วันนี้ (๑๔ ต.ค. ๕๐) ผมได้มีโอกาสคุยกับคุณทวีสิน แห่งบริษัทปูนซีเมนต์ไทย ที่เป็นจ้าวยุทธจักรการพัฒนาองค์กรแห่งการเรียนรู้ของภาคเอกชน ที่ทุกคนยกย่องนับถือในระดับชาติ
ในห้องพักของครูบาสุทธินันท์ ที่โรงแรมรามาการ์เดน กรุงเทพมหานคร
การคุยแรกเริ่มก็พูดถึงขีดจำกัดของ การพัฒนาการจัดการความรู้ในประเทศไทย ที่มีแนวโน้มที่จะมองข้ามความเป็นจริงของการจัดการความรู้ในสังคมไทย และทำให้เกิดการพัฒนาที่อาจไม่ค่อยสอดคล้องกับความเป็นจริง ในหลายประเด็น และ ที่สำคัญๆ ได้แก่
1. การจัดการความรู้เป็นเรื่องของธรรมชาติ ในทุกระบบ เป็นจริง ไม่ใช่ความบังเอิญ แต่น่าจะเป็นการจัดการความรู้แบบธรรมชาติ
2. การจัดการความรู้แบบธรรมชาติ (KM ธรรมชาติ) มีอยู่แล้วโดยทั่วไป
3. ทุกคนมีการจัดการความรู้อยู่แล้ว ไม่งั้นคงไม่อยู่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน แต่ก็อาจมีบ้างที่ไม่ชัดเจนในเป้าหมายของชีวิต
4. ทุกคนมีเส้นแบ่งระหว่างความรู้เดิมที่จัดการแล้ว และความรู้(หรือข้อมูล)ใหม่ที่อยู่ภายนอก
5. การพัฒนาการจัดการความรู้นั้น จะต้องช่วยให้ทุกคนข้ามเส้นแบ่งที่เป็นอุปสรรคในการพัฒนา
6. การก้าวข้ามต้องใช้พลังงาน ความพยายามและเวลา
a. การพัฒนาจิตใจเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ก่อนการพัฒนาความรู้ หรือ การจัดการความรู้
7. แม้จะมีบางคนถูกกล่าวหาว่าทำไม่ดี หรือถูกประณาม แต่ก็ไม่มีใครอยากทำไม่ดี ไม่ถูกต้อง หรือเป็นคนเลวในสังคม
8. การทำไม่ถูกต้อง มาจากการขาดความเข้าใจ ความรู้ ความสามารถ และทรัพยากรที่เหมาะสม
9. การจัดการความรู้ จึงควรเน้นการสนับสนุนให้เขาก้าวข้ามเส้นแบ่งที่เป็นขีดจำกัดการจัดการความรู้ที่ดี หรือที่เหมาะสมจะเป็นคนดีของสังคม
10. การเรียนรู้ที่สำคัญๆเกิดจากความผิดพลาด (worst practice) มากกว่าความสำเร็จ (best practice)
11. แม้คนที่อยากจะพัฒนาก็ยังจำเป็นต้องมี “พื้นที่ว่าง” (buffer zone) ของชีวิตในการ “ลอง” ที่ไม่เกิดความเสียหาย แม้พลาดก็ไม่เสียหายต่อชีวิตและองค์รวมของการพัฒนาที่เป็นอยู่มากจนเกินไป
12. ทุกคนต้องมี “พื้นที่ว่าง” ทางความคิด ทรัพยากรและเวลา ที่จะลองทำสิ่งใหม่ และการจัดการความรู้
13. การสนับสนุนให้เกิด “พื้นที่ว่าง” ของชีวิตจึงเป็นสิ่งสำคัญเริ่มต้น ก่อนการจัดการความรู้จริงๆ
14. การ “อำนวย” ให้เกิดการเรียนรู้จึงเป็นการสนับสนุนให้แต่ละคน “ขยายพื้นที่ว่าง” ในชีวิตของแต่ละคน
15. คุณอำนวย ที่จะทำเรื่องการสนับสนุนจะต้องเคยผ่าน เคยทำ และพัฒนาตัวเองด้านการจัดการความรู้มาแล้ว ไม่ใช่มาโดยสถานะทางสังคม หรือตำแหน่งใดๆ
นี่คือการจัดการความรู้ที่ควรทำ ควรเริ่ม และควรสนับสนุนให้เกิดในสังคมไทย
ในทุกลำดับชั้นครับ
ท่านออด
ชมมากเดี๋ยวเหลิงนะครับ
นี่แค่หัวข้อที่จะไว้บรรยายขยายผลนะครับ
ขอคุยซะเลย (ได้ที ครับ)
กราบสวัสดีครับท่านอาจารย์
เอาภาพมาเชื่อมให้ครับ จะได้เข้าบรรยากาศครับ
(2ผู้สันทัดกรณีมาคุยกันในห้อง ผมก็ยังไม่ได้ฟัง)
ปล.คุยกันได้สาระแบบนี้ แถมนอกเวลาราชการอีกด้วย ทำให้ผมเห็นว่า เครื่องตอกบัตรหรือเครื่องครอบเวลาการเข้าทำงานมันไร้ค่าไปเลยครับ
กราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้ท่านทั้งสองได้เจอกันครับ
ขอปรับใหม่ให้เข้ากับบทความครับ
คือ ขอบคุณความน่าจะเป็นที่มีค่าเป็น 1 ทำให้สองท่านมาเจอกันครับ เพื่อให้เข้ากับชื่อบทความ... ความน่าจะเป็น..ของ การจัดการความรู้ครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณครับครูนง
ผมคิดว่า เราคงชัดเจนขึ้นนะครับ