ในคืนที่ฟ้ามืดมิดที่สุด คนจึงจะมองเห็นดวงดาวได้ ... (ท่านชุติปัญโญ)


ถ้ารักที่จะมอบความสุข
ให้เป็นกำลังใจแก่ชีวิตตนเอง
อย่าให้สิ่งที่ฉาบฉวยที่ดูเหมือนเป็นความยิ่งใหญ่
แต่ไร้คุณค่าทางความรู้สึกมาปิดบังใจ
แต่จงมอบความงดงามเล็ก ๆ
แต่เป็นความยิ่งใหญ่ของความสุข
มอบให้กับตัวเองด้วยความเอื้ออารี
เมื่อนั้นเราจะได้สัมผัสความสุขที่เรียบง่าย
แต่งดงามในความทรงจำเสมอ

 

 

(http://www.eebah.com/wp-content/uploads/2009/07/night-sky-05.jpg)

 

 

ในสมัยที่เราเป็นเด็ก สิ่งหนึ่งที่เป็นคำถามเมื่อวัยเยาว์ในวันที่มีโอกาสนอนหนุนตักพ่อแม่ก็คือ การเรียกร้องอยากฟังนิทานกล่อมก่อนนอนเพื่อเป็นของขวัญในค่ำคืนก่อนนิทรา ฝ่ายพ่อและแม่ก็ใจดีพอที่จะเล่านิทานโดยยกเอาเรื่องของดวงดาวมาขับกล่อมให้นอนหลับอยู่เป็นนิจ เป็นภาพที่หลายคนโหยหา หรืออาจจะไม่มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศของชีวิตอย่างนี้เลยก็เป็นได้

แต่เมื่อวิถีชีวิตเปลี่ยน การเติบโตของชีวิตจิตใจก็เริ่มเปลี่ยนไปด้วย ความต้องการที่เรียบง่ายในวัยเยาว์ก็เริ่มจางหายไป เพราะเราวิ่งตามกระแสโลกเร็วจนเกินไป วิ่งตามความต้องการที่มากระตุ้นให้ใฝ่แสวงหาสิ่งต่าง ๆ อย่างลืมหูลืมตาไม่ขึ้น จนกระทั่งความสุขและความผ่อนคลายในช่วงจังหวะของชีวิตหล่นหายไป

ความสุขที่ควรได้รับเช่นดั่งเมื่อวัยเยาว์ ที่ได้รับเพียงนิทานของดวงดาวได้หายไปในฉับพลัน เพราะลืมทบทวนคุณค่าที่แท้จริงของการแสวงหานั้นว่า เราต้องการสิ่งใดให้กับชีวิตกันแน่ ? เหตุที่วิ่งวุ่นอยู่นี้ เพื่อความสุขหรือตอบสนองความอยากที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ ? เป็นคำถามที่หลายคนก็ยังสงสัยอยู่ตราบจนปัจจุบัน

 

 

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/995/19995/images/enn/as/91668.jpg)

 

 

เมื่อความต้องการที่เราปรารถนาไม่สามารถตอบโจทย์ของชีวิตให้มีความสุขดั่งที่หมายปองได้ สิ่งสะท้อนให้เห็นก็คือ "ความว่างเปล่าของสมบัติที่มี" เพราะถึงแม้เราจะมีทุกอย่างที่แสวงหามาได้ แต่สิ่งที่มีอยู่นั้น ก็ไม่ได้ให้ความอบอุ่นแก่ชีวิตแต่อย่างใด เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เราต้องเฝ้าถามและทบทวนก็คือ การรู้จักพักกายและใจให้มีความปลอดโปร่งในความรู้สึกภายในแทน โดยการเปรียบเทียบระหว่างความสุขที่ได้จากนิทานกล่อมก่อนนอนของพ่อแม่ และความสุขที่ตอบสนองเป็นก้อนวัตถุว่า สิ่งไหนให้คุณค่าทางจิตใจมากกว่ากัน ภาวะความรู้สึกไหนที่เราควรเพิ่มพูนให้กับชีวิต

 

นิทานกล่อมก่อนนอนในยามราตรีที่พ่อแม่กล่อมโสตเมื่อวัยเยาว์อาจดูเหมือนไร้ค่า เพราะอยู่ไกลโพ้นถึงดาวดวงอื่น อยู่ท่ามกลางความมืดที่ผู้เล่าเองก็ไม่อาจรู้ได้ว่านั่นเป็นเรื่องจริงหรือเป็นเพียงเรื่องเล่า แต่อย่างน้อยในความมืดมิดของราตรีกาล ก็ยังหลงเหลือความรู้สึกที่แบ่งปันให้ได้รับรู้ถึงจินตนาการของความสุขได้ ถึงไม่ยิ่งใหญ่ก็เพียงพอที่จะทำให้เรานอนหลับฝันดีได้เมื่อวัยเยาว์

แม้ว่านิทานกล่อมก่อนนอนในวัยเด็กนั้น อาจจะฟังไม่รู้เรื่อง แต่แสงเรือง ๆ ของดาวดวงน้อยหลาย ๆ ดวงในยามค่ำคืน ก็เพียงพอที่จะทำให้เราและคนที่เรารัก ได้มีโอกาสสัมผัสถึงความอบอุ่นของกันและกัน สัมผัสถึงความรักและความห่วงหาอาทร ที่บางครั้งความสว่างไสวไม่สามารถมอบให้ได้ ถึงใครจะบอกว่าเป็นความมืดมิดในราตรีกาล แต่ระยิบระยับ กระทั่งส่องประกายฉายแสงสว่างแห่งความอบอุ่นที่แต่ละคนมอบให้ซึ่งกันและกันเสมอ เป็นความอบอุ่นที่มากมายในความน้อยนิด

 

 

(http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/257/3257/images/star.jpg)

 

 

แต่เมื่อมองย้อนกลับมาดูวันคืนแห่งการเติบโตของชีวิตบนโลกปัจจุบัน ที่วิ่งวุ่นแสวงหาความสำเร็จและเกียรติยศมาสู่ตัวเอง ซึ่งดูเหมือนว่าทำให้เราได้รับแสงสว่างแห่งการยอมรับจากชาวโลกได้ดี แต่พอมองเข้ามาสู่ชีวิตจิตใจภายในกลับพบว่าเรายังคงเดียวดาย ยังคงต้องการความรัก ความอบอุ่นและความเข้าใจทั้งจากตัวเองและผู้อื่นอยู่เสมอ เปรียบเสมือนตัวเรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างที่เจิดจ้า จนทำให้แสงสะท้อนกลับมาทำลายดวงตาให้พร่ามัว ไม่สามารถที่จะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวได้ชัดเจน ด้วยเหตุนี้ แสงสว่างนั้นจึงชื่อว่าเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิด และความเดียวดายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน

 

ฉะนั้น ถ้ารักที่จะมอบความสุขให้เป็นกำลังใจแก่ชีวิตของตัวเอง อย่าให้สิ่งที่ฉาบฉวยที่ดูเหมือนเป็นความยิ่งใหญ่แต่ไร้คุณค่าทางความรู้สึกมาปิดบังหัวใจ แต่จงมอบความงดงามเล็ก ๆ แต่เป็นความยิ่งใหญ่ของความสุขมอบให้กับตัวเองด้วยความเอื้ออารี เมื่อนั้นเราจะได้สัมผัสความสุขที่เรียบง่ายแต่งดงามในความทรงจำเสมอ

 

เพราะสักวันหนึ่งไม่ว่าเราจะยิ่งใหญ่สักปากใด สุดท้ายก็ต้องกลับลงมาสู่ดิน กลับมาสู่ความเป็นสามัญชนที่เท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์แบบเช่นเดิม แต่ถ้าทำใจไม่ได้ ไม่เคยสัมผัสกับบรรยากาศอีกด้านหนึ่งของชีวิต ที่มีความเงียบสงบซ่อนอยู่ เราอาจจะไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะเห็นดวงดาวแห่งความสุขและความสดใจในใจได้เลย

โปรดดูแลตัวเองอย่างคนเล็ก ๆ แต่ยิ่งใหญ่ด้วยความสุขในใจด้วยเถิด เพราะหากเปรียบการเห็นดวงดาวที่ต้องอาศัยค่ำคืนที่มืดมิดแล้วไซร้ การจะใช้ชีวิตให้มีความสุขสงบร่มเย็นก็เช่นเดียวกัน ต้องอาศัยการกลับมาอยู่กับตัวเอง และอยู่กับธรรมชาติของชีวิตจิตใจจริง ๆ มิใช่ให้ความลวงมาฉาบไล้ให้หลงแต่อย่างใด เมื่อนั้นจะรู้ว่าความสุขที่งดงามได้ซ่อนอยู่ภายในตัวเองของเรานี่เอง

 

 

(http://www.muansuen.com/home/attachment/200906/2/50_12439243416YFz.jpg)

 

 

ราตรีสวัสดิ์...ขอความสุขน้อย ๆ จงผลิดอกออกผลเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ในใจของทุกคน

 

 


 

...

...

...

 

ความว่างจะทำให้เราเข้าใจมากขึ้น โดยเฉพาะตัวของเราเอง

 

บุญรักษา คนดีทุกท่านครับ ;)

 


 

ขอบคุณหนังสือดี ๆ

 

ชุติปํญโญ (นามแฝง).  ถึงชีวิตจะสูญเสีย แต่อย่าให้ใจเสียศูนย์.  พิมพ์ครั้งที่ 7.

             กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ใยไหม, 2549.

 

หมายเลขบันทึก: 321078เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2009 23:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 22:04 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (33)

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ .....

เพราะวางจึงว่าง..... ขอบคุณเรื่องเล่าจากหนังสือดีๆ คนเล่าดีๆค่ะ

ขอบคุณครับ ราตรีสวัสดิ์

สวัสดีค่ะอาจารย์..มาเยี่ยมชมหนังสือ..ถึงแม้ชีวิตจะสูญเสีย..แต่อย่าให้ใจเสียศูนย์..สวยงามและมีข้อคิด..ขอบพระคุณค่ะ..

ขอบคุณมากครับ คุณ ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿ ที่มาเยี่ยมเยือนยามดึก ;)

สวัสดีครับอาจารย์ชื่นชมและขอบคุณสำหรับบันทึกดีๆที่มีคุณค่าตั้งตารออยู่ที่โรงเรียนนะครับ

สวัสดีวันศุกร์ค่ะอาจารย์เสือใหญ่ในดงดอย

เฝ้ามองดาวดวงน้อยระยิบระยับพรับพราวแสง

วันเวลาผันผ่านไปมิเคยมีสิ้นเรี่ยวแรง

เป็นดั่งแสงเทียนเล่มน้อยคอยส่องทาง (ให้นักเรียน)

...

ชอบจังค่ะ เรื่องนี้น่ารักซะ ไม่ค่อยเข้ากับเจ้าของบันทึกเลยแต่ว่า;)

มอหินขาว ชัยภูมิ ... สถานที่ชมดาราพร่างพรายฟ้า ณ ราตรีที่งามค่ะ

 

ขอบคุณค่ะอาจารย์ เข้ามาอ่านทีไรได้อะไรดี ๆ กลับไปทุกครั้ง

..ยังจำได้เลยครับนิทานที่แม่เคยเล่าพร้อมกับแสงตะเกียงดวงเล็กๆในค่ำคืน

..ความสุขที่งดงามซ่อนอยู่ในตัวเองจริงครับ..แต่บางครั้งบางคนยังหาไม่เจอเลยในชีวิตนี้

..ขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ
  • แวะมาทักทายค่ะ
  • มีสุขภาพกายแข็งแรง สุขภาพใจเข้มแข็ง ให้มีแต่ความสุขตลอดปี และตลอดไปนะค่ะ
  • ขอบคุณค่ะ

ขอบพระคุณ ท่าน ผอ.สมบูรณ์ somboon1553 มาก ๆ ครับ ;)

แหม คุณ poo เข้านิดหน่อย ๆ เนอะ อิ อิ

ขอบคุณมากครับ ;)

ยินดีและขอบคุณมากครับ คุณ แก้ว ;)

สิ่งดี ๆ ที่อยู่ในตัวเอง เหลือแต่ค้นพบให้เจอครับ คุณ soraya ;)

ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรนะครับ คุณ บุษรา  ;)

ขอบคุณมาก ๆ ครับ

หุ หุ หุ ตรงไหนหนา หาบ่เจอ ละเมอกะเจ้า เว้ากันซื่อๆ

ถือสัตย์มั่น หรรษาวันหยุด จุดพลุไฟฝัน อิ่มรำโตยกัน

วันหยุด ถ้าว่าง ไปชมดอกไม้ จะได้เข้ากัน ยิ่งขึ้นๆ อิ อิ...

... ได้ข่าวว่ามีงานราชพฤกษ์ฤา ท่านเสือใหญ่ มีความสุขนะคะ

เชียงใหม่ตอนนี้มีงาน "40 ปี โครงการหลวง" ครับ

ส่วนงานมหกรรมราชพฤกษ์ก็มีประจำแหละ ถึงปลายเดือน ม.ค. โน้น

ขอบคุณครับ คุณ poo ;)

  • เห็นภาพเลยและสงสารการเกิดเป็นมนุษย์ของเราหากว่าไม่ทำความเข้าใจกับสิ่งที่มีและเป็นอยู่ค่ะ

