แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีฉลู รัตนโกสินทร์ศก ๒๒๗
แวะมาเยี่ยมครับ
ว่าจะแลกเปลี่ยนด้วย แต่นึกไม่ออกว่าจะเขียนไงดี
แล้วจะแวะเข้ามาใหม่ครับ
สวัสดีครับคุณพี่
พอดี บล็อกของผมยังสร้างไม่เสร็จดีครับ
เราไม่ได้เอาขี้เลื้อยมาเพาะน้ำเต้านะครับ
เราเอามาเพาะเห็ดครับ
แค่ระหว่างทางที่เราไม่ฟาร์มนะครับ
เห็นน้ำเต้ามันลูกใหญ่ครับ เลยถ่ายมา
^_^
ครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณคุรพี่มากนะครับ
ที่ให้คำแนะนำ
ถ้าผมทำเสร็จแล้ว
อย่าลืมมาดูของผมนะครับ
ขอบคุณครับ
ครับ
ยังไงก็ขอขอบคุณคุรพี่มากนะครับ
ที่ให้คำแนะนำ
ถ้าผมทำเสร็จแล้ว
อย่าลืมมาดูของผมนะครับ
ขอบคุณครับ
สวัสดีค่ะ
ตามมาทักทายและขอบคุณที่ไปเยี่ยมเยือนค่ะ
มาอ่านบันทึกนี้แล้ว....รู้สึกหลายอย่างประดังกันขึ้นมาค่ะ...
ร้องโอ้โห ไม่ธรรมดาเชียวนะ...
ก็ตัวเองน่ะ ไหนจะเป็น ผู้หญิง ไหนจะเรียนจนเกินปริญญาตรี ไหนจะทำงานด้านการศึกษา (แม้ไม่ได้เป็นครู แต่ก็อยากเป็นล่ะ) อายและไม่อยากคิดถึง ...
"ซาก...ที่ปราศจากจิตวิญญาณ" สะท้อนใจเกินไป...
แต่ก่อนเคยเบื่อ ๆ ผู้หญิงเป็นไงนักหนานะ แม่ก็คอยกรอกหูทุกวัน เป็นผู้หญิงต้องเรียบร้อย จะกิน เดิน นอน นั่ง ยืน พูด ยิ้ม ไปไหนต้องสำรวม ไอ จาม หาว เรอต้องปิดปากให้เรียบร้อยนะ (เพื่อนไม่เห็นต้องทำอย่างเรานี่นา) ยิ่งหนักคือ ต้องมีผ้าเช็ดหน้าติดตัว ห้ามใช้กระดาษทิชชู่ (แม่คงรณรงค์เรื่องโลกร้อน) ห้ามหวีผม เสยผมต่อหน้าสาธารณะ (ไม่สุภาพ) ห้าม ๆ ๆ ๆ
ครั้นมาเรียน...จบแล้ว ต้องรับใช้มวลชนนะ อย่าเป็นทาสนายทุนล่ะ ต้องมีอุดมคติ อย่าลืมหลงนะ....เฮ้อ...ก็เคยคิดเสียเมื่อไหร่กัน จบได้ก็บุญ (หัว) แล้ว
ทำงานไปสักพัก...เกิดคำถามว่า เออนะ เราทำอะไรอยู่เนี่ย เรียนมาแทบล้มประดาตาย มาทำแค่นี้เองเหรอ.....
โอ...มีคำถามอีกมากค่ะ นี่แค่ที่ตั้งกับตัวเอง...ตอบได้ไม่หมด แต่ก็ตอบไปบ้างแล้วค่ะ
ความจริง "คนกับสังคม" ต้องเดินไปพร้อม ๆ กัน ... จึงจะไปได้ด้วยดีและมีความสุข หากคน(ปัจเจก) มุ่งมั่น แต่สังคมยังยึดโยงกับผลประโยชน์ กับบริโภคนิยม กับแสงสีเสียง ความสุขจากวัตถุ เงินทอง ชื่อเสียง เกียรติยศแล้ว....
คนก็อาจต้อง...ยอมศิโรราบต่อ...กระแสสังคมนั้น
อย่าว่าแต่จะตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบที่ดีให้กับสังคมเลย...ตอบตัวเองก็ยังไม่ได้ อึดอัดขัดใจจะแย่แล้ว....
ขอบคุณค่ะ
(^__^)
สวัสดีครับ คุณMan In Flame
คุณเกษตร(อยู่)จังหวัด
สวัสดีครับ คุณคนไม่มีราก
สวัสดีครับ คุณมนัญญา..
บางทีแม่เฒ่าอาจไม่ได้คิดลึกซึ้งในระบบการศึกษาเท่าคุณสามสักก็ได้มั้ง พอดี กลอนมันพาไป ....อย่าเพิ่งเครียดเลยนะ ของดีดี ก็ยังมีอีกมากนะจ๊ะ
วานนี้ได้เป็นลูกศิษย์ติดตามพระอาจารย์ไปที่รัฐสภา
จึงนำเรื่องราวด้านการศึกษานี้มาฝากครับ
ฝ่าวิกฤติการศึกษาไทยในสังคมโมหะภูมิ (33378.59 Kb)
การศึกษาไทยในสังคมโมหะภูมิ เป็นตัวเร่งให้สังคมไทยล่มสลายเร็วขึ้น
เราจะฝ่าวิกฤติเหล่านี้ไปได้อย่างไร หากไม่แก้ที่ต้นเหตุคือการศึกษาของคนในชาติ ?
ทั้งหมดนี้ไม่สามารถเห็นผลได้ในเวลาเพียงไม่กี่วัน หรือตามนโยบายด่วนได้ของฝ่ายการเมือง
แต่ต้องใช้เวลาเป็น10ปี เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ให้หลุดพ้นจากภาวะของสังคมโมหะภูมิ และแน่นอนว่า ต้องใช้เลือดใหม่ล้างเลือดเก่า!!
หาก ครูและนักการศึกษา โชคดีที่ได้มีโอกาสฟัง ไฟล์นี้จบ ตลอด 2 ชั่วโมง ท่านจะเห็นว่า ภาพรวมของสังคมเราอยู่ในภาวะโมหะภูมิและวิกฤติเช่นไร?
..........................................................................................................................
พระ ราชาตรัสว่า "..เหตุการณ์ในวันนี้แสดงความจำเป็น นับแต่อุปราช จนถึงคนรักษาช้างรักษาม้า และนับจากคนรักษาม้าจนถึงอุปราช และโดยเฉพาะเหล่าอำมาตย์ ล้วนจาริกในโมหภูมิทั้งนั้น พวกนี้ขาดทั้งความรู้ทางวิชาการ ทั้งความรู้ทั่วไป คือความสำนึกธรรดา พวกนี้ไม่รู้แม้แต่ประโยชน์ส่วนตน พวกนี้ชอบผลมะม่วง แต่ก็ทำลายต้นมะม่วง " ความตอนหนึ่งจากพระราชนิพนธ์เรื่อง พระมหาชนก ...........................................................................................................................
ปูทะเลย์มหาวิชชาลัย คือทางออก ทางรอดของประเทศชาติ ....ที่พระองค์ทรงชี้ทางด้วยปริศนาธรรม ในพระมหาชนก
http://blog.palungjit.com/uploads/d/dhammav/4054.wma
ตามเสียงบ่นยายเฒ่ามาค่ะ
แม่เฒ่าคงจะหวังกับระบบการศึกษามากเกินไปหน่อย ใบปริญญาที่ได้รับเป็นสิ่งบ่งบอกว่าผ่านการทดสอบความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมา ไม่ได้บ่งบอกถึงระดับสติปัญญาในด้านอื่นๆ บัณฑิตบางคนจึงเป็นบัณฑิตเฉพาะในนาม...หากจิตใจและพฤติกรรมหาใช่บัณฑิตที่แท้จริง
อ่านบันทึกจบชักสงสัยว่าถ้าเป็นลูกชาย ยายเฒ่าจะบ่นว่าอย่างไร? (หรืออาจจะไม่กล้าบ่นเพราะกลัวบาทาบุตรชายกระทืบ?)
ผู้หญิงดื่มเหล้าดูไม่งาม แต่ผู้ชายดื่มเหล้าเป็นการเข้าสังคม? งานเลี้ยงฉลองต้องมีเหล้า? กุลสตรีสมัยนี้หาได้น้อยมาก เพราะมีสิทธิเท่าเทียมกันมากขึ้น บางคนจึงใช้พฤติกรรมการเที่ยวกินดื่มเพื่อเป็นการเข้าสังคมและบ่งบอกถึงความเท่าเทียม....แถมร้านเหล้ารอบๆ มหาวิทยาลัยก็เยอะซะด้วยสิ
อ้อ มองอีกแง่หนึ่ง...ยายเฒ่าอาจจะต้องหันมามองตนเองบ้างว่า การที่ลูกสาวมีพฤติกรรมเช่นนั้น เกิดจากการอบรมเลี้ยงดูของยายเฒ่าเองด้วยหรือไม่ เพราะลูกสาวเรียนปริญญาตรี 4 ปี แต่อยู่กับยายเฒ่ากว่า 20 ปี...อย่ามัวไปโทษแต่สิ่งอื่นเลยค่ะ อาจจะต้องย้อนกลับมามองดูตัวเองบ้างว่าเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกแล้วหรือยัง
ขอบคุณนะคะ...ดาวเองก็ชักจะทำตัวเหมือนยายเฒ่า ชอบบ่นมากขึ้นทุกวันๆ 555
สวัสดีค่ะ...คุณสามสัก
ขอร่วมคิดด้วยนะค่ะ...ครูนกขอเพิ่มอีกQ จากเรื่องของคุณยายเฒ่า...
AQ ;Adversity Quateint เป็นความความสามารถในการเผชิญปัญหาและอุปสรรค สามารถบริหารจัดการกับชีวิตในภาวะวิกฤติ ด้วยมีสติ และสามารถเปลี่ยนวิกฤติให้เป็น โอกาส มองความล้มเหลวเป็นบันไดสู่ความสาเร็จ มองปัญหาเป็นพลังชีวิต มองโลกด้วยความคิดเชิงบวก ด้วยความหวัง สามารถยืนหยัดอย่างทรหด อดทน แข็งแกร่งและไม่ยอมแพ้...เพราะการที่เธอใช้ชีวิตแบบเที่ยวกลางคืน กินเหล้าเมายา..แม้ว่าจะเพียง spy แต่แสดงว่าเธอบริหารจัดการชีวิตแบบขาดสติ...แพ้คุณยายแบบราบคาบค่ะ...ซึ่งเปี่ยมไปด้วยQ ทั้ง 5Q.....อ่านแล้วก็....จะพยายามสอนศิษย์ให้มีครบทุก Q ค่ะ
สวัสดีค่ะ
มาฟังเสียงบ่นของยายเฒ่าค่ะ
น้องดาวมาเม้นซะครบรสเลยนะคะ
แล้ว.....ตกลงตอนเช้าคุณสามสักได้แวะไปดูตามคำแนะนำของท่านเกษตรอยู่จังหวัดหรือเปล่าคะ
.....และมีบ้านเรือนคน ตั้งอยู่ตรงนั้นหรือเปล่า......บรื๊อ.........