การถนอมสายตา
กรณีผงเข้าตา ไม่ควรขยี้ตาเมื่อมีฝุ่นเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาล้างตา ตามความเชื่อเกี่ยวกับการนวดบริเวณรอบดวงตานั้น ข้อเท็จจริงไม่จำเป็นต้องกดนวดดวงตา หรือกรอกตาไปมา ถ้ามีอาการเมื่อยตา ตาล้า จากการใช้สายตามาก ควรพักสายตาโดยการหลับตาชั่วครู่ หรือมองออกไปไกลๆ
จากข้อมูลที่น่าสนใจเมื่อปี 2548 พบว่าในการสำรวจสุขภาพสายตาของคนไทยโดยกระทรวงสาธารณสุขในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา โดยวิธีตรวจวัดสายตาในกลุ่มวัยแรงงาน ซึ่งมีประมาณ 46 ล้านคน พบว่า 30 เปอร์เซ็นต์ มีสายตาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งสองข้างผิดปกติ คาดว่าลักษณะนี้จะมีคนไทยไม่ต่ำกว่า 14 ล้านคน มีสายตาผิดปกติ ซึ่งยังไม่ทราบแน่นอนว่า ปัจจุบันนี้จะมีสถิติผู้มีปัญหาทางด้านสายตามากขึ้นเพียงใด
ดังนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาสุขภาพดวงตา และการป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับดวงตาด้วยตนเองอย่างถูกต้อง เพื่อลดภาระการสูญเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาความผิดปกติของดวงตา ทำให้มีการมองเห็นที่ปกติ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
สำหรับคำแนะนำในการถนอมดวงตา รศ.พญ.สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า ควรสวมแว่นตาทุกครั้งที่ต้องเจอแสงแดด หรือขับขี่รถยนต์ ในแสงแดดมีแสงอัลตราไวโอเล็ต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตาได้หลายโรค สวมแว่นว่ายน้ำ (goggled) ทุกครั้งขณะว่ายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำยาคลอรีนและเศษผงเข้าตา ควรดูโทรทัศน์ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ และนั่งห่างจากจอโทรทัศน์
นอกจากนี้ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในที่แสงสว่างเพียงพอ และนั่งห่างจากจอ 50-70 เซนติเมตร กะพริบตาบ่อยๆ ปรับแสงหน้าจอและขนาดตัวหนังสือให้พอเหมาะ และดูหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ให้แสงส่องมาจากด้านหลังหรือด้านซ้าย และวางหนังสือห่างจากตาประมาณ 1 ฟุต
กรณีผงเข้าตา ไม่ควรขยี้ตาเมื่อมีฝุ่นเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาล้างตา ตามความเชื่อเกี่ยวกับการนวดบริเวณรอบดวงตานั้น ข้อเท็จจริงไม่จำเป็นต้องกดนวดดวงตา หรือกรอกตาไปมา ถ้ามีอาการเมื่อยตา ตาล้า จากการใช้สายตามาก ควรพักสายตาโดยการหลับตาชั่วครู่ หรือมองออกไปไกลๆ
สำหรับผู้หญิงไม่ใช้เครื่องสำอางปะปนกับผู้อื่น โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตา และไม่ใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุ อีกทั้งการสูบบุหรี่ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตาและปัญหาด้านการมองเห็นมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า ทั้งนี้เพื่อการดูแลสุขภาพตาที่ดี สำหรับบุคคลทั่วไป ควรรับการตรวจตาจากจักษุแพทย์เป็นประจำทุกๆ 1-2 ปี หรือเมื่อรู้สึกว่ามีความผิดปกติของดวงตา
รศ.พญ.สุดารัตน์แนะนำเพิ่มเติมว่า นอกจากแนวทางที่ปฏิบัติข้างต้นแล้ว การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยในการถนอมสายตาได้ นอกจากอาหารหลัก 5 หมู่แล้ว สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตาที่สำคัญคือ วิตามินเอ และวิตามินบี โดยอาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่ ตับ ไข่แดง เนย น้ำมันตับปลา พืชใบเขียว เช่น ใบตำลึง ผักคะน้า ผักโขม ผักชะอม พืชที่มีสีเหลืองทุกชนิด เช่น ฟักทอง มะละกอสุก แครอท อาหารที่มีวิตามินบี ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ เนื้อหมู นม ตับ ไข่ ถั่ว และผักใบเขียว รวมทั้งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง จะช่วยบำรุงจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่นผัก ผลไม้ ข้าวต่างๆ ถั่วต่างๆ บล็อกโคลี่ แครอท ฟักทอง
อย่างไรก็ตามอาการผิดปกติทางตาที่พบบ่อยมากจากการทำงานในยุคนี้ เกิดจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ทำให้มีอาการเมื่อยตา ตาแห้ง เคืองตา แสบตา แพ้แสง ตาพร่า ปวดตา ปวดศีรษะ แต่อาการเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อดวงตา ไม่ทำให้ตาเสีย แพทย์มักให้การรักษาโดยหยอดน้ำตาเทียม และแนะนำให้พักสายตาเป็นระยะ
“การทำงานนอกจากใช้คอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำกับเอกสารที่เป็นกระดาษ ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับกระดาษถนอมสายตาได้ โดยผู้ผลิตมีการนำทฤษฎีเรื่องสีของวัตถุมาเป็นคำอธิบายนั้น ในทางจักษุวิทยายังไม่มีหลักฐานในเรื่องวิทยาศาสตร์ในเรื่องที่ว่าสีของกระดาษจะมีผลต่อสายตา และยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่บ่งบอกว่ากระดาษมีผลต่อสายตา ปัจจัยความสว่างของแสงน่าจะช่วยให้สบายตามากกว่าปัจจัยเกี่ยวกับประเภทของสีกระดาษ ดังนั้นในการทำงานเอกสารหรือการอ่านหนังสือจึงควรทำในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ จัดห้องทำงานให้มีแสงสะท้อนน้อยที่สุด จะทำให้สบายตา และใช้สายตาได้นาน” รศ.พญ.สุดารัตน์สรุป
สำหรับคำแนะนำในการถนอมดวงตา รศ.พญ.สุดารัตน์ ใหญ่สว่าง หัวหน้าภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า ควรสวมแว่นตาทุกครั้งที่ต้องเจอแสงแดด หรือขับขี่รถยนต์ ในแสงแดดมีแสงอัลตราไวโอเล็ต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคตาได้หลายโรค สวมแว่นว่ายน้ำ (goggled) ทุกครั้งขณะว่ายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำยาคลอรีนและเศษผงเข้าตา ควรดูโทรทัศน์ในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ และนั่งห่างจากจอโทรทัศน์
นอกจากนี้ ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในที่แสงสว่างเพียงพอ และนั่งห่างจากจอ 50-70 เซนติเมตร กะพริบตาบ่อยๆ ปรับแสงหน้าจอและขนาดตัวหนังสือให้พอเหมาะ และดูหนังสือในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ให้แสงส่องมาจากด้านหลังหรือด้านซ้าย และวางหนังสือห่างจากตาประมาณ 1 ฟุต
กรณีผงเข้าตา ไม่ควรขยี้ตาเมื่อมีฝุ่นเข้าตา ให้ล้างด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาล้างตา ตามความเชื่อเกี่ยวกับการนวดบริเวณรอบดวงตานั้น ข้อเท็จจริงไม่จำเป็นต้องกดนวดดวงตา หรือกรอกตาไปมา ถ้ามีอาการเมื่อยตา ตาล้า จากการใช้สายตามาก ควรพักสายตาโดยการหลับตาชั่วครู่ หรือมองออกไปไกลๆ
สำหรับผู้หญิงไม่ใช้เครื่องสำอางปะปนกับผู้อื่น โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่ใช้กับดวงตา และไม่ใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุ อีกทั้งการสูบบุหรี่ ยังเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคตาและปัญหาด้านการมองเห็นมากกว่าคนทั่วไปถึง 2 เท่า ทั้งนี้เพื่อการดูแลสุขภาพตาที่ดี สำหรับบุคคลทั่วไป ควรรับการตรวจตาจากจักษุแพทย์เป็นประจำทุกๆ 1-2 ปี หรือเมื่อรู้สึกว่ามีความผิดปกติของดวงตา
รศ.พญ.สุดารัตน์แนะนำเพิ่มเติมว่า นอกจากแนวทางที่ปฏิบัติข้างต้นแล้ว การออกกำลังกายและการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์จะช่วยในการถนอมสายตาได้ นอกจากอาหารหลัก 5 หมู่แล้ว สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสายตาที่สำคัญคือ วิตามินเอ และวิตามินบี โดยอาหารที่มีวิตามินเอ ได้แก่ ตับ ไข่แดง เนย น้ำมันตับปลา พืชใบเขียว เช่น ใบตำลึง ผักคะน้า ผักโขม ผักชะอม พืชที่มีสีเหลืองทุกชนิด เช่น ฟักทอง มะละกอสุก แครอท อาหารที่มีวิตามินบี ได้แก่ ข้าวซ้อมมือ เนื้อหมู นม ตับ ไข่ ถั่ว และผักใบเขียว รวมทั้งอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณสูง จะช่วยบำรุงจอประสาทตาเสื่อมได้ เช่นผัก ผลไม้ ข้าวต่างๆ ถั่วต่างๆ บล็อกโคลี่ แครอท ฟักทอง
อย่างไรก็ตามอาการผิดปกติทางตาที่พบบ่อยมากจากการทำงานในยุคนี้ เกิดจากการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ทำให้มีอาการเมื่อยตา ตาแห้ง เคืองตา แสบตา แพ้แสง ตาพร่า ปวดตา ปวดศีรษะ แต่อาการเหล่านี้ไม่เป็นอันตรายร้ายแรงต่อดวงตา ไม่ทำให้ตาเสีย แพทย์มักให้การรักษาโดยหยอดน้ำตาเทียม และแนะนำให้พักสายตาเป็นระยะ
“การทำงานนอกจากใช้คอมพิวเตอร์แล้ว ยังมีงานอีกมากมายที่ต้องทำกับเอกสารที่เป็นกระดาษ ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับกระดาษถนอมสายตาได้ โดยผู้ผลิตมีการนำทฤษฎีเรื่องสีของวัตถุมาเป็นคำอธิบายนั้น ในทางจักษุวิทยายังไม่มีหลักฐานในเรื่องวิทยาศาสตร์ในเรื่องที่ว่าสีของกระดาษจะมีผลต่อสายตา และยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่บ่งบอกว่ากระดาษมีผลต่อสายตา ปัจจัยความสว่างของแสงน่าจะช่วยให้สบายตามากกว่าปัจจัยเกี่ยวกับประเภทของสีกระดาษ ดังนั้นในการทำงานเอกสารหรือการอ่านหนังสือจึงควรทำในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ จัดห้องทำงานให้มีแสงสะท้อนน้อยที่สุด จะทำให้สบายตา และใช้สายตาได้นาน” รศ.พญ.สุดารัตน์สรุป
คำสำคัญ (Tags): #สุขภาพสายตา
หมายเลขบันทึก: 121467เขียนเมื่อ 23 สิงหาคม 2007 09:58 น. ()ความเห็น (1)
วีระชัย 0898152781
ขณะนี้ มีการค้นคว้าจนสามารถผลิตยา ที่สามารถป้องกันและแก้ปัญหา "โรควุ้นในตาเสื่อม" และ โรคต่างๆ เกี่ยวกับ ดวงตาได้แล้ว
เข้าไปดูที่ veerachai.wellness21.com
หรือ www.wellness21.com