ผมทำหน้าที่เป็นวิสัญญีแพทย์มานาน
จนได้รับโล่ 25 ปี
(หรือเรียกอีกอย่างว่าโล่อยู่ทน) จากคณะฯ เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา
หากนับจำนวนคนไข้ที่ผมเคยให้บริการก็มีไม่น้อย
มาระยะหลังนี้ผมมีลมในกระเพาะมาก
คุณหมอรุ่นน้องแนะนำว่าควรจะส่องตรวจดูกระเพาะอาหาร
เพราะอายุก็มากแล้ว (อาจเป็นมะเร็งได้)
การส่องกล้องนั้นสามารถทำได้สองวิธี
วิธีที่หนึ่ง คือ
พ่นและกลืนยาชาให้หลอดอาหารชา
คนไข้จะรู้สึกตัวขณะตรวจและต้องช่วยกลืนกล้องลงกระเพาะด้วย
ซึ่งสำหรับบางคนแล้วก็นับว่าทุลักทุเลพอสมควร
ส่วนวิธีที่สองก็คือให้ยาสลบ
“ตกลงส่องก็ส่อง”
ผมเลือกที่จะดมยาสลบ เพราะปกติแล้วแค่ยาเม็ด
para ผมก็ต้องกลืนอย่างน้อย 2 ครั้งจึงจะกลืนได้
นี่กล้องส่องทั้งอันคงไม่ไหวแน่
ผมแต่งตัวไปทำงานตามปกติโดยไม่บอกทางบ้าน
เพราะกลัวว่าจะตกใจที่ต้องดมยาสลบ
เพียงแต่บอกว่าไม่ทานอาหารเช้าเพราะจะไปทานที่ทำงาน
(ความจริงก็คือถูกสั่งงดอาหารนั่นเอง)
พอถึงเวลา.....ผมก็ไปกระซิบบอกรุ่นน้อง
“ช่วยไปดมยาให้ผมหน่อยที่ห้องส่องกล้อง”
(ขนาดกระซิบแล้วนะ คนที่ภาควิชาฯ
ก็ยังไปรุมจนเกือบเต็มห้อง)ก่อนดมยาสลบก็มีการติดเครื่องมือเฝ้าระวังตามมาตรฐานความปลอดภัย
ทั้งวัดความดันเลือด คลื่นหัวใจ และ วัดระดับออกซิเจนในร่างกาย
จากนั้นก็ให้น้ำเกลือ
ด้วยความเกรงใจหรือเปล่าไม่ทราบ ผมก็เลยถูกแทงเข็ม
2
ครั้ง จึงสำเร็จ
(คนกันเองก็เลยต้องแถมให้บ้าง)
ผมเลือกชนิดของยาสลบที่จะใช้เอง เมื่อเริ่มฉีดยาสลบ ได้ยินเสียถามว่า “หลับหรือยัง” สิ่งที่จำได้คือผมตอบไปว่า “ยังไม่หลับ” แต่หลังจากนั้นเพียงแวบเดียว ก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
“ผลของยาสลบ
ทำให้
ผมหมดความรู้สึกหมดไปอย่างรวดเร็ว
มืดสนิท เงียบสงบ และ
ว่างเปล่า
เหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในโลกอันวุ่นวายใบนี้”
ตอนเริ่มฟื้นจากยาสลบ ระบบประสาทอันแรกที่ทำงานคือ การได้ยิน ผมได้ยินเสียงเรียกเบาๆ แว่วๆ จากนั้นก็รู้สึกตัว ลืมตาได้ และพูดคุยได้ เรียกว่าฟื้นจากยาสลบได้ดี ไม่มีความผิดปกติแต่อย่างใด
ส่วนการตรวจก็เป็นไปตามที่คิดไว้คือมีแผลในกระเพาะอาหาร คุณหมอที่ตรวจยืนอธิบายว่าพบอะไรบ้าง ได้ตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ และทดสอบหาเชื้อที่เป็นต้นเหตุ พร้อมทั้งถ่าย VDO (Clip?) ไว้เป็นหลักฐานด้วย (ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังไม่ได้เปิดดูเลย)
สุดท้ายผมก็ได้รับการรักษา “โรคกระเพาะอาหารเป็นแผล” ไปตามระเบียบ
ผมยังไม่เคยถูกวางยาสลบ แต่ไม่อยากครับ
...
ขอให้คุณหมอแข็งแรง และเขียนบันทึกต่อเนื่อง ต่อไปครับ
อ.ขจิต ครับ
คุณ จตุพร ครับ
คุณกฤษณา ครับ
ดิฉันเคยถูกส่องกล้อง เข้าใจคำว่าอาการทุลักทุเลได้พอสมควร แต่คุณหมอให้มองเห็นแผลในกระเพาะของตัวเองชัดแจ๋วเลยค่ะ แถมถ่ายภาพให้เป็นที่ระลึกอีกด้วย
สงสัยว่า ดมยาสลบแล้วเขาส่องกล้องดูกระเพาะยังไงค่ะ
เรียนคุณศุภลักษณ์
คุณวันเพ็ญ ครับ
คือผมสายตาไม่ค่อยดี อ่านตัวหนังสือของคุณหมอดูเล็กเกินไป
คุณหมอคงเขียนใน word ก่อน แล้วค่อยนำมาลง
ก่อนนำลง ผมว่าควรเปลี่ยนขนาดตัวอักษรให้ใหญ่ขึ้นนะครับ
ไม่ทราบว่าใช้ size เท่าไร กรุณาเพิ่มขึ้นอีกสัก 2 ครับ เช่น จาก 14 เป็น 16 โดยไม่ต้องปรับ Font ครับ
ผมใช้หน้าจอขนาด 14 นิ้วจึงดูตัวอักษรเล็กครับ
ตอบ อ. Beeman
ใช่ครับ อาจารย์ผมเขียนบันทึกจากอีกเครื่องหนึ่งซึ่งไม่ได้ต่อ net พอคัดลอกมาก็เลยเป็นแบบที่เห็นอยู่นี้
คุณหมอครับ
ผมเองจะมีส่องกล้องวันเสาร์ที่ 12 มิ.ย. นี้
ซึ่งผมเองเป็นคนที่เอาอะไรเข้าปากไม่ค่อยได้
เวลาหมอเอาไม้ไอติมมากดลิ้นผมเนี่ย ผมก็สำลักแล้วครับ
ผมจึงตัดสินใจขอรมยาแบบคุณหมอครับ
บทความของคุณหมอนี้ทำให้ผมอุ่นใจว่า
ไม่ใช่ผมคนเดียวที่มีปัญหาเรื่องเอาอะไรเข้าปาก
กังวลมานานครับ ว่าทำไมคนอื่นทำได้ แต่เรากลับกลัวที่จะทำไม่ได้
ตัดได้ไป 1 เรื่องแล้ว
เหลืออีก 1 เรื่องก็คือ ค่าส่องกล้อง + วิสัญญีแพทย์ แพ๊งแพง ครับ
แต่ก็สู้ครับ!!!