น้องยื่นหนังสือเล่มหนึ่งมาให้อ่าน บอกว่า ถ้าผมอ่านแล้วผมจะต้องชอบ
หนังสือชื่อประหลาด "จักรวาล 1x1 เมตร" หมายความว่าอะไรอ่ะ
แถมนามแฝงของคนเขียน คือ "ม.ย.ร. มะลิ" ยิ่งแปลกใหญ่ ไม่รู้จักเฟ้ย
หนังสือเล่มนี้เขาไปรวบรวมอาชีพของคนริมถนนในซอยทองหล่อมาเขียน เรียกว่า "25 นัก..."
เช่น
โห เก็บข้อมูลมาได้ไง เยอะขนาดนั้น สะท้อนให้ถึงเมืองใหญ่มีคนหลายหลากที่เรา ๆ ท่าน ๆ มักจะไม่ได้สังเกต ปล่อยชีวิตให้เดินผ่านพวกเขาไป
คุณ ม.ย.ร. มะลิ เก็บรายละเอียดได้ละเอียดมาก ๆ มีการวาดภาพประกอบให้เห็นถึงสิ่งนั้นจริง ๆ มิใช่ เล่าแค่ตัวอักษรหรือข้อความพรรณนา
แถมเรื่องราวยังทำเหมือน "นักวิจัย" ลงพื้นที่ ยังไงยังงั้น ... ว่าไป "นักวิจัยชุมชน" น่ามาอ่านจัง
อยากนำเสนอให้ท่าน ๆ อ่านสัก 1 นัก... ครับ
ได้แก่
25 นัก.... เรื่องราวเจาะลึกสั้น ๆ แต่ได้ความรู้สึกถึง "ลมหายใจ" ของแต่ละชีวิต ... คุณคิดอย่างผมไหม ?
ใครอยากอ่านต่อ ... ลองไปหาซื้อจากร้านหนังสือดูนะครับ รับรองว่า ได้อะไรมากกว่าที่เห็นแต่ปกที่ดูจะธรรมดา
เรียกว่า "อย่าด่วนตัดสินใจอะไร จากภายนอก" ... ก็ไม่ผิด
บุญรักษา ทุกท่าน ครับ ;)
ขอบคุณหนังสืองาม ๆ
ม.ย.ร. มะลิ, นามแฝง. จักรวาล 1x1 เมตร. กรุงเทพฯ: วงกลม, 2552.
น่าสนใจดีค่ะ
ครูรส
ขอบคุณครับ คุณ yachompoo ;)
เจ๋งอ่ะ หนังสือน่ารักดี อยากซื้อมาอ่านเองแล้วก็ให้หลานอ่านด้วย เป็นการลงไปสัมผัสกับคนที่ทำอาชีพที่เราเคยเห็น แต่ไม่เคยรู้จักรายละเอียดของชีวิตการทำงานเขาจริงจัง ดูข้างนอกก็คิดว่ารู้ว่าเขาทำอะไร แต่รายละเอียดปลีกย่อยนี่น่าสนใจมากทีเดียว
คุณซูซาน Little Jazz วิเคราะห์ได้ถูกต้องแล้วครับ ... อาชีพที่เรามองเห็นนั้น บางทีเรามองแค่ตัวผลลัพธ์ที่ออกมาเท่านั้น แต่อันที่จริงแล้ว แต่ละอาชีพมีรายละเอียดและเทคนิคเฉพาะตัวอีกมากมาย
แต่ที่น่าสนใจ ก็คือ "คน" ที่ประกอบอาชีพนั้น ๆ ชีวิตของแต่ละคน น่าสนใจมาก ๆ ครับ
ขอบคุณมากครับ คุณซูซาน Little Jazz ;)
ขอเพิ่มอีกยาวหน่อย การนำอาชีพต่างๆ มานำเสนอนอกจากอาชีพอันทรงเกียรติในสายตาประชาชีทั่วไปเนี่ย ก็ทำให้ได้รู้ถึงว่าแต่ละอาชีพมีอะไรดี เชื่อว่าทุกอาชีพมีเกียรติของตัวเองทั้งนั้น เพียงแต่คนอื่นจะมองว่ามีเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทัศนคติต่อการมองโลกของแต่ละคน
