ถอดบทเรียนกลุ่ม"ดังลมหายใจ" จากบันทึกของอ.ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์ttp://gotoknow.org/blog/wirat-kamsrichan/287832
บันทึกนี้ทำให้นึกถึงสุภาษิตของไทย "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" ในบันทึกกล่าวว่า
"แม่สามารถดุและจับเด็กๆตีได้ทั้งหมู่บ้าน ยิ่งถ้าหากเล่นกันจนเกินเวลากินข้าวหรือเลยเวลากลับบ้านกลับช่องนั้น แม่ก็มีวิธีลุยกับพวกเด็กๆที่เป็นลูกหลานทั้งฝูงโดยถือไม้เรียวเดินกวัดแกว่งเข้าใส่ขวับๆให้เป็นที่หวาดเสียว ซึ่งก็จะทำให้พวกผมและเหล่าเพื่อนเด็กๆวงแตกกระเจิง วิ่งหนีกันตีนปลิ้นอย่างไม่ต้องนัดหมาย พอลืมและอยากเล่นกันอีกก็รวมตัวใหม่ ภาพของแม่จึงเป็นคนจริงจัง ดุ คุ้มครองดูแล แข็งแรงบึกบึน หาเรื่องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลาทั้งในและนอกบ้าน"
จากบันทึกของอ.ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
ภาพลายเส้น ฤดูหนาวในคืนเดือนเพ็ญ
ฝีมือวาดภาพของอ.ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
บันทึกนี้ทำให้เกิดมุมคิดว่า"แม่ในฐานะผบ.ทบ.(ผู้บัญชาการทางบ้าน)"ในสังคมชนบทนั้นการที่ผู้คนจะยกย่องใครสักคน นั่นก็หมายถึงคนๆนั้นต้องเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดี มีพระคุณ มีบทบาท และมีผลงานการสร้างความดี เลี้ยงดูบุตรให้เป็นคนดี และมีความกล้าหาญที่จะทำการสิ่งใดดีงามจนเป็นที่ยอมรับและสังคมให้การยกย่องนับถือเรียกกันว่าเป็นผู้มีบารมีเช่นความดีของแม่ที่พบในบันทึก อีกทั้งทำให้เกิดมโนภาพของหญิงไทยที่ มือก็ไกว ดาบก็แกว่ง
จากเหตุการณ์วันหนึ่งในฤดูหนาว ยังสะท้อนให้เห็น และซาบซึ้งในความรัก ความผูกพันธ์ และความกล้าหาญของแม่ ยอมรับค่ะว่าอ่านไปด้วยใจระทึกลุ้นไปเรื่อยๆตามตัวอักษร ซึ่งนี่ก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งของแม่ที่ดีในสังคมไทย ตามไปอ่านตามลิงค์ฤดูหนาวนะคะ
สมัยก่อนบ้านฉันไม่มีทีวีดูกันคะ เวลาจะติดตามนวนิยายก่อนนอน ของยาขอบ เรื่องผู้ชนะสิบทิศทุกคนต้องเงียบ และใช้ความคิด จินตนาการจนสามารถสร้างภาพของจะเด็ด และเหล่าแม่นางทั้งหลายได้อย่างเพลิดเพลินจากการฟังและสร้างมโนภาพขึ้นมา พอนวนิยายจบพวกเราก็มาตั้งประเด็นถกเถียงกันถึงเรื่องราวที่ได้ฟังมีทั้งต่างความคิดเห็น และลงรอยเดียวกัน การอ่านบันทึกนี้ก็เช่นกันแม้ใช้สายตา ความคิด ก็ทำให้เกิดมุมภาพที่งดงามตามมาหลังการอ่านก็มาร่วมกันแสดงมุมคิดของสมาชิกและเพื่อนๆที่แวะเวียนกันมาแสดงความคิดเห็น จึงเป็นภาพที่งดงามของสังคมออนไลน์ที่สร้างสรรค์ค่ะ ถึงตรงนี้ก็ขอขอบคุณน้องมะปรางค์อีกครั้งค่ะที่ช่วยประสานจนพี่krutoitingได้มาร่วมกิจกรรมเร้าพลัง และร่วมส่งพลังใจไปยังแม่ทุกคนค่ะ
ขอบคุณเจ้าของบันทึก ท่านอ,ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์
และสมาชิกกลุ่มดังลมหายใจ
รวมถึงสมาชิกท่านอื่นที่แวะเวียนกันมาแลกเปลี่ยนด้วยความอิ่มใจ
สำหรับมุมมองเกี่ยวกับ"ลูกๆคือเพื่อน และความอุ่นใจในชีวิตต่อแม่"
ขอไปถอดลงในบันทึกหน้าค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ
สวัสดีค่ะ krutoiting
สวัสดีค่ะ น้องเอื้อง
ทางแม่ฮ่องสอนสถาพอากาศเป็นไงบ้างค่ะ
เป็นธรรมดาของลูก
ที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง
และอยากเป็นฝ่ายดูแลพ่อแม่
ส่วนในความรู้ของพ่อแม่นั้น
ลูกก็ยังเป็นเจ้าหนูตัวน้อยของแม่ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ..อ่านแล้วคิดถึงความรัก..ความอบอุ่นของ แม่-ลูก ผูกพันชั่วชีวิต ประทับใจมุมมองนี้มากๆค่ะ..
ขอบคุณค่ะน้องอาร์ม
วันนี้เกือบทั้งวันเตรียมการเรื่องกิจกรรมเด็กพิเศษ
พรุ่งนี้ครูต้อยจะไปจัดกิจกรรมพาเด็กกลุ่มนี้คิดสร้างสรรค์ค่ะ
น้องอาร์มบวชวันที่ 10 ใช่ไหมคะ
ครูต้อยอยากถามว่าประตูน้ำ
ในการ์ดงานบวชนั้นคือประตูน้ำที่กรุงเทพฯใช่ไหม
ส่วนสงสัยว่า "ตอนเด็ก ๆ ทุกคนจะติดแม่มากไม่ว่าจะหญิงหรือชาย"
ครูต้อยขอตอบตามความคิดเห็น และประสบการณ์ตรงของครูต้อยแล้วกันค่ะ
สมัยที่เป็นเด็กพี่น้องของครูต้อยใกล้ชิดแม่มากกว่าพ่อค่ะ
เพราะพ่อทำงานนอกบ้าน กลับมาก็ยังมาทำงานที่บ้านอีก
จะมีเวลาใกล้ชิดพ่อก็ต่อเมื่อพ่อเสร็จจากงานมาสอนการบ้าน
และมาทานข้าวพร้อมกันได้คุยกันเรื่องเรียนทุกข์สุขที่โรงเรียน
เด็กส่วนมากใกล้ชิดแม่ สังเกตจากน้องๆของครูต้อยติดแม่
เวลาที่อยู่กับแม่มีมากได้ร่วมกิจกรรมต่างๆในบ้านกับแม่
ทั้งให้การอบรมนิสัย บ่มนิสัย แม่จะเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟัง
สอนให้เย็บปักถักร้อย ทำอาหาร แกะสลักผัก
เรียกว่าแม่จะมีกิจกรรมให้ลูกๆได้ทำร่วมกันมากกว่าพ่อ
รวมถึงการอบรมมารยาท
ส่วนพ่อท่านเคร่งครัดมากในเรื่องการเล่าเรียน
ครูต้อยใกล้ชิดพ่อมากกว่าแม่ ได้เป็นลูกมือช่วยพ่อหยิบโน่นนี่
ชอบทำกิจกรรมแบบพี่ชายทำมากกว่า
พ่อมักพูดว่าเรื่องเล็กๆน้อยๆในบ้านให้ปรึกษาแม่
ส่วนเรื่องใหญ่ๆให้บอกพ่อ
น้องๆก็เลยมีแต่เรื่องเล็กๆให้ได้ปรึกษาแม่
ขอบคุณค่ะที่มีคำถามมาให้
สวัสดีค่ะ มาร่วมแลกเปลี่ยนค่ะ คำว่าแม่ยิ่งใหญ่ในใจเสมอค่ะ
ค่ะพี่ใหญ่ความรักความอบอุ่นของคนเรา
น้องเชื่อมั่นว่าไม่มีอะไรมาเหนือความรักของแม่ที่มีต่อลูกค่ะ
สวัสดีค่ะ
มาอ่านและมาเป็นกำลังใจค่ะ สู้ ๆ ๆ ๆ
ขอบคุณมากๆเลยค่ะน้องครูคิม
พี่กำลังจะจบบันทึกใหม่อีกนิดเดียวแค่ 2 คำเท่านั้น
เกิดดีบั๊ก ภาษาอังกฤษขึ้นมา บันทึกหายวับไปกับตา
ต้องเริ่มใหม่ พรุ่งนี้ดีกว่าดึกมาแล้ว
อะไรก็เกิดขึ้นได้นะคะ
ก่อนปิดเครื่องจะแวะไปเยี่ยมตามลิงค์ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีคะ่ พี่ครูต้อย กลุ่มนี้ ขยันบันทึกจังเลยค่ะ
คิดถึงนะคะ
สวัสดีค่ะ♥paula .`๏'- ที่ปรึกษาตัวน้อย.`๏'
หมู่นี้พี่ต้องอยู่ใกล้เตียงดึงหลัง ติดต่อกันทุกวันจำนวน 15 ครั้ง
ผ่านเข้ามาสัปดาห์ที่ 2 แล้วค่ะชีวิตประจำวันยังปกติ
เพียงหลีกเลี่ยงการยกของหนัก และการเคลื่อนตัวเร็วเท่านั้นเองค่ะ
เวลานั่งเฉยๆจึงมีพอสำหรับการเรียนรู้ค่ะ
พี่ยังระลึกถึงเสมอ เรื่องที่ปรึกษาไว้ยังต้องการเต็มร้อยค่ะ
กำลังลำดับความคิดสายน้ำชีวิตผู้ป่วยเบาหวาน
ให้เป็นระบบ เป็นตอนๆจากประสบการณ์ตรงอยู่นะคะ
ไม่งั้นจะตอบคำถามไม่ถูก และกำลังติดต่อวัสดุใช้แล้วทิ้ง
มาทำนวัตกรรมคลายเครียดสำหรับเพื่อนผู้ป่วยค่ะ
ขอบคุณค่ะ
ชื่นใจด้วยจังนะคะที่เสร็จก่อนใครเพื่อน กลุ่มนี้เข้มแข็งจัง
ขอบคุณกำลังใจค่ะ