"..คุณค่าที่แท้จริงของความเป็นมนุษย์ กำหนดได้จากความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ที่คนผู้นั้นแสดงออกอย่างอิสระโดยไม่มีสิ่งใดชักจูง.."
เป็นการนิยามความหมายที่เกี่ยวกับคุณค่าชีวิตของ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ต้องการแสดงให้เห็นว่า แท้จริงนั้น ชีวิตของคนเราไม่มีใครที่จะกะเกณฑ์ให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเองได้ทุกอย่าง ถึงแม้จะบังคับได้ แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นเพียงการตีกรอบทางกายเท่านั้น ส่วนจิตใจที่ซ่อนอยู่ภายในของแต่ละคนยากที่จะคุมขังได้
เพราะโดยความเป็นชีวิตนั้น หากประสงค์ที่จะวัดว่า ความหมายที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ใด คำตอบในความเข้าใจของแต่ละคนก็จะหลากหลายออกไป กระทั่งทำให้หลงทางในเป้าหมายที่กำลังแสวงหาก็มี จนบางครั้งหลงคิดว่า บทสรุปของความมั่งมีด้วยเกียรติยศ ชื่อเสียง ทรัพย์ และวัตถุภายนอกที่มาโอบล้อมตัวเองนั่นแหละ คือ บทสรุปของชีวิตที่ทุกคนกำลังใฝ่หา
แต่ทว่าเมื่อทำความเข้าใจบริบทของชีวิตแล้ว จริง ๆ แล้วชีวิตนั้นตั้งอยู่บนความไม่แน่นอน ทั้งด้านวัตถุภายนอกและอารมณ์ที่สะท้อนความคิดภายใน หากยึดติดอยู่กับความเป็นตัวตนทางวัตถุ หรือติดอยู่กับอารมณ์ที่เราคิดว่าไม่ เมื่อไหร่ เมื่อนั้น ความเป็นตัวตนจะฟูขึ้นมาทับ และปกปิดความจริงของชีวิตในทันที
เมื่อความปรุงแต่งปกคลุมจิตที่ควรได้รับการรู้แจ้งตามความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ตามมาก็คือ ทำให้วิธีการเลือกทางเดินแห่งชีวิตของเราเปลี่ยนไป แทนที่จะทำความเข้าใจชีวิตตามความเป็นจริงให้แจ่มแจ้ง กลับเป็นการเดินออกนอกทาง และคิดว่า ทางที่กำลังหลงนั่นแหละคือ ความจริง ทำให้หลงติดยึดอยู่กับวัตถุของโลก หลงติดยึดอยู่กับมายาอันเป็นเงาแห่งชีวิตว่า นั่นคือความจริง หลงอยู่กับหัวโขนที่ถูกสวมใส่ว่านั่นเป็นตัวตนของตัวเองอย่างเหนียวแน่น และสิ่งที่น่าเป็นห่วงต่อมาก็คือ การเป็นทาสชีวิตโดยที่ยังคิดว่าเราเป็นนายของเขา
เพราะชีวิตที่ชื่อว่าจะก้าวไปสู่ฐานที่เหนือกว่าความหลงนั้น ควรเป็นชีวิตที่ใช้ความเป็นจริงทั้งทางร่างกายให้เป็นไปในแนวทางที่พอเหมาะ และใช้วิถีแห่งใจให้มีความสมดุลในการเกี่ยวข้องกับอารมณ์ โดยไม่มีความรู้สึกว่าอารมณ์ที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นนายของตัวเองแต่อย่างใด แต่ให้เข้าใจด้วยการเกี่ยวข้องอย่างพอเหมาะทั้งทางกายและใจ ให้เกี่ยวข้องกับสรรพสิ่งที่เวียนเข้ามาอย่างรู้เท่าทันด้วยสติ และรู้จักวางท่าทีต่อเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยจังหวะแห่งความรู้สึกที่เบาสบาย ปลอดโปร่งในการที่จะไม่ยึดยื้อให้อยู่กับตัวเอง เป็นแต่เพียงรับรู้แล้วก็ปล่อยไปตามวิถีที่เหมาะสม
เพราะโดยความเป็นชีวิตนั้น ไม่มีใครจะยิ่งใหญ่กว่าใครและไม่สามารถวัดตอนจบด้วยเกียรติยศและชื่อเสียงที่ได้มา แต่อยู่ที่การทำความเข้าใจในปัจจุบันขณะที่กำลังดำเนินไปต่างหากว่า เรามีชีวิตที่ดีงามจากการเรียนรู้ทางกายและใจหรือยัง นั่นจึงชื่อว่า เป็นความยิ่งใหญ่ที่มีอยู่ในแต่ละคนอย่างแท้จริง
ปราชญ์เปรียบเทียบความยิ่งใหญ่ของคนเราไว้ว่า ทุกคนมีความเป็นใหญ่ในตัวเอง ทุกคนสามารถที่จะลิขิตชีวิตด้วยตัวเอง ดั่งอุปมาเปรียบไว้ว่า
"...ดอกหญ้ารู้ว่าตนเองคือดอกหญ้า ยามฤดูใบไม้ผลิที่แสงแดดอบอุ่น จึงออกดอกเมื่อถึงเวลาออกดอก จึงผลิเกสรเมื่อถึงเวลาผลิเกสร จึงโปรยเกสรเมื่อถึงเวลาโปรยเกสร มันมีจิตใจปลอดโปร่งสบาย มีชีวิตอยู่อย่างไร้ความกังวลจนถึงบั้นปลาย ไม่เคยสนใจว่า ต้นไม้ใหญ่ข้างกายที่สูงกว่าร้อยเมตรนั้นมีชีวิตมากี่พันปีแล้ว เพราะฉันไม่ใช่เขา เขาไม่ใช่ฉัน..."
ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากใครคิดว่า บทสรุปที่ได้มาทางวัตถุนั้นเป็นการประกาศความยิ่งใหญ่ และเป็นบทสรุปทั้งหมดของชีวิต มีขณะเดียวที่คนเราควรทำความเข้าใจนั่นก็คือ "ปัจจุบัน"
เพราะปัจจุบันนั้นเป็นทุกขณะของชีวิต ปัจจุบันที่ล่วงเลยมาแล้วเราเรียกว่า "อดีต" ถึงแม้ว่าอดีตเคยได้รับเกียรติมากมายเพียงใด แต่ครั้นเวลาผ่านไป สิ่งที่ได้รับมานั้นก็มิใช่ความจริงอีกต่อไป เป็นเพียงเงาของความจริงที่เคยมีเท่านั้น และสิ่งที่เรารอคอยอยู่เบื้องหน้าต่อจากปัจจุบันที่เรียกว่า "อนาคต" นั้น ก็เปรียบได้กับการไขว่คว้าหมอกควันเพื่อเก็บมาไว้ในครอบครอง ทว่าสุดท้ายก็ว่างเปล่าจากสิ่งที่ต้องการอยู่ดี
แต่สำหรับความจริงที่แต่ละคนสามารถเรียนรู้และประจักษ์แจ้งได้ก็คือ "ปัจจุบัน" เพราะการเกิดขึ้นแต่ละขณะของกายและการหมุนไปของอารมณ์ที่ผ่านเข้ามาภายในจิตใจ นั่นเป็นทั้งต่ออดีตที่ผ่านมา และอนาคตที่ไม่สามารถวาดหวังได้ว่าจะเป็นจริง
จงเรียนรู้ทุกขณะของชีวิตด้วยสติที่มาจากการฝึกฝนอย่างถูกต้อง แล้วจะทำให้เรารู้ว่า บทสรุปของชีวิตนั้นมิได้อยู่ที่ปลายทางของการเกิด และมีจุดจบที่ความตายเพียงอย่างเดียว แต่บทสรุปนั้นอยู่ที่แต่ละขณะที่เราได้เรียนรู้ชีวิตทั้งทางสรรพสิ่งรอบข้าง นั่นต่างหากจึงชื่อว่า เป็นบทสรุปอันยิ่งใหญ่ที่ชีวิตของแต่ละคนควรใส่ใจ ท่ามกลางวันเวลาและความไม่จีรังยั่งยืนของสรรพสิ่ง ที่คอยกัดกร่อนชีวิตของเราให้เสื่อมสลายไป
ชุติปํญโญ (นามแฝง). ถึงชีวิตจะสูญเสีย แต่อย่าให้ใจเสียศูนย์. พิมพ์ครั้งที่ 7.
กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ใยไหม, 2549.