เมื่อมองย้อนกลับมาดูวันคืนแห่งการเติบโตของชีวิตบนโลกปัจจุบัน ที่วิ่งวุ่นแสวงหาความสำเร็จและเกียรติยศมาสู่ตัวเอง ซึ่งดูเหมือนว่าทำให้เราได้รับแสงสว่างแห่งการยอมรับจากชาวโลกได้ดี แต่พอมองเข้ามาสู่ชีวิตจิตใจภายในกลับพบว่าเรายังคงเดียวดาย ยังคงต้องการความรัก ความอบอุ่นและความเข้าใจทั้งจากตัวเองและผู้อื่นอยู่เสมอ เปรียบเสมือนตัวเรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางแสงสว่างที่เจิดจ้า จนทำให้แสงสะท้อนกลับมาทำลายดวงตาให้พร่ามัว

  • ชอบประโยคข้างต้นค่ะ โศกซึ้งสะเทือนหัวใจหากได้ใคร่ครวญดี ๆ

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ครับ คุณ @..สายธาร..@ ;)

อาจารย์นพลักษณ์ ๙ Sila Phu-Chaya คือแสงสว่างที่ทำให้ตาพร่ามัว ??? อิ อิ

ขอบคุณทุกสิ่งที่เป็นอยู่ is am are ครับ ;)

                                

ขอสิ่งเลิศประเสริฐใดในโลกหล้า    จงรวมมาพิทักษ์จิตมิตรของฉัน

สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพิภพมาครบครัน     ให้มิตรฉันรับแต่สุขไร้ทุกข์ไกล

 ขอบคุณบทความ ที่เขียนแล้วทำให้คิดคล้อยตามคะ คนเราจะอะไรกันนักกันหนา ตายไปก็เอาไม่ได้  แต่ในชีวิตความเป็นจริง บางครั้งเราก็ต้องสู้เพื่อเกียรติและศักดิ์ศรีคะ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอ ฉะนั้น มันเลยจะไม่คิดนอกกรอบก็ไม่ได้ ตระหนักคือศีลธรรมคะ จะทำอะไรก็ควรมีศีลธรรม หรือไม่ก็จรรยาบรรณ(เขียนถูกหรือเปล่าหนอ) มโนธรรม แต่ทุกวันนี้ก็หายากกันอยู่แล้วคะ

เดี๋ยวนี้สุก็ปล่อยวางแล้วคะ กินเท่าที่มี แต่ไม่เกียจคร้าน ใครจะไขว่คว้าอะไรก็ปล่อยเขาไปเถอะ สุถึงได้มีเวลามาเขียน GTK ตามอารมณ์ศิลปินเดี่ยวอยู่นี่แหละคะ อาชีพค้าขายคะ

เรื่องทำบุญทำทานก็เริ่มทำมากขึ้น ตามที่หาบุญได้ และสมควรทำบุญ ไม่ทำบุญเอาหน้า ทำไปเรื่อยๆ และที่สำคัญหน้าที่ของตนเองในแต่ละวัน อย่าขาดตกบกพร่อง  ไม่แข่งขัน  ไม่แก่งแย่ง ชิงดี ชิงเด่นใคร เพราะเราแข่งกับตนเอง และรู้จักตนเอง 

  • เพิ่งกลับมาจากข้าง แวะมาเจ๊าะแจ๊ะค่ะ
  • เจ๊าะแจ๊ะๆๆๆ
  • อย่าลืมอมยิ้มนิด ๆ ด้วยนะคะ แหย่วันละนิดจิตแจ่มใส ใจไม่พร่ามัว ใช่ไหมคะ?

ว๊า พิมพ์ผิด เพิ่งกลับมาจากข้างนอกค่ะ...เสียฟอร์มหมดเลย

ว้าว ท่านอาจารย์นพลักษณ์ ๙ Sila Phu-Chaya ... มีอัตลักษณ์ (ฟอร์ม) ด้วยเหรอครับ อิ อิ

ยิ้มแล้วหน้าใสเป็นใยยองครับ ;)

*** สวัสดีปีใหม่ขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ

ขอบคุณมากครับ คุณครู กิติยา เตชะวรรณวุฒิ ;)

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ เช่นกันครับ ...

บุญรักษา ครับ ;)

ตะลึง

เด็กน้อยน่ารักค่ะ

อ้าว อาจารย์ขจิต หัวหน้าห้องที่โรงเรียนหนองตาบ่ง นี่เอง อิ อิ

ขอบคุณครับ น้อง berger0123 ;)

อาจารย์ ดร.ขจิต ฝอยทอง เจอ ท่านรองฯ small man ที่ไหนเหรอครับ น้อง berger0123 ;)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท