บันทึก 27 กันยายน 2550

        มีกิจกรรมที่เริ่มทำมาตั้งแต่ 1 มกราคม 2550  วันนี้เห็นผลผลิตออกมาให้ชื่นใจพอควร  เลยนำมาบันทึกเผยแพร่ไว้  เผื่อใครสนใจ จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน จากบทความที่เขียนไว้ตอนเริ่มใช้ G2K ใหม่ๆ  ว่าจะจัดสวนหย่อมหน้าบ้านไว้ชมเอง  เน้นที่ปลูกเอง  ดูแล บำรุงรักษาเอง  หากไม่จำเป็นจะไม่ซื้อ  ยกเว้นพันธุ์ไม้หายาก  ต้องซื้อบ้างเท่าที่จำเป็น

ข่อยต้นนี้ได้มาจากชายทุ่ง  ขุดล้อมและยกกลับมาเอง  ไม่ต้องจ้างยกเลย  แต่เสียเหงื่อไปเยอะครับ

       นับจากวันนั้นก็เริ่มลงมือหาพันธุ์ไม้  สนใจปาล์มพันธุ์ต่างๆ ครับ  เอามาจัดสวนแล้วสวยดี  ปัญหาอยู่ที่ปาล์มต้นหนึ่งกว่าฟอร์มสวยเอามาจัดสวนได้ ต้องเลี้ยงไม่ต่ำกว่า 5-6 ปี  รอไม่ไหวครับ  ตัดสินใจเอาต้นปาล์มที่อยู่ในสวนยางข้างบ้านมาแต่งไปพลางก่อน ฟอร์มสวยดี  บ้านๆ เรียกต้นเหรงครับ 

ต้นนี้ไงครับ  แถวบ้านเรียก ต้นเหรง  ไม่ทราบว่าชื่อทางพฤษศาสตร์ เรียกอะไร

เปิดตำราพันธุ์ปาล์มดู ไม่เห็นมีลักษณะตรงตามที่บรรยายเลย  ใครพอจะทราบไหมครับ  ปาล์มที่เห็นในภาพ  ชื่ออะไร  ขอเป็นชื่อวิทยาศาสตร์ได้ก็ดีครับ  ต้นปาล์มที่เห็นย้ายจากสวนยางมาปลูกที่หน้าบ้านแล้วครับ

ต้นเหรงที่ล้อมมาจากสวนยาง  วันที่ถ่ายรูป ย้ายมาประมาณ 3 เดือน เริ่มตั้งตัวได้แล้ว 

ต้นกะพ้อ จากสวนยางข้างบ้าน  กะพ้อเป็นปาล์มพันธุ์หนึ่ง เป็นไม้พื้นล่างชอบแดดร่มรำไร  ถ้าเอาออกกลางแดดจัดใบจะไหม้ไม่งาม  เคยถามราคาที่ขายอยู่ที่ริมถนนช่วงสุพรรณบุรี  กอหนึ่งราคา 4,500 บาท  ครั้นถามว่าซื้อมาเท่าไร 2000 บาทถึงไม๊  ?  เขาไม่ตอบ  มารู้ทีหลังว่าเขาไปเอามาจากสวนในราคากอละ 300 บาทเอง

        ส่วนปาล์มอื่นๆ ที่เห็นสวยๆ ก็ขอเมล็ดมาปลูก  เมล็ดปาล์มน้ำพุ  เพื่อนจากสำนักส่งเสริมและการศึกษาต่อเนื่องให้มา  ปาล์มแชมเปนจ์ เอาเมล็ดมาจากหน้าสำนักงาน  เมล็ดหมากเหลืองจากข้างหอสมุด  เมล็ดหมากเขียวจากหน้าหอสมุด  เมล็ดปาล์มจีบจากหลังห้องประชาสัมพันธ์  เมล็ดปาล์มมงกุฏ จากโรงเรียนที่ภรรยาสอนอยู่  เมล็ดปาล์มหางหมาป่า (Foxtail) เอามาจากหลายที่ เช่น จาก ม.เกษตรบางเขน  จาก ม.อ.หาดใหญ่ ฯลฯ  ทุกอย่างทุกเมล็ด เอามาเพาะหาประสบการณ์  เริ่มจากปาล์มแชมเปนจ์  รุ่นแรกเพาะเมื่อปี 47 กว่าจะรู้นิสัยการงอก  เพาะรุ่น 2 เมื่อปี 48  ได้มาประมาณ 25 ต้น  เลี้ยงอยู่ถึงตอนนี้เหลือประมาณ 15 ต้น  เพาะรุ่น 3 ปี 49 ได้ต้นอยู่ในถุงชำประมาณ 70 ต้น  และที่กำลังงอกต่อเนื่องอยู่ยังมีอีกเยอะครับ

        ที่คิดว่าประสบความสำเร็จมาก น่าจะเป็นปาล์มน้ำพุ  ที่เพื่อนให้เมล็ดมา 2 ทะลาย  ลองฝังไว้เล่นๆ งอกออกมาเยอะแยะไปหมด เอาลงถุงชำไม่หวาดไม่ไหว  ต้องจ้างเพื่อนบ้านลงถุงชำให้  ได้ 1,200 กว่าต้นครับ  ส่วนพันธุ์ปาล์มอื่นๆ  รอการงอกอยู่ครับ  ถ้างอกสัก 70 % จะได้พันธุ์ปาล์มแชมเปนจ์ ราว 300 ต้น  ปาล์มหางหมาป่า ราว 100 ต้น  ปาล์มจีบ ไม่ต่ำกว่า 1500 ต้น

ปาล์มน้ำพุครับ  ที่เห็นในรูปนี้ประมาณ 700 ต้น

       ไหนๆ ต้องขลุกอยู่กับพันธุ์ไม้นานาพันธุ์แล้ว  ตอนนี้เลยชำดะ (พิมพ์ไม่ผิดครับ)  คือเจอพันธุ์ไม้อะไรที่น่าจะชำได้ ก็ลงมือชำเลย ที่เยอะเห็นจะเป็นโกสนยอดทอง  โกสนใบลายประสีเหลือง เพราะต้นเดิมมันหัก เลยหั่นลำต้นจนถึงยอดลงชำ ได้มาสัก 200 ต้นได้มั้ง   เจอเมล็ดอะไรที่คิดว่าปลูกแล้วงอกก็เอามาปลูก  ทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ ปาล์ม  ตลอดจนต้นสัก  ต้นยาง   ปลูกดะ  ตั้งแต่เริ่มลงมือทำเมื่อประมาณ พ.ค. 50  ตอนนี้เต็มพื้นที่แล้ว  เรือนเพาะชำหรือครับ – ไม่ต้อง – ใต้ต้นส้มโอ แดดร่มรำไรกำลังดี  ต้นไม้ที่ท้าทายหน่อยคือสนแผง  ตัดแต่งกิ่งต้นไม้ที่หน้าสำนักงาน แล้วเปรยว่าจะลองเอาไปชำดู  เพื่อนๆ บอกว่าโอกาสติด 0.01 %  (คือหนึ่งในพัน)  เลยลองท้าทายชำกิ่งดู นี่ก็เดือนกว่าแล้ว(10 สิงหา 50)  ใบยังไม่เฉา จะอดทนดูอีกสัก 2- 3 เดือน  น่าจะติดบ้าง สัก 5-6 กิ่ง จากที่ชำไว้ 30 กิ่ง

พันธุ์ไม้นานา ถุงดำด้านหน้าคือตาเบเหลือง ดอกสีชมพูคือแพงพวย

        เป้าหมายที่คาดหวังคือ 5 ธันวาคม 2550  (เหลืออีก  68 วัน) จะเป็นจุดเริ่มต้นของสวนสวยแบบเศรษฐกิจพอเพียงถวายในหลวงครับ  ตามรอยพ่อของแผ่นดินครับ

  สุดท้ายแถมแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงครับ

เศรษฐกิจพอเพียงอย่างไร(สามองค์ประกอบ + สองเงื่อนไข)

พอประมาณ ต้นไม้จัดสวนราคาแพงก็ไม่ต้องซื้อของแพง  ต้นปาล์มจัดสวนถ้าต้นที่มีฟอร์มสวยๆ ราคาหลักพันหลักหมื่น เสียดายตังค์ครับ

ความมีเหตุผล  ส วนจะสวยอยู่ที่องค์ประกอบในการจัด  ต้นไม้ที่จะนำมาจัดสวนอยู่ที่ฟอร์มของต้นไม้ไม่ใช่อยู่ที่ราคาของต้นไม้   ต้นไม้ที่ราคาแพงเพราะเกษตรกรต้องปลูกและดูแลเป็นเวลานานทำให้มีราคาสูงขึ้น   ยิ่งเมื่อต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหลายๆ ชั้น  ราคาจะสูงกว่าเป็น 2 - 3 เท่า จากราคาที่เกษตรกรขาย  ดังนั้นเราจะตัดตอนในขั้นตอนพ่อค้าคนกลางออก  ปลูกเองและใช้เวลาประคบประหงมเอง   อดทนปลูกเอง  บางส่วนทำเองไม่ทัน  จ้างเพื่อนบ้านมาทำให้ เพื่อลดเวลา ต้นทุนเพิ่มขึ้นต้นละบาทเดียวครับ   หลังจากนั้นรอดูการเจริญเติบโต  จึงไม่จำเป็นต้องซื้อต้นไม้มาจัดสวน   ต้นไม้พื้นบ้านฟอร์มสวยๆ สามารถจัดให้สวยได้ และเราจะไม่มักง่ายไปขุดหรือหาไม้ป่าสงวนมาเป็นของส่วนตัว

ต้นโมกน้ำต้นนี้ขุดมาจากทุ่งนาครับ  ต้นมันมีลักษณะแคระเกร็นเพราะวัวควายเล็มกินยอดและใช้สีข้างถูกอโมกจนเป็นอย่างที่เห็น  เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วโมกสวยๆ แบบนี้มีเยอะ  ชลประทานขุดลอกคลอง(ธรรมชาติ) ถูกทำลายหมด : เสียดายครับ
 

การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี  กิจกรรมที่ทำจะไม่มีคำว่าขาดทุน  เพราะไม่ได้ลงทุน  ต้นไม้ที่ปลูกทั้งเมล็ดพันธุ์และกิ่งพันธุ์ล้วนได้มาจากการขอม าจากแหล่งที่เขาไม่ใช้ประโยชน์ทั้งนั้น   ที่ซื้อก็ไม่มากมาย เคยซื้อกล้วยไม้ดินมาจากตลาดนัดกระถางหนึ่งราคา 90 บาท  แล้วเอามาแยกออกเป็น 11 กระถางทันที  เลี้ยงไว้ประมาณ 3 เดือน ได้ต้นไม้ 11 กระถาง ขนาดกอเท่าตอนที่ซื้อมา  ต้นไม้ที่ขยายพันธุ์ออกได้มาก ความเสี่ยงก็ลดลง  ต้นไม้ที่แยกออกมาคงไม่ไม่เหี่ยวเฉาตายพร้อมกันทีเดียวทั้ง 11 ต้น

ปรงต้นนี้ ขอพี่ตุ่ม (สมทรง)มาครับ  ขนใส่ท้ายรถเก๋งมาทุลักทุเลพอควร

ความรู้ และ คุณธรรม  ก่อนที่จะทำสำเร็จตามที่เห็น ค ้นคว้าจากหนังสือและตำรามากมายครับ   ได้ทดลองปลูกมาก่อนด้วยวิธีการง่ายๆ ทดลองปลูกแต่น้อยๆ    อีกวิธีหนึ่งคือการสอบถามผู้รู้ที่มีประสบการณ์การปลูกมาก่อน  สามารถเอาความรู้ของเขามาเป็นฐานแล้วต่อยอดได้เลย  ไม่เสียเวลาลองผิดลองถูก  พันธุ์ไม้ที่เพาะใว้จำนวนมากๆ  ไว้แลกกับเพื่อนครับ  หรือหากเยอะจริงๆ เกษียณแล้วน่าจะเป็นอาชีพเสริมได้