โสภณ เปียสนิท
นาย โสภณ เปียสนิท ตึ๋ง เปียสนิท

ชนชั้นทางธรรม


เกิดเป็นคนคือคนพ้นขีดขั้น

ชนชั้นทางธรรม

 

 

                                    เกิดเป็นคนคือคนพ้นขีดขั้น

แต่แบ่งชั้นที่ทำกรรมที่สร้าง

“คิดพูดทำ” ลงแล้วคือแนวทาง

กรรมจัดวางสร้างชั้นอันแท้จริง

                                      “ปุถุชน” หนาแน่นแก่นกิเลส

ซุกสาเหตุซ่อนกรรมทำทุกสิ่ง

“โลภโกรธหลง” ลงแนบเพื่อแอบอิง

“ทานศีลธรรม” ทอดทิ้งยิ่งไม่เอา

                                      “สาธุชน” คนดีมีศีลสัตย์

ศีลผูกมัดมวลมนุษย์ปะดุจเสา

“กายวาจา” ศีลครองเป็นของเรา

ฝึกนานเข้ามีคุณจนคุ้นชิน

                                      “กัลยาณชน” คนปฏิบัติ

เพื่อผูกมัดรัดใจให้หยุดดิ้น

แจ้งประจักษ์หนักแน่นดุจแผ่นดิน

จับดวงจินต์นิ่งสนิทจิตเป็นฌาน

                                      “อริยชน” คนพุทธคือหลุดพ้น

เมื่อฝึกตนร้อนเร่าเพราะเผาผลาญ

ลอกกิเลสตัณหาอุปาทาน

สุดสันดานคนดีเสรีชน

                                     เป็นมนุษย์สุดดีที่การฝึก

ในสำนึกนำหน้ามาทุกหน

เดินตามทางระหว่างขั้นแห่งชั้นชน

เมื่อหลุดพ้นหล่นล่วงพ้นบ่วงกรรม

 

 

โสภณ  เปียสนิท

39/3 เขาพิทักษ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110

คำสำคัญ (Tags): #ชนชั้นทางธรรม
หมายเลขบันทึก: 418300เขียนเมื่อ 5 มกราคม 2011 11:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 08:14 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (42)

สวัสดีค่ะ

มีเพื่อน ๆ ถามเสมอว่า..."ปัญหา...แบบนี้จะแก้อย่างไร"

ได้แต่ตอบคำเดียวว่า "ธรรมะที่เป็นไปตามธรรมชาติ คนยิ่งห่างไกลธรรมก็ไม่ทราบจะไปแก้อย่างไร แม้แต่พวกเราใฝ่เรียนใฝ่รู้ธรรม พวกเรายังรู้สึกว่าขาดอีกมาก  แล้วคนที่เขายังไม่ใฝ่ละ จะทำอย่างไร"

ขอขอบพระคุณค่ะ

Ico48เรียนคุณครูคิมครับ

ปัญหาที่ถามค่อนข้างกว้าง เป็นปัญหาของโลก "นกมักมองไม่เห็นฟ้า ปลามักมองไม่เห็นน้ำ" คนบนโลกมองไม่เห็นหลักธรรม ซึ่งมีอยู่ทั่วไป ถือว่าเป็นไปตามธรรมดา 

บางทีมองเห็น ได้จับต้องลองดูแล้ว ก็ยังเหมือน "ลิงได้แก้ว ไก่ได้พลอย" เสียอีก คงยังคอยบารมีอยู่นะครับ ผมว่านะ

ไม่รู้ว่าตอบคำถามแล้วหรือยัง อิอิ

สะกิดให้คิด     ตามคำกลอนครู

สี่ชนชั้น          ตามไปไต่ตามขั้น

ออกเป็นกลุ่ม   ตามกรรมที่ทำกัน

ทางธรรมนั้น    ตามตนเลือกที่จะเป็น.....

            น้อมใจคารวะครู......ด้วยคำล้อจากบทกลอนครู และภาพ แสงทองประกายเงินแห่งรุ่งอรุณ  ......จาก ✿อุ้มบุญ✿

อยู่เย็นเป็นสุข

....อยู่ให้เย็นเป็นสุขในทุกที่

อยู่ให้ดีมีสุขทุกสถาน

อยู่ให้เป็นเป็นได้ไปอีกนาน

อยู่ให้ต้านความคดยิ่งงดงาม

...เย็นให้เหมือนน้ำใสที่ไหลชุ่ม

เย็นให้คลุมทั้งหมดอย่างดข้าม

เย็นทุกทีไม่มีความผลีผลาม

เย็นทุกยามเป็นสุขทุกเวลา

....เป็นให้รู้ว่าเป็นเห็นหน้าที่

เป็นให้มีคุณธรรมเดินนำหน้า

เป็นให้คนค้นพบน่าคบหา

เป็นให้ฟ้ารับรู้เป็นผู้ดี

....สุขยังอยู่เพราะรู้เสียสละ

สุขยังปะเพราะละความตระหนี่

สุขยังครองเพราะใจหมดไฟจี้

สุขเต็มที่เพราะมีความซื่อสัตย์

....อยู่ ให้ดีมีธรรมไม่ต่ำตก

เย็น ก็ยกร้อนได้ไล่ชะงัด

เป็น ดีสุขสบายไม่ร้ายตัด

สุข ก็ชัดชัดเด่นเพราะเป็นดี

สุข ถ้วนทั่วทุกยามงามสง่า

เป็น เพราะว่าธรรมใกล้ไปทุกที่

เย็น อยู่ไหนไล่ร้อนอ่อนทุกที

อยู่ อย่างมีความเย็นเป็นสบาย

http://poem.deedeejang.com/category/22/5850-5850.html

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

ขอบคุณภาพสวยๆจากสวนบ้านอุ้มบุญมั้งนี่ 

Ico48เรียนคุณพัชรินทร์ครับ

ขอบคุณคำกวีที่นำมาฝากกัน มีประโยชน์ต่อชีวิตนะครับ

           เพียงธรรมยังแบ่งชั้น         แยกชน

 นึกว่าฐานะคน                             เท่านั้น

 หนากิเลสครอบตน                      ตามติด

  คือปุถุชนชั้น                             เฉกนี้เรียมเอง

 

  

        ปุถุชนกิเลศล้น              เหลือหลาย

สาธุชนศีลกราย                    เกาะบ้าง

กัลยาณชนหมาย                  ฌาณเกิด  

อริยชนสร้าง                         หลุดพ้นอุปาทาน    

ผมพร้อมแล้วครับ

 

Ico48เรียนคุณภาทิพครับ

คำโคลงนั้นสรุปครบเนื้อหาของกลอนทีเดียวครับ ภาพประกอบก็สวยงามดีมาก น่ารักดี

คุณครูใหญ่ ที่นับถือ

  • ตอนนี้ ✿อุ้มบุญ✿สอนการบ้านลูกดิ่ง อยากเรียนถามว่า
  • ที่แก้ปัญหาท่อตันเค๊าเรียกกันว่าอะไรค่ะครู

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

คำถามไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรครับ อย่างไรขยายความหน่อยครับ

  • ได้คำตอบแล้วค่ะครูจากพี่ครูภาทิพ....ค่ะเค๊าเรียก "ตัวยางปั๊ม" ที่ใช้แก้ไขท่ออุดตัน ค่ะ
พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

    ขออนุโมทนาชื่นชมกับคำกลอนชนชั้นทางธรรมของ ของท่านอาจารย์ ผศ.โสภณ จากใจจริง ถ้ามีโอกาสได้แนะนำสั่งสอนคนอื่นก็ขอหยิบยืนไปอ้างอิงด้วยนะครับ ขออนุโมทนาขอบคุณล่วงหน้า 

   ขออนุโมทนาชื่นชมกับคำกลอนชนชั้นทางธรรมของ ของท่านอาจารย์ ผศ.โสภณ จากใจจริง ถ้ามีโอกาสได้แนะนำสั่งสอนคนอื่นก็ขอหยิบยืมไปอ้างอิงด้วยนะครับ ขออนุโมทนาขอบคุณล่วงหน้า  จากที่เห็นคำกลอนก็บ่งบอกได้หลายอย่างว่าท่านอาจารย์เป็นผู้เคยผ่านเส้นทางบวชเรียนมามากเช่นกัน หรือไม่ก็เป็นฆราวาสผู้สนใจในหลักธรรมดีมากระดับหนึ่ง

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

 

ขออนุโมทนากับคำกลอน"อยู่เย็นเป็นสุข"ของคุณโยมพัชรินทร์ด้วยเช่นกัน

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

                 อายุก็เคลื่อนคล้อย         เลยไป

               พาพัดสู่มรณภัย               ไป่เว้น

               ลืมหลงบ่งบอกนัย             เราแก่  แล้วนา

               มิอาจหลบหลีกเร้น           ฝากให้พิจารณา

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

             พระหนึ่งพึ่งใคร่รู้             คิดเรียน

        จึงมุ่งศึกษาเพียร                  แต่งไว้

       ใครใครโปรดติเตียน              ดูหน่อย

       ดูว่าผิดถูกไซร้                     ฝากให้วิจารณ์

  อาจารย์  ผศ. มีอะไรก็ช่วยแนะนำด้วย  ขออนุโมทนา

กราบนมัสการพระอาจารย์มหาวินัยครับ

แต่งโคลงได้ดีมากครับ ขอนิมนต์แต่งบ่อยๆ เข้า เพื่อเผยแพร่ธรรมจักเป็นประโยชน์มากขอรับ

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

เห็นคำถาม ทีเเรกนึกว่าถามคำศัพท์ภาษาอังกฤษ นึกไปโน่นเลย

ไหนๆ ก็เอาภาพมาแล้ว ลองผูกเป็นโคลงเล่นเพลินๆ เสียเลย

เห็นขาวขาวค่าน้อย        นิดนัก

นานหน่อยจึงประจักษ์     แจ่มแจ้ง

มีคุณน่าหลงรัก              เกินเล่น   พ่อเฮย

หาไม่พบเหมือนแกล้ง     เหี่ยวแห้งตัวงอ   อิอิ

  • คำถามลึกหรือค่ะครู....หรือคิดลึก....

 

  • ✿อุ้มบุญ✿ กราบขอประทานอภัยงามๆ
  • กลับมาตามคำตอบ
  • คุณครูใหญ่ผู้รอบรู้ น่าจะให้คำตอบได้ ดีที่สุด เมื่อคืนลูกสาวก็เซ้าซี้ให้หาคำตอบอยู่นั่น ให้ได้ 
  • ไม่ทราบจะเรียนถามใคร  เอาหล่ะว้า คุณครูใหญ่ งัย ตอนนั้นไม่คิดอะไร คิดเสมอว่าเป็นญาติผู้ใหญ่  ที่สนิท จึงส่งคำถามมา....
  • มาอ่านคำโคลง คุณครูใหญ่  ✿อุ้มบุญ✿ ขำตัวเองแทบตกเก้าอี้ อยู่ คนเดียว ....
  • ช่างไม่รู้กาลเทศเลยนะ ✿อุ้มบุญ✿ เอ๋ย.......

 

 

 

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

                                ชีวิตตกอยู่ใต้          ธรรมดา

                             เกิดแก่แลชรา            พรั่งพร้อม

                             พยาธิมรณา               ตามติด  ตนแฮ

                             บุญบาปตามห้อมล้อม   ส่งให้ชั่วดี

   เกิดแก่เจ็บตาย ก็เป็นสิ่งธรรมดา ก็ธรรมดานี่แล ที่ทำให้โกณฑัญญะพราหมณ์ ได้ดวงตาเห็นธรรมเป็นพระโสดาบัน หรือที่เรียกกันว่า ธรรมจักษุ คำว่าธรรมจักษุนี้ ก็น่าจะหมายถึง เข้าใจในเรื่องราวของธรรมชาติ คือเกิดขึ้นแล้วจะต้องดับไป เพราะพิจารณาตามพระบาลีบทนี้ว่า

