โครงการขับเคลื่อนการคิดสู่ห้องเรียน


งานการสอน การเรียน และเขียนอ่าน เป็นอาจารย์ การสอน นั้นมีค่า สอนให้รู้ สอนให้เป็น เด่นวาจา จึงมีค่า ว่าครูบา และอาจารย์

เพิ่งกลับมาจากการอบรมโครงการนำร่อง  โครงการขับเคลื่อนการคิดสู่ห้องเรียน  เรื่อง  การพัฒนาการคิดในโรงเรียน  ที่ สพท.กทม.เขต 2 ดำเนินการ 

โรงเรียนที่เข้ารับการอบรมและนโยบายนี้ไปดำเนินการได้แก่  โรงเรียนในเขตพื้นที่  ตามโครงการโรงเรียนในฝัน  หนึ่งอำเภอหนึ่งโรงเรียนในฝัน 

การอบรมครั้งนี้  ใช้เวลา 3 วัน คือ 8-10 เม.ย 51  

สำหรับ เนื้อหาของการอบรม  ได้แก่  การคิดสู่มิติคุณภาพ 

วันนี้ทั้งวันเลย  ส่วนพรุ่งนี้ กับวันต่อไป คือ  การคิดแก้ปัญหาในอนาคต    การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการคิด  ฝึกปฏิบัติการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการคิด 

หลังจากการอบรม 3 วันนี้  พวกเราต้องกลับไปโรงเรียน

1.  ช่วยกันคิดแบบระดมสมอง  คิดหลักสูตรร่วมกัน ทั้ง 8 กลุ่มสาระฯ  บูรณาการในหน่วยการเรียนรู้  ที่คิดว่า.....เป็นผลของการคิด  เนื้อหา  แต่ละกลุ่มสาระฯ 

2.  ดำเนินการ แบบคู่ขนาน หรือ แบบใดแล้วแต่จะตกลงกันได้  จนกระทั่งเกิดเป็น Best Practice 

3.  มีการติดตามผล  โดยผู้รู้  หรือศึกษานิเทศก์

4.  นำมาจัดนิทรรศการ  ภายในเดือนสิงหาคม 51 นี้ 

การอบรมในปัจุจบันนี้  ต้องมีงานมาให้ทำทุกครั้ง 

พรุ่งนี้ หรือวันสุดท้ายของการอบรม  ครูอ้อยจะเขียนการเสนอแนะว่า.....จะรู้ได้อย่างไรว่า  งานที่ได้จัดทำนี้ คือ Best Practice  

ครูผู้สอนมีความต้องการให้  โรงเรียนแม่ไก่  หรือ ศึกษานิเทศก์  ผู้มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนี้  มาดูว่า  อะไรคือถูก  พวกเรา  นำร่องไปจะได้ไม่หลงทาง  และที่ถูก  ก็ควรจะเป็นอย่างที่กล่าวมา 

ไม่ใช่อบรมเพียง 3 วัน แล้ว  ครูผู้สอนจะเก่ง  และสามารถดำเนินการได้ถูกต้อง   ควรจะมีรูปแบบของการดำเนินการมาให้เราชม  หรือพาพวกเราไปดู  ตัวอย่างโรงเรียนแม่ไก่ที่ได้ดำเนินการมาแล้ว...จึงจะเป็นการดี  

ต้องดีกว่า  การคลำทาง และเดินไปอย่างมืดมิด 



ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะแม่อ้อย

  • เหนื่อยไหมค่ะวันนี้
  • มีอบรมทีก็เหนือยทีนะคะ แต่ทำงัยได้ถ้าอยู่นิ่งๆเฉยก็จะไม่มีการพัฒนา หรือพัฒนาก็จะไร้ทิศทาง
  • อย่างงัยก็เป็นกำลังใจให้แม่อ้อยค่ะ
  • แล้วจะคอยอ่าน Best Practice นะคะ
  • แม้อ้อยสู้ๆๆ
  • รักแม่อ้อย

มาแวะเยี่ยมกลัวลืม................อิอิ

  • สวัสดีค่ะ อ.อ้อยที่รัก      คิดอยู่ว่าเดี๋ยวเย็นนี้จะมาชวนไปเก็บกล่องคอมเม้นท์  อ.อ้อยไปหาซะก่อนแล้ว  สงสัยจะรู้ใจกันอ่ะป่าว...คิ..คิ..
  • ขอบอกว่า  ...แจ่มค่ะ..แจ่มจริง..แจ่มแจ๋วเลยค่ะ... 
  • อบรมต้องมีงานทุกครั้งนั้นถูกแล้ว  ถ้าไม่มีงานก็สูญเปล่า  แต่ถ้าให้ดีกว่าต้องมีงานก่อนจึงอบรม  ซึ่งโรงเรียนทั่วไปในบ้านเราไม่พยายามทำแบบหลัง  แต่มักจะทำแบบแรก  ถ้าเป็นโรงเรียนในฝัน  ก็จะเป็นโรงเรียนในฝันของต้นสังกัด  เราต้องทำแบบหลังจึงจะเป็นโรงเรียนในฝันของคณะครูและของชุมชน  เคยรู้สึกโกรธ ๆอยู่เสมอว่าทำไมต้นสังกัดชอบคิดให้โรงเรียนทำ  แต่มาคิดอีกที ก็คงเพราะโรงเรียนกะชุมชนไม่ยอมคิดเองสักที่  มั้ง????  ต่อไป ต้องชวนกันคิด  ชวนกันทำทั้งครูและชาวบ้าน  แล้วก็เชิญเขา(โดยเฉพาะต้นสังกัด)มาดู  แล้วก็คุยให้เขาฟังว่าเราทำอย่างนี้  ได้ผลอย่างนี้  ดีต่อเด็กอย่างนี้  ดีต่อชุมชนอย่างนี้  ดีต่อโรงเรียนอย่างนี้ ฯลฯ  จะปรับปรุงอย่างนี้  และต้องการความช่วยเหลือย่างนี้  เป็นต้น  ที่นี้ล่ะ  ต้นสังกัดก็คงเพลาการคิดให้เราทำลงอย่างมากถึงมากที่สุด
  • เรื่อง  Best Practice  Best ของใครก็ของมัน  ขอให้เรารู้สึกว่ามัน  Best  ก็แล้วกัน  เขาว่ากันอย่างนั้นนะ  Best  ของเราในสายตาของบางคนอาจเป็น  Supper  Best  ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกมัน  Supper  Bad  ก็ได้  ประเด็นอยู่ที่เรามุ่งเอา Best Practice  อันนั้นมาใช้เพื่อการเรียนรู้และพัฒนา
  • ควรมองความสำคัญของผู้เชี่ยวชาญในฐานะของกัลยาณมิตรที่ช่วยเราให้รูจักตนเองมากกว่าในฐานะผู้ชี้ต้นตาย  ชั้หงายเป็น  ผู้ที่เชี่ยวชาญที่สุดคือพวกเราที่ร่วมกันทำมาด้วย  หัวใจ  ห้วสมอง  และหัวแม่มือ  ความเชี่ยวชาญอยู่ที่การนำอิทธิบาทสี่มาใช้ในการทำงานของทีม
  • ความคิดต้นแบบนิยม ในนามของพ่อไก่  แม่ไก่  ต้นแบบ  หรือแม่พิมพ์  มีส่วนที่เป็นอันตรายอยู่มาก  ที่สำคัญคือการจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของเรา  ในแง่ของการจัดการความรู้ถือว่าคนเหล่านี้คือกัลยาณมิตรที่ได้เรียนรู้มาก่อนเรา
    และให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้กับคนเหล่านี้มากเหมือนกัน  ในชื่อเทคนิคที่เรียกว่า  Peer  Assist  ควรใช้คนที่เรียนรู้มาก่อนในแง่นี้จะดีกว่า...

                  ขออภัยครูอ้อยอย่างมาก  ที่อยู่ ๆก็ขึ้นธรรมาสน์ทั้งที่
        ไม้ได้นิมนต์และอาราธนา  คิดถึง  ไม่เห็นแวะมาส่งใบงาน  
         เลยตามหา  เจอปุ๊บพาลลืมตัว  ขออภัย

                                           paaoobtong

 

สวัสดีค่ะลูกมิม  .... มะขามอ่อน/ครูมิม

  • เมื่อวานนี้  ไม่ได้ขับรถไปเอง  ได้ไปจอดไว้ที่โรงเรียน แล้วนั่งรถโรงเรียนไปค่ะ
  • แต่ขากลับที่ขับรถกลับบ้านเองนั้น  เจอกับแดดจัด  จนแขนดำเลยค่ะ  มาถึงบ้าน  เอาผ้าเย็น  ประกบตา และดูนางทาส จนหลับไปค่ะ
  • ตื่นขึ้นมาก็มานั่งอ่านและตอบนี่ล่ะค่ะ
  • ได้เขียน 1 บันทึกเท่นั้น คือเรื่องนี้ค่ะ

แม่อ้อยอ่านล้วนะคะ   เราส่งกระแสจิตให้กันะคะ

สวัสดีค่ะท่านพี่เหลียง.....สิทธิรักษ์

ท่านพี่  แสดงความคิดเห็นน้อย แต่กินใจ โดนใจ

ครูอ้อย ไม่ลืมใคร

มีแต้ใคร ลืมครูอ้อย

สวัสดีค่ะอาจารย์

ดีใจสุดสุดเลยค่ะที่อาจารย์มาเยี่ยมบันทึกครูอ้อย

พยายามทำมากที่สุด เท่าที่มีเวลาอำนวยค่ะ

 


คลิ๊ก..สร้าง Glitter ด้วยตัวคุณเอง
สร้าง Comment ง่ายๆ ด้วยตัวคุณเอง..คลิ๊กที่นี่

  • วันนี้ก็ส่งกระแสจิตให้กันอีกนะคะ
  • ส่งกำลังใจ
  • ส่งความคิดถึง
  • เพื่อให้หายเหนื่อย
  • ให้รู้ว่าคนคนห่วงใย
  • เป็นกำลังใจกันและกัน
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท