การทำปุ๋ยหมักก็เป็นการที่มนุษย์สังเกตุสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ แล้วนำมาปรับประยุกต์ใช้ คนสมัยปู่ย่าตายายของเราก็รู้วิธีและทำกันมานานแล้ว แต่ปัจจุบันเราทอดทิ้งภูมิปัญญาพื้นบ้านแล้วหันไปพึ่งพาปุ๋ยเคมี ซึ่งก่อปัญหาอื่นๆตามมาอีก เช่นดินเสื่อมสภาพ การขาดดุลการค้า ฯ
เราสามารถทำปุ๋ยหมักใช้เองที่บ้าน หรือแยกขยะอินทรีย์ออกจากขยะทั่วไปตั้งแต่ครัวเรือนเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนกับสารหรือวัตถุอันตรายต่างๆ แล้วให้ท้องถิ่นเก็บไปทำปุ๋ยหมักที่โรงงานทำปุ๋ย ( กรณีที่ท้องถิ่นมีโรงงานทำปุ๋ยหมัก ) ก็จะสามารถลดปริมาณขยะที่ต้องเก็บ ขนส่งและนำไปกำจัดลงได้เกือบครึ่ง ซึ่งก็หมายถึงการลดค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะมูลฝอยลงได้ด้วย
ศัพท์ที่ควรทราบ
ขยะอินทรีย์หรือขยะชีวภาพ ( Organic Waste ) คือขยะที่เกิดจากสิ่งที่มีชีวิตและสามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ถ้าสภาพแวดล้อมเหมาะสม เช่น เศษผัก เศษผลไม้ เศษอาหาร กิ่งไม้ ใบหญ้า ดอกไม้ เป็นต้น แบ่งออกเป็น
วัสดุสีน้ำตาล ( Brown material ) คือขยะอินทรีย์ที่มีสีน้ำตาล ลักษณะทั่วไปจะแห้ง มีองค์ประกอบของคาร์บอนมาก ( Carbon- rich materials ) เช่น กิ่งไม้แห้ง ใบไม้แห้ง ฟางข้าว แกลบ ดอกไม้แห้ง หญ้าแห้ง ขี้เลื่อย เปลือกถั่ว เป็นต้น
วัสดุสีเขียว ( Green material ) คือขยะอินทรีย์ที่มีสีเขียว ลักษณะทั่วไปจะชื้น มีองค์ประกอบของไนโตรเจนสูง ( Nitrogen-rich materials ) เช่น หญ้าที่ตัดใหม่ๆ ดอกไม้สด เศษผักเศษผลไม้สด ขยะจากครัว เศษอาหาร มูลสัตว์ เป็นต้น
ปัจจัยที่สนับสนุนการหมัก
1. สัดส่วนวัสดุสีน้ำตาล : วัสดุสีเขียว
2. อากาศ
3. ความชื้น
4. ขนาดของกอง ( ช่วยควบคุมอุณหภูมิ )
ถ้าพูดในเชิงทฤษฎีก็คือ Optimum Composting Conditions
1. Carbon : Nitrogen <> 30 : 1
2. Oxygen > 5 %
3. Moisture 40-60 %
4. Temperature 90-140 F
ในธรรมชาติ กองกิ่งไม้ใบหญ้าและวัสดุธรรมชาติก็จะเกิดการย่อยสลายตามธรรมชาติหรือเกิดการหมักอยู่แล้ว เช่นการที่ชาวสวนกวาดเอาใบไม้ เศษหญ้า มาสุมที่โคนต้นแล้วปล่อยให้เกิดการย่อยสลายตามธรรมชาติ แต่อาจใช้เวลานานหน่อย แต่ถ้าเราควบคุมสภาพแวดล้อมให้ปัจจัยที่สนับสนุนการหมักเหมาะสมก็จะใช้เวลาน้อยลง จะอธิบายละเอียดในตอนต่อไปครับ โปรดติดตาม
การหมักมี ๒ วิธีใหญ่ๆครับ คือ
หมักกอง (ชื้น) และ หมักเป็นน้ำ ที่มีข้อดีและข้อด้อยต่างกัน คือ
สารที่ย่อยสลายง่ายควรหมักเป็นน้ำ เพื่อไม่ให้ธาตุอาหารสูญหายได้ง่าย
แต่พวกที่ย่อยสลายยากเช่นใบไม้และเปลือกผลไม้ ควรหมักชื้นให้ย่อยสลายได้เร็ว
หรือถ้าไม่มีปัญหาเชิงสิ่งแวดล้อม ก็สามารถนำไปใช้ได้โดยตรงดดยไม่หมักจะได้ประโยชน์มากกว่า เพราะพลังงานที่มีจะนำไปสร้างระบบนิเวศได้ดีกว่าให้พลังงานสูญหายไปเฉยๆ ในกระบวนการหมัก