หลังจากหายหน้าหายตาไปเสียนาน วันนี้มีโอกาสดีอีกครั้งที่อยากนำเรื่องเล่าที่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องเล่าที่มีอำนาจในการเร้าพลังที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งทีเดียว เป็นเรื่องเล่าของ "พี่จิน" ธนภรณ์ กุลทัพ พยาบาลที่เป็นกำลังสำคัญในการดำเนินงาน End of Life Care ของโรงพยาบาลเราค่ะ
“พี่จินมีญาติคนไข้จากตึกศัลยกรรมหญิง 2 มาขอคุยกับพี่ พอดีตอนนี้แม่เขาเจ็บหนัก หมอบอกให้ทำใจหนูบอกเขาว่าพี่จินเขาทำเรื่องนี้เก่งเขาก็เลยอยากให้พี่จินช่วยหน่อย”
ฉันมองไปที่คนพูดและแนะนำให้อีกคนหนึ่งรู้จักฉัน
“สวัสดีค่ะ พี่พยาบาล หนูเฝ้าแม่อยู่ที่ตึกศัลยกรรมหญิง 2 พี่เขาบอกหนูว่าพี่เก่งเรื่องการดูแลผู้ป่วยใกล้เสียชีวิต ตอนนี้แม่หนูอาการหนักมากหมอบอกว่าหมดหวังแล้ว”
ฉันยืนฟังเสียงและมองเห็นแววตาของผู้พูดวิงวอนจนปนเศร้าเหลือเกิน เกิดความรู้สึกทันทีว่า เขาคิดว่าฉันคือที่พึ่งที่ดีที่สุดเท่าที่เขาจะพยายามหามาเยียวยาแม่เธอได้ฉันจึงยื่นมือไปจับเธอและถามอาการแม่เธออย่างละเอียด
“แม่หนูเป็นเลือดออกในสมอง นอนโรงพยาบาลมา 7 เดือน แล้วค่ะ ตอนนี้อาการไม่ดีต้องให้ยากระตุ้นความดัน ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ หนูอยากให้พี่ช่วยแนะนำหนูหน่อยได้ไหมค่ะ”
“ได้ค่ะ พี่ยินดีช่วย แล้วหนูเป็นคนดูแลแม่เองหรือ ช่างเป็นลูกที่ดีจริง ๆ” ฉันสอบถามประวัติส่วนตัวและลักษณะนิสัยของผู้ป่วย สิ่งที่แม่ภูมิใจที่สุดคืออะไร บุญกุศลใหญ่ที่แม่ทำมีอะไรบ้าง เพื่อจะนำข้อมูลที่ได้มาเรียบเรียงเป็นคำพูดให้ผู้ป่วยระลึกได้ก่อนเสียชีวิต แล้วฉันก็ไม่ลืมถามเรื่องความคาดหวังต่อแม่ของเขาเธอยอมรับได้ระดับหนึ่งแต่หวังว่าแม่จะมีชีวิตอยู่ต่ออีกสักหน่อย ฉันได้แนะนำสิ่งที่ควรทำและเตรียมของที่จะถวายสังฆทานตามกำลังทรัพย์ ขอผ้าสบงสัก 1 ผืน และขอพระพุทธรูปสัก 1องค์ พวงมาลัยใช้ในการขอขมาแม่ ให้ตามลูกหลานและญาติสนิทมาให้ครบให้ทุกคนร่วมกันขอขมาและช่วยกันคิดว่าแม่มีสิ่งที่ค้างคาใจอะไร สร้างบุญกุศลอะไรที่ใหญ่ๆ บ้าง ขอขมาแม่กันเลยนะไม่ต้องรอพี่ ขอขมาทั้งด้านกาย วาจา ใจ ที่ได้ล่วงเกินท่าน ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน นั่งสมาธิ สวดมนต์ แผ่เมตตาไปเรื่อยนะ สิ่งที่พี่แนะนำให้หนูทำ อาจเป็นการพลักดันให้บุญกุศลเดิมที่มีอยู่ช่วยให้ชีวิตของแม่ที่เหลืออยู่ได้พบกับสิ่งที่ดี อีกไม่นานแม่คงต้องเดินทางไปคนเดียวโดยเรือใบในทะเลที่กว้างใหญ่เหลือเกิน เรือจะลำเล็กหรือใหญ่อยู่ที่บุญกุศลที่ได้สร้างไว้ เรือลำใหญ่ก็จะมั่นคง ที่สำคัญที่สุดเป็นการเดินทางคนเดียวไปแล้วไม่มีทางจะหวนกลับมาได้อีก เพราะฉะนั้นตอนนี้เราต้องช่วยกันหาทางให้ท่านไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและจิตใจที่มีแต่ความสุข ที่จะเดินทาง หญิงสาวคนนั้นฟังฉันอย่างตั้งใจหลังจากฉันพูดจบเธอก็มองหน้าฉันพร้อมกับตอบว่า “หนูเข้าใจแล้วค่ะหนูจะพยายามทำตามที่พี่พยาบาลบอกค่ะ”
“ฉันถามต่อ หนูพร้อมจะให้ถวายสังฆทานเมื่อไรพี่จะได้นิมนต์พระให้”
“หนูอยากทำพรุ่งนี้ค่ะ เพราะแม่หนูชอบกินขนมจีน หนูจะได้ซื้อถวายพระด้วย”
ฉันแนะนำให้เธอรีบทำสังฆทานอยากจะทำในวันนี้เสียดายวันเวลาที่มันจะผ่านไป ขนมจีนฉันให้ญาติซื้อใส่บาตรตอนเช้าก็ได้เหมือนกัน เธอเห็นด้วยกับฉัน
ฉันติดต่อหลวงพี่วัดหน้าโรงพยาบาลซึ่งมีโอกาสนิมนต์ท่านมาประจำท่านติดสอนหนังสือ จะเสร็จประมาณ 16.30 น. ฉันกลับมาบอกเธอว่าพระจะมาประมาณ 16.30 น. วันนี้ ตอนนี้น้องไปซื้อของถวายพระเตรียมให้พร้อมนะ อย่าลืมตามญาติมาให้ครบ ฉันแนะนำให้ผู้ป่วยได้ฟังธรรมะ หรือการสวดต่างๆ บ้างซึ่งที่ตึกฉันเป็นศูนย์ยืมอุปกรณ์ที่มีทั้งเครื่องเล่นซีดี หูฟังและแผ่นธรรมะหลากหลายรูปแบบให้เลือก ก่อนให้แม่ฟังต้องทดลองเสียงที่หูเราก่อน อย่าเปิดดังเกินไป ฉันได้จดชื่อเล่นและเบอร์โทรศัพท์มือถือของฉันให้และไม่ลืมจดชื่อ สกุลของผู้ป่วยไว้ เธอชื่อสำลี อยู่เตียง 12
“มีอะไรโทรติดต่อพี่ได้นะ พี่ยินดีช่วยแต่ตอนนี้ขอเวลาทำงานก่อนพี่จะพยายามตามไปเยี่ยมก่อนพระจะมา”
ฉันพยายามเร่งทำงานเพราะบ่ายนี้ก็มีประชุม ฉันถูกตามเข้าห้องประชุมแต่ฉันขออนุญาตไม่เข้าประชุมเพราะงานไม่เสร็จ เวลาประมาณ 14.00 น. มีเสียงโทรศัพท์ฉันดังขึ้นเป็นเบอร์แปลก ๆ “พี่จินค่ะ รอสักครู่นะพี่” อีกเสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างตื่นเต้น “พี่จินคนไข้ที่ศัลยกรรมหญิง 2 ที่ญาติให้พี่ติดต่อพระเย็นนี้ตอนนี้คนไข้ไม่ดีแล้วพี่ Air Hunger แล้ว”
ฉันบอกเขาว่าจะจัดการเรื่องพระให้เดี๋ยวนี้เลย แล้วจะตามไป ปัญหาตามมาทันทีเวลาเปลี่ยนแปลงต้องนิมนต์พระที่วัดใหม่ พระรูปเดิมท่านติดสอนอยู่ แต่ฉันพยายามหาเบอร์โทรศัพท์วัดไม่ได้เพราะเบอร์ที่เคยบันทึกไว้หลังจากเอาโทรศัพท์ไปซ่อมมันหายไปหมด จึงตัดสินใจรบกวนหลวงพี่รูปเดิมอีกครั้ง แต่ใจก็นึกว่าอยากให้ท่านมาช่วยเหมือนเดิมหลังจากติดต่อหลวงพี่ได้ ท่านยอมหยุดการสอนและเดินมาโรงพยาบาลทันที ฉันขออนุญาตหัวหน้าตึก และเพื่อนร่วมงานเพื่อไปช่วยดูแลผู้ป่วยที่ตึกศัลยกรรมหญิง 2 ฉันรีบตรงไปยังเตียง 12 น่าจะเป็นเตียงที่มีคนยืนล้อมรอบอยู่เต็มไปหมด ทุกคนหันมายกมือไหว้ฉัน ฉันรีบไปถามอาการผู้ป่วยกับทีมพยาบาลเพื่อยืนยันอาการอีกครั้ง คำตอบเหมือนเดิมกับเมื่อสักครู่นี้ บางครั้งก็วัด BP ไม่ได้ ยังให้ Dopamine อยู่ตลอดเวลา สภาพผู้ป่วยที่ฉันพบหญิงวัยกลางคนรูปร่างค่อนข้างท้วมถูกเจาะคอใส่เครื่องช่วยหายใจมีอุปกรณ์ต่าง ๆ รอบเตียง หายใจลักษณะ Air hunger ชัดเจน ปลายมือปลายเท้าคล้ำ มีพวงมาลัยดอกมะลิ 2 พวงวางอยู่บนอกมีเครื่องเล่นซีดีวางที่หัวเตียง มีเสียงสวดมนต์ดังมาจากวิทยุเครื่องนั้น ฉันไปถามลูกสาวผู้ป่วยว่าขอขมาแม่แล้วใช่ไหม เธอพยักหน้า 2 คน
สิ่งแรกที่ฉันทำ คือ เข้าไปจับมือผู้ป่วยพร้อมกับโน้มตัวไปพูดที่ข้างหูเพื่อแนะนำตัวเองและบอกเธอว่าฉันนิมนต์พระได้แล้ว ท่านกำลังเดินทางมานึกถึงบุญกุศลและความดีต่าง ๆ ที่ได้ทำมาทั้งหมด ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า คุณสำลีไม่มีลูกชายก็มีโอกาสได้บวชพระหลานชาย นึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ไว้นะ นึกถึงหลวงพ่อโตไว้ ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลลูก ๆ ก็มีงานทำเป็นหลักเป็นฐานแล้ว ขออโหสิกรรมให้กับทุกคนด้วยนะ ฉันจับมือสามีมาไว้ที่อกผู้ป่วย และจับมือลูก 2 คนมาไว้ที่มือแม่ “คุณสำลีเป็นแม่ที่ประเสริฐที่สุด และเป็นภรรยาที่ดีทุกคนเป็นกำลังใจให้นะ ไม่ต้องห่วงไม่ต้องกังวลนะ (เสียงลูก 2 คนดังตามมาแม่ไม่ต้องห่วงนะ) ลูก ๆ เตรียมของให้คุณสำลีถวายสังฆทาน พระพุทธรูป และปัจจัย บุญกุศลจะได้ช่วยให้คุณสำลีพบเจอแต่สิ่งที่ดี ผ้าสบงและเครื่องสังฆทานอยู่ในมือแล้วนะตั้งจิตให้เป็นกุศล สาธุ ๆ ๆ นะ ในมือคุณตอนนี้จับพระพุทธรูปอยู่นะ ตั้งจิตอธิษฐานและสาธุๆๆๆ”ฉันตั้งใจจะให้ผู้ป่วยมีอาการระลึกนึกถึงบุญหลายๆ ครั้ง เพราะไม่รู้ว่าเขาจะรับรู้ได้มากน้อยแค่ไหน และที่สำคัญพระทานจะมาทันรึเปล่า ภาพที่หลายคนเห็นรวมทั้งฉัน คุณสำลีพยายามใช้มือจับพระพุทธรูปไว้ ฉันติดต่อหลวงพี่อีกครั้ง ท่านบอกว่าอยู่หน้าลิฟท์แล้ว ฉันจึงขอแรงญาติอีกเตียงหนึ่งที่รู้จักพระไปรับพระที่หน้าลิฟท์และหันมาบอกคุณสำลีว่าพระกำลังมาถึงแล้วนะ ทำใจให้สบายนะ หายใจช้า ๆ ปล่อยวางทุกอย่าง กำหนดลมหายใจช้า ๆ หายใจเข้าพุท หายใจออกโธ
เสียงลูกสาวคนหนึ่งดังขึ้น “แม่จ๋าแม่ไม่ต้องห่วงนะพวกหนูมีงานทำสบายแล้ว” เป็นเสียงที่ออกมาจากลำคออย่างเครือๆ ฉันจับมือลูก 2 คน มาไว้ที่แขนผู้ป่วยและมือสามีมาไว้ที่อกและพูดนำให้
“คุณสำลี ขออโหสิกรรมให้ลูกๆ และสามีนะ ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกันนะที่ได้ล่วงเกินกันทั้งกาย วาจา ใจ อย่าได้เป็นเวร เป็นกรรมแก่กันและกันเลย ขออภัยให้กับลูกทุก ๆ คนไม่มีว่าจะเป็นญาติหรือใครก็ตาม การให้อภัยเป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่เป็นจิตของเทวดาเท่านั้นที่จะทำได้ขอบุญกุศลทั้งหลายนี้จงช่วยให้คุณสำลี ก้าวพ้นทุกๆสิ่งที่จะเกิดขึ้นและจะพบเจอกับสิ่งที่ดี ภพภูมิที่ดีทุกคนเป็นกำลังใจให้นะ”
ระหว่างนั้นหลวงพี่มาพอดี ฉันรายงานอาการให้ทราบ โดยเดินออกมารับท่านและพูดกับท่านให้ห่างจากเตียงระยะหนึ่ง “ท่านความดันต่ำมากบางครั้งก็วัดไม่ได้ให้ยากระตุ้นความดันอยู่ ลูกเตรียมของมาให้แม่ถวายสังฆทาน นิมนต์ท่านค่ะ” หลวงพี่เดินมายังเตียงผู้ป่วยทุกคนพร้อมใจกันยกมือไหว้หลวงพี่
หลวงพี่ “โยมเป็นอย่างไรบ้าง ทำใจให้สบายนะลูก ๆ เขาจะให้โยมถวายสังฆทานตั้งใจนะ”
พวกเรากล่าวคำบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล 5 สมาทานศีล และศีล 5 ก่อนจะกล่าวคำถวาย สังฆทาน เสียงสวดมนต์ดังอย่างไพเราะ ญาติและผู้ป่วยข้างเตียงต่างร่วมกันยกมือพนม ญาติบางคนก็เข้ามาร่วมกับพวกเราใกล้ ๆ เป็นภาพที่น่าปิติ
หลวงพี่ โยมตั้งใจถวายสังฆทานนะ สาธุนะ
ฉันจับมือลูกและสามีให้พร้อมใจกันจับสิ่งของต่างๆ ไว้ในมือทีละอย่างพร้อมกับเสียงสาธุ หลังถวายของเสร็จ เสียงหลวงพี่ดังขึ้นมา “พร้อมใจกันกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร และรับพรพระนะ”
ฉันมองไปยังผู้ป่วยและคนรอบเตียง ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบากมากขึ้น หายใจช้าลง แต่ทุกครั้งที่กราบ ดูเหมือนผู้ป่วยจะพยายามขยับมือทั้งสองข้างในการโมทนาบุญ ทุกคนตั้งใจกรวดน้ำ และรับพระเสร็จ หลวงพี่ “โยมจับชายผ้าเหลืองไว้นะโยม ถ้าจะอยู่ก็ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ถ้าจะไปก็ขอให้ไปดี” หลวงพี่นำชายผ้าเหลืองจากตัวท่านไปวางไว้ที่มือผู้ป่วยและมองไปยังใบหน้าของผู้ป่วยอย่างกรุณา มีเสียงหนึ่งดังขึ้น “หลวงพี่ถ้าเรียบร้อยแล้วนิมนต์ด้วยนะคะ คนไข้กำเงินกันไว้หลายคนอยากจะถวายท่าน”
หลวงพี่จึงเดินไปยังเตียงข้าง ๆ อีก 2 เตียง ที่ผู้ป่วยรู้ตัวดีกำเงินแบงค์ 100 บาท ไว้ในมือ หลังรับถวายจาก 2 เตียง แล้วหลวงพี่ก็กลับมายังเตียงคุณสำลีอีกครั้งคนไข้ยังหายใจอยู่ในลักษณะ Air Hunger ความดันก็ยังวัดได้บ้างไม่ได้บ้างเหมือนเดิม ฉันเห็นน้องหม๋วยเดินไปบอกพยาบาลว่า ยากระตุ้นความดันไม่ต้องให้ขวดใหม่ก็ได้
หลวงพี่ “พวกเรามาช่วยกันสวดพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณกัน”
เสียงหลวงพี่นำสวดโดยมีเสียงพวกเราบริเวณรอบ ๆ เตียง ประมาณ 10 เตียง นั่งยอง ๆ บ้าง ยืนบ้าง สวดพร้อมกันจบแล้ว หลวงพี่ก็ให้พวกเราสวดพุทธคุณบทเดียวไปเรื่อย ๆ ฉันไม่ได้นับว่ากี่จบ แล้วพวกเราก็พร้อมใจกันทำสมาธิประมาณ 5 นาทีและแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร เป็นอันเสร็จพิธี หลวงพี่ใช้เวลาที่เหลือพูดคุยกับญาติซักถามเรื่องครอบครัวและบ้านเดิมของผู้ป่วย เราใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 1 ชม. หลวงที่ก็ขอตัวกลับวัดมีญาติข้างเตียงช่วยยกของไปส่ง หลังจากหลวงพี่กลับสามีผู้ป่วยก็พูดว่า “ผมสวดอิติปิโสถอยหลังให้ทุกวันเลยผมดูจากหนังสือพิมพ์เขาลงผมท่องได้แล้วไม่ต้องดูตัวหนังสือเลย หมอเก่งจริงพูดเก่ง ผมมันตื้นตันใจพูดอะไรไม่ออก”
หม๋วย “พี่จินขอบคุณมากเลยพี่ที่พี่มาช่วยแม่หนู หลายคนข้าง ๆ เตียงก็พร้อมกันไหว้ขอบคุณฉัน ฉันพูดให้ทุกคนฟังว่าเราทำหน้าที่ของลูกและสามีให้ดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นก็ให้พยายามยอมรับมันให้ได้ ต้องช่วยกันส่งแม่ให้ไปอย่างหมดห่วงในทุกๆ สิ่ง เวลาที่เหลือนี้พี่อยากให้นำจิตแม่มาทางบุญกุศล ตลอดเวลา อย่าพยายามดึงจิตเขาวกกลับมาที่ตัวพวกเรา เพื่อจะทำให้ท่านไปสู่ภพภูมิที่ดี ฉันจับมือหม๋วยและบอกว่า มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอกนะ พี่ขอไปทำงานต่อและเดินไปจับมือผู้ป่วยกล่าวขมาข้างหูเบาๆ “คุณสำลีหนูขอขมานะทั้งกาย วาจา ใจ ที่อาจจะล่วงเกินคุณ ขออโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ขอให้คุณเป็นไปตามสภาวะบุญและสภาวะกรรมของคุณอย่าได้เกี่ยวข้องกับข้าพเจ้าเลย” คำพูดนี้มันช่วยให้ฉันสบายใจขึ้นรู้สึกไม่ติดค้างกันแล้วฉันก็ขอตัวกลับอีกครั้ง วันนี้ฉันอยู่เวรต่อบ่าย มีงานอีกมากมายที่รออยู่ ฉันกลับมาทำงานจนประมาณ 22.00 น. ฉันได้มีโอกาสโทรศัพท์ไปถามอาการผู้ป่วยอีกครั้งด้วยดำพูดที่แย่จริง “น้องคนไข้เตียง 12 เป็นอย่างไรบ้าง Dead รึยัง ” น้องพยาบาลตอบมาว่า “คนไข้ยังไม่ Dead BP ขึ้นแล้วพี่ไม่ได้ drip Dopamine ด้วย” ฉันรู้สึกเสียใจต่อคำพูดของตัวเองจริงๆ พูดไปได้อย่างไรว่า Dead รึยัง แล้วฉันก็รู้สึกดีใจเหลือเกินกับปฏิหารย์ครั้งนี้ วันรุ่งขึ้นฉันโทรศัพท์ไปถามอาการอีกครั้งได้คำตอบเหมือนเดิม คนไข้ BP 90/60 มิลลิเมตรปรอท ฉันจึงหาเวลาว่างไปเยี่ยมผู้ป่วยอีกครั้ง ไปถึงตึกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันเห็นสามีคุณสำลีเดินไปตามเตียงและหันหน้ามามองฉัน หลายคนยกมือไหว้โดยเฉพาะผู้ป่วยคนหนึ่งวัยกลางคนโกนศีรษะแล้วลุกนั่งขึ้นมาทันทีพร้อมกับยกมือไหว้ฉัน ฉันต้องรีบเข้าไปทักทายถามอาการให้กำลังใจและให้นำธรรมะมาเยียวยา จิตใจให้มาก ๆ ให้สู้ต่อไปภาพที่ปรากฏ ฉันตกใจเธอปล่อยมือฉันยกมือสาธุ และใช้มือทั้งสองข้างลูบหน้าขึ้นไปบนศีรษะตัวเอง “กำลังใจคือสิ่งที่ผู้ป่วยคนนี้ต้องการในขณะนี้มากที่สุด” ฉันคิดอยู่ในใจและเดินไปหาคุณสำลี ฉันเห็นผู้ป่วยลืมตามองญาติพูดคุย เมื่อฉันพูดคุยด้วยและญาติถามว่าจำพี่พยาบาลได้ไหมผู้ป่วยมีอาการรับรู้อย่างเห็นได้ชัด ฉันรู้สึกปิติกับภาพข้างหน้าเหลือเกิน ฉันเข้าไปจับมือพูดคุยให้กำลังใจ และชื่นชมผู้ป่วยว่าเก่งจริงๆ ที่สามารถฝ่าฟันก้าวพ้นสิ่งต่างๆ มาได้ “หนูขอเป็นกำลังใจให้นะทำใจให้สบายปล่อยวาง คิดถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และบุญกุศลต่าง ๆ ที่เราทำไว้ อโหสิกรรมและให้อภัยกับทุกๆ คน ฉันแนะนำญาติให้เร่งสร้างบุญกุศลให้ผู้ป่วยมาก ๆ นั่งสมาธิสวดมนต์บ่อย ๆ”
หม๋วย “เมื่อเช้าหนูซื้อของไปถวายพระที่วัดหน้าโรงพยาบาล ตอนตี 4 อาเวียนก็ลุกขึ้นมาสวดมนต์ หนูขอบคุณพี่จินมากเลยที่ให้คำแนะนำหนูและอุส่าห์มาเยี่ยมแม่หนู หนูดีใจจริงๆ ที่แม่หนูดีขึ้นมาอีกครั้ง” มีเสียงชื่นชมอีกมาจากคนข้างเตียงรู้สึกทันทีว่าใจตัวเองฟูขึ้นมา แต่ต้องพยายามทำใจวางเฉย ฉันใช้เวลาอยู่กับคุณสำลีและผู้ป่วยเตียงข้าง ๆ 30 นาที จึงขอตัวกลับ
วันที่ 22 สิงหาคม 2552 เวลา 19.00น. ผู้ป่วยจากไปด้วยอาการสงบมาก รู้สึกตัวตลอด ชีวิตที่เหลือในการตั้งใจสร้างกุศลครั้งสุดท้ายมีเวลาถึง 3 วันกับ 9 ชั่วโมง มันช่างเป็นเวลาวิเศษสุดสำหรับญาติที่บอกว่าหนูได้ใช้เวลาทั้งหมดสะสมบุญกุศลให้แม่ก่อนจากไปอย่างสงบได้ทำทุกสิ่งที่หนูอยากทำหมดแล้ว ฉันได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยรายอื่นอีกก็ได้รู้ว่า “ลูกสาวและสามีคุณสำลีเขาซาบซึ้งพี่มาก เขาขอบคุณพี่มากที่ช่วยให้แม่มีชีวิตต่อได้อีก 3 วัน”
บทเรียนชีวิตของคุณสำลีในช่วงระยะ 3 วันสุดท้าย มันช่างเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่หลายคนได้สัมผัสอย่างรู้สึกว่าบุญกุศลนี้มันช่างอัศจรรย์จริง ๆ สำหรับฉันรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่ายิ่ง ช่วยกระตุ้นให้อีกหลายชีวิตเห็นความสำคัญกับการสร้างและสะสมบุญกุศลไว้มาก ๆ ไม่ต้องรอโอกาส ไม่ต้องรอเวลาที่เหมาะสม ให้รีบทำทันทีก่อนจะไม่มีเวลาเหลือให้ทำ
สำหรับฉันรับรู้มาตลอดกับคำว่ายิ่งให้ยิ่งได้คืออะไร แต่ครั้งนี้มันกลายเป็นปิติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่เกิดขึ้นในใจฉัน มันเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่จะช่วยให้ฉันก้าวไปช่วยชีวิตอื่นๆ อีกต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยฉันรู้สึกตั้งมั่นที่จะทำความดีต่อไป ด้วยใจที่อยากจะให้จริงๆ
ขอขอบคุณทุกชีวิตที่ช่วยเป็นครูให้กับฉัน และช่วยให้ฉันเกิดพลังที่จะช่วยเหลือคนอีก ขอให้ดวงวิญญาณของคุณสำลีจงไปสู่สุขคติเทอญ