"การฝีกจิต การพิจารณาจิต เป็นวิธีลัดที่สุด"
เปรียบประดุจทางตรงส่งสวรรค์
รู้สึกตัวทั่วพร้อมน้อมทำพลัน
วางจิตนั้นตามอาการกิริยา
"นี้คือรูปนั่ง กำลังนั่ง" ตั้งจิตมั่น
ไม่สำคัญนั่งอย่างไรก็ได้หนา
อาการใดใช่ลืมตาหรือหลับตา
ถือขันธ์ห้านี้กองทุกข์ฉุกคิดวาง
"ไม่ใช่เราื ไม่ใช่ของเรา"เผาให้สิ้น
เพียงยลยินจิตมั่นขัดแผ้วถาง
รู้แจ้งเกิดมีปัญญาสละวาง
นี้คือทางวิปัสสนาหานิพพาน
"การฝีกจิต การพิจารณาจิต เป็นวิธีลัดที่สุด" เปรียบประดุจทางตรงส่งสวรรค์
รู้สึกตัวทั่วพร้อมน้อมทำพลัน วางจิตนั้นตามอาการกิริยา
"นี้คือรูปนั่ง กำลังนั่ง" ตั้งจิตมั่น ไม่สำคัญนั่งอย่างไรก็ได้หนา
อาการใดใช่ลืมตาหรือหลับตา ถือขันธ์ห้านี้กองทุกข์ฉุกคิดวาง
"ไม่ใช่เราื ไม่ใช่ของเรา"เผาให้สิ้น เพียงยลยินจิตมั่นขัดแผ้วถาง
รู้แจ้งเกิดเปิดปัญญาสละวาง นี้คือทางวิปัสสนาหานิพพาน
คุณครูอิงจันทร์ ครับ
สวัสดีค่ะพี่อิง
นะคะ
สวัสดีค่ะพี่อิง
หลวงปู่ดุลย์ อตุโล ท่านเป็นศิษย์อาวุโสสรุ่นแรกสุดของหลวงปู่มั่น คำพูดคำสอนของหลวงปู่เป็นคำพูดที่คมมาก ท่านมีปกติพูดน้อย แต่เมื่อเวลาพูดล้วนแล้วเป็นคำที่คมมีความหมายในตัว คำสอนเรื่องอริยสัจ ที่เปรียบเทียบอาการของจิต มีดังนี้
จิตที่ส่งออกนอก เป็นสมุทัย
ผลอันเกิดจากจิตที่ส่งออกนอก เป็นทุกข์
จิตเห็นจิต เป็นมรรค
ผลอันเกิดจากจิตเห็นจิต เป็นนิโรธ
คำพูดที่คุณครูกล่าวถึงก็เป็นคำพูดของท่านที่อ้างอิงมาจากหนังสือ เรื่องหลวงปู่ฝากไว้ เป็นหนังสือที่น่าอ่านมาก แม้ผู้ไม่สนใจการปฏิบัติแต่ชอบการอ่านก็อ่านได้อย่างไม่เบื่อ