                        ยํ กิญจิ สมุทยธมฺมํ สพฺพนฺตํ นิโรธธมฺมํ

   "สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งปวงย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา" ที่ว่าเข้าใจเรื่องราวของธรรมชาติแล้วได้ดวงตาเห็นธรรมนี้ คงจะหมายถึงเกิดความเห็นแจ้งด้วยญาณ แทงทะลุเข้าไปในความรู้สึก ไม่ใช่เห็นในระดับทิฎฐิ เห็นแจ้งกับเห็นในระดับทิฏฐิ นี้ก็ต่างกัน เหมือนกันกับทำอย่างไรจึงจะรู้ว่าพ่อแม่รัก ลูกๆก็ตอบว่าดูจากการแสดงของพ่อแม่ นั่นก็ถูก แต่ไม่ใช้ความรู้แจ้งเรื่องความรักของพ่อแม่ ต่อเมื่อใดมีครอบครัวมีลูกแล้ว ความรู้สึก เป็นห่วงลูกก็เกิดขึ้น นั่นแลชื่อว่า เห็นแจ้ง เรื่องเห็นแจ้งความรักของพ่อแม่นี้ ท่านอาจารย์รศ.อุดม พิริยะสิงห์ ท่านสอนเอาไว้ ตั้งแต่เรียนรัฐศาสตร์เมื่อสี่ห้าปีที่แล้ว ก็เลยเอาความคิดนี้มาพิจารณาเรื่องธรรมดา ก็คงไปกันได้ จึงเขียนยกย่องท่านไว้ในที่นี้ด้วย.  

                                                       

เป็นครู...รักครู...ตอบครู

เกิดมาจน ทนพากเพียร เล่าเรียนสู้

สร้างความรู้ เสริมปัญญา มหาศาล

แม่สั่งคำ ย้ำอาภัพ อัประมาณ

ทรัพย์สมบัติ ศฤงคาร มิพานพบ

วันละบาท ไปโรงเรียน หมั่นเพียรพาก

พ่อตายจาก แม่ครวญคราง ข้างโลงศพ

แปดลูกน้อย นองน้ำตา มาเคารพ

แม่เหม่อลอย ละห้อยซบ ซอกศาลา

เรียนเถิดลูก แม่ไม่มี ที่ทางให้

พลัดจากแดน มังกรไกล คว้าไขว่หา

ความอุดม ในแดนไทย วิไลตา

กลับยากยับ เกินเยียวยา ล้าแรงใจ

.

จึงหมั่นเพียร ร่ำเรียนมา เป็นหน้าที่

แปดชีวี ไม่เกเร เหไปไหน

ญาติมิตรห่าง ร้างลาลบ ไม่พบใคร

หยัดยืนได้ ด้วยลำแข้ง แห่งมารดร

อยากเรียนเก่ง เป็นอะไร ฉันไม่รู้

ฟังคำครู พร่ำรำ่พัน สรรค์คำสอน

วจีแว่ว แจ้วจำเรียง เสียงกาพย์กลอน

คล้ายคำพร ครูฝังจิต ติดนานเนา

จากโรงเรียน ก้าวเข้ามา มหาวิทยาลัย

เรียนเรื่อยไป มิรู้ทิศ ดวงจิตเขลา

ศึกษาศาสตร์ คณะนี้ ให้ที่เรา

ไม่ต้องเอ็นฯ ก็ได้เข้า เฝ้าห้องเรียน

เป็นนิสิต กิจกรรม ทำหัวหมุน

หางานเสริม เพิ่มเงินทุน หนุนอ่านเขียน

บรรณรักษ์ รับนิสิต จิตพากเพียร

เมื่อยามว่าง เข้าผลัดเปลี่ยน เรียนรู้งาน

ซ่อมหนังสือ ยืม-คืนนั่น จัดชั้นด้วย

เรียงให้สวย ค้นง่ายงาม ยามเรียกขาน

ประจำชั้น หมวดแปดร้อย คอยจัดการ

วรรณคดี สนุกสนาน อ่านเพลิดเพลิน

หนึ่งชั่วโมง ได้ห้าบาท ชาติอยู่ได้

ภาคภูมิใจ เงินสะพัด ไม่ขัดเขิน

รวมหนึ่งเดือน สามสี่ร้อย ไม่น้อยเกิน

พอมีเงิน มายาไส้ ไม่อดกิน

ยังขับร้อง ฟ้อนร่ายรำ ทำดนตรี

รับงานถี่ มีคนจ้าง เป็นนางศิลป์

พี่เรียนจบ ทบเงินมา เป็นอาจิณ

เลี้ยงชีวิน ครบสี่ปี มีงานทำ

เป็นบัณฑิต คิดมุ่งงาน การศึกษา

สอบบรรจุ ประกาศมา ชะตาถลำ

ได้ตำแหน่ง ราชการ งานประจำ

เป็นคุณครู ค่าเลิศล้ำ นำเด็กดง

แม่ดีใจ ยิ้มรับร่า ชุดกากี

มีสองบั้ง เสียด้วยซี ใช่ขี้ผง

ใบเสมา กลัดปกเสื้อ เรื่อลำยง

หัวเข็มขัด ครุฑทองส่ง ดำรงลักษณ์

มิเคยซึ้ง คุณค่าคำ ความเป็นครู

จิตนิ่งอยู่ รู้เพียงงาน พึงตระหนัก

กลางป่าไร่ ดวงฤทัย ได้ผ่อนพัก

ค่ำคืนทัก ดวงเดือนดาว คราววันเพ็ญ

มิเคยคิด ความเป็นครู อยู่ที่ไหน

รักงานครู เริ่มเมื่อใด ใจไม่เห็น

ยี่สิบห้า ขวบปีผ่าน งานลำเค็ญ

เช้าจรดเย็น ไม่เว้นว่าง เหมือนอย่างใคร

รวมลูกมาก นับพันหมื่น เขายื่นมา

พร้อมคำว่า ฝากคุณครู ดูแลให้

จึงวันนี้ นั่งนิ่งนึก ตรึกตรองไป

ครูอยู่ได้ ด้วยน้ำจิต รักศิษย์ตน

ความเป็นครู อยู่ที่ใจ ใช่ที่อื่น

จิตชุ่มชื่น คืนแรงกาย ไม่สับสน

เงินเดือนน้อย ค่อยค่อยใช้ ไม่อับจน

งานส่งผล ดลคนดี ศรีนาคร

เมื่อชีพหนึ่ง ได้เรียนรู้ เป็นครูเขา

อย่าใจเบา ทิ้งคำครู ผู้สั่งสอน

ส่งดินดาน เป็นดวงดาว แดนอัมพร

ก่อนม้วยมรณ์ ขอเพียงศิษย์ คิดเศร้าใจ

อย่าดึงเด็ก ลงดินดาน แดนนรก

เป็นครูจิต สกปรก เร่งแก้ไข

รู้ถูกผิด ไม่คิดหวัง ชั่งกำไร

เงินทองไซร้ เป็นตราตี ฤดีทราม

ความเป็นครู นั้นมิอาจ ประกาศชัด

ปริญญา เกียรติบัตร น่าเกรงขาม

แต่จริงแท้ ความเป็นครู คู่ใจงาม

อย่ามองข้าม อวดกระดาษ ชาติล่มจม

มีผลงาน ข้ามขึ้นชั้น อาจารย์สาม

ชำนาญการ พิเศษงาม ตามสั่งสม

จ้างเขาทำ นำมาใช้ ไม่น่าชม

ศักดิ์ศรีลม สมองกลวง ลวงแผ่นดิน

มีความรู้ ต้องรู้จริง ใช่ปลิ้นปล้อน

เร่หลอกหลอน ค่าต่ำเตี้ย เรี่ยติดหิน

เป็นดังสัม ภเวสี มีสองลิ้น

จ้องล้วงกิน ของสดคาว ฉาวนรก

ใจครูเอย จงเป็นครู รู้ความดี

อีกความเก่ง ต้องพึงมี สีไม่ตก

ชาวประชา ไม่หยามหน้า แค่หญ้ารก

ไล่เหยียบย่ำ ช้ำในอก ฟกในใจ

ประพฤติตน ให้ดีก่อน ค่อยสอนเขา

ละโมบชั่ว หลงมัวเมา เกินแก้ไข

เด็กตาดำ โง่และชั่ว มั่วตามไป

เป็นครูไย ไม่สำนึก พิลึกครู

พฤติกรรม นำชาวชน ก่นหมิ่นเกียรติ

เขาหยามเหยียด ปู - ชะนี ที่กรอกหู

เหตุอันใด ใช้สมอง ลองตรองดู

อยากเป็นปู หรือชะนี อยู่ที่ตัว

หนึ่งลูกเลว พ่อแม่เจ้า เฝ้าสั่งสอน

หนึ่งพ่อเลว ปู่ย่าวอน สอนใส่หัว

หนึ่งแม่เลว ตายายบ่น จนแม่กลัว

หนึ่งครูเลว พาลูกชั่ว ทั่วแผ่นดิน

http://www.oknation.net/blog/im/2009/03/12/entry

กลอนดีดี ที่เด็กวันนี้ ควรสนใจ

หนูนำกลอนนี้มาฝากอาจารย์ค่ะ

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

                               ชีวิตตกอยู่ใต้               ธรรมดา

                             กำเหนิดแลชรา            พรั่งพร้อม

                             พยาธิมรณา                  ตามติด  ตนแฮ

                             บุญบาปตามห้อมล้อม      ส่งให้ชั่วดี

     เมื่อกี้เขียน เกิดแก่แลชรา มันเป็นการแก่ซ้ำซ้อน  ด้วยเผลอไปต้องขออภัยทุกท่านด้วย นี่แลที่บอกว่า

                          พระหนึ่งพึ่งใคร่รู้                  คิดเรียน

                       จึงมุ่งศึกษาเพียร                     แต่งไว้

                       ใครใครโปรดติเตียน                ดูหน่อย

                        ดูว่าผิดถูกไซร้                      ฝากให้วิจารณ์

  

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

    มี       บุญบุญส่งให้             ใจสบาย

   บุญ    มากทุกข์สลาย            หมดสิ้น

   มาก    บุญสื่อความหมาย       สุค-ตินา

   ดี       ชั่วงูแลบลิ้น               อย่าได้หมิ่นบุญ

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

กลอนเป็นครู.....รักครู.....ตอบครู ของคุณโยมพัชรินทร์ เกื้อสกุล (อติวิย คุโณ มีค่าเกินเปรียบ) ขออนุโมทนาชื่นชมด้วย และขอเก็บบันทึกไว้ด้วย บางทีอาจจะได้นำมาท่องบ่น เพื่อเป็นข้อคิดเตือนใจ และเผยแพร่ เป็นวิทยาทานต่อไป ขออนุโมทนาขอบคุณล่วงหน้า

Ico48เรียนคุณอุ้มบุญครับ

อย่าได้กล่าวถึงกาละเทศะอันใดเลย ตรงนี้ใจกลาง g2k เป็นบ้านสาธารณะ "ร่มเย็นเป็นกันเอง" ใครหงอยเหงาเศร้าสุข ก็มาแวะพัก ทักทาย ใครว่างก็มาตอบ มาคุย มาสนทนา จะเป็นเรื่องอะไรก็เชิญตามสะดวกสบาย

นึกภาพสวนธารณะอันร่มรื่น นึกภาพคนเหนื่อย คนว่าง คนออกกำลังกาย คนเล่นไทเก๊ก บางคนเข้ามานั่งพัก นั่งเล่น นั่งดู นั่งอ่าน นั่งฟัง แม้นั่งสมาธิ ไม่มีใครว่าใคร สวนแห่งนี้คือ g2k 

ดังนี้ โถส้วมพร้อม "ไม้อำนวยความสะดวกทางเดินภายใน" (โห เรียกเสียเท่) จึงกลายเป็นโคลงอันไพเราะด้วยสาระ (ว่าเข้านั่น อิอิ) 

Ico48เรียนคุณพัชรินทร์ครับ

ขอบคุณสำหรับกลอนยาวสำหรับครู ยกให้ gotoknow บันทึกไว้ว่าเป็นกลอนยาวที่สุดไปเลย (เท่าที่ผมรู้นะ อิอิ) ขอบคุณจริงๆ

มอบภาพนกแต้วแล้วเป็นรางวัลเลย 1 ตัว


กราบนมัสการพระอาจารย์มหาวินัย

ขอบพระคุณสำหรับคำโคลง อีกครั้ง นะครับพระคุณเจ้า

นำภาพพระนั่งปฏิบัติบัติมาจากบันทึกนี้มาฝากไว้ที่นี่ เพราะสวยงามให้ความรู้สึกสงบอย่างยิ่งจริงๆ


พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

.....ที่ว่า ดีชั่วงูแลบลิ้น หมายถึง ดีแม้เพียงเล็กน้อยก็ให้ผลครับ ดังพระบาลีว่า

                มาวมญฺเญถ ปุญฺญสฺส    น มตฺตํ อาคมิสฺสติ

                อุทพินฺทุนิปาเตน           อุทกุมโภปิ ปูรติ

                อาปูรติ ธีโร ปุญฺญสฺส      โถกํ โถกํปิ อาจินํ 

.... แปลว่า "คนไม่ควรดูหมิ่นต่อบุญ ว่าบุญมีประมาณน้อย จักไม่ให้ผล แม้หม้อน้ำ ย่อมเต็มไปด้วยหยาดน้ำที่ตก ผู้มีปัญญาสั่งสมบุญอยู่ แม้ทีละน้อย ๆ ย่อมเต็มได้ด้วยบุญ" พระเดชพระคุณหลวงพ่อสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯสมัยท่านเป็น พระราชกวี พศ.2513 อาตมาบังเอิญได้อ่านในกระดาษบันทึกของท่านที่พับเอาไว้ในหนังสือเก่าๆเล่มนึงท่านเขียนไว้ว่า

                         "อย่าดูหมิ่นบุญกรรมจำนวนน้อย

                       จักไม่ต้อยตามต้องสนองผล

                       แม้ตุ่มน้ำเปิดหงายรับสายชล

                       ยังเต็มล้นด้วยอุทกที่ตกลง"

     ที่พิมพ์บาลีมานี้ก็เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์พร้อมทางวิชาการครับ.อาจารย์เชี่ยวชาญในการแต่งก็ลองเอาความหมายในพระบาลีบทนี้ไปอต่งดูนะครับ

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

    จำอะไรได้อีกอย่าง ตอนที่ไปอบรมครูสอนบาลีที่วัดปาน้ำ ภาษีเจริญ เมื่อสองสามปีที่แล้ว ท่านอาจารย์พระมหามนตรี ขนฺติสาโร ป.ธ ๙ ท่านเป็นวิทยากรอบรม เรื่องการสอนบาลี มีกลอนนึงที่แปลกและไพเราะดีที่ท่านแต่ง  จึงขอนำมาลงในที่นี้ ตามที่จำได้

                  ถี     รมติ     ปุ                   ขุ     รมติ       ธํ

                  หึ     รมติ     ปํ                   หํ     รรมติ     โป

 แปลว่า       สตรีมีจิตหมายในบุรุษ         ภิกษุขูดกิเลสหมดจิตสดใส

             กระบือชอบโคลนตมหล่มปลักควาย หงส์มุ่งไปสระบัวกลั้วชลธาร  

 ที่จริง ถี ก็มาจากศัพท์ ว่า อิตฺถี -ผู้หญิง รมติ-  ย่อมยินดี ปุ-ปุริโส-ผู้ชาย หึ-มหึโส-ควาย  ปํ-ปงฺก หรือ ปงฺเก เปลือกตม,โคลน, หํ-หํโส-หงส์ โป-โปกฺขรณิยํ-สระโบกขรณี (คำว่าบงกช ก็เช่นกัน เขาแปลกันว่า บัว มาจากศัพท์ว่า ปงฺก-เปลือกตม และ  ช-เกิด นำมาแล้วเปลี่ยนแปลงรูปและเสียง สำเร็จรูปเป็น บงกช) ได้พูดแล้วก็เลยพูดมาก ต้องขออภัยอาจารย์ด้วย   

เรียนพระคุณเจ้าที่เคารพครับ

คาถาข้างบนนี้ผูกได้แปลกดีครับ แต่ผ่านหูผ่านตามาจากหลายแห่ง ท่านรวบรวมเอาไว้เป็นคำภาษิตดีครับ

ขอบพระคุณท่านอีกครั้ง

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

                             

                            เยาวชนควรรอบรู้          จดจำ

                        คิดรอบคอบอย่าถลำ          พลาดพลั้ง

                       มีจิตคิดกระทำ                   ประโยชน์ ชาตินา

                       แตกแยกจงยับยั้ง                 อย่าได้กระทำ ..

             ...เนื่องมาจากคำขวัญวันเด็กครับ

                            

          ขออนุญาตแก้ใหม่ครับ            

                            เยาวชนควรรอบรู้                    จดจำ

                      คิดรอบคอบอย่าถลำ                      พลาดพลั้ง

                      มีจิตคิดอยากทำ                           ประโยชน์ ชาตินา

                        สติคอยยับยั้ง                             เลิศด้วยคุณธรรม

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ

ขออนุญาตเขียนต่อเติมบ้างนะครับ


"รอบคอบ" เถอะัเด็กน้อย   ทุกคน

"รู้คิด" คอยเตือนตน          ทุกครั้ง 

"มีจิตสาธารณะ"จน           ชนกล่าว ถึงนา

จำเถิดจำไว้รั้ง                   สติตั้งเตือนตัว

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

 

ขออนุญาตแก้ใหม่ครับ..

                           เยาวชนควรรอบรู้                 จดจำ

                      คิดรอบคอบอย่าถลำ                  พลาดพลั้ง

                      มีจิตคิดอยากทำ                       ประโยชน์ ชาตินา

                      สติคอยยับยั้ง                          เลิศด้วยคุณธรรม

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

อาจารย์ ผศ. แต่งได้ดีกว่า ขออนุโมทนาครับ จะมาฝึกเรื่อยๆถ้าไม่มีธุระอะไร อาจารย์คงจะยินดีนะครับ.

เรียนพระคุณเจ้าครับ

นิมนต์ครับ ฝึกให้มากเข้าไว้ นานๆ ก็พัฒนาเรื่อยๆ 

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

       มอบโคลงนี้มาคารวะคุณครูทุกท่าน  ขอให้คุณครูทุกท่านจงมีความสุข สุขภาพแข็งแรง ปรารถนาสิ่งใดให้สำเร็จทุกประการ

                                      มีคุณครูท่านได้                 สั่งสอน

                            มอบสิ่งอันบวร                             เลิศล้ำ

                            ความรู้นั่นแน่นอน                         หายาก    ยิ่งแล

                           เตือนจิตคิดเน้นย้ำ                         ห่อนได้ลืมคุณ

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

 

                               หน้าหนาวอากาศนี้                เยือกเย็น

                              หนาวมากจนมองเห็น              ห่มผ้า

                              หนาวจิตคิดลำเค็ญ                ทนอยู่  ได้ฤา

                              หนาวนักหากเหนื่อยล้า           ห่มผ้าแห่งธรรม   

               ที่อีสานช่วงนี้อากาศหนาว....    

กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ ขอร่วมแต่งเล่นบ้างครับผม

 

หนาวนักพึงเร่งรู้           กำหนด

โลกนั่นมันเลี้ยวลด        เหว่ว้า

้ร้อนก็ยิ่งเพียรพรต        ปฏิบัติ 

หนาวเร่งร้อนมิโรยล้า     มุ่งหน้าหาธรรม     

พระมหาวินัย ภูริปญฺโญ

 

              โกรธเกลียดรักโลภนี้          ธรรมดา

              เพราะถูกอวิชชา                ครอบไว้

              มนุษย์ทุกชีวา                  มีทั่ว กันนา

              มีสติรับรู้ไซร้                   โลกนี้ร่มเย็น

                                  ความชั่วเป็นเหตุห้วง       อบาย

                             เกิดก่อทุกข์มากมาย            หมดสิ้น  

                             ชีพดับลับเลือนหาย            คงอยู่  เสมอนา

                            ก่อนชีวิตดับดิ้น                  หมั่นสร้างความดี 

ขออนุโมทนาครับท่านอาจารย์ ผศ.ที่ให้เนื้อที่เขียดเขียนด้วย

Ico48กราบเรียนพระคุณเจ้าครับ


ขอนิมนต์เถิดเจ้า    ประคุณ

เขียนขีดโคลงเอาบุญ   สั่งไว้

สอนศีลธรรมนำหนุน    เสริมส่ง

เผยแพร่พุทธศาสน์ให้    แก่ผู้มีุบุญ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท