อดทนอัด
อั้นสะอื้นยืนตัวสั่น
โดนกำปั้นทุบตีขยี้หยาม ถูกตะคอกขู่ด่าว่าเลวทราม เป็นเหยื่อความโทสะอยู่ประจำ
หาว่าเป็นตัวการมารชีวิต
นำพาสิ่งวิปริตความตกต่ำ
เหมือนเชื้อโรคโชคชั่วตัวเคราะห์กรรม
ไม่เคยนำพรชัยอะไรมา
อัปลักษณ์โง่เง่าเอาแต่เล่น
งานสิ่งใดไม่เคยเห็นเป็นประสา
เลี้ยงไว้ก็เปลืองเปล่าเสียข้าวปลา
ตบซ้ายขวา แล้วกระชากลากไปตี
เด็กน้อยถูกผลักไสไร้ทางออก
จึงเลือกโลกภายนอกบ้านหลบหนี
ยอมเป็นเด็กเร่ร่อนไม่รักดี
ดำรงอยู่อย่างไม่มีคนห่วงใย
โหยหิวความปรานีปลอบชีวิต
ไม่รู้ถูกรู้ผิดเป็นแบบไหน
ถูกรังแกโกงซ้ำอยู่ร่ำไป
หมดอาลัยเหว่ว้าน้ำตาคลอ
ผ่านสังคมโทรมทรุดไร้จุดหมาย
โลกนี้ช่างโหดร้ายเสียจริงหนอ
มีบ้างไหมความรักที่ถักทอ
ให้ห่มห่ออ้างว้างกลางดวงใจ
สันติสุข สันติศาสนสุข
อ่านบทกลอน สะท้อน ใจอ่อนไหว
เพราะเด็กไทย ยังมี ที่ร่อนเร่ต้องเดินทาง ห่างหาย ไร้ทำเล
ต่างหันเห ไร้ที่พึ่ง จึงทุกข์ทน
ถึงไม่ใช่เด็กเร่ร่อน ก็ถูกทิ้งให้ว้าเหว่มากมายค่ะ
คุณครู ป.1 ครับ
ชิวิตเล็กๆที่ไม่ใครใส่ใจ คงต้องอาศัยน้ำใจของครูทุกคน
ขอบคุณที่แวะมาอ่านก่อนใครๆ ครับ
อยากให้มีการตั้งมูลนิธิดูแลแม่และเด็กที่ถูกทอดทิ้งทั่วประเทศ เพราะเด็กทุกคนคือทรัพยากรของประเทศเราครับ ทำอย่างไรกันดี
อาจารย์โสภณ ครับ
ถ้าครอบครัวมีคุณภาพทุกอย่างก็จะดีตามไปด้วย แต่คงต้องมีอบต. และท้องถิ่นที่เข้มแข็ง
ท้องถิ่นน่าจะแบบกลไกในการดูแลครอบครัว และคนของตัวเองให้มีคุณภาพ ส่วนมูลนิธิน่าจะเป็นส่วนเสริม ครับ
สวัสดีค่ะ พี่สันติสุข
อ่านบนกลอนแล้ว เป็นบทกลอนที่สะท้อนถึงรากเง้าของชีวิตเด็กเร่ร่อน
ซึ่งปัญหาของเด็กเร่ร่อนยิ่งถูกกระหน่ำมากกว่าเดิมอีก
ทางออกอยู่ที่ครูข้างถนน ยิ่งมีมากเท่าไร ยิ่งเป็นการช่วยเหลือเด็ก
อยากให้กำลังครูข้างถนนด้วยค่ะ
ครูจิ๋ว ครับ
ตกลงเธอเข้ามาให้กำลังพี่ หรือให้กำลังใจครูข้างถนน
คงยุ่งมากเหมือนเดิม คิดถึง และขอบคุณมากที่แวะมาอ่าน
งานเขียนชิ้นนี้ ครับ
น้องอุ้มบุญ ครับ
ยินดีที่ได้รู้จัก
ป่าติ้ว เจอทั้งน้ำ เจอทั้งหนาวด้วยหรือเปล่าครับ
ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยม มาม่อยๆ นะครับ
ยังโชคดี ที่มีครู อยู่ข้างถนน
เฝ้าอดทน เป็นคนกู้ ดูแลเขา
สอนชีวิต บ่มจิตใจ ให้บันเทา
เพื่อให้ก้าว ผ่านร้าวราน กลับบ้านตน
ครูหยุย ครับ
แต่งกลอนได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างน่าพิศวง นอกจากจะเป็นครูที่ของเด็กเร่ร่อน
ได้ดีแล้ว น่าจะเป็นครูภาษาไทยที่ดี คนหนึ่งทีเดียวครับ
เข้ามาทักทายและชื่นชมกับบทกลอนดีๆ ครับ
ขอบคุณนะครับ
น้องราชิต ครับ
ขอบคุณมากที่ให้เกียรติเข้ามาทักทาย
และดีใจที่น้องราชิตมีความรู้สึกดีๆ กับงานเขียนในลักษณะนี้
มีโอกาสแวะมาอ่านอีก นะครับ
อย่างน้อยเด็กเหล่านี้ยังมีโอกาสได้หายใจ ได้รู้โลกแห่งความเป็นจริง แล้วคิดอย่างไรกับข่าวที่เกิดขึ้นในเรื่องการทำแท้งค่ะ หากไม่ทำแท้งกลุ่มเด็กเรร่อนกลุ่มนี้จะเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ .......แล้วจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการทำแท้งและปัญญาเด็กเร่ร่อน
น้องกุ้งแก้วครับ
แถวแยกตลาดคลองเตย ตอนกลางคืนเห็นเด็กวิ่งมา
บ้างขัดกระจกรถ บ้างขายพวงมาลัย บ้างขายสารพัดอย่าง
เห็นแล้ว มีน้องที่เดินกับผมว่า มันไม่ใช่อาชีพนะที่ทำ แต่มัน
ไม่รู้จะจัดอยู่ในส่วนไหน ของอาชีพ หรือ รายได้เสริมเลย
อนาคตเด็ก เสี่ยงเหมือนกันนะครับ กับการแขวนชีวิตข้างถนน
น้องต้วมเตี้ยม...แมนส์ ครับ
สวัสดีครับ คุณสันติสุข
อ่านหลายความเห็นแล้วรู้สึกหดหู่ยังไงไม่รู้นะครับ ... สงสัยต้องกลับไปจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของผมอย่างเอาจริงเอาจังเสียที ที่โรงเรียนว่าแย่ก็ไม่ถึงขนาดนี้นะครับ สงสารประเทศไทยจังพัฒนาไม่ถูกที่เหมือนเกาไม่ถูกที่คันยังไงยังงั้นเลยนะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ณรงเดช
เด็กเร่ร่อนก็น่าสงสาร แต่ลูกของครูและผู้บริหารที่เร่ร่อนงานเยอะบ้างาน
มุ่งแต่สานนโยบายไม่ได้กลับบ้านก็น่าสงสารไม่แพ้กันเลย
คุณดวงเกษมสุข ครับ
> เราภูมิใจที่เราสามารถปลูกข้าวที่มีคุณภาพดีที่สุด
> เราภูมิใจที่สามารถส่งข้าวได้เยอะที่สุดในโลก จนกลัวประเทศอื่นๆ จะมาแย่ง
> เราภูมิใจในความเป็นครัวโลก
> เราภูมิใจในการเป็นผู้ให้ เป็นเมืองแห่งการให้
> เราภูมิใจในการเป็นประเทศเกษตรกรรม
> เราภูมิใจในความเป็นประเทศการค้า ไคร่ค้า ค้า ใคร่ขาย ขาย
>>>>>>>>>>>>> แล้ว ใยเด็ก กลุ่มนี้ เขาเป็นอนาคตของชาติหรือไม่ แล้วเขาเป็นอะไรของชาติครับ
ไม่มีไครสามารถจัดการเด็กกลุ่มนี้ ได้เลย หรือ.................
ต้วมเตี้ยม.....แมนส์........