ปริญญา...แห่งสวนโมกข์


 

ตายก่อนตาย.....

เป็นคำที่ฟังยาก...แต่ถ้าเข้าใจได้ก็จะวิเศษ

เพราะที่จริง....เราคิดว่าเรามีอยู่  แต่พอร่างกายเราแตกดับเราก็คิดว่าเราตาย

แต่จริง ๆ หากเห็นว่ามันไม่ได้มีเรา  มันก็ไม่มีอะไรตาย

ก็เท่ากับตายตั้งแต่แรกเริ่มเดิมที 

ตายตลอดเวลา เรียกว่าตายก่อนตาย

  • ตายเมื่อตาย  ย่อมกลาย  ไปเป็นผี      ตายไม่ดี  ได้เป็นที่  ผีตายโหง

ตายทำไม  เพียงให้  เขาใส่โลง                  ตายโอ่โถง  นั้นคือตาย  เสียก่อนตาย

  • ตายก่อนตาย  มิใช่กลาย  ไปเป็นผี      แต่กลายเป็น  สิ่งที่  ไม่สูญหาย

ที่แท้คือ  ความตาย  ที่ไม่ตาย                    มีความหมาย  ไม่มีใคร   ได้เกิดแล 

  •  คำพูดนี้  ผันผวน  ชวนฉงน                เหมือนเล่นลิ้น   กะลาวน  คนตอแหล

แต่เป็นความ  จริงอัน  ไม่ผันแปร               ใครคิดแก้   อรรถได้    ไม่ตายเอยฯ

พุทธทาสภิกขุ

"ปริญญาแห่งสวนโมกข์"  วัดธารน้ำไหล 

สวนโมกขพลาราม  อ.ไชยา  จ.สุราษฎร์ธานี


                      

 

ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม

บัณฑิตไม่หวั่นไหวเพราะนินทาหรือสรรเสริญ

แม้ถูกทุกข์กระทบ  ถึงพลาดพลั้งลง

บัณฑิตก็คงสงบได้

และไม่ทิ้งธรรม  เพราะชอบหรือชัง 

 

                            

 

ผมคิดอยู่เสมอว่า...อะไรคือความสิ้นสุดของการมีชีวิตอยู่

ทำไม....เราต้องสูญสิ้นหรือแตกสลายไป

เดี๋ยวนี้....ความคิดเปลี่ยนไป

การตายก่อนตาย....อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

แต่การตายก่อนตายเป็นข้อเตือนสติของผม

ให้ระลึกถึงทุกครั้ง..ว่า   เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้เพื่ออะไร....

อย่าเพียงแต่พูดว่า...ช่างหัวมัน  หรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

ขอเพียงให้รู้ว่า  แก่นแท้ของชีวิตอยู่ตรงไหน...แค่นี้ก็สุขใจ

 

Today1


 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 268264เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2009 12:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2014 00:24 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (21)

สวัสดีค่ะพี่แสง

กอเคยบอกพี่ซวงว่า

กอใช้ชีวิตโดยคิดว่า เป็นชีวิตหลังความตาย

แต่พี่ซวงพูดคำนี้เหมือนในบันทึกนี้ของพี่แสงเลยค่ะ

ตายก่อนตาย

มันเหมือนกันหรือต่างกันยังไงค่ะ

ชีวิตหลังความตาย กับตายก่อนตาย

  • เป็นข้อคิดที่ดีๆๆ
  • มหา เคยติดเหล้าเหมือน " ฟัก" ในคำพิพากษา
  • เลิกได้ ไปถือศิล 8 ที่วัดในเทศกลาเข้าพรรษา ต้องแอบไปกลัวคนอื่นเขาว่า
  • ทำไมต้องอายที่จะทำความดี
  • ปัจจุบัน มหา ใส่ชุดขาวออกบ้านไปถือศีลด้วยความภาคภูมิใจ จนมีคนให้ฉายาและเรียกว่า มหา ทั้งที่บวชพระ 15 วัน
  • ความตายก็เช่นกันถ้าเราทำความดีไว้แล้วเราก็พร้อมตายและก็มั่นใจว่าก่อนไกล้ตายจะไม่ต้องเสียดายเวลาที่จะทำความดี
  • ขอให้มีความสุขกับการทำงาน

ทักทายยามฝนกระหน่ำก่อนอาหารเทียงค่ะคุณแสง

 

....  เคยอ่านหนังสือ หลายๆ เล่มที่กล่าวถึง ความตาย  ...  มาอ่านบันทึกนี้ เหมือนได้ทบทวน เตือนสติค่ะ

...  คิดถึงหลายๆ ท่าน เช่นติช นัท ฮันน์  ท่านคานธี กอ่นนี้จะไม่กล้าแม้กระทั่งจะ พูดถึง เรื่องทำนองนี้ค่ะ

แบบกลัวๆ มากๆ  ตอนนี้พูดถึงได้ แต่ก็ยังไม่อยากตายค่ะ เพราะโลกนี้มหัศจรรย์ และยังมีเรื่องรื่นรมย์ อีกมากมาย

ความฝันหลายอย่าง ยังไม่ได้เริ่ม  J     ...  ให้ เพลิดเพลินทุกโมงยาม มีความสุขวันกลางสัปดาห์นะคะ J

  • ตามมาอ่าน
  • ไม่ได้ดูภาพชุดนี้นาน
  • ตายก่อนตาย
  • แต่ชอบอันนี้ด้วยครับ
  • ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม   บัณฑิตไม่หวั่นไหวเพราะนินทาหรือสรรเสริญ

    แม้ถูกทุกข์กระทบ ถึงพลาดพลั้งลง  บัณฑิตก็คงสงบได้  และไม่ทิ้งธรรม  เพราะชอบหรือชัง

ท่านพุทธทาสประดิษฐ์คิดคำสอนธรรมะได้ดีมากเลยนะครับ

   - ตายก่อยตาย  

   - เช่นนั้นเอง  

    -  กูไม่เอากับมึงอีกแล้วโว้ย 

     -  ตัวกูของกู

     - ไม่ยึดมั่นถือมั่น

สวัสดี ครับ คุณก้านกอ

ผมอาจไม่ใช่ผู้รู้ว่า

ชีวิตหลังความตาย   กับ  การตายก่อนตายต่างหรือเหมือนกันอย่างไร

แต่วันนี้ ผมรู้แต่เพียงว่า...  ผมจะทำอย่างไร ให้ชีวิต มีค่า

โดย ยึดหลักธรรม คำสอนในสิ่งที่ผมยึดน้อมมาใช้ เพียงให้รู้ว่า

ไม่ว่าเราจะตายก่อนตาย หรือการอยู่หลังความตาย นั้นต่างกันหรือไม่

แก่น หรือกะพี้ ...จะแตกต่างกัน ตรงที่ เรานำไปใช้และปฏิบัติอย่างไร

ให้เกิดคุณค่าต่อตัวเองและผู้อื่น

เอาเป็นว่า...ทุกวันนี้เราอยู่ร่วมกับเค้า....เดินไปด้วยกัน

คุณก้านกอ กับผม มาทิ้งร่องรอยของเค้าให้มีคุณค่ากันดีมั้ย ครับ

 

สวัสดีค่ะ  อ่านบันทึกนี้แล้ว  รู้สึกว่าเราต้องทำตัวเราให้มีคุณค่า  เพื่อคุณค่าแห่งชีวิตของเราเอง

สวัสดีครับ คุณP

2. เหรียญชัย เหรียญชัย มาวงษ์
เมื่อ จ. 15 มิ.ย. 2552 @ 12:23

*******************************

ผมภูมิใจในตัวคุณ แทนใครหลายๆ คนละแวกนั้น ด้วยครับ

รูปลักษณ์ภายใน เป็นสิ่งประเสริฐสุด แต่รูปลักษณ์ภายนอก อาจบ่งบอกคำเชื้อเชิญ...  ให้ศรัทธายิ่งขึ้น

ไม่เสียดายเลย...กับวันเวลาที่ล่วงเลยไป

เพราะ คุณเหรียญชัย...บอกผมเพียงว่า ความตายก็เช่นกันถ้าเราทำความดีไว้แล้วเราก็พร้อมตายและก็มั่นใจว่าก่อนไกล้ตายจะไม่ต้องเสียดายเวลาที่จะทำความดี

และผมอยากบอกต่อ...ในบันทึกนี้ว่า...ผมศรัทธาในจริต ของคุณ

ไม่เรียกร้องให้ท่านอื่น ศรัทธาตาม...เพราะการทำความดี มีความหมายอยู่ในตัว 

รูปธรรม....  เกิดจากนามธรรม ดี ๆ ที่อยู่ในหัวจิตหัวใจ

การเรียกร้อง สิ่งนี้ได้  ต้องเกิดจากจิตใจที่ถวิลหา....

ฝนตก...ไม่ทั่วฟ้า  เวลาไม่รอใคร  หว่านพืชใยต้องหวังผล

ปริญญาไหน ๆ ก็สู้ปริญญาชีวิตไม่ได้

แต่....ปริญญาแห่งสวนโมกข์....  บอกขอบเขตถึงแก่นแท้ ๆ ของใบเบิกทาง

 

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี... ตายก่อนตาย ก่อนตายทำอะไรอยู่ อยากบอกว่าก่อนตายเราควรค้นหาความสุขที่ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใครแต่มีคุณค่ากับผู้อื่นแสดงว่าการที่ไม่เดือดร้อนแก่ใครๆเป็นการทำความดีใช่ไหมคะ อาจจะดีสำหรับเรา.. ขอบคุณธรรมโอวาทดีดี..อ่านแล้วชวนคิดดีจริงๆ ฝากกำลังใจมาพร้อมหัวใจดวงนี้นะคะ

  • คุณแสงแห่งความดี สมชื่อจริง ๆ ค่ะ
  • มองเห็นแง่มุมชีวิตหลายด้าน  มีความเข้าใจทั้งธรรม และโลก
  • ไม่มองข้ามสิ่งที่ใคร ๆ อาจละเลย 
  • สิ่งใดที่ตั้งใจไว้ ขอให้สำเร็จนะคะ 
  • เป็นกำลังให้กันและกันเสมอค่ะ

 

สวัสดีค่ะ  มีความสุขนะคะ

ห่วงใย

สวัสดีจ๊ะ   ตามมาขอบคุณบทความดีดีที่ส่งไปให้ 

เป็นอะไรที่ทำให้รู้ว่า  ใช่เลยจิตวิญญาณแห่งความเป็นครู  เดี๋ยวจะนำไปเปิดให้นักเรียนอ่านนะจ๊ะ  เค้าจะได้รู้ว่ายังมีอีกหลายคนที่ไม่มีโอกาสเท่าพวกเค้า  จะได้ฮึกเหิมตั้งใจเรียนให้มากกว่านี้จ๊ะ

ขอบคุณค่ะ

  • เจริญมรณสติทุกลมหายใจที่รู้ตัว เป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งค่ะ
  • แวะมาร่ำลาไปเฮ็ดการงานต่อค่ะ  ขอให้มีความสุขทุกวันค่ะ
  • คนที่มีกุศลจิตต่อเนื่องตลอดเวลา หน้าใสนะคะ...

สวัสดีค่ะ

ตามมาอ่านค่ะ

ตายก่อนตาย

ไม่ยึดมั่นถือมั่น

ถ้าหลายๆคนปฏิบัติได้...มีความสุขสงบเป็นแน่แท้

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีจ๊ะ  แวะมาให้กำลังใจจ๊ะ

อ่านแล้วอนุโมทนาสาธุค่ะ

เราควรหัดที่จะตาย ก่อนตาย...

ฝากกาแฟหอมกรุ่นไว้...ดื่มตอนบ่ายนะคะ

(^___^)

เข้ามาอ่านข้อคิดดีๆค่ะ

ขอให้มีชีวิตที่ตื่นรู้และทำความดีได้ดั่งที่ตั้งใจค่ะ

สวัสดี ครับ คุณP

3. poo
เมื่อ จ. 15 มิ.ย. 2552 @ 12:38

คุณ poo ครับ ...การตายก่อนตาย... เป็นข้อคิดที่งดงาม ข้อคิดหนึ่งที่ผม หวนคิดอยู่บ่อย ๆ

 

เรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ เพื่อ อะไร....

แก่นแท้ของชีวิตอยู่ตรงไหน.....

เมื่อรู้....แค่นี้ก็สุขใจ

ขอบคุณ นะครับ

นึกถึง การตายก่อนตาย----กวีนิพนธ์ของท่านพุทธทาสภิกขุ
ก็คือเรื่อง การบรรลุนิพพานได้ในชีวิตนี้นั่นเองนะคะ
แต่ก่อนนี้  คนไทยที่เป็นชาวพุทธมีความเชื่อว่า การบรรลุพระนิพพานคงต้องรอหลังจากตายแล้ว และต้องเวียนว่ายตายเกิดกันอีกหลายภพชาติจึงจะลุถึงภาวะพระนิพพาน ดังเมื่อมีการทำบุญเสร็จแล้ว และจะตั้งจิตอธิษฐานก็มักอธิษฐานกันว่า 'นิพพานปัจจโย โหตุ เม อนาคตกาเล' (ขอให้บุญที่ข้าพเจ้าทำไว้จงเป็นปัจจัยให้บรรลุพระนิพพานในอนาคตกาลโน้นเทอญ)

แต่ท่านพุทธทาส บอกว่า   คนสมัยพระพุทธเจ้าท่านไม่อธิษฐานกันอย่างนี้ หากแต่อธิษฐานว่า 'ตุมเหหิ ทิฏฐธัมมัสสะ ภาคี โหมิ' (ขอให้ข้าพเจ้าเป็นผู้มีส่วนได้รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมที่ท่านได้บรรลุแล้วด้วยเถิด) พระนิพพานอันเป็นบรมธรรมและอุดมการณ์สูงสุดของพุทธศาสนานั้นอาจเกิดขึ้นได้ ที่นี่ เดี๋ยวนี้ และกับคนทุกคนโดยไม่เกี่ยวกับการบวชหรือไม่บวชแต่อย่างใดทั้งสิ้น

อ่านบันทึกนี้แล้ว  เกิดปัญญาเลยค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณแสงแห่งความดี

กลับมารื้ออ่านบันทึกเก่า ๆ ที่ทรงคุณค่านี้อีกครั้ง...

ยังชอบและติดใจ ด้วย ธรรมะเป็นอกาลิโก ไม่มีวันล้าสมัย ตกยุค...

ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม

บัณฑิตไม่หวั่นไหวเพราะนินทาหรือสรรเสริญ

แม้ถูกทุกข์กระทบ  ถึงพลาดพลั้งลง

บัณฑิตก็คงสงบได้

และไม่ทิ้งธรรม  เพราะชอบหรือชัง

อ่านแล้วได้ยิ้มอย่างมีความสุข ด้วยรับรสของ "ความจริง" คนเรานั้นหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยกับ "โลกธรรม" ทั้งที่พึงใจและไม่พึงใจ ... การได้อ่านข้อธรรมนี้ ช่วยเตือนสติได้เป็นอย่างดีค่ะ

ขอบคุณกับน้ำใจ ความปรารถนาดีที่มีให้เสมอค่ะ

ทำงานให้สนุก รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

(^___^)

มาชวนไปเดินเล่นในเส้นทางอันแสนสงบ อบอุ่นค่ะ...

สวัสดี ครับ อาจารย์P

4. ขจิต ฝอยทอง
เมื่อ จ. 15 มิ.ย. 2552 @ 12:48 


  • ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม   บัณฑิตไม่หวั่นไหวเพราะนินทาหรือสรรเสริญ

    แม้ถูกทุกข์กระทบ ถึงพลาดพลั้งลง  บัณฑิตก็คงสงบได้  และไม่ทิ้งธรรม  เพราะชอบหรือชัง

  • ขอบคุณ อาจารย์ ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท