๑. หัวโขน
อันตำแหน่งขีดขั้นดาวเขาสมมุติ
ที่สูงสุดยศชั้นนั้นอย่าถือ
หากหลงผิดติดยึดไว้ในกำมือ
นั่นก็คือกิเลสเหตุกลุ้มใจ
หลงติดยึดติดใจในตำแหน่ง
ต่างยื้อแย่งแข่งขันกันไปไหน
ทั้งหัวหน้าผู้อำนวยการนั้นของใคร
เห็นที่ใหญ่กว่านี้ถึงที่ตาย
อธิบดีปลัดรัฐมนตรี
นายพลมีนายพันนั้นมากหลาย
ออบอจอสอสอหมอทนาย
ถึงสุดท้ายสูงเด่นเป็นสามัญ
ที่ไขว่คว้าถือตัวนั้นหัวโขน
ผลัดกันโยนยื้อแย่งต่างแข่งขัน
ล้วนกิเลสตัณหาสาระพัน
หน้าที่นั้นต่างหากสร้างคนดี
ถือสันโดษสมถะละกิเลส
ตรองดูเหตุปัจจัยในศักดิ์ศรี
ให้ยึดมั่นประกอบกรรมสร้างความดี
ยึดหน้าที่ทำไปให้ดีเทอญ
ถึงสุดท้ายตายดับลับโลกนี้
คุณความดีสถิตมั่นคนสรรเสริญ
เมื่อยามอยู่อยู่คู่ไทยได้จำเริญ
เสียงสรรเสริญลูกหลานท่านภูมิใจ
อันตำแหน่งเราต่างมีนี้หัวโขน
ยื้อแย่งโยนอาวรณเพราะอ่อนไหว
เห็นคนสวมก็ต้องวางต่างต้องไป
ไม่มีใครยึดไว้ได้ติดตัว
อนิจจังสังวรไว้ไม่เที่ยงแท้
ของเปลี่ยนแปรแค่หัวโขนคนสวมหัว
สิ่งสมมุติเพียงภาพฉาบทาตัว
อย่าเมามัวหลอกตัวเองเร่งทำดี
สวัสดีค่ะ
อันตำแหน่งขีดขั้นดาวเขาสมมุติ ที่สูงสุดยศชั้นนั้นอย่าถือ
..................................... .............................................
อนิจจังสังวรไว้ไม่เที่ยงแท้ ของเปลี่ยนแปรแค่หัวโขนคนสวมหัว
สิ่งสมมุติเพียงภาพฉาบทาตัว อย่าเมามัวหลอกตัวเองเร่งทำดี
ช่วยเตือนสติได้เป็นอย่างดี ขอบพระคุณครับ
สวัสดีค่ะ
ขออนุญาตนำไปแพร่ต่อนะคะคุณอิงจันทร์
ไม่ค่อยมีเวลาอัพบล็อก
ขอกลับมาอ่านบทกลอนทบทวนจิตดีกว่า
บทกลอนบทนี้เข้ากันสถานการณ์ปัจจุบันดี
เพราะตอนนี้เค้ากำลังแย่งหัวโขนกันใหญ่เลยคร้า
อย่างผมเอง นี่หรือ คือ ผ อ.
ความสุขหนอ อยู่กับงาน นักการฯเอย
อย่างผมเอง นี่หรือ คือ ผ อ.
ความสุขหนอ อยู่กับงาน นักการฯเอย
************
จึงสำคัญที่ใจใช่ตำแหน่ง ที่เขาแข่งแย่งกันฉันเฉยเฉย
บทบาทแม่บทบาทครูรู้ชมเชย ใครจะเย้ยว่าต่ำต้อยมิน้อยใจ