ผู้แทนของกนอ.มาเล่าให้ฟังว่า ภาพรวมทั่วประเทศมีนิคมอยู่ทั้งหมด ๔๓ แห่ง ดำเนินการแล้ว ๓๕ แห่ง อยู่ในภาคตะวันออก ๑๓ แห่ง ภาคอื่น ๒๕ แห่ง ที่เหลืออยู่ที่มาบตาพุด ทั้งหมดมีโรงงาน ๓,๕๐๕ แห่ง ลงทุนมูลค่า ๒.๒ ล้านล้านบาท ใช้แรงงานทั้งหมด ๔๖๕,๐๐๐ คน
มาบตาพุดมี ๕ นิคม ๑ ท่าเรือ ๑๔๗ โรงงาน มูลค่าลงทุน ๐.๙ ล้านล้านบาท ใช้แรงงาน ๓๐,๐๐๐ คน นิคมทั้ง ๕ นิคม มีความหนาแน่นของโรงงานไม่เท่ากัน
พื้นที่เขตนิคมในภาพรวม ๑๘,๘๔๗ ไร่ ท่าเรือ ๒,๙๑๕ ไร่
นิคมที่มีขนาดเล็กที่สุดที่นี่ มีพื้นที่ ๕๔๐ ไร่ มีโรงงานอยู่ ๔ ราย
นิคมที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุดที่นี่ มีพื้นที่ ๑๐,๒๑๕ ไร่ มีโรงงานอยู่ ๖๗ ราย และไม่ใช่พื้นที่ที่มีโรงงานหนาแน่นที่สุด
นิคมที่มีโรงงานหนาแน่นที่สุด มีพื้นที่ ๓,๓๑๒ ไร่ มีโรงงานอยู่ ๔๕ ราย
นิคมที่มีโรงงานหนาแน่นน้อยที่สุด มีพื้นที่ ๓,๒๒๐ ไร่ มีโรงงานอยู่ ๑๐ ราย
ท้องฟ้าเหนือพื้นที่โรงงานเป็นอย่างนี้เอง รู้สึกว่าเมฆที่นี่หน้าตาแปลกๆ
การพัฒนาที่นี่เกิดขึ้นตามมติครม. แบ่งเป็น ๒ ระยะ ระยะแรกปี พ.ศ. ๒๕๓๑ ระยะที่ ๒ ปีพ.ศ. ๒๕๓๕ แต่ละระยะกำหนดให้พัฒนาในพื้นที่เพียง ๑,๔๐๐ ไร่โดยประมาณ
ปัญหาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมีให้แก้มา ตั้งแต่ปี ๒๕๔๐ เริ่มจากเรื่องกลิ่นรบกวนจากโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่น ปัญหาเป็นไปอยู่ ๓ ปี แก้ได้ด้วยความร่วมมือจากหลายฝ่าย
ปี ๒๕๔๘ มีปัญหาใหม่เรื่องภัยแล้ง น้ำไม่พอใช้ แก้ไปได้โดยการจัดหาแหล่งน้ำเพิมเติมให้พื้นที่
ปี ๒๕๔๙ เป็นต้นมามีปัญหาใหม่อีกเรื่องศักยภาพในการรองรับของพื้นที่ สารระเหยที่เป็นมลพิษ สุขภาพคนที่เสื่อมถอย แก้โดยแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษ การจัดการสารระเหยที่เป็นมลพิษให้ลดลงจากเดิม ๑๐-๒๐% กากของเสียอันตรายกำจัดให้ได้ ๔๖๑,๙๗๔ ตัน น้ำเสียกำจัดให้ได้ ๗ แสนลบ.เมตร และหาความสามารถในการรองรับมลพิษของพื้นที่ (Carrying Capacity)
ท้องฟ้าแถบเมืองระยองนี่แปลก มีแต่เมฆหนาๆครึ้มๆคล้ายเมฆฝน แต่ไม่มีฝน รู้สึกว่าอากาศไม่ปลอดโปร่งเอาซะเลย คนอยู่ อยู่กันได้ไงนะ
สิ้นปี ๒๕๕๒ การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการทะลุเป้า มีแต่เรื่องของ Carrying Capacity ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ฟังว่าที่หาคำตอบไม่ได้เพราะไม่รู้จะเอาค่าตัดสินของประเทศไหนมาใช้ดี จะใช้แบบผสมผสานก็ไม่แน่ใจว่าใช้ได้ไหม ทำนองนี้แหละ
๑๕ กันยายน ๒๕๕๓
ไม่มีความเห็น