ชีวิตสองพ่อลูกที่เป็นลูกแรงงานต่างด้าวที่เกิดในประเทศไทย คิดอย่างไรต่อดี??
คณะนักวิจัยได้รับทราบเรื่องราวของบิ๊กจากคุณโมผู้อุปการะ ซึ่งเล่าให้ฟังว่าได้พบบิ๊กครั้งแรกตอนบิ๊กอายุประมาณ ๕-๖ ขวบ กำลังเดินด้อมๆ มองๆ อยู่หน้าโบสถ์ ที่จังหวัดระนอง เมื่อเข้าไปคุยด้วยก็พบว่าบิ๊กแขนบวม เนื่องจากถูกเพื่อนเตะแขนหัก จึงได้พาไปหาหมอ เมื่อได้คุยกับครอบครัวจึงทราบว่าบิ๊กกำพร้าแม่ อยู่กับพ่อซึ่งมีฐานะยากจน อยากให้ลูกเรียนหนังสือก็ไม่มีโอกาส จึงได้ขอให้คุณโมช่วยให้ลูกได้เรียนหนังสือ คุณโมจึงได้ฝากให้บิ๊กมาเรียนหนังสือและพักอยู่กับบ้านอุปการะเด็กยากจน และกำพร้า ของเอกชนแห่งหนึ่งที่จังหวัดนนทบุรี จนถึงปัจจุบัน
เมื่อเราติดตามไปคุยกับพ่อบิ๊กเพื่อสืบค้นประวัติบิ๊กเพิ่มเติม จึงได้ทราบว่าบิ๊ก หรือชื่อจริงว่าเด็กชายสมชาย ไม่มีนามสกุล เกิดเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๓๗ ที่โรงพยาบาลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เนื่องจากขณะนั้นตนและภรรยาทำงานอยู่กับนายจ้าง ที่จังหวัดพังงา โดยตอนเกิดได้แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่า พ่อเด็กชื่อนายลอง แม่เด็กชื่อนางซิน
พ่อบิ๊ก มีชื่อตามบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทยว่า นายซอมีทอ เป็นคนเชื้อสายกะเหรี่ยง เกิดเมื่อปี ๒๕๐๐ ที่จังหวัดย่างกุ้ง ประเทศพม่า เคยมีบัตรประจำตัวประชาชนพม่าแต่ได้สูญหายไป เนื่องจากไต้ก๋งเรือคนก่อนเอาติดไป เข้ามาทำงานในประเทศไทยครั้งแรกประมาณ ๒๐ ปีก่อน โดยเข้ามาทางด้านเกาะสอง อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พ่อบิ๊กเล่าว่าเหตุที่เข้ามาเพราะอยู่ที่พม่าถูกกดขี่เรื่องการทำงาน ต้องส่งส่วยให้เจ้าหน้าที่ บางครั้งก็ถูกชาวพม่าบางกลุ่มที่เกาะสองรังแก
ภายหลังจากที่บิ๊กอายุได้ ๖ ขวบ แม่ซึ่งเป็นคนสัญชาติพม่าเชื้อสายกะเหรี่ยง ได้ทิ้งบิ๊กไว้กับพ่อตามลำพังและไปแต่งงานอยู่กับสามีใหม่ พ่อบิ๊กพยายามเลี้ยงลูกชายอย่างดี อยากให้เรียนหนังสือไทย แต่เมื่อเป็นไปได้ยากมากเพราะฐานะยากจน ดังนั้นจึงได้ฝากคนรู้จักที่เคยช่วยเหลือตนและลูกยามเจ็บป่วย ให้ลูกได้มีโอกาสเข้าโรงเรียน บิ๊กจึงได้มีโอกาสเข้าเรียนหนังสือ จนถึงปัจจุบันกำลังเรียนชั้น ป.๔ แต่ก็ยังไม่มีเอกสารประจำตัวใดๆ แม้สูติบัตร ทั้งที่เกิดในโรงพยาบาล
พ่อเป็นแรงงานขึ้นทะเบียนกับกระทรวงแรงงานหรือไม่ ?
พ่อมี "บัตรประจำตัวผู้ไม่มีสัญชาติไทย" ก็แสดงว่า เป็นแรงงานต่างด้าวขึ้นทะเบียนนะ ลูกจึงน่าจะมีสิทธิในการร้องขอ "สูติบัตร" ได้นะ
ตรงนี้ สำคัญต้องเช็คนะ
ถ้าเป็นแรงงานจดทะเบียน ก็ต้องมีชื่อใน ทร.๓๘/๑ ซิ
ปัจจุบันพ่อบิ๊กได้รับการต่ออายุใบอนุญาตทำงาน ตามมาตรา ๑๕ (ตามมติ ค.ร.ม.๑๖ พฤษภาคม ๒๕๔๙) แล้ว โดยจะหมดอายุในวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๐
กรณีใบเกิดผมมีประเด็นนิดหนึ่งครับ
แม้ว่าพ่อบิ๊กจะมีใบอนุญาตทำงานและขึ้นทะเบียนกับกระทรวงมหาดไทยก็จริง แต่หากไม่ได้นำชื่อลูกมาแจ้งว่าเป็นผู้ติดตามและลูกเกิดก่อนมีมติครม. เรื่องนี้ในปี 2547 หลายพื้นที่ (รวมถึงตัวสำนักงานทะเบียนราษฎร์ด้วยนะครับ) จะไม่รับแจ้งเกิดให้แก่เด็ก
ประเด็นนี้ผมติดใจมาก เพราะทางทะเบียนราษฎร์บอกว่าที่ทำไม่ได้เพราะเกรงว่าเด็กจะไม่เกิดในไทย (ทั้งที่มีใบรับรองการเกิดจากโรงพยาบาล?) และพ่อแม่ก็ควรพาลูกมาขึ้นทะเบียนแต่ต้น แต่ในความเป็นจริง เวลาภาครัฐมีนโยบายก็ไม่เคยทำความเข้าใจกับตัวแรงงานอย่างจริงจัง พวกเราก็ทำได้ไม่ทั่วถึง (อันนี้ยอมรับจริง ๆ ครับ) แต่หากหลักฐานใบรับรองการเกิดจากโรงพยาบาลยังยืนยันไม่ได้ว่าเด็กเกิดเมืองไทย แล้วจะเอาหลักฐานอันไหนที่น่าเชื่อถือได้หละครับ
กรณีบิ๊กอยากให้เช็คว่าพ่อพาไปจดทะเบียนเป็นผู้ติดตามด้วยหรือไม่
ครั้งที่ 7
วันนี้ นุชได้ไปตามเอกสารของบิ๊กอีกครั้ง และคิดว่าน่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว คราวนี้คุณพรรณี เจ้าหน้าที่พยาบาล เปิดโอกาสให้นุชได้ตรวจเอกสารทะเบียนการคลอด ทั้งปี 2536 ถึง ปี 2538 อย่างละเอียดเลย
พบที่ใกล้เคีนงที่สุด 1 คน ปรากฏชื่อ แม่เด็ก เป็น "นางมามาซีน" ชื่อพ่อเด็ก "นายจอง" เด็กเกิด 18 พฤจิกายน 2536 โดยมีหมอชื่อ พรหม์บูรณ์เป็นคนทำคลอด ในทะเบียนคลอดของโรงพยาบาลตะกั่วป่าที่ดูแล้วใกล้เคียงที่สุด ถึงแม้ว่าวันเดือนปีเกิดจะไม่ตรงกันกับที่พ่อและแม่ของบิ๊กได้แจ้งกับเรา ก็ตาม
และนุชพบว่า ในปี พ.ศ.2536-2538 นั้นมีคนต่างชาติที่มาคลอดในโรงพยาบาลเพียง 30 รายเท่านั้น และก็เป็นคนเชื้อสาย พม่า และมอญ เป็นหลัก นอกนั้นเป็นคนที่ระบุว่าเป็นไทย ถึงจะไม่ได้ระบุสัญชาติก็ตาม
เมื่อสอบถามกับคุณพรรณี ว่าจะสามารถขอคัดสำเนาชิ้นนี้ได้อย่างไร คุณพรรณีแจ้งว่า ถ้าพ่อแม่มีเอกสารถึงแม้ตอนนี้ชื่อไม่ตรงกันก็ลองนำมาก่อน เดี๋ยวจะดูให้
และคุณพรรณีบอกต่อเราอีกว่า ถึงตอนนี้พ่อหรือแม่จะไม่มีเอกสารก็ตาม ทางโรงพยาบาลก็ออกให้ได้ แต่ถ้าเป็นคนพม่าหรือมอญหรือใครฯนั้น ถ้าเขาสื่อสารกับเราไม่รู้เรื่องเขาก็ไปติดต่อทางอำเภอไม่เข้าใจ แต่ถ้ามีคนมาช่วยติดต่อขอหนังสือรับรองการเกิดแทนพ่อหรือแม่เด็กนั้นก็ได้
และนุชถามต่อประเด็นทีว้า เอกสารของ ร.พ.จะมีการทำลายหรือไม่ได้นั้น คุณพรรณี- ตามหลักถ้าเกิน 10 ปี ร.พ.ก็จะทำลายเอกสารปกติ แต่เรื่องรับรองเกิด ก็ยังไม่ทำลายหรอก เพราะจริๆแล้วก็สงสารเหมือนกัน บางคนไม่มีความรู้ ยังไม่เอาเอกสรนี้ไปแจ้งเกิดที่อำเภอ เพราะบางรายเขาคิดว่า หนังสือรับรองการเกิดเป็นใบเกิดของลูกเขา
เดี๋ยวมาต่อคะ
ต่อ
เรากลับไปนำเอกสารของพ่อและแม่บิ๊กมาให้ คุณพรรณี คุณพรรณีจึงบอกว่างั้นเอาตามเอกสารจริงปัจจุบันของแม่พ่อเด็กนะ แล้วคุณก็ลองไปติดต่อที่อำเภอดูแล้วกันว่าเขาจะทำให้หรือเปล่า ทางโรงพยาบาลออกเอกสารให้อยู่แล้วไม่มีปัญหาอะไร .........แล้วจะใช้ชื่อเด็กว่าอย่างไร นุชจึงโทรประสานกับพี่ต้อง สรุปว่า ให้ใช้ชื่อ เด็กชายสมชาย ไม่มีนามสกุล และแล้วคุณพรรณี ก็ได้ออกเอกสาร ท.ร.1/1 ตอน 1 ให้กับเราโดยนุชเซ็นชื่อเป็นผู้รับเอกสารดังกล่าว ......มาคิดๆดูแล้ว ไม่เสียเวลาเลยที่สืบค้นเจอเอกสารเจ้าบิ๊กจนได้มา ถึงแม้ตอนที่เราแจ้งกับคุณพรรณีครั้งแรก คุณพรรณี ให้สัญญานว่าไม่พบก็ตาม เราเข้าใจเพราะเมื่อเราได้มีโอกาสตรวจดูแฟ้มทะเบียนการคลอดของโรงพยาบาล ดูแล้วแถบจะมีรายละเอียดที่ไม่ใกล้เคียงเท่าใดนัก ที่จะทำให้คุณพรรณีหาเจอได้ประสานงานอำเภอตะกั่วป่าในบ่ายวันเดียวกันนั้น หลังจากที่เราได้รับเอกสารหนังสือรับรองการเกิดจากทางโรงพยาบาล ของเด็กชายสมชาย ไม่มีนามสกุล ไม่ระบุสัญชาติ โดยความร่วมมือจากคุณพรรณี นุ้ยสินธุ์ เจ้าหน้าที่พยาบาล โรงพยาบาลตะกั่วป่า อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เรามุ่งตรงไปยังที่ว่าการอำเภอตะกั่วป่า ซึ่งระยะทางไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก เราพบกับท่านปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายทะเบียนและบัตร อำเภอตะกั่วป่า นายนิรุทธ์ เกรียงไกร หลังจากที่เราได้ยื่นเอกสารของบิ๊ก ดังนี้ให้กับปลัดดู 1. หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.1/1) ตอน 1 เลขที่ 919/36 ออกให้วันที่ 6 กันยายน 2549 สถานที่ออกหนังสือรับรอง สถานพยาบาลโรงพยาบาลตะกั่วป่า ระบุ ชื่อ ด.ช.สมชาย - เกิดเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2536 ตรงกับวันพฤหัสบดี เวลา 15.28 น. ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 12 ปีระกา เป็นบุตรลำดับที่ 4 ระบุชื่อบิดา นายซอมีทอ - ระบุชื่อมารดา นางเซ - ระบุชื่อผู้ทำคลอด นายแพทย์สมบูรณ์ สุขุมคัมภีร์ - โดยมีผู้รับอำนาจมอบให้ไปดำเนินการแจ้งการเกิด คือ น.ส.รุจิราพร โชคพิพัฒน์พร 2. หนังสือแจ้งอำเภอตะกัวป่า เรื่องการแจ้งเกิด ที่ พง 0027.2.2/1067 ลงวันที่ 6 กันยายน 2549 ออกโดย โรงพยาบาลตะกั่วป่า ฝ่ายงานบริหารทั่วไป 3. สำเนาแบบรับรองรายการทะเบียนประวัติ ของคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ( ท.ร.38/1) ของ นางเซ - เลขประชาชน 00-8206-105176-6 ออกให้โดย อำเภอคุระบุรี เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2549 ซึ่งเป็นมารดาของ เด็กชายสมชาย - 4. สำเนาบัตรประจำตัวผู้ซึ่งไม่มีสัญชาติไทย นายซอมีทอ - เลขประชาชน 00-8501-127148-0 ออกให้โดย อำเภอเมืองระนอง เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2548 เราจึงได้ข้อคิดเห็นจากท่านปลัดว่า1. เด็กเกิดตั้งแต่ปี 36 แต่ทะเบียนแรงงานพึ่งมี ปี 47 คิดว่าแจ้งเกิดไม่ได้ ระเบียบทะเบียนแรงงานเขาก็ไม่มีให้แจ้งเกิดได้ 2. น่าจะให้รอสำรวจ ระเบียบผู้ไม่มีสถานะฯ แบบ 89 3. อาจให้รอสำรวจเพิ่ม เป็นผู้ติดตามกับพ่อหรือแม่ เหมือนกับคำสั่งเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา4. ลองไปดูว่าตอนพ่อหรือแม่สำรวจ ได้เคยแจ้งว่ามีบุตรเป็นผู้ติดตามหรือไม่ และทำไมไม่บอกว่ามีบุตร5. ทำไมเมื่อเดือนเมษา ที่ผ่านมาไม่มาแจ้ง 6. ที่สำคัญตัวของเด็กไม่ได้อาศัยอยู่ที่อำเภอตะกั่วป่า 7. จริงๆแล้วถ้าเด็กเกิดปกติ คือไม่เกินกำหนด อำเภอรับแจ้งทุกกรณีทั้งมีบัตรและไม่มีบัตร และถ้าเกินกำหนดก็ไม่ต้องสอบพยานบุคคลมาก เพราะมีเอกสารชัดเจน (ปลัดเปรยว่า จริงๆก็คิดไม่ออกว่าจะทำอย่างไร )
จากข้อความเบื้องต้น ขออภัยอีกครั้งคะที่ไม่จัดหน้ากระดาษ
ประเด็นเรื่องที่ประสานกับท่านปลัดอำเภอท่านนี้ ท่านก็บอกกับนุชตรงๆว่า คิดไม่ออกว่าจะต้องทำอย่างไร เพราะไม่มีหนังสือหรือระเบียบที่ชี้ชัดว่าให้แจ้งการเกิดเกินกำหนดได้ ถ้าเป็นเด็กที่เกิดปี 47 แล้วมายื่นคำร้องปี 49 ตามปกติน่าจะทำได้ และปลัดชี้แจงต่อว่า แต่เด็กเกิดปี 36 ก่อนที่จะมีระเบียนแรงงานนี่สิ ผมยังไม่แนใจว่าจะทำได้หรือเปล่า ขอเวลาไปตรวจสอบรายละเอียดก่อน
เห็นได้ชัดคะ
ในฐานะเพื่อนร่วมห้องครูไม่เคยทวงใบเกิดเพราะทราบว่าไม่มี แล้วก็ออกใบเกรดให้ทุกคน ไม่ทราบว่าคุณเอามาจากไหนเรื่องที่ไม่ออกใบเกรดให้คุณได้ไปถามเค้ามาเหรอ
เพื่อนร่วมห้องจะบอกครุดูแลอย่างดีมีอะไรก็ช่วยเหลือ และยังผลักดันให้ไปสอบหอวังนน แล้วไม่ทราบที่คุณโพสอย่างนี้ต้องการอะไร
เราชื่อหมิวและจิจำได้ก็ช่วยออกมาคอมเม้นอะำไรเพราะรู้อยู่แล้วว่าครูออกใบเกรดให้อยู่แล้วไม่งั้นจะเข้าร.ร.อื่นได้เหรอ
อย่ากให้คนพม่ามีบัต