12 เทคนิค พัฒนาทักษะการคิดให้ลูก


เนื่องจากการคิดเป็นรากฐานหรือแกนสำคัญของทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ดังนั้น ถ้าทักษะการคิดไม่ดี ทักษะทั้งสี่ด้านนี้ก็จะไม่ดีตามไปด้วย

มีรายงานการศึกษาเปรียบเทียบวิธีการสอนเด็กอนุบาลวัย 4 ขวบ ที่โรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่งในเมือง ชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่าเมื่อเวลาผ่านไปเด็กกลุ่มที่ได้รับการสอนทักษะการคิดมีความสามารถทางด้านการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนดีกว่าเด็กกลุ่มที่ไม่ได้รับการสอน ดังนั้น การพัฒนาคนจึงควรเริ่มพัฒนาที่ความคิดก่อน ความคิดจะช่วยสร้างทั้ง 4 ด้านที่กล่าวไว้ข้างต้นให้ก้าวหน้ามากขึ้นและยั่งยืน

โดยทั่วไป เด็กแต่ละคนมีความสามารถในการคิดและการรับรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ลืมตาดูโลก ซึ่งวิธีการคิด และการเรียนรู้ของเด็กจะเปลี่ยนแปลงไปตามระยะของพัฒนาการตามวัยและระดับการเจริญเติบโตทางสติปัญญา นอกจากนี้ ความสามารถในการสื่อสารของเด็กเป็นองค์ประกอบที่สำคัญติดตามเด็กตั้งแต่อายุ 2 ปี จนถึงอายุ 6 ปี พบว่าเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับการสื่อสาร รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับการรับรู้มักจะมีความบกพร่องทางการคิด และมีปัญหาเกี่ยวกับการอ่านและการเขียน โดย เด็กจะอ่านและเขียนช้ากว่าและมีข้อจำกัดในการเชื่อมโยงความคิดและเหตุการณ์ต่าง ๆ มากกว่าเด็กที่ไม่มีปัญหา

จะเห็นว่าการพัฒนาทักษะการคิดให้เด็กเป็นงานที่นับว่าจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเด็กควรได้รับการเตรียมและปูพื้นฐานการคิด ซึ่งเป็นแกนสำคัญของการพัฒนาทักษะอื่น ๆ ต่อไป ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในการเตรียมพื้นฐานการคิดตลอดจนการส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของเด็กให้ปรากฏ

เทคนิคสำคัญในการพัฒนาทักษะการคิด

ในการพัฒนาทักษะการคิดหรือฝึกเด็กให้เป็นนักคิดที่ดีมีหลายวิธี ซึ่งการเลือกใช้วิธีใดนั้นอาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและที่สำคัญจะต้องคำนึงปัจจัยในตัวเด็กเองด้วย เช่น ลักษณะนิสัยใจคอ สิ่งที่เด็กชอบ หรือสนใจระดับสติปัญญา เป็นต้น ซึ่งผู้ฝึกอาจพิจารณาเป็นราย ๆ ไปว่า ควรใช้วิธีใดจึงเหมาะสม

ทั้งนี้เพื่อให้ได้ประสิทธิผลจากการฝึกมากที่สุด ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างเทคนิคสำคัญในพัฒนาทักษะการคิด ให้เกิดขึ้น

  1. การฝึกควรเริ่มฝึกเด็กให้คิดจากสิ่งที่ง่ายก่อนแล้วจึงไปสิ่งที่ยากขึ้น
  2. เตรียมเด็กโดยการกระตุ้นหรือส่งเสริมให้เด็กสนใจสิ่งที่อยู่รอบตัว และสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ
  3. การฝึกควรกำหนดจุดมุ่งหมายหรือวัตถุประสงค์ทุกครั้ง
  4. สร้างนิสัยความอยากรู้ อยากเห็น และการค้นคว้าฝ่ารู้ให้เด็ก
  5. ใช้หัวข้อที่เด็กคุ้นเคย รู้จัก หรือสนใจ แล้วกำหนดเป็นคำถาม
  6. สอนและฝึกให้เด็กรู้จักการเปรียบเทียบ ความเหมือน และความแตกต่าง
  7. ฝึกให้เด็กหัดเชื่อมโยงรูปภาพ สถานการณที่จำลองกับของจริง
  8. จัดเตรียมคำถามที่กระตุ้นให้เด็กหรือจินตนาการ และให้โอกาสเด้กได้สื้อออกมาถึงพลังความนึกคิดควบคู่ไปกับทักษะการแก้ปัญหา
  9. พัฒนาทักษะการคิดควบคู่ไปกับทักษะการแก้ปัญหา
  10. สนับสนุนและส่งเสริมให้เด็กมีอิสระในการคิด การถาม และการแสดงออก
  11. สร้างความมั่นใจ พร้อมทั้งให้กำลังใจ
  12. ให้เวลาในการคิด ไม่เร่งรัด เพราะอาจทำให้เด็กเกิดความเครียด และไม่ควรจำกัดการคิดของเด็ก

