ประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 7-ปัจจุบัน (การเปลี่ยนแปลงการปกครอง)


การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475

ประวัติศาสตร์ไทยสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ สมัยรัชกาลที่ 7(หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง)

………………….

1. การบริหารกิจการบ้านเมือง 

            รัชกาลที่ 7 ทรงดำริที่จะมอบอำนาจการปกครองบ้านเมืองแก่ประชาชน ทรงฝึกหัดข้าราชการและราษฎรให้เข้าใจการปกครองตนเอง โดยตั้งสภานครบาลที่ประจวบคีรีขันธ์ ทำหน้าที่ดูแลการปกครองท้องถิ่นแถบนั้น นอกจากนั้นทรงตั้งสภาต่างๆ ดังนี้

            1. อภิรัฐมนตรีสภา ประกอบด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ชั้นผู้ใหญ่ 5 พระองค์ มีหน้าที่ถวายคำปรึกษาราชการแผ่นดินแก่พระมหากษัตริย์

            2. องคมนตรีสภา ประกอบด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และขุนนางทั้งในและนอกราชการที่มีความสามารถ 40 คน มีหน้าที่ประชุมรับโครงการตามพระราชดำริไปวินิจฉัยเสนอความคิดเห็นในสภา

            3. เสนาบดีสภา ประกอบด้วยเสนาบดีกระทรวงต่างๆ สภานี้มีกษัตริย์เป็นประธาน

            4. สภาป้องกันพระราชอาณาจักร เป็นสภาที่ทำหน้าที่ดำเนินนโยบายป้องกันประเทศ ติดต่อประสานงานกับกระทรวงฝ่ายธหารและพลเรือนที่เกี่ยวข้องในการดูแลบ้านเมือง เช่น กลาโหม ทหาร มหาดไทย คมนาคม และพาณิชย์ สภานี้มีกษัตริย์เป็นสภานายกและพระบรมวงศ์เธอ ดำรงพระยศสูงสุด เป็นอุปนายก

            5. สภาการคลัง มีหน้าที่ตรวจตราวินิจฉัยงบประมาณแผ่นดินและรักษาผลประโยชน์การเงินของประเทศ คอยวินิจฉัยการคลังเสนอต่อพระมหากษัตริย์ และทำหน้าที่เกี่ยวกับการคลังตามพระราชดำรัสของระมหากษัตริย์ สมาชิสภาประกอบด้วยเสนาบดีคลัง ราชเลขาธิการ และสมาชิกที่ทรงคุณวุฒิอีก 3 คน

            6. ราชบัณฑิตยสภา ประกอบด้วยแผนกวรรณคดี โบราณคดี และศิลปากร

2. การจัดการปกครอง 

            - การปกครองส่วนกลาง ได้ยุบกระทรวงเหลือ 10 กระทรวง คือรวมกระทรวงทหารเรือเข้ากับกระทรวงกลาโหม และรวมกระทรวงโยธาธิการเข้ากับกระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดงานซ้ำซ้อน

            - การปกครองส่วนภูมิภาค ใช้นโยบายดุลยภาพยุบรวมตำแหน่งปลัดมณฑล อุปราชประจำภาค มณฑลบางมณฑล จังหวัดบางจังหวัดให้รวมเป็นอำเภอ เพื่อลดค่าใช้จ่ายอันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลกอันเป็นผลมาจากสงครมโลกครั้งที่ 1

            - เริ่มทดลองจัดดำเนินการปกครองแบบเทศบาล ที่หัวหินและชะอำ

3. การเตรียมการพระราชทานรัฐธรรมนูญ 

            ภายหลังจากที่รัชกาลที่ 7ทรงเสด็จกลับจากอเมริกา ทรงมอบหมายให้พระยาศรีวิศาลวาจาและนายเรมอนด์ สตีเวนส์ (ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แต่ถูกพระบรมวงศานุวงศ์ทัดทานไว้

4. การเปลี่ยนแปลงการปกครอง วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475

            - หลังจากที่รัชกาลที่ 7 เสด็จกลับจากสหรัฐอเมริกาเพื่อรักษาดวงตาแล้ว และได้โปรดให้ผู้ชำนาญทางกฎหมายข้างต้นร่างรัฐธรรมนูญถวายให้ทันในวันฉลองพระนครครบ 150 ปี คือวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2475 แต่ได้ถูกทัดทานไว้ดังกล่าว พระองค์จึงนำร่างรัฐธรรมนูญนั้นไปพิจารณาใหม่ที่พระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ แต่ต่อมาในวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 ได้มีคณะบุคคลประกอบด้วย ทหารบก ทหารเรือ และพลเรือนส่วนหนึ่ง ซึ่งใช้ชื่อว่า      "คณะราษฎร์" โดยมี พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา เป็นหัวหน้า ได้ทำการยึดอำนาจการปกครอง ประกาศเปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตย

            พฤติการณ์การปฏิวัติ

            - วันที่ 24 มิถุนายน  2475  คณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ

            - วันที่ 25 มิถุนายน  2475  คณะราษฎร์ได้ทำหนังสือทูลเชิญรัชกาลที่ 7 เสด็จนิวัติพระนคร

            - วันที่ 27 มิถุนายน  2475  ประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับแรกของไทย เรียกว่า " พระราชบัญญัติธรรมนูญการปกครองแผ่นดินสยามชั่วคราว"

            - วันที่ 28 มิถุนายน  2475  เปิดประชุมสภาเป็นครั้งแรก

            - วันที่ 10 ธันวาคม  2475  พระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับถาวร

5. สาเหตุของการปฏิวัติ 

            1. ระดับการศึกษาของประชาชนสูงขึ้น ก่อให้เกิดความคิดและความต้องการประชาธิปไตย

            2. เห็นตัวอย่างการปฏิวัติการปกครองจากประเทศใกล้เคียง เช่น จีน ญี่ปุ่น

            3. หนังสือพิมพ์ลงบทความกระตุ้นให้ประชาชนต้องการได้ประชาธิปไตยและสิทธิเสรีภาพของตน

            4. เศรษฐกิจตกต่ำตามภาวะหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ราษฎรต้องว่างงานมากและข้าราชการบางส่วนถูกปลดออก จึงเกิดความไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้น

            5. นักศึกษาไทยจากต่างประเทศมีมากขึ้น ได้เห็นรูปแบบและศึกษาวิธีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยของประเทศต่างๆ ในยุโรป

 

6. หลักการ 6 ประการของคณะราษฎร์ในการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

            1. รักษาเอกราชทางการเมือง การศาล และการเศรษฐกิจของประเทศ

            2. รักษาความปลอดภัย จะรักษาความปลอดภัยภายในประเทศให้โจรผู้ร้ายน้อยลง

            3. เศรษฐกิจ จะจัดหางานให้ทุกคนทำ และวางโครงการเศรษฐกิจของชาติเพื่อความสุขสมบูรณ์ของราษฎร

            4. ความเสมอภาค ให้ราษฎรมีสิทธิเสมอกัน

            5. เสรีภาพ ให้ราษฎรมีเสรีภาพในขอบเขตของกฎหมาย

            6. การศึกษา จะให้ราษฎรได้รับการศึกษาอย่างทั่วถึง

 

จงตอบคำถามต่อไปนี้ 

            1. การก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน  พ.ศ.2475 นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศขณะขั้นมีความเข้าใจและสนับสนุนบ้างหรือไม่อย่างไร

            2. สาเหตุของการปฏิวัติข้อใดที่เป็นเหตุผลอันนำไปสู่การปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองมากที่สุด และมีเหตุผลอย่างไร

7. เหตุการณ์ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง 

            ก. คณะราษฎร์ดำเนินการตามนโยบายที่กำหนดไว้แต่ไม่บรรลุผลเท่าที่ควรเพราะ

                        1. เกิดการแย่งชิงอำนาจกันเองในหมู่คณะราษฎร์และเกิดกบฏบ่อย

                        2. คณะราษฎร์เกิดความคิดเห็นแตกแยกกันในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม

                        3. ผู้แทนราษฎรไม่มีบทบาทในฐานะตัวแทนของประชาชน

                        4. ประชาชนได้รับการศึกษาน้อยไม่เข้าใจรูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย

            ข. วิกฤติการณ์หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

                        1. เกิดความยุ่งยากทางการเมืองเนื่องจากความคิดเห็นขัดแย้งในคณะรัฐบาลเกี่ยวกับเค้าโครงการเศรษฐกิจของหลวงประดิษฐ์มนูธรรม พระยามโนปกรณ์นิติธาดา นายกรัฐมนตรีขณะนั้น กับรัชกาลที่ 7 วินิจฉัยในเค้าโครงเศรษฐกิจตรงกันว่าดำเนินการตามหลักของสังคมนิยม

                        2. พระยามโนปกรณ์นิติธาดาออกคำสั่งห้ามข้าราชการและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เข้าเป็นสมาชิกสมาคมที่เกี่ยวข้องกับการเมือง

                        3. พระยามโนปกรณ์นิติธาดาประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎรและออก พ.ร.บ. การกระทำอันเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นผลให้หลวงประดิษฐ์ต้องลี้ภัยออกนอกประเทศ

                        4. พ.อ.พระยาพหลพลพยุหเสนา ทำรัฐประหารยึดอำนาจรัฐและขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี หลวงประดิษฐ์มนูธรรมเดินทางกลับและเข้าร่วมในคณะรัฐมนตรี

                        5. เกิดกบฏบวรเดช โดยคณะผู้ก่อการมีวัตถุประสงค์ที่จะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง แต่ถูกปราบได้ กบฏครั้งนี้มีผลต่อรัชกาลที่ 7 เพราะคณะราษฎร์คิดว่ารัชกาลที่ 7 สนับสนุน

                        6. รัชกาลที่ 7 เสด็จไปรักษาดวงตาที่ประเทศอังกฤษและทรงสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ.2477

                        7. คณะรัฐบาลและสมสชิกสภาผู้แทนราษฎรได้อัญเชิญพระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอานันทมหิดล ขึ้นครองราชย์ และได้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2489

                        8. พระเจ้าน้องยาเธอพระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดชได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อมาจนถึงปัจจุบัน  

8. รัฐธรรมนูญหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 

            นับแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ.2475 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ประเทศไทยได้ประกาศใช้รัฐธรรมนูญมาแล้ว 18 ฉบับ รัฐธรรมนูญที่ถูกยกเลิกไปส่วนใหญ่เกิดจากการปฏิวัติรัฐประหาร รัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบันเป็นฉบับที่ 18 ซึ่งร่างขึ้นโดยสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีที่มาจาก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ก่อนประกาศใช้ได้มีการทำประชาพิจารณ์ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคมม พ.ศ.2550 เรียกว่า "รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550" สาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันสรุปได้ดังนี้

            1. รัฐและการปกครอง ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้ มีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยโดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้

            2. อำนาจอธิปไตย มาจากปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภา ใช้อำนาจบริหารผ่านทางรัฐบาลและทรงใช้อำนาจตุลาการผ่านทางศาล

            3. รัฐสภา ประกอบด้วย วุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร

                        3.1 วุฒิสภา ประกอบด้วยสมาชิก จำนวนรวม 150 คน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งในแต่ละจังหวัด จังหวัดละ 1 คน และมาจาก การสรรหาเท่ากับจำนวนรวมข้างต้นหักด้วยจำนวนสมาชิกวุฒิสภาทีมาจากการเลือกตั้ง

                        3.2 สภาผู้แทนราษฎร ประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 500 คน โดยเป็นสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งแบบแบ่งเขตเลือกตั้งเขตละ 1 คนจำนวน 380 คน และสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อจำนวน 120 คน เป็นผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยการเกิด สังกัดพรรคการเมืองพรรคเดียวนับถึงวันเลือกตั้งติดต่อกันไม่น้อยกว่า 90 วันถ้ากรณียุบสภาผู้แทนราษฎรและจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปต้องสังกัดพรรคการเมืองพรรคเดียวไม่น้อยกว่า 30 วัน อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี วาระดำรงตำแหน่ง 4 ปี  ทำหน้าที่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย ออกกฎหมาย ควบคุมการบริหารราชการแผ่นดิน  ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานรัฐสภาโดยตำแหน่ง

            4. คณะรัฐมนตรี ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี 1 คน และรัฐมนตรีอื่นอีกไม่เกิน 35 คน นายกรัฐมนตรีต้องแต่งตั้งจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรีต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์ การศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี ไม่เป็นสมาชิกวุฒิสภา คณะรัฐมนตรีที่จะเข้าบริหารราชการแผ่นดินต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาโดยไม่มีการลงมติความไว้วางใจ การสิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีเมื่อความเป็นรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรีสิ้นสุดลง อายุของสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุด คณะรัฐมนตรีลาออก

            5. ศาล รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้แบ่งศาลไว้ 4 ประเภทคือ

                 5.1 ศาลรัฐธรรมนูญ มีอำนาจหน้าที่ในการวินิจฉัยประเด็นข้อขัดแย้งระหว่างรัฐธรรมนูญกับกฎหมายอื่น วินิจฉัยปัญหาเรื่องขอบเขตอำนาจขององค์การทางการเมืองต่างๆ วินิจฉัยเรื่องการขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามของกรรมการการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และรัฐมนตรี  วินิจฉัยเกี่ยวกับมติ หรือข้อบังคับของพรรคการเมืองที่ขัดหรือแย้งกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และหน้าที่อื่นๆที่เกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ประกอบด้วยคณะตุลาการรวม 15 คน

               5.2 ศาลยุติธรรม มี 3 ชั้นคือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีซึ่งต้องดำเนินการตามกฎหมายในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์

               5.3 ศาลปกครอง มีอำนาจหน้าที่พิจารณาพิพากษาคดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือราชการส่วนท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่อยู่ในบังคับบัญชาหรือในกำกับดูแลของรัฐบาลกับเอกชนหรือระหว่างหน่วยงานของรัฐด้วยกัน

              5.4 ศาลทหาร มีอำนาจหน้าที่ในการพิจารณาคดีที่ผู้กระทำความผิดเป็นทหารและทำความผิดในเขตทหาร

จงตอบคำถามต่อไปนี้ 

  1. นับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 จนถึงปัจจุบัน ระบบการเมืองการปกครองของประเทศมีความมั่นคงเรียร้อยดีหรือไม่อย่างไร
  2. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบันนักเรียนคิดว่ามีความเป็นประชาธิปไตยและมีความเหมาะสมกับประเทศไทยหรือไม่อย่างไร
หมายเลขบันทึก: 305271เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2009 15:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 22:33 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สรุปเนื้อหากระชับดี อ่านเข้าใจ

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับเนื้อหาดีๆ

เนื้อหานี้อ่านเข้าใจ ได้ใจความ ขอบคุณค่ะ

  • สวัสดีครับ คุณIco64
  • มาเติมเต็มความรู้ครับ
  • ยินดีที่ได้รู้จักครับ

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมตรับ

ขอขอบคุณสำหรับเนื้อหาค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท