เคยชินกับการทำงานหลายๆอย่าง   ซึ่งบางครั้งแผนการจัดการเรียนรู้ที่ได้เตรียมมานั้น   ไม่ได้ตรงกับการปฏิบัติจริง...จึงต้องทำหมายเหตุไว้  และเลื่อนการสอนไปอีก 1 ครั้ง...ที่เรียกว่า...แผนฯยืดหยุ่น   

ทำไมต้องเป็นอย่างนั้น  ก็เพราะมีงานจร  มีการประชุม  มีกิจกรรมต่างๆที่อาจจะเข้าสอดแทรกตลอดเวลา  จึงทำให้การสอนของครูอ้อย  คลาดเคลื่อนไป  

การดำเนินการจัดการเรียนรู้จึงเหลื่อมล้ำกันไปมา ยากต่อครูผู้สอนยิ่งนัก  หากครูอ้อยจะตัดทิ้งก็ย่อมได้  แต่นึกถึงใบหน้านักเรียนแล้ว...ก็ต้องมีการแบ่งปันการเรียนรู้ให้เท่ากัน....   จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีแผนการจัดการเรียนรู้นั่นเอง... 

กิจกรรมที่จัดขึ้นนั้น  นอกจากจะจัดให้แก่นักเรียนเท่าเทียมกันแล้ว บางห้องเรียน  มีศักยภาพทางการเรียนรู้สูง  กิจกรรมดำเนินได้อย่างรวดเร็ว  แต่ในเรื่องเดียวกัน  เนื้อหาเดียวกัน  เวลาเท่าๆกัน  ...แต่ครูอ้อยต้องใช้เวลาในการสอนแล้วให้นักเรียนเข้าใจ  เป็นเวลามากกว่าห้องเรียนอื่นๆ  ...ดังนั้น...แผนการจัดการเรียนรู้จะเป็นตัวบังคับได้อย่างดี...

ในการจัดการเรียนรู้ทุกห้องเรียนนั้น  ต้องมีสภาพปัญหาเกิดขึ้นไม่เท่าเทียมกัน   ทั้งๆที่เรื่องเดียวกัน  เนื้อหาเดียวกัน  จึงต้องหา  เสาะหา  ค้นหา  วิธีการ  หรือเครื่องมือ  หรือกระบวนการใดใด  ที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจ  มีการพัฒนาการเรียนรู้  ซึ่งสิ่งที่นำมาแก้ปัญหาดังกล่าวนั้น...นั่นคือ นวัตกรรม  จะเกิดขึ้นในบันทึกหลังการสอน  ที่มีความจำเป็นที่ต้องระบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้  เพื่อเป็นตัวชี้  หรือข้อบ่งชี้ให้เห็นถึง ความจำเป็น  สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น...แผนการจัดการเรียนรู้  จึงมีความหมาย  มีความจำเป็นมากที่สุดนั่นเอง  ...

ขั้นตอนในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้นั้นมีมากมาย  ซึ่งแต่ละทักษะ  และวิชาก็ต่างกัน  เพราะธรรมชาติวิชานั้น  ไม่เหมือนกัน  เช่น  วิชาภาษาอังกฤษต้องมีขั้นของการนำเข้าสู่บทเรียน  ขั้นกิจกรรม  ขั้นฝึกหัด  ขั้นสรุป   ..ขั้นตอนเหล่านี้  นับว่าสำคัญ  ซึ่งต้องระบุในแผนการจัดการเรียนรู้   วิธีการ  หรือ  กิจกรรมที่นำมาระบุและปฏิบัติในแผนการจัดการเรียนรู้  นั้นย่อม ถูกต้อง เหมาะสมกับธรรมชาติวิชา  ธรรมชาติของนักเรียน   ทุกๆขั้นตอน  จะต้องระบุไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้  ซึ่งมีความสำคัญ จะขาดเสียมิได้  ในเมื่อเราเป็นครูผู้สอน  แผนการจัดการเรียนรู้  จึงเปรียบเสมือน...หัวใจ  ห้องเครื่อง  ของการเรียนรู้...