หนังสืออีกเล่มของท่านธีรโสภณ (พระมหาเกรียงไกร ธีรปัญโญ) ชื่อ "ใครว่า รักแท้ ไม่มีจริง"

ขอนำเสนอสักบทความ อ่านแล้วชอบใจอย่างยิ่ง

รักแท้ หรือ รักเทียม

ภาษิตจีนกล่าวว่า จงเปิดตาของท่านให้กว้าง ก่อนที่จะมีรักและแต่งงาน แล้วหลังจากนั้นค่อย ๆ ปิดตาลงครึ่งหนึ่ง จึงเป็นเรื่องน่าคิดที่ใครสักคนที่อยากจะหลีกหนีรักเทียม เพื่อที่จะค้นหารักแท้ เปิดใจให้กว้าง ดูให้ชัดเจนว่า

หลุมที่ใจเราตกลงไปนั้น เป็นหลุมรัก หรือหลุมพรางแห่งรัก

หากเปรียบความรักเสมือนหนังสือหนึ่งเล่ม สิ่งที่เราต้องทำคือ จงเปิดใจรัก เมื่อใจถูกเปิดกว้าง ไม่ปิดกั้นที่จะทำความรู้จักกับเขาหรือเธอคนนั้น เปรียบเสมือนการเปิดตา แลเปิดใจดูหนังสือ

หน้าแรก ๆ ปกหน้าใส ๆ ใส่หัวใจสีชมพู รักหวาน หรือหัวใจสีม่วง รักซ้อนซ่อนเสน่หา ปกใจสีขาวดุจรักบริสุทธิ์ อย่าหยิบผิด...

โปรดดูให้แน่นอนถึงรูปเล่ม รูปแบบ ลักษณะ ดูกิริยาท่าทาง หน้าที่และจิตใจ จึงต้องหันหน้าเข้าหาดูใจกัน ดูให้นาน ๆ ก่อนที่จะตกลงปลงใจหยิบจับจองเป็นเจ้าของว่า ใช่เลย นี่เองสิ่งที่เราค้นหามานานแสนนาน

เปิดให้เห็นหน้านอกหน้าใน ให้เห็นถึงเนื้อหาสาระ ถอดหน้ากากและเปิดให้เห็นหน้าจริง เผยอุปนิสัยที่แท้จริงที่ซ๋อนไว้อย่าปิดบัง ผู้เขียนได้ฟังคำที่ครูอาจารย์สอนไว้ว่า คนสมัยนี้นะ ก่อนแต่งงานยังใส่หน้ากากเข้าหากัน ซ้ำแล้ววันแต่งงานยิ่งใส่หน้ากากเข้าหา และเมื่ออยู่ร่วมกันต่อมาถึงได้เปิดหน้าจริงต่อกันและกัน...

ต่อเมื่ออีกฝ่ายได้รู้สภาพความเป็นจริง หรือที่เรียกว่า ธาตุแท้ คงเสียใจแย่ เพราะทั้งหมดที่ผ่านมานั้น มันเป็นหน้ากาก เป็นเรื่องโกหก เป็นการหลอกลวง หากต่างฝ่ายยังไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริงแล้ว ความรักจะมั่นคงได้อย่างไร ถามใจก่อนว่า หากจะเปลี่ยนทรงผม จะแต่งหน้า หรือแต่งงาน

เราคิดถี่ถ้วนแล้วหรือยัง...

"ดวงอาทิตย์ให้แสงสว่าง ดวงจันทร์เล่าก็เกื้อกูลแก่โลก โดยไม่ทวงถามค่าตอบแทนแม้สักสลึงเดียว อีกหนึ่งธรรมชาติที่ต่างก็มีรักแท้มอบให้กัน... หากวันใดไร้ซึ่งดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และมวลหมู่ดาว แล้วชาวโลกจะอยู่อย่างไร..."

เพราะรักแท้ย่อมมาจากนิสัยใจคอที่แท้จริง
รักและเข้าใจกัน รักในสิ่งที่เขาหรือเธอเป็น
รักในสิ่งที่เขาหรือเธอมี เปิดเผยไม่ปิดบัง

ตรงกันข้าม รักเทียมนั้นไซร้มาจากอุปนิสัยที่เสแสร้งหรือแกล้งทำ เมื่อไม่มีความจริงใจให้กัน ไม่นานก็คงต้องสวมรองเท้ายี่ห้อดัง... แบบทางใครทางมัน

หรือว่ารักนั้นมุ่งหมายจุดประสงค์อย่างอื่นที่นอกเหนือจากการมีความรักจริงที่มองให้กัน เช่น เพราะความสวย ความรวย ฐานะหรือตำแหน่ง ความมีหน้ามีตาทางสังคม เลิกคลุมถุง (ใจ) ชนกันเถอะ จงเปิดใจจริง (สัจจะ) ให้กันและกันเถิด ต่อเมื่อทั้งคู่เข้าใจ มีใจกว้าง ให้โอกาส รับฟังกันแล้ว คงแคล้วคลาดฟันฝ่าอุปสรรคแห่งรักไปได้อย่างมั่นคง

ศึกษาอย่างถี่ถ้วน อ่านทุกวรรค ทุกตัวอักษร หากทั้งสองฝ่ายหวังจะร่วมทุกข์ร่วมสุขตราบนานเท่านาน ต้องร่วมใจกันเอาชนะในทุกปัญหา โดยรักแท้มีสูตรง่าย ๆ คือ

"เมื่อใดความรักคุณด้วยความเข้าใจ
บวกด้วยความใส่ใจ
เมื่อนั้นความรักยิ่งก่อเกิดยิ่งทวีคูณ
แต่ถ้าความรักถูกหาร หรือบั่นทอนด้วยความเกลียด
ลบด้วยความชังแล้ว ความรักนั้นนับวันจะสูญเสียสลายไป"

รักแท้ควรแก่การรักษา ยิ่งนานยิ่งมีคุณค่า เก็บเอาไว้แต่เรื่องดีมีประโยชน์ รักแท้แม้นวันยังไม่แปรเปลี่ยน ยิ่งนานยิ่งเข้าใจกัน เลี้ยงกาย ดูแลใจ เก็บถนอมรักษาจิตใจกันเสมอมาและตลอดไป

ความหมายของรักแท้ คือ รักเพราะอยากเห็นเขาหรือเธอเป็นสุขปราศจากทุกข์

เปรียบเหมือนธรรมชาติมอบสิ่งที่ดีให้มนุษย์ และมวลหมู่สัตว์ โดยไม่หวังค่าตอบแทน พ่อแม่ที่รักลูกก็อยากเห็นลูกอยู่เย็นเป็นสุข ปลอดภยันตราย เป็นรักที่มิได้เสแสร้งแกล้งทำ เพราะมองความรักเป็นหน้าที่ของตน แต่ยังมีความรักอีกแบบหนึ่งคือ ความรักที่อยากได้เขามาทำให้ตัวเรามีความสุข รักเพราะเห็นแก่ตัวอย่างนี้ ไม่ใช่รักจริง แต่เป็นรักเทียม จะกลายเป็นร่างเป็นความหลง ความรักจะเป็นพิษ เมื่อบุคคลยึดติดเอาวัตถุเป็นสรณะเป็นที่พึ่ง จนขาดสติสัมปชัญญะ

แม้จะอยู่บ้านไร่ปลายนา... ทั้งที่เป็นสังคมเกษตรกรรม ยังอยู่ด้วยกันได้อย่างมีความสุข รักแท้หาได้แม้ในชาตินี้ โดยสามารถค้นหาวิธีที่จะอยู่เป็นคู่สร้างคู่สม คู่ชีวิตที่แท้ด้วยกันนั้น รู้ได้ด้วยสำรวจดูคู่กรรม ๔ ประเภทคือ

๑. มีศรัทธาเสมอกัน

 ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เคารพนับถือในสิทธิ ลัทธิความเชื่อ มีแนวความคิด หรือหลักการใช้ชีวิตต่าง ๆ ตลอดจนมีสิ่งที่สนใจคล้าย ๆ กัน หรือสามารถปรับเข้าหากันได้อย่างพอดี เพราะถ้าเมื่อใดไร้ศรัทธาต่อกันแล้ว เมื่อนั้นคงยากที่จะปรับความคิดทัศนคติเข้าหากันได้

๒. มีศีลเสมอกัน

 มีความประพฤติ มีพื้นฐานการอบรม ศีลธรรม กฎ กติกา มารยาททางสังคมอย่างพอเหมาะ สอดคล้องไปด้วยกันได้ ข้อนี้สำคัญ เพราะถ้าจริยาความประพฤติแตกต่างกันแล้ว เช่น ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นเทพ หรือมาร ฝ่ายหนึ่งชอบทำดี แต่อีกฝ่ายหนึ่งมักทำชั่ว คงทำให้ชีวิตรักโงนเงน คงอยู่ร่วมกันต่อไปไม่ได้

๓. มีจาคะเสมอกัน 

มีการเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ใช้นำดับไฟ รู้จักให้อภัยเมื่อทำผิดพลาด พร้อมที่จะช่วยเหลือกัน และเกื้อกูลญาติทุกฝ่าย หรือผู้อื่นอย่างสมดุล ฝ่ายสามีสงเคราะห์ภรรยา และฝ่ายภรรยาเกื้อหนุนสามี ครอบครัวคงน่ารักน่าอยู่ แต่ถ้าหากทั้งสองฝ่ายเห็นแก่ได้ หรือเห็นแก่เล็กแก่น้อย จะกลับกลายเป็นเห็นแก่ตัว เมื่อนั้นนาวาลำนี้คงไม่สามารถแล่นไปถึงฝั่ง ต้องแตก และจมลงท่ามกลางทะเล

๔. มีปัญญาเสมอกัน

ความรักที่มั่นคงจะเกิดได้เมื่อทุกฝ่ายปันยาธรรม แบ่งยาใจ ไม่ขัดแย้งบีบคั้นกัน รู้เหตุรู้ผลอย่างถูกต้อง ถูกทาง ถูกธรรมอย่างเข้าใจ เข้าไปอยู่ในใจซึ่งกันและกัน ร่วมประสานจิตใจเป็นหนึ่งเดียว หันหน้าปรึกษา พูดจาในทุกเรื่อง และกำจัดทุกปัญหาที่เกิดขึ้นได้

........................................................................................................

การจะรักใครสักคน ย่อมต้องเปิดใจเพื่อศึกษาซึ่งกันและกันก่อน

ก่อนที่ตัดสินใจในเรื่องการใช้ชีวิตร่วมกัน

หากคนเราตัดสินกันที่เปลือกนอกของแต่ละคน สวย หล่อ

เมื่อธาตุแท้เปิดเผยเมื่อใด ทุกอย่างก็สายเกินแก้ไขไปเสียแล้ว

รังแต่จะมีความเสียใจไม่รู้จบอย่างแน่นอน

ดังนั้น เลือกใครสักคน ต้องเลือกที่ "หัวใจ" ของเขา

บุญรักษา ทุกท่านครับ ;)

........................................................................................................

ขอบคุณหนังสือธรรมะดี ๆ

ธีรโสภณ (พระมหาเกรียงไกร ธีรปัญโญ).  ใครว่ารักแท้ไม่มีจริง.  กรุงเทพฯ: ธิงค์ บียอนด์ บุ๊ค, 2553.