อยากให้ดูสังคมญี่ปุ่นเป็นตัวอย่าง ลองไปถามเด็กดูสิ ไม่ใช่ทุกคนจะตอบว่าอยากเป็นหมอ พยาบาล ครู ทหาร วิศวกร สถาปนิก แต่จะเจออาชีพแปลกๆ อย่าง อยากเป็นช่างไม้ทำของเล่นจากไม้ อยากทำโยเกิร์ตของฟาร์มที่บ้าน อยากเป็นช่างเป่าแก้ว อยากเป็นคุณแม่บ้านทำของประดิษฐ์ร้อยเยน อะไรทำนองนั้น มันทำให้รู้เลยว่าสังคมเขาให้เกียรติทุกอาชีพ และเด็กก็รู้สึกได้ว่าแต่ละอาชีพมีดี น่าภาคภูมิใจ เลี้ยงชีพได้ และได้ทำตามฝัน ไม่ต้องเดินตาม pattern ที่ระบบการศึกษาขีดและชักนำกันไปตามค่านิยมอย่างบ้านเรา
บ้านเราจบปริญญาเท่านั้นคือใบเบิกทาง แห่กันเรียนเข้าไป จากรร.พาณิชย์หรือช่างกลก็ยกระดับเปิดสอนตรี พร้อมหรือเปล่าไม่รู้ สารพัด...BAC เติมเข้าไปให้เหมือนสถาบันชื่อดัง บรรดาวิทยาลัยครูหรือราชมงคลดั้งเดิมก็ผันตัวเป็นมหาวิทยาลัยหมด มีคนที่มีตำแหน่งวิชาการมาปะชื่อค้ำไว้ก็เปิดศูนย์การเรียนตามห้างได้ คุณภาพมีหรือเปล่าไม่รู้ เอาแต่เงินและปริมาณ แล้วก็แจกกระดาษพิมพ์ลายสวยๆ มีชื่อไปเป็นที่ระลึกให้คนที่จ่ายตังค์ครบสี่ปี เรียนกันห้องละสองสามร้อย รายงานเดี่ยวแทบไม่ต้องพูดถึง อาจารย์จะตรวจไงไหว ก็ copy ส่งกันมาจากเน็ตทั้งนั้น ถ้ามีสปิริตตรวจเข้มหน่อยนักศึกษาประท้วงก็ต้องปล่อยผ่านเพราะกลัวกระทบรายได้สถาบัน
และมักจะเลือกเปิดแต่สาขาที่ตลาดมันล้น ไม่ต้องมีเวิร์คช็อป บรรยายหรือสอนผ่านทีวีอย่างเดียว เปิดกันจัง มนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ บริหาร การจัดการ คอมธุรกิจ ฯลฯ จบมาก็มาเป็นเสมียนบริษัท เซลล์ นายหน้าขายประกัน ขายแอมเวย์ ขายอาหารเสริม พนักงานเคาน์เตอร์เซอร์วิส พนักงานเซเว่น คอลเซ็นเตอร์ ฯลฯ เดี๋ยวนี้เป็นอย่างนี้เยอะจริง เงินเดือนหมื่นนึงก็ดีใจแล้ว คนขายหมูสะเต๊ะหน้าหมู่บ้านที่เราอยู่ได้กำไรเดือนละสองสามหมื่น แบบนี้ถามว่าปริญญากับอาชีพที่ดูเหมือนโก้ใช่สูตรสำเร็จของชีวิตหรือเปล่า อาจจะถึงยุคที่ต้องหันมาดูแล้วว่าปริญญานี่เป็นคำตอบที่เวิร์คมั้ย
แหม คุณซูซาน Little Jazz ;)... ถูกจาย ๆ
"... บ้านเราจบปริญญาเท่านั้นคือใบเบิกทาง แห่กันเรียนเข้าไป จากรร.พาณิชย์หรือช่างกลก็ยกระดับเปิดสอนตรี พร้อมหรือเปล่าไม่รู้ สารพัด...BAC เติมเข้าไปให้เหมือนสถาบันชื่อดัง บรรดาวิทยาลัยครูหรือราชมงคลดั้งเดิมก็ผันตัวเป็นมหาวิทยาลัยหมด มีคนที่มีตำแหน่งวิชาการมาปะชื่อค้ำไว้ก็เปิดศูนย์การเรียนตามห้างได้ คุณภาพมีหรือเปล่าไม่รู้ เอาแต่เงินและปริมาณ แล้วก็แจกกระดาษพิมพ์ลายสวยๆ มีชื่อไปเป็นที่ระลึกให้คนที่จ่ายตังค์ครบสี่ปี เรียนกันห้องละสองสามร้อย รายงานเดี่ยวแทบไม่ต้องพูดถึง อาจารย์จะตรวจไงไหว ก็ copy ส่งกันมาจากเน็ตทั้งนั้น ถ้ามีสปิริตตรวจเข้มหน่อยนักศึกษาประท้วงก็ต้องปล่อยผ่านเพราะกลัวกระทบรายได้สถาบัน ..."
ขอบคุณยามดึกครับ ... :)
อิอิ ..สวัสดีค่ะ
มาอัพเดทหนังสือใหม่ค่ะ
อาจารย์หนอน
ไหงคุณครูเอ มาแบบไม่ LOGIN ล่ะครับ ;)
สบายดีนะครับ
ดีคะ ชีวิตที่หลากหลายของคนบนท้องถนนมุมหนึ่งของ กทม.
เป็นสัจธรรมชีวิตของคนบนโลกนี้นับล้านๆชีวิต
ใครได้รับบทไหนมา ก็รับบทลีลาชีวิตนั้นให้ดีที่สุดนะคะ
โชคดีทุกๆคนคะ
น่ารักจริงๆ ต้องไปหาซื้อมาอ่านแล้วละ ขอบคุณครับ
ขอบคุณมากครับ คุณหญิง วลัยลักษณ์ งามวิไล ;)
ชีวิตทุกชีวิตมีอะไรให้เรียนรู้ ครับ
อย่าฝากไว้นานนะครับ อาจารย์ศิลา Sila Phu-Chaya นพลักษณ์ ๙ ...
รีบมาเอาคืนไว ๆ มาม่า และยำยำ คร้าบ ;)
ขอบคุณ คุณ ตาเหลิม ที่แวะมาเยือนบันทึกนี้ ;)
สวัสดีครับ อ.เสือ
ตามซูซานมาครับ เพราะเชื่อมั่นทั้งซูซาน & อาจารย์เสือ ;-)
บันทึกนี้ทำให้ความคิดเตลิดเปิดเปิงไปหลายอย่างเชียว
- นี่คนเขียนเล่มโจมตีเข้าใจกลางเมืองเลย แต่จับ "คนเล็กคนน้อย" มาเป็นประเด็นอย่างนี้ มีเสน่ห์ดี กลางเมืองใหญ่ ชีวิตก็มีสีสัน มีรายละเอียด มีอารมณ์ ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องเป็นชนบท
- แต่ผู้เขียนก็เห็นเขาในมุมของ "นัก..." อะไรสักอย่างเท่านั้น เพราะแต่ละชีวิต ยังมีมุมอื่นๆ อีกมากมาย เป็นลูก เป็นหลาน เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นเพื่อน....เป็นลูกหนี้ ของคนอื่นรายล้อมตัวเขา ฯลฯ
- ทำไมพี่ดันไปนึกถึงคุณทักษิณก็ไม่รู้ จำได้ว่า คุณทักษิณพยายามทำโรตี 2 ครั้ง ออกทีวี แต่เหวี่ยงยังไง มันก็ไม่แผ่เป็นแผ่น ;-) เป็นความจริงที่ว่า แต่ละงานหรืออาชีพ ล้วนมีทักษะที่ต้องลงมือทำต่อเนื่อง อาจจะเร็ว หรือนาน ก็แล้วแต่ความถนัดของคน
คติในการทำงานของ "พูดกับลูกค้าดีๆ" นี่โดนใจมากๆ กระชับ แต่ตรงเป้าหมายอย่างที่สุด (จริงๆ แล้วนอกจากพูดดีๆ ยังอาจรวมภาษากาย เช่น รอยยิ้มที่ตา + กริยาที่เป็นมิตร อีกด้วยก็เป็นได้ มันต้องไปด้วยกัน)
เห็นด้วยกับ ซูซาน อย่างมากๆ ในเรื่องที่ว่าทัศนคติของคนไทยเกี่ยวกับอาชีพคับแคบเหลือเกิน....
ตอนพี่สอบ Entrance เลือกวิดยาอย่างเดียว...เพื่อนมันถามว่า (ขออภัย) "มรึง...จบแล้วจะไปทำอะไรฟะ" - เฮ้อ!
อูยยย ความคิดเห็นยาว แต่ concept สั้นครับ อิ อิ ;)
25 นัก... นี่ได้ใจครับ สำหรับคนเขียน เข้าใจค้นหาสิ่งใกล้ตัวมาคิด
พี่ชิวเอ็นสะท้านวิดยา ผมอ่ะ ... ศึกษา พี่ว่า ผมจะรอดไม๊เนี่ย 555
ขอบคุณครับ พี่ชิว บัญชา ธนบุญสมบัติ ;)
สวัสดี ยามเย็น เจ้า
เด็ก ๆ น่าจะ ได้อ่านไหม ค่ะ น้องพอ 5 ปี 8 เดือน ค่ะ แบบว่า ดูแล้ว มีภาพ การ์ตูน เจ้า
สบายดี เน้อเจ้า
เด็กระดับประถมศึกษาสามารถอ่านได้ครับ
เป็นหนังสือนอกเวลา ในวิชาการงานพื้นฐานอาชีพยังได้เลยครับ
ขอบคุณครับ คุณ ครูใหม่ บ้านน้ำจุน ;)
สบายดีนิดหน่อยครับ
งามมากครับ อาจารย์ศิลา Sila Phu-Chaya นพลักษณ์ ๙
เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ เกิดมาเพื่อมีความสุข และทำให้ตากล้องมีความสุขด้วย นะครับ ;)
"นายเหงือกลงสรง" หรือครับ ... อิ อิ ... ดูไม่ได้ซะมั้งครับ
เพราะผมชอบ "นางเงือก" มากกว่า ;)
"เกินวัย" หรือครับ หุ หุ ... ผมยังไม่เข้าขั้น ส.ว. นะคร้าบ อาจารย์นพลักษณ์ ๙
สนใจเป็นทนายความประจำตระกูลผมไม๊ครับ อิ อิ ... เกินวัยเจง ๆ
ขอบคุณในความกรุณาครับ ท่านอาจารย์ศิลา Sila Phu-Chaya นพลักษณ์ ๙ ... กฎหมายมีความรู้น้อยเกินไป ทำให้ถูกรังแกอยู่บ่อยครั้ง
มรดกไม่มี มีแต่เรื่องเป็นความคร้าบ อิ อิ
แล้วจะปรึกษาเป็นการส่วนตัว หากทนายเชื่อถือผู้ต้องหา ครับ ;)
ขอบคุณค่ะที่ทำให้รู้จักหนังสือดีๆ
ยินดีและขอบคุณมากครับ คุณ ครูแมว อักษรา ;)...
เล่มนี้เริ่มหายากในท้องตลาดแล้วครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
น่าอ่านค่ะ วันนี้ไปเดินเปิดท้ายมาค่ะ ได้หนังสือเรียนภาษาไทย ตั้งแต พศ 2521 มา 3 เล่มค่ะ พยามยามตามเก็บให้ได้ทุกเล่มตั้งแต่ป.1 - ป. 6 ค่ะ แต่เชื่อมั๊ยคะ ราคาจากหน้าปก 11 บาท เพิ่มมูลค่า เป็น 50 บาท นะคะแต่ก็ซื้อค่ะเพราะตามมานานมาก