- อบรมต้องมีงานทุกครั้งนั้นถูกแล้ว ถ้าไม่มีงานก็สูญเปล่า แต่ถ้าให้ดีกว่าต้องมีงานก่อนจึงอบรม ซึ่งโรงเรียนทั่วไปในบ้านเราไม่พยายามทำแบบหลัง แต่มักจะทำแบบแรก ถ้าเป็นโรงเรียนในฝัน ก็จะเป็นโรงเรียนในฝันของต้นสังกัด เราต้องทำแบบหลังจึงจะเป็นโรงเรียนในฝันของคณะครูและของชุมชน เคยรู้สึกโกรธ ๆอยู่เสมอว่าทำไมต้นสังกัดชอบคิดให้โรงเรียนทำ แต่มาคิดอีกที ก็คงเพราะโรงเรียนกะชุมชนไม่ยอมคิดเองสักที่ มั้ง???? ต่อไป ต้องชวนกันคิด ชวนกันทำทั้งครูและชาวบ้าน แล้วก็เชิญเขา(โดยเฉพาะต้นสังกัด)มาดู แล้วก็คุยให้เขาฟังว่าเราทำอย่างนี้ ได้ผลอย่างนี้ ดีต่อเด็กอย่างนี้ ดีต่อชุมชนอย่างนี้ ดีต่อโรงเรียนอย่างนี้ ฯลฯ จะปรับปรุงอย่างนี้ และต้องการความช่วยเหลือย่างนี้ เป็นต้น ที่นี้ล่ะ ต้นสังกัดก็คงเพลาการคิดให้เราทำลงอย่างมากถึงมากที่สุด
- เรื่อง Best Practice Best ของใครก็ของมัน ขอให้เรารู้สึกว่ามัน Best ก็แล้วกัน เขาว่ากันอย่างนั้นนะ Best ของเราในสายตาของบางคนอาจเป็น Supper Best ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกมัน Supper Bad ก็ได้ ประเด็นอยู่ที่เรามุ่งเอา Best Practice อันนั้นมาใช้เพื่อการเรียนรู้และพัฒนา
- ควรมองความสำคัญของผู้เชี่ยวชาญในฐานะของกัลยาณมิตรที่ช่วยเราให้รูจักตนเองมากกว่าในฐานะผู้ชี้ต้นตาย ชั้หงายเป็น ผู้ที่เชี่ยวชาญที่สุดคือพวกเราที่ร่วมกันทำมาด้วย หัวใจ ห้วสมอง และหัวแม่มือ ความเชี่ยวชาญอยู่ที่การนำอิทธิบาทสี่มาใช้ในการทำงานของทีม
- ความคิดต้นแบบนิยม ในนามของพ่อไก่ แม่ไก่ ต้นแบบ หรือแม่พิมพ์ มีส่วนที่เป็นอันตรายอยู่มาก ที่สำคัญคือการจำกัดความคิดสร้างสรรค์ของเรา ในแง่ของการจัดการความรู้ถือว่าคนเหล่านี้คือกัลยาณมิตรที่ได้เรียนรู้มาก่อนเรา
และให้ความสำคัญต่อการเรียนรู้กับคนเหล่านี้มากเหมือนกัน ในชื่อเทคนิคที่เรียกว่า Peer Assist ควรใช้คนที่เรียนรู้มาก่อนในแง่นี้จะดีกว่า...
ขออภัยครูอ้อยอย่างมาก ที่อยู่ ๆก็ขึ้นธรรมาสน์ทั้งที่
ไม้ได้นิมนต์และอาราธนา คิดถึง ไม่เห็นแวะมาส่งใบงาน
เลยตามหา เจอปุ๊บพาลลืมตัว ขออภัย
paaoobtong