มขึ้น อันนี้แฝงหลักธรรม กะเขียนให้สนุกและจำได้ เวลาจะนินทาใคร ท่องได้ในใจ อาจหยุดไปได้ชั่วขณะ ก็ยังดี

เรียนคุณปูครับ

คำว่า "นินทาได้นินทาไป" มีแง่คิดนะครับ คนที่พูดและทำตามนี้ได้จริงคนนั้นไม่มีเวรกรรมเรื่องการนินทา แน่ หรือมีน้อย

เมื่อไม่มีกรรมก็ไม่กังวล แต่คนที่กังวลมาก คือคนที่นินทาเขามาก ........นั่นแน่ มันสนองเอาเเล้ว

หลักแห่งกรรม เป็นอย่างนั้นจริงๆ

เรียนพี่นงนาทครับ

ความเห็นของพี่กับน้องข้างบน (3-4)......แตกต่างกันอย่างน่าสนใจ

อีกคน.....เหมือนเทแกลบ.....ส่วนอีกคนบอก......เหมือนเทน้ำ.......... 

เรียนคุณอุ้มบุญครับ

ใช้คำว่าลดนี่ก็ถือว่า ใช้ได้แล้ว คนนินทาคือจิตไม่สงบแล้วครับ มันขุ่น นึกถึงบันทึกก่อนหน้านี่ที่คุยกับคุณ กะปุ่ม (หรืออะไรนี่ ขออภัยจำไม่แม่น) ทำนองว่าตัดสินคนโน้นคนนี่ ไม่ถูกต้อง 

นึกถึงคำฝรั่งว่า "don't judge the others if you don't want to be judged." 

เอาวิธีแก้แบบง่ายดีกว่า

เมื่อรู้ว่า "อยากนินทา ให้กำหนดนึกว่า "อยากนินทาหนอๆๆๆๆๆ" ไปเรื่อยๆ ไม่นานมันเหนื่อยเลยอยากนินทาไปเอง

ทำดังนี้บ่อยเข้า เวรนินทาย่อมเบาบาง ทุกข์จากนินทาย่อมเบาลงเช่นกัน

เรียนคุณทิมดาบครับ

คนแก่ๆ เขาเล่าให้ฟังว่า "เขาด่าไม่โกรธว่ายากแล้ว เขาชมไม่ยิ้มยากยิ่งกว่า" ผมว่าจริงนะครับ 

มีความความเห็นเื่รื่องนี้อย่างไรครับ?

เรียนคุณอุ้มบุญครับ

red handed. คาหนังคาเขา เลยนะครับ สองคนกำลังนินทากัน เอ้ย.....แบบนี้ไม่เรียกนินทา เพราะเขียนไปยิ้มไป จิตไม่หมองข้องขุ่น เรียกว่า "แซว" 

มานินทาอาจารย์โสภณยามดึกค่ะ เอ้ย  ไม่ใช่  มาเพื่อจะบอกว่า....ปกติไม่ชอบที่จะพูดถึงใครลับหลังในแง่ไม่ดี ( ถ้าแง่ดีไม่นับนะคะ )

ก็เลยเฉยๆต่อคำนินทาต่างๆที่บังเอิญมาเข้าหูเพราะ..สาวมั่นค่ะ

และท่องอยู่เสมอว่า..อันนินทากาเลเหมือนเทแกลบ  ไม่เจ็บแสบเหมือนเอาแหนบมาถอนขนค่ะ.....ฮา

อ่านแล้วเขาใจนะ และก็ยังรู้สึกดีคะ เพราะส่วนตัว มีความเชื่อว่า "การนินทาไม่เคยทำร้ายคนดีได้"ค่ะ

อรุณสวัสดิ์ค่ะอาจารย์

เรียนครูไก่ครับ

จริงครับที่ว่า หากเราไม่มีกรรมเรื่องการนินทา หรือมีกรรมด้านนี้น้อย จะไม่เดือดร้อนกับคำนินทาเท่าไรนัก 

บางทีกลับรู้สึกสงสารด้วยซ้ำ เพราะรู้ว่า ผลกรรมของนินทาให้ผลร้ายแรง จิตหมองอย่างแรง จิตพาล คืออ่อนอยู่เองไม่ได้ต้องมีเพื่อน ทำชั่วด้วยกันจะได้เป็นเพื่อนกัน

มองมุมแบบพระท่านว่านะ

เรียนคุณอุ๋มอิ๋มครับ

เสนาน้ำไม่ท่วมหรือครับ ปีนี้

จริงทีเดียวครับ "คำนินทาทำร้ายคนดีไม่ได้" แต่อาจทำให้เสียกำลังใจได้ครับผม อิอิ

นินทาผู้อื่นเพลินข้ามวันข้ามคืน ลืมให้นมลูก ลูกนอนตายอยู่ในเปล นินทาเพื่อนเพลินจนลูกตาย หนังตะลุงทางปักษ์ใต้นำมาเป็นมุขตลก

เรียนคุณพล็อกพร้าวครับ

เรื่องที่กล่าวถึงเขียนเป็นกวีได้บทหนึ่งได้เลยนะครับ หรือว่า เขียนเป็นบทความดีๆ ได้หนึ่งบทความ หรือเืรื่องสั้นสักหนึ่งเรื่อง เลยนะครับ

ขอมอบภาพสวยๆให้ชมครับ นำกลับไปบ้านด้วยนา

เรียนคุณยายครับ

ตอบตอนนี้ขอราตรีสวัสดิ์ด้วยภาพสวยๆ คัดสรรแล้วนะครับคุณยาย

เรียนครูฐานิศวร์ครับ

สคส.2554 สวยงามดีจัง ขอเอาภาพความหนาวมาและแบงกันชมครับ

ค่ะอาจารย์ งั้นคุณยายก็ตอบด้วยราตรีนี้ค่ะ

เป็นบทกลอนที่ดีครับ อย่างไรก็ขออนุญาตินำไปเผยแพร่นะขอรับ

สวัสดีปีใหม่ขอรับ

เรียนคุณยายครับ

ภาพดอกลีลาวดีสวยงามสดใสเสมอ แต่ห้ามเรียกลั่นทม เขาว่า ไม่เพราะ ฝรั่งเรียกว่า temple tree ต้นไม้วัด ตอนข่าวว่า มีคนขนเอาไปจากวัด ต้นละหมือนกว่า แหนะ อิอิ 

นำภาพนี้มาฝากคุณยาย สวยและให้แง่คิดได้มากทีเดียว

กราบสวัสดีปีใหม่ท่านอาจารย์ครับ

เรียนคุณณัฐวรรธน์ครับ

ขอบคุณสำหรับกลอนปีใหม่2554 มีภาพสวยๆ มาแลกเปลี่ยนกัน ตามคติของ g2k ของเรานะครับ

บันทึกนี้ก็มาขออนุโมทนาชื่นชมด้วย ขอให้ท่านอาจารย์ ผศ.จงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง มีกำลังกาย-ใจ ในการให้ความรู้เป็นวิทยาทานต่อไป อาตมาชอบการอ่านหนังสือ เลยชื่นชมคนเขียนจากใจจริง

กราบนมัสการพระคุณเจ้าที่เคารพครับ

คือสมัยนี้ที่สำนักงานมีการนินทามาก ตรองดูแล้วเห็นว่า เธอเหล่านั้น เขาเหล่านั้น ทำบาปทางวาจาเพื่อ.........

เพื่อหาพวก 

เพื่อสนองความอิจฉา

เพื่อให้คนอื่นมองคนนั้นว่าเลวกว่าตน

เพราะไม่รู้ว่าผลการนินทา ทำให้.......

มีโรคทางปาก เช่น เหม็นอย่างแรง มีโรคร้ายแรง ฟันเสียรูปทรงต้องพาไปดัด...

มีจิตหวาดระแวง

มีจิตขี้อิจฉา

เป็นอนันตริยกรรม (หากคนเขาแตกจากกัน ทะเลาะกัน)

อยากให้เผยแพร่ให้มากขึ้น

คนจะได้รู้และเลิกนินทา

จะได้ไม่หาบาปทางวาจา

ปากของตัว พาบาปหาตัวเอง