สวัสดี คุณ Wasawat Deemarn
อ่านแล้วรู้สึกว่า ชีวิตนี้ ทำไมมันช่างจริตประดิษฐ์ประดอยปั้นแต่งกันเสียเหลือเกิน ถ้าอย่างนั้น เราจะพบวิถีชีวิตแบบไหนดี ครับ สงสัยผมต้องหาคำตอบจากหนังสือที่ผมกำลังอ่านอยู่ในขณะนี้ เรื่อง เดอะ ท็อป ซีเคร็ต เขียนโดย ทันตแพทย์สม สุจีรา ตามปกหนังสือโปรยไว้ว่า การสร้างภาพแห่งความรู้สึกที่จะทำให้คุณสมหวังทุกความปรารถนา จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้ นะครับ
คุณ Wasawat Deemarn คิดว่าไง ครับ
ช่วงนี้ คุณ Wasawat Deemarn อ่านหนังสืออะไรอยู่ครับ
ดึกทุกคืน นะครับ ผมขอให้ตื่นนอนตอนสายๆก็แล้วกัน เพื่อสุขภาพ ครับ
สวัสดีครับ อาจารย์ทวิช :)
ขอบคุณครับ :)
สวัสดี คุณ Wasawat Deemarn
อย่าลืมดื่มน้ำมากๆ รักษาสุขภาพ ครับ
แวะเข้ามาเยี่ยมค่ะ
อ่านแล้วก็ปลง นี่ถ้าบวชเป็นนางชีได้นะค่ะ บวชไปนานแล้ว อิอิ
สุขสันต์วันสงกรานต์ครับ ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง สดชื่นแจ่มใสครับ
สวัสดีปีใหม่ครับ อาจารย์ สิทธิรักษ์ :)
ขอบพระคุณมาก ๆ ครับ
สวัสดีค่ะ อาจารย์ หนูเพิ่งสึกมาคะ ไปบวชเป็นเนขัมมะมา 7 วันคะ
รู้สึกว่าจิตใจสงบอย่างมาก
ถ้าไม่ห่วง พ่อ แม่ จะว่าจะบวชตลอดไปเลยคะ
เบื่อชีวิตที่ต้องแก่งแย่งกันคะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ อากาศร้อนมากระวังท้องเสียด้วยคะ
สวัสดีครับ คุณครูนฤมล hello_kitty :)
ขอบคุณครับ สำหรับความห่วงใย เราก็เช่นกันนะ :)
สวัสดีค่ะ อ.วสวัตดีมาร
อ่านแล้วนึกถึงวิถีเจไดยังไงชอบกล ^ ^..
ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุข สดชื่น สมหวัง หายร้อนกายและใจ สุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจตลอดไปนะคะ..ธรรมรักษาอาจารย์ีค่ะ
ใกล้จะพักร้อนทางบันทึกแล้วสิคะ ^ ^...ขอให้อาจารย์ค้นพบสิ่งที่แสวงหานะคะ..และบ้านแห่งนี้ยังรอเจ้าของกลับมาดูแลเสมอค่ะ
สวัสดี คุณ Wasawat Deemarn
สวัสดีวันสงกรานต์ ขอให้ คุณ Wasawat Deemarn มีความสุข สุขภาพแข็งแรง ลดการนอนดึก ด้วยนะครับ
ขอบคุณ คุณ เบิร์ด จัง .. ให้คำอวยพร และยังวิเคราะห์ความคิดของผมได้ถูกต้องครับ
ชอบคำว่า "พักร้อนทางบันทึก" ... คำสวยจัง
ขอบคุณจริง ๆ ครับ :) เพราะไม่ขอบคุณปลอม ๆ แน่ ๆ ล่ะ หุ หุ
ขอบคุณ อาจารย์ทวิช วิช ด้วยครับ ... ผมชอบนอนดึกอ่ะสิ ไม่ทราบว่า จะลดได้แค่ไหน ยกเว้นทำงานช่วงกลางวันเหนื่อยมาก อันนี้แหละ หลับแน่ ๆ ครับ :)
ขอบพระคุณและยินดีครับ ท่าน ศน. อาจารย์ เอื้องแซะ :)
วันสงกรานต์ ชวนให้ สำราญจิต
ชวนลิขิต ให้มวลมิตร คิดสร้างสรรค์
สงกรานต์นี้ ชวนทำดี ดีทุกวัน
ร่วมสร้างสรรค์ ร่วมกันสร้าง พลังใจ
สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ
สวัสดีปีใหม่เมือง (ไทย) ครับ คุณ หมอเจ๊ :)
ขอบคุณสำหรับบทความ
หาเข้าอ่านได้ทุกเมื่อไม่มีวันเปิดทำการ
ไม่ต้องยืมหรือคืน
ยินดีครับ คุณ ครูเอ :) .. คู่แข่ง Seven ครับ 55
ขอบคุณครับ
โอ้ คิดได้งัยค่ะ คู่แข่ง SEVEN เอิ้กๆ
อาจารย์หิวใช่ไหมค่ะ กาแฟ seven ก็พอใช้ได้นะค่ะ ( ในยามยาก )
ขอบคุณค่ะ สำหรับรอยยิ้มก่อนนอนค่ะ
ยินดีครับ ... โปรดใช้หัวใจที่เข้มแข็งเลือกรับแต่สิ่งดี ๆ ครับ :)
รอให้หัวใจแข็งตัว จะไปเลือกใหม่อีกครั้งค่ะ อิอิ
คุณ ครูเอ ... คือ ที่เลือกใหม่เนี่ย เลือกอารายเหรอครับ คนสำคัญ หรือว่า ส.ส. อิ อิ :)
ส.ส. มั่งค่ะ อิอิ
ว่าแล้ว ต้องเป็นการเมือง (ที่บ้าน) นี่เอง หุ หุ