เทคนิคทั้ง 12 ข้อที่กล่าวมานี้จะช่วยให้การฝึกเด็กให้หัดคิดมีประสิทธิภาพ และพัฒนาเป็นนักคิดที่ดีต่อไป คุณพ่อคุณแม่ที่อยากให้ลูกเป็นนักคิดที่ดี ก็ต้องเตรียมลูกให้พร้อม และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอตามที่ได้กล่าวไว้ ข้างต้นว่าวิธีการฝึกให้เด็กเป็นนักคิดสามารถทำได้หลายรูปแบบ ซึ่งจะเลือกใช้วิธีใดนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ที่สำคัญคือวิธีการที่ใช้นั้นควรเอื้อให้เด็กได้เรียนรู้และมีโอกาสใช้ความคิดของตัวเอง และควรดำเนินไปตามธรรมชาติ ไม่เร่งรัด แต่มีความสม่ำเสมอต่อเนื่อง รวมทั้งต้องตอบสนองความต้องการตามวัยและพัฒนาการของเด็กเองด้วย

คำสำคัญ (Tags): #uncategorized
หมายเลขบันทึก: 10432เขียนเมื่อ 22 ธันวาคม 2005 18:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 11:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

จากบทความนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของทักษะการคิดในเด็กซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องได้รับการพัฒนาควบคู่ไปกับด้านร่างกาย  อารมณ์ และสังคมซึ่ง  คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะบอกว่าในปัจจุบันโลกได้พัฒนาไปไกลมากจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องพัฒนาเด็กให้มีศักยภาพที่เพียงพอ  ดังนั้นเทคนิคสำคัญในการพัฒนาทักษะความคิดถือว่เป็นสิ่งที่มีประโยชน์มาก

จาการได้อ่านบทความนี้แล้วทำให้เห็นถึงเทคนิคในการสร้างทักษะการคิดที่ไม่ใช่เรื่องยากเลยสำหรับครูปฐมวัยในการที่จะคิดหารกิจกรรมต่างๆมาช่วยพัฒนาเด็กแต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรที่จะละเลยการพัฒนาทางด้านอื่นๆด้วย  โดยเฉพาะคุณธรรม จริยธรรมในเด็ก ดังนั้นบทความนี้จึงมีประโยชน์ต่อการนำไปปรับใช้ในการเรียนการสอนของเด็กปฐมวัย
บทความนี้ได้กล่าวถึง  เทคนิคในการพัฒนาทักษะการคิดของเด็ก  ซึ่งจะส่งผลต่อทักษะการฟัง  พูด  อ่าน  และเขียน  การพัฒนาทักษะการคิดให้กับเด็กควรเป็นไปอย่างเรียบง่าย  เป็นธรรมชาติ  ไม่ควรบังคับเพราะจะเป็นการสร้างแรงกดดันให้กับเด็กและอาจก็ให้เกิดผลเสียขึ้นตามมาทีหลัง  เช่น  เด็กอาจขาดความมั่นใจ  กลัวที่จะทำในสิ่งต่างๆ  ซึ่งทักษะทั้ง 12 นี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ปกครองและครูผู้สอนที่จะนำทักษะเหล่านี้มาใช้ในการดูแลหรือการเรียนการสอนของเด็ก  เพื่อให้เพิ่มทักษะทางการคิด  และไม่เป็นการสร้างความกดดันในการเรียน  ให้เด็กมีความสุขในการใช้ความคิดที่เป็นอิสระและถูกต้องเหมาะสมกับสถานการณ์
          เทคนิคที่นำมาให้อ่านสามารถช่วยในการเลือกจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับเด็กๆมากเลยค่ะ

การคิดเป็นสิ่งสำคัญมาก เราควรที่จะฝึกตั้งแต่เด็ก เทคนิคการพัฒนาความคิดของบทความเหมาะที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน

ถ้าลูกมีการส่งเสริมด้านสมองที่ดี การพัฒนาด้านการคิดคงไม่อยาก
ควรนำเทคนิคต่างๆมาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน
การที่มีคนเห็นความสำคัญของทักษะคิดและคิดวิธีเทคนิคในการพัฒนาความคิดเป็นสิ่งที่ดีเพราะเห็นว่าความคิดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของทุกๆอย่างที่มีและเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
จากบทความนี้จะเห็นว่าในการฝึกให้เด็กรู้จักคิดก็เป็นสิ่งที่ดีเทคนิคสำคัญในการพัฒนาความคิดจากบทความนี้สามารถนำมาปรับใช้กับเด็กได้เป็นอย่างดีขึ้นอยู่กับการนำไปใช้กับเด็ก
จากบทความนี้การคิดมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบันสังเกตุจากการเลือกโรงเรียนให้กับลูกแนวการสอนก็มีส่วนสำคัญที่ผู้ปกครองจะนำไปประกอบการเลือกโรงเรียน
เห็นด้วยกับบทความนี้  ทักษะการคิดเป็นศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีส่วนช่วยพัฒนาสมอง ยิ่งโดยเฉพาะในวัยเด็กการคิดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ
ขอบคุณที่ส่งบทความดีดีมาให้ทำให้ได้รุ้เทคนิคการคิดเพื่อนำไปใช้ในอนาคต

เด้กได้สื้อ จะพิมพ์เป็น เด็กได้สื่อ หรือเปล่าค่ะ ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ

บทความข้างต้นมีที่มาไหมค่ะ ขอทราบที่มาได้ไหมคะ เนื่องจาก จะขอข้อมูลไปอ้างอิงในงานวิจัยอ้ะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท