|
วิสาหกิจชุมชน คือ อะไร... |
คือ การประกอบการโดยคนในชุมชนเพื่อการจัดการ "ทุน"
ของชุมชนอย่างสร้างสรรค์
เพื่อตอบสนองการพึ่งตนเองและความพอเพียงของครอบครัวและชุมชน
|
|
|
ประเภทของวิสาหกิจชุมชน
|
1.วิสาหกิจชุมชนพื้นฐาน ผลิต
แปรรูปการดำเนินการต่างๆเพื่อกินเพื่อใช้ในครอบครัว
ในชุมชนเพื่อตอบสนองความจำเป็นขั้นพื้นฐาน
|
|
2.วิสาหกิจชุมชนก้าวหน้าการดำเนินการอย่างเป็นระบบและด้วยรูปแบบ
|
|
ที่ทันสมัยใช้ทุนและเทคโนโลยีเพื่อตอบสนองชุมชน เครือข่าย
และตลาดในวงกว้าง |
"ทุนชุมขน" มีอะไรบ้าง
|
ทุนชุมชนมีทั้งทุนที่เป็นเงิน ทุนที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ
ป่า
|
|
ทุนที่เป็นผลผลิต ทุนความรู้ ภูมิปัญญา ทักษะต่างๆ ประเพณี วัฒนธรรม
ทุนทางสังคม |
|
หรือความเป็นพี่เป็นน้อง ความไว้วางใจกันของชุมชนเครือข่าย |
|
ความสัมพันธ์ของสมาชิกของชุมชน |
องค์ประกอบของวิสาหกิจชุมชน
|
1.ชุมชนเป็นเจ้าของและผู้ดำเนินการ
|
|
2.ผลผลิตมาจากกระบวนการในชุมชน |
|
3.ริเริ่มสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมของชุมชน |
|
4.มีฐานภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสานกับภูมิปัญญาสากล |
|
5.มีการดำเนินการแบบบูรณาการ เชื่อมโยงกิจกรรมต่างๆ อย่างมีระบบ |
|
6.มีกระบวนการเรียนรู้เป็นหัวใจ
|
|
วิสาหกิจชุมชนแตกต่าง
จากธุรกิจอื่นอย่างไร
|
ธุรกิจอื่นส่วนใหญ่มุ่งแสวงหาผลกำไรเป็นหลักและ
|
|
อาจจะไม่ให้ความสำคัญต่อผลเสียที่อาจเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมและสังคมเท่าที่ควร |
|
แต่วิสาหกิจชุมชนเป็นกระบวนการสร้างสรรค์ทางเศรษฐกิจและสังคม |
|
ของชุมชนเป็นการประกอบการบนพื้นฐานการใช้ความรู้ ภูมิปัญญา |
|
วัฒนธรรม
และการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในชุมชนอย่างรู้คุณค่า |
|
เพื่อการพึ่งพาตนเองของครอบครัว ชุมชน และระหว่างชุมชน |
|
โดยมุ่งประโยชน์ทางสังคมแก่ชุมชนมากกว่าการแสวงหากำไรสูงสุด |
|
มุ่งต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสงบการมีสุขภาพอนามัยและ |
|
คุณภาพชีวิตที่ดีของคนในชุมชนและมุ่งต่อการรักษาระบบนิเวศน์ |
|
์ของสังคมโดยรวม |
เครือข่ายวิสาหกิจชุมชน หมายถึง
|
คณะบุคคลที่รวมตัวกันโดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดทำกิจกรรมอย่างหนึ่ง
|
|
อย่างใดเพื่อประโยชน์ในการดำเนินงานของวิสาหกิจชุมชน |
|
ในเครือข่ายในขณะที่ชาวบ้านทั่วไปและองค์กรพัฒนาเอกชน |
|
ใช้คำนี้เพื่อหมายถึงองค์กรชุมชนต่างๆที่สัมพันธ์กันเป็นเครือข่าย |
|
ความเป็นมาของพระราชบัญญัต |
พระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน พ.ศ.2548 เกิดจากการนำเสนอ
|
ิส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
|
ของตัวแทนเครือข่ายองค์กรชุมชนทั่วประเทศ
ร่วมกับมูลนิธิหมู่บ้าน
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อต้นปี พ.ศ.2544
เพื่อรองรับกระแสการเคลื่อนตัว
ของกระบวนความคิดในการประกอบวิสาหกิจเพื่อการพึ่งตนเองของชุมชน
และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แต่งตั้งตัวแทนเครือข่ายองค์กรดังกล่าว
ร่วมกับผู้แทนหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเป็น"คณะกรรมการพิจารณายกร่าง
พระราชบัญญัติวิสาหกิจชุมชน พ.ศ...."
ในคราวที่มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณา
ยกร่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ใช้ชื่อร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า
"ร่างพระราชบัญญัติวิสาหกิจชุมชน พ.ศ......"
แต่เมื่อทำการพิจาณายกร่างได้
เปลี่ยนมาใช้ชื่อ"ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนพ.ศ....")
ซึ่งคณะกรรมการ
ได้ดำเนินการพิจารณายกร่างแล้วเสร็จเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและที่ประชุมคณะรัฐมนตร
ีได้มีมติอนุมัติหลักการ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2544
ตามที่กระทรวงเกษตร
และสหกรณ์เสนอภายหลังจากมีมติอนุมัติหลักการคณะรัฐมนตรีได้ส่งร่างฯไปยัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อตรวจพิจารณา รายละเอียดตาม ขั้นตอน
ของกฎหมาย
และต่อมาได้เสนอเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาผ่านกระบวนการ
พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ลงมติเห็นชอบ
เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธย
เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2548 โดยพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรี
เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่ม
122
ตอนที่ 6ก เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2548
โดยให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษา คือ ตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
|
กรมส่งเสริมการเกษตรกับ
บทบาทหน้าที่ในการส่งเสริม
วิสาหกิจชุมชน
|
สถานภาพ
1.กรมส่งเสริมการเกษตร
ทำหน้าที่เป็นสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการ
ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
2.อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
ทำหน้าที่เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ
ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
3.ผู้แทนกรมส่งเสริมการเกษตรหนึ่งคน
ซึ่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
เป็นผู้แต่งตั้งเป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
(ผู้แทนกรมการพัฒนาชุมชนอีกหนึ่งคนซึ่งอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชนแต่งตั้ง
เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน)
4.เกษตรจังหวัด
เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
จังหวัดทุกจังหวัด (รวมทั้งกรุงเทพมหานคร)
|
|
|
บทบาท
1.กรมส่งเสริมการเกษตร รับผิดชอบงานด้านธุรการ งานประชุม
การศึกษาข้อมูลและกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการ
ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
2.สำนักงานเกษตรจังหวัด ทำหน้าที่และรับผิดชอบงานตาม (1)
ที่เกี่ยวข้องกับงานของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนจังหวัด
(รวมทั้งกรุงเทพมหานคร)
|
|
หน้าที่และความรับผิดชอบ
กรมส่งเสริมการเกษตรและสำนักงานเกษตรจังหวัด
มีหน้าที่และความรับผิดชอบ
ในงานด้านธุรการ งานประชุม การศึกษาข้อมูล
และกิจกรรมต่างๆที่เกี่ยวกับงานของคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
และคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
พ.ศ.2548มีบทบัญญัติไว้ชัดเจนเกี่ยวกับ
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการและการดำเนินงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน
ดังปรากฏในตารางแสดงประเด็นการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน |
|
|
แนวทางปฏิบัติในการรับจดทะเบียน
วิสาหกิจชุมชนและเครือข่าย
วิสาหกิจชุมชน
|
1.
สำนักงานเกษตรอำเภอและศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร
ประจำตำบล ตรวจสอบว่า ได้รับแบบฟอร์มและกระดาษที่ใช้พิมพ์แบบฟอร์ม
สำหรับใช้ในการจดทะเบียนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดครบถ้วน คือ
สำนักงานเกษตรอำเภอ ต้องมีแบบฟอร์ม สวช.01 – สวช.07 ,
ท.ว.ช.1 , ท.ว.ช.3 และกระดาษสำหรับใช้พิมพ์ ท.ว.ช.2
ศูนย์บริการและถ่ายทอด
เทคโนโลยีการเกษตร ประจำตำบล ต้องมีแบบฟอร์ม สวช.01
2. สำนักงานเกษตรอำเภอ ตรวจสอบโปรแกรมระบบสารสนเทศวิสาหกิจชุมชน
สำหรับใช้ในการจดทะเบียน ทั้งระบบ Offline และ Online
ว่าสามารถใช้งานได้
หากมีปัญหาเรื่องระบบสารสนเทศวิสาหกิจชุมชน
ให้ติดต่อศูนย์สารสนเทศ
โทร. 0-2579-1260 ต่อ 14 - 117
3. สำนักงานเกษตรจังหวัด สำนักงานเกษตรอำเภอ
และศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยี
ีการเกษตรประจำตำบล
ดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นให้กลุ่มเกษตรกร
หรือคณะบุคคลอื่น ๆ
มาจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน
4. เปิดรับคำขอจดทะเบียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอและศูนย์บริการและ
ถ่ายทอดเทคโนโลยี การเกษตร ประจำตำบล โดยมีขั้นตอน ดำเนินการรับ
จดทะเบียน โดยสรุปดังนี้
|
|
4.1 กรณีรับแบบ สวช.01 ที่ศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตร
ประจำตำบล
ให้จัดสารบรรณ
ลำดับเลขรับเรื่องตรวจสอบเอกสารให้ถูกต้องครบถ้วนแล้วนำ
แบบคำขอจดทะเบียน (สวช.01) เสนอนายทะเบียนภายใน 7 วัน กรณีรับแบบ
สวช.01 ที่สำนักงานเกษตรอำเภอ
ให้ผู้รับตรวจแบบคำขอและเอกสารหลักฐาน
หากครบถ้วนจึงลงเลขที่ในช่อง “ คำขอเลขที่” แล้ว login
เข้าสู่ระบบ
ปฏิบัติงานโปรแกรมระบบงานสารสนเทศวิสาหกิจชุมชนเพื่อทำการจองชื่อ
แล้วออกใบรับเรื่อง (ท.ว.ช.1)
4.2 นายทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสารหลักฐานให้แล้วเสร็จ ภายใน 7
วัน
หากถูกต้องครบถ้วนก็จะรับจดทะเบียน
แต่ถ้าพิจารณาแล้วไม่รับจดทะเบียน
ให้นายทะเบียนแจ้งผลการไม่รับจดทะเบียน (ท.ว.ช.7)
ให้ผู้ยื่นคำขอจดทะเบียนทราบ
ภายใน 15 วัน
4.3 เมื่อรับจดทะเบียนให้เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลทำการบันทึกแบบ
สวช.01 ในโปรแกรม
ระบบสารสนเทศวิสาหกิจชุมชน Offline เ มื่อบันทึกเสร็จถึง Online
ส่งข้อมูลให้ส่วนกลาง
4.4
เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลออกรายงานผลการพิจารณารับจดทะเบียน(สวช.01-1)
เสนอ
นายทะเบียนเพื่อปิดประกาศ
4.5 ปิดประกาศข้อมูลวิสาหกิจชุมชนที่รับจดทะเบียน โดยใช้รายงาน
สวช.01-1
พร้อมสำเนาคำขอจดทะเบียน (สวช.01) ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ
หากเป็นการยื่น สวช.01ที่ศูนย์บริการฯ ให้ปิดประกาศ
ทั้งที่สำนักงานเกษตรอำเภอและศูนย์บริการฯ
4.6 หลังปิดประกาศ 7 วัน
หากไม่มีการคัดค้านให้นายทะเบียนออกหนังสือสำคัญแสดง
การจดทะเบียน (ท.ว.ช.2) และเอกสารสำคัญแสดงการดำเนินกิจการ
(ท.ว.ช.3)
พร้อมแจ้งให้ผู้ยื่นแบบคำขอมารับ แต่หากมีการยื่นแบบคัดค้าน
(สวช.02)
และตรวจสอบแล้วพบว่า ขาดคุณสมบัติ นายทะเบียน
สามารถไม่รับจดทะเบียน
และแจ้งผลการไม่รับจดทะเบียน (ท.ว.ช.7) ให้ผู้ยื่นแบบคำขอทราบภายใน 15
วัน
4.7
วิสาหกิจชุมชนหรือเครือข่ายที่ถูกพิจารณาไม่รับจดทะเบียนสามารถยื่นคำขออุทธรณ์
(สวช.06)ต่อคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกจิชุมชนจังหวัด หากคณะกรรมการ
พิจารณาให้รับจดทะเบียนนายทะเบียนต้องดำเนินการรับจดทะเบียน
ภายใน 15 วัน หลังได้รับแจ้ง
5. นายทะเบียนและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถศึกษารายละเอียด
เรื่องการจดทะเบียน
ได้จากคู่มือการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน และเครือข่ายวิสาหกิจชุมชน
ซึ่งได้ลงในเว็ปไซต์ http://smce.doae.go.th ตั้งแต่วันที่ 25
กรกฎาคม 2548
และกรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดส่งคู่มือมาเพื่อเป็นเอกสารประจำตัวนายทะเบียนทุกคน
ภายในเดือนสิงหาคม นี้
6.
กรณีมีข้อสงสัยในเรื่องขั้นตอนและวิธีการรับจดทะเบียนติดต่อสอบถาม
ได้ที่ส่วนทะเบียนและ ข้อมูลวิสาหกิจชุมชน
โทร. 0-2940-6171 หรือ E-mail : [email protected]
|
|
ที่มา |
เสรี
พงศ์พิศ และ สุภาส จันทร์หงษ์.2548.
ข้อควรรู้เกี่ยวกับวิสาหกิจชุมชน.กรมส่งเสริมการเกษตร.ชุมนุมสหกรณ์การเกษตร
แห่งประเทศไทย จำกัด.68 หน้า |
ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติม |
http://smce.doae.go.th/ |
ตอนนี้ เราก็รู้จักกับ วิสาหกิจชุมชน กันแล้ว
ไว้โอกาสหน้า
จะนำความรู้เพิ่มเติมที่เป็นประโยช์แกผู้ที่สนใจมาให้ได้อ่านกันนะค่ะ