ขอบคุณที่นำเรื่องพิเศษมาบอกเล่า

สวัสดีค่ะ

• ดิฉันเคยพบกับท่านทั้งสองค่ะ เมื่อทำงานอยู่ที่ขอนแก่น
• ประทับใจและศรัทธาท่านทั้งสองมากค่ะ
• ขอให้ดวงวิญญาณของแพทย์หญิงพวงแข ชนะวงศ์ สู่สรวงสวรรค์ค่ะ
• ด้วยความเคารพ

สวัสดีค่ะ ท่านครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

• ยินดีมากค่ะ และขอกราบสวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ ท่านครูบา ด้วยนะค่ะ

สวัสดีค่ะ

ทั้งสองท่านคือคุณหมอกระแส และคุณหมอเพ็ญแข เป็นผู้มีคุณูปการอย่างยิ่งในบ้านเมืองเราค่ะ

คารวะท่านด้วยหัวใจค่ะ

(^___^)

สวัสดีค่ะ คุณครูคิม

• ท่านเป็นที่รักของชาวขอนแก่นอย่างยิ่งนะค่ะ เพราะท่านทั้งสองทั้งเสียสละ อุทิศชีวิตให้กับประชาชน ชาวบ้าน อย่างแท้จริงค่ะ
• สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ คุณครูคิม และครอบครัวด้วยนะค่ะ =)

สวัสดีค่ะ คุณคนไม่มีราก

• เบื้องหลังการทำงานที่เสียสละ อุทิศชีวิตของทั้งสองท่านนั้น คือการให้ความรัก และกำลังใจที่ท่านมีให้แก่กันมาโดยตลอด ๔๔ ปี ...
• ท่านทั้งสองเป็นบุคคลต้นแบบให้กับหลายๆ คนในการทำงาน และการดำรงชีวิตค่ะ ...
• ขอกราบคารวะท่านด้วยเช่นกันค่ะ ..

ขอบคุณค่ะ อาจารย์ธนิตย์ สุวรรณเจริญ และขอสวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓ แด่อาจารย์และครอบครัว เช่นกันนะค่ะ สุขภาพกาย ใจ สดใส สดชื่น ตลอดไปค่ะ =)

สวัสดีปีใหม่ครับ

• ขอบคุณค่ะหนานเกียรติ เป็น ส.ค.ส. ๒๕๕๓ ที่น่ารักมากๆ ค่ะ เหมือนแม่หนูเฌวา มาเขย่าเพอคัดชั่น ด้วยความสนุกสนานให้ฟังกันข้างๆ นี่เลยค่ะ =)
• ขอให้หนานเกียรติ และครอบครัวมีความสุขม๊ากๆ นะค่ะ =)
  
  

• นี่ผมไป search เข้ามาจากกูเกิ้ล และเห็นขึ้นเป็นรายการแรกเลยนะครับ ใช้คำว่า หมอเพ็ญแข ซึ่งเป็น common term สำหรับการงานและชีวิตของคุณหมออีกมากมาย และเป็นชื่อทั่วไปของคนเยอะแยะครับ
• คุณหมอ เป็นทั้งแพทย์รักษาสุขภาพและสารทุกข์สุกดิบของผู้คน แล้วก็เป็นครูและผู้ลงทุนทางการศึกษาเพื่อสร้างคน ไม่เพียงแต่ลูกหลานของของชาวอีสานเท่านั้นครับ แต่ทั้งสำหรับคนไทยและต่างประเทศ แล้วก็เป็นแม่พระ ทั้งของคนเมืองพลและผู้คนที่รู้จักครับ ๓ ด้านในความเป็นคุณหมอนี้ ไม่เกินเลยที่จะกล่าวว่า ทำให้ตลอดชีวิตอันงดงามของคุณหมอ รายทางไปด้วยกิจจากโพธิสัตว์ธรรมและพรหมวิหารธรรม ของประชาชน
• เรื่องราวชีวิตของคุณหมอและคุณหมอกระแสนั้น ทั้งน่าทึ่งและให้แรงบันดาลใจตลอดทั้งชีวิต ในวันที่ได้ไปร่วมงานฌาณปกิจและคารวะกายธรรมของคุณหมอ ณ จิตกาธานนั้น ทั้งอำเภอพลทั้งแต่ริมถนนและผู้คน ลูกเล็กเด็กแดงไปจนคนเฒ่าคนแก่ เหมือนกับร่วมกันจัดงานให้คุณหมอ รวมทั้งในสภาพที่ยังดูเป็นชุมชนอำเภออันเงียบสงบ ห่างไกล ก็ได้รับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯจากพระเทพฯ เสด็จพระดำเนินไปพระราชทานเพลิงและทรงเป็นองค์ประธานพิธีในวาระสุดท้ายของชีวิตให้
• ท่านเป็นหมอ เป็นดาวมหาวิทยาลัย เป็นลูกเสนาบดีระดับท่านขุนซึ่งเป็นชนชั้นสูงของสังคมไทย แต่กว่า ๔๐ ปีก่อนโน้น ก็กลับไปดำรงชีวิตและอุทิศตนเพื่อการงานทั้งทางด้านสุขภาพ การศึกษา และการพัฒนาสังคม อยู่ในเมืองชนบท กระทั่งวาระสุดท้าย ก็มีเจ้าฟ้าของแผ่นดิน เสด็จไปส่งดวงวิญญาณอยู่ในท่ามกลางชนบทประเทศอันห่างไกลจากเมืองหลวง โดยคู่ชีวิตซึ่งก็เป็นคนระดับผู้นำของประเทศและครอบครัว ช่วยกันสร้างเมรุและจิตกาธานเล็กๆกับพิธีอันเรียบง่ายให้หน้าโรงเรียนซึ่งเป็นเหมือนชีวิตจิตใจของท่าน เพื่อให้ทุกสิ่งในความเป็นท่านหวนคืนสู่ผืนดินเดียวกันกับสถานศึกษาที่ท่านอุทิศให้แก่การศึกษาของอนุชน
• เป็นเรื่องราวที่คลาสสิค งดงาม ดีงาม ให้ทรรศนะต่อความรักที่ยิ่งใหญ่ และบอกเล่าเรื่องราวและวิถีทางจิตวิญญาณของสังคมไทยได้ตั้งแต่ระดับรากหญ้า ได้หลายมิติเลยครับ

“เดือนประดับฟ้า” กับ “วีรชนเมืองพล”

ก่อนนั้น ดูเหมือนชีวิตของอาจารย์หมอเพ็ญแขจะเป็นชีวิตที่ราบรื่นดูจะไม่มีอุปสรรคใดๆ เอาเสียเลย หากได้ดำรงชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ในฐานะหมอเมืองกรุง...

เมื่อใกล้จบแพทย์ ชีวิตอาจารย์หมอเพ็ญแขก็เริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะมีนักศึกษาแพทย์บ้านนอกคนหนึ่งที่เรียนอยู่ปีเดียวกันได้ให้ความสนในเป็นพิเศษ และพยายามเข้าใกล้แบบกล้าๆ กลัวๆ

และแล้วชายหนุ่มนักศึกษาแพทย์จากบ้านนอกคนนั้นซึ่งใช้เวลาเลียบๆ เคียงๆ อยู่นาน กระทั่งที่สุดรวบรวมความกล้า เลยไปจนถึงขั้นสู่ขอ แล้วก็จูงมือกันไปซื้อแหวนหมั้นที่พาหุรัต

ความรัก ความเข้าใจที่มีต่อกันลึกซึ้งและมีความหมายยิ่งกว่าทองหยอง ทำให้อาจารย์หมอเพ็ญแขตัดสินใจเลือกแหวนวงที่ถูกที่สุดที่ปรากฎในร้าน เพราะรู้ถึงความลำบากของชาวหนุ่มหมอบ้านนอกคนนั้นที่จะต้องรวบรวมเงินมาซื้อให้...

เมื่อถึงคราวจะแต่งงาน ญาติพี่น้องเป็นห่วงกันนักหนาว่าอาจารย์หมอเพ็ญแขจะปรับตัวไปอยู่อย่างไรที่ “เมืองพล” เพราะแม้แต่ชื่อเมืองพลก็ไม่เคยปรากฎให้เห็นในแผนที่ ไม่เคยได้ยิน รู้แต่ว่าอยู่อีสาน และกันดารเต็มที

และถ้าเผอิญถ้าพี่น้องที่กรุงเทพฯ รู้ว่าเรือนหอก็ยังไม่มี เพราะชายหนุ่มหมอบ้านนอกคนนั้นก็ยังต้องอาศัยอยู่กับแม่ในบ้านหลังเล็กๆ เท่าแมวดิ้นตายในตลาดเท่านั้น  ก็จะทำให้พี่ๆน้องๆ ในกรุงเทพฯจะยิ่งตกใจ

แต่เหตุการณ์กลับพลิกผันไปในทางที่ดี โดยว่าที่คู่บ่าวสาวในปี พ.ศ.2508 คู่นั้นได้ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวร่วมกันที่จะสร้างเรือนหอให้ได้ รถโฟล์คคันเล็กๆ ที่อาจารย์หมอเพ็ญแขเคยขับไปตามถนนในกรุงเทพฯ อย่างโดดเด่นในสมัยนั้น ถูกเปลี่ยนสภาพเป็นเสาเข็ม พื้นบ้าน หลังคาของเรือนหอ...... ที่เมืองพลอย่างแนบเนียน .....

(จากคำไว้อาลัย... ดร.พิจิตต รัตตกุล และครอบครัว)

อนุสรณ์ชีวิต แพทย์หญิงเพ็ญแข ชนะวงศ์ (เกษมสุวรรณ). ขอนแก่น, ๒๕๕๒ : ๕๔

• ขอบคุณอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ... สำหรับบันทึก “คารวาลัย” แด่อาจารย์หมอเพ็ญแข ชนะวงศ์ แบ่งปันสู่สาธารณะ
• ก่อนนั้น ทราบแต่เพียงว่าท่านเป็นภริยาของ ศ.นพ.ดร.กระแส ชนะวงศ์ อดีตผู้อำนวยการคนแรกของที่ทำงาน ....
• ต่อเมื่อได้อ่านประวัติ และได้เดินทางไปร่วมงานพระราชทานเพลิงศพ เห็นชาวเมืองพล และผู้คนทั่วสาระทิศปิดเมืองรับเสด็จ และเข้าร่วมไว้อาลัยอย่างเนืองแน่น จึงไม่แปลกใจเลยกับความเป็น “เดือนประดับฟ้า” และอยู่ในความทรงจำของชาวเมืองพล

สวัสดีค่ะ อาจารย์วิรัตน์ คำศรีจันทร์

• search จาก google เลยเหรอค่ะ .. ถึงแม้ดูว่า common term แต่สำหรับ คุณหมอเพ็ญแข แล้ว search ด้วยคำว่าอะไรที่ใกล้เคียงกับคุณหมอ ไม่ว่าจะ แพทย์หญิงเพ็ญแข พญ.เพ็ญแข ชนะวงศ์ หรือ อาจารย์หมอกระแส ก็ตาม ก็จะพบแต่บันทึกที่มีแต่ความชื่นชมคุณหมอทั้งสองท่านเสมอค่ะ
• ทั้งสองท่าน โดยเฉพาะคุณหมอเพ็ญแข เป็นบุคคลต้นแบบของคนที่ละทิ้งความสุขสบาย ไปเพื่อดูแลประชาชน โดยสวนกระแสความคิดของคนส่วนใหญ่ ที่ทิ้งถิ่นกันดารสู่ความสุข สบายอย่างเมืองหลวง หรือเมืองใหญ่ๆ ...

"ข้างหลังผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ จะต้องมีผู้หญิงอยู่หนึ่งคนเสมอ" นี่เป็นคำพังเพยของฝรั่ง แต่ที่เมืองไทย ในเมืองพล จังหวัดขอนแก่น ยอดกัลยาณีคนนั้น ก็คือ แพทย์หญิงเพ็ญแข ชนะวงศ์ ..

ใครต่อใครก็พากันชมหมอกระแส เพื่อนรักของผมว่าเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ผมชมหมอกระแสว่าที่เขาเก่งที่สุด(ในโลก)ก็คือ เขาสามารถทำให้หมอเพ็ญแขทิ้งกรุงเทพฯ มาอยู่เมืองพลได้

พ.ญ.เพ็ญแข คือสาวน้อยที่เป็นไข่ในหินของครอบครัว "เกษมสุวรรณ" คหบดีที่มั่งคั่ง มีรากฐานที่มั่นคงในเมืองหลวงของประเทศไทย ที่ดูดดึงทรัพยากรทุกอย่าง โดยอย่างยิ่งทรัพยากรมนุษย์เข้ามาไว่ในส่วนกลางทั้งหมด หมอกระแสสวนกระแสได้อย่างไร

คำตอบสั้นๆ ก็คือ "อานุภาพแห่งความรัก"

อานุภาพแห่งความรักนี้แผ่ปกไปถึงประชาชน และผู้ยากไร้ที่โรคภัยเบียดเบียนเหมือนในชนบทไทยทั่วๆ ไป แต่ไม่เหมือนกันตรงที่เมืองพลมีแพทย์หนุ่มสาว สามีภรรยาคู่นี้ที่ทุ่มเทความรัก รับใช้ประชาชนอย่างไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อย ............

(จากคำไว้อาลัย... ปราโมทย์และสุมณฑา นาครทรรพ)
อนุสรณ์ชีวิต แพทย์หญิงเพ็ญแข ชนะวงศ์ (เกษมสุวรรณ). ขอนแก่น, ๒๕๕๒ : ๕๒

คารวะอาจารย์ผู้จากไปครับ

สวัสดีค่ะ คุณช้างน้อยมอมแมม

• คุณหมอทั้งสองท่าน พบท่านกี่ครั้ง ไม่เคยเห็นท่านไม่ยิ้มสักครั้ง รอยยิ้มของท่านทำให้ผู้พบเจออบอุ่นใจ และดูเป็นกันเอง สร้างความประทับใจตลอดมา ..
• ได้อ่านหนังสือของอาจารย์หมอกระแส ชนะวงศ์ ที่กล่าวถึงภริยาของท่านแล้ว รับรู้ได้ถึงความรักของท่านทั้งสองค่ะ ซึ่งอานุภาพของความรักนั้นส่งผลดีต่อประชาชน ชาวเมืองพล ดั่งคำไว้อาลัยของคุณปราโมทย์ และสุมณฑา นาครทรรพ ..
• ยิ่งได้อ่านคำไว้อาลัย กี่ท่านต่อกี่ท่าน กี่หน้าต่อกี่หน้า ทำให้ทึ่งต่อความรัก และเสียสละทั้งชีวิตนี้เพื่อความสุขของผู้อื่นมากกว่าเห็นแก่ตนเองของคุณหมอเพ็ญแข .. เดือนประดับฟ้า จึงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งท่านจะอยู่ในใจ ของชาวเมืองพล ตลอดไปแน่นอนค่ะ ...

          ลูกแหง่ของพวกเรา เรียบร้อยที่สุด บริสุทธิ์นุ่มนวลอ่อนหวานไม่มีใครเกิน ใบหน้ายิ้มรื่นตลอดเวลา แม้แต่ในวงสนทนาก็ได้แต่ฟังและยิ้ม เพ็ญแขพูดไม่เก่งนัก แต่คำที่พูดออกมาเป็นคำพูดที่ออกจากใจและไพเราะ เพื่อนในหอบางแคของเราทุกคนรักเอ็นดุเพ็ญแขมาก โดยเฉพาะหัวหน้าหอของเราถนอมเหลือเกิน

          การเรียนและงาน ward ทำได้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เคยทำความผิดหวังให้เพื่อนๆ เลยในด้านการเรียน !

          พวกเราต้องรู้จักเพ็ญแข แต่น้อยคนเหลือเกินที่เพ็ญแขคุยด้วย โดยเฉพาะชาวหอเก่าเพ็ญแขคุยด้วยก็เหมือนถูกหวยเถื่อน สำหรับการยิ้มทักทายนั้นเพ็ญแขทำได้อย่างทั่วถึงจนหอเก่าบางคนถึงกับเอาไปฝัน !

          เพ็ญแขอยู่หอด้วยความรักสงบ รักสวยรักงาม ดูแลห้องได้เรียบร้อย ใครเข้าไปคุยในห้องละก็ต้องอิ่มออกมาทุกคน ดังนั้นอีกไม่กี่วันเราก็จะได้แพทย์หญิงพร้อมกับแม่บ้านที่ดี ซึ่งมีรวมอยู่ในตัวของเพ็ญแขเพื่อของเราคนนี้

เพ็ญแข เกษมสุวรรณ
สายปัญญา-เตรียมอุดมศึกษา
พระนคร

จากหนังสือ "เวชนิสิต 2502-2503 ศิริราช"

-----------------------------------------------
อนุสรณ์ชีวิต แพทย์หญิงเพ็ญแข ชนะวงศ์ (เกษมสุวรรณ). ขอนแก่น, ๒๕๕๒

คุณหมอเพ็ญแขมักจะพูดเสมอ ๆ ว่า " อุดมคตินั้นกินได้ แต่ต้องกินด้วยใจและอิ่มด้วยใจ" ฟังแล้วรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ หัวใจพองโต มีกำลังใจขึ้นเยอะเลยนะ คิดว่าหลาย ๆ คนคงจะเห็นด้วยและก็ขอให้เป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังทำความดี ทำประโยชน์ให้กับสังคม คิดว่าเป็นความโชคดีของคนเมืองพลนะ ที่ฟ้าได้ส่งนางฟ้าที่มีลมหายใจมาอยู่กับเรา ตอนที่อยู่เมืองพล ภาพที่เห็นจนชินตาและก็ยังเป็นความประทับใจเราอยู่ถึงวันนี้คือภาพที่ คุณหมอผู้เพียบพร้อมทั้งชาติตระกูล ฐานะ การศึกษา เลือกที่จะนั่งรถสามล้อถีบเพื่อ ไปทำงานที่คลีนิก แทนการขับรถยนต์คันหรู ที่แสนจะสะดวกสบาย คุณหมอยินดี และพอใจในการใช้ชีวิตตามประสาคนบ้านนอก ท่านสามารถพูดคุยกับคนได้ทุกชั้น ทุกระดับด้วยความนุ่มนวล อ่อนหวาน เป็นกันเอง วันที่ 23 ธันวาคม ถือเป็นประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่จะอยู่ในความทรงจำของชาวเมืองพล เพราะพ่อค้า ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งในตลาด และหมู่บ้านใกล้เคียง ต่างพร้อมใจกัน หยุดภาระกิจของตน ปิดร้านรวง ทำความสะอวด หน้าบ้าน ถนนหนทาง เดินทางมานั่งตามถนนสองข้างทางเพื่อรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ และร่วมไว้อาลัยให้แก่คุณหมอเพ็ญแข ผู้ซึ่งเป็นแม่พระ เป็นแม่หมอ และนางฟ้าของคนเมืองพลเป็นครั้งสุดท้าย

บัดนี้นางฟ้าของเราได้กลับสู่อ้อมอกสวรรค์อีกครั้งด้วยความอาลัยรักยิ่งของชาวเมืองพล

ขอบพระคุณ ท่านsmall man และ คุณแสงแห่งความดี 
ค่ะ ขอให้ท่านและครอบครัวมีความสุขกาย สบายใจตลอดปี ๒๕๕๓ และตลอดไปนะค่ะ =)

ขอกล่าวถึงและอ้างอิงถึงอาจารย์ณัฐพัชร์ ที่ คห ๒๖ ในบันทึกหัวข้อ ยายวง ผู้อยู่โดยใจสว่างในโลกมืด ของผมนะครับ

สวัสดีค่ะ คุณครูตุ๋ย

• คุณครูตุ๋ยคนเมืองพล ตอนนั้นต้องเป็นผู้ที่ได้อยู่ใกล้ชิด หรือมีบ้านใกล้เรือนเคียงกับคุณหมอทั้งสองท่านแน่ๆ เลย ถึงขนาดได้เห็นภาพวิถีของท่านจนชินตา
• น่าปลื้มใจแทนชาวเมืองพลค่ะ
• ตอนนี้พวกเราที่รักคุณหมอเพ็ญแขทุกๆ คน ได้พร้อมใจกันส่งนางฟ้าแห่งเมืองพลกลับสู่สวรรค์แล้วค่ะ ...

ขอบคุณค่ะ คุณคนไม่มีราก ขอให้คุณคนไม่มีราก และครอบครัวพบแต่สิ่งดีงามตลอดไปเช่นกันค่ะ =)

สวัสดีค่ะ อาจารย์ ดร.วิรัตน์ คำศรีจันทร์

ขอกล่าวถึงและอ้างอิงถึงอาจารย์ณัฐพัชร์ ที่ คห ๒๖ ในบันทึกหัวข้อ ยายวง ผู้อยู่โดยใจสว่างในโลกมืด ของผมนะครับ

ยินดีค่ะท่านอาจารย์ และประเดี๋ยวจะเข้าไปร่วมพูดคุยด้วยนะค่ะ =)

มีความสุขมากๆนะ...

ขอบพระคุณค่ะ พี่ครูอ้อยเล็ก ขอให้พี่ครูอ้อยเล็ก และครอบครัวมีแต่ความสุขกาย สบายใจตลอดปีใหม่ ๒๕๕๓ และตลอดไปเช่นกันค่ะ =)

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

มีความสุข สงบ สมดังหวังตลอดปีใหม่นี้นะคะ

(กำลังคิดว่าจะวิปัสสนาเคาน์ดาวน์รับเลขอายุใหม่ไหวมั๊ย)

"ฉันไม่ต้องการให้เธอเป็นเพียงแพทย์เท่านั้น ฉันต้องการให้เธอเป็นคนด้วย ..."

"... ถือกิจส่วนรวมเป็นอันดับต้น ถือกิจส่วนตนเป็นอันดับรอง แล้วจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ..."

จะนำไปเล่าให้ลูกสาวฟัง

จำไว้เป็นแบบอย่างค่ะ

สวัสดีค่ะ พี่  ณัฐรดา

• สรุปว่าปีนี้ไม่ได้ไปไหน จึงมาพักผ่อนที่บ้านพักอาจารย์ ลพบุรีค่ะ เลยตั้งใจไว้ว่าจะสวดมนต์ข้ามคืน ที่นี่ค่ะ (เตรียมชุดขาวไว้เผื่อว่าจะได้ไปโต้รุ่งที่ยุวพุทธิกสมาคม แห่งประเทศไทย แต่ก็ไม่ได้ไป) งั้นเรามาสวดมนต์ไปพร้อมๆ กัน(ที่บ้านตัวเอง)นะค่ะ =)
• แล้วจะสวดมนต์เผื่อกัลยาณมิตรทุกท่านด้วยค่ะ =)

สวัสดีค่ะ คุณ ครูคิม

สวัสดีค่ะ คุณ ชาดา ~natadee ขอบคุณค่ะสำหรับ ส.ค.ส.๒๕๕๓ อันเป็นมงคลยิ่งแก่ชีวิต จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ @..สายธาร..@

 ขอส่งความสุขสวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๓  แด่ทุกท่าน เช่นกันนะค่ะ มีความสุขม๊าก มากค่ะ =)

ได้เห็นแม่หมอที่วิทยาลัยบัณฑิตเอเซีย ทุกครั้งที่เห็นท่านจะพบแต่รอยยิ้มเสมอ เสมือนว่าท่านไม่มีความทุกข์เลย ทำให้เรารู้สึกมีกำลังใจและอยากยิ้มให้ได้อย่างท่านในทุกๆสถานการณ์ และอยากให้ทุกคนบนโลกใบนี้ยิ้มให้กันอย่างจริงใจแบบแม่หมอค่ะ

ขอให้แม่หมอไปสู่สัมปรายภพด้วยค่ะ และขออวยพรให้ทุกท่านมีแต่ความสุขกาย สุขใจ และสุขภาพแข็งแรงตลอดไป

สวัสดีค่ะ คุณเล็ก

• ท่านอาจารย์หมอกระแส ชนะวงศ์ เช่นกันค่ะ พบท่านทีไร ท่านก็มีแต่รอยยิ้ม ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของ ภาวะผู้นำ ของคุณหมอจริงๆ
• รอยยิ้มของคุณหมอทั้งสองท่านเป็นกำลังใจให้กับผู้พบเห็นอย่างที่คุณเล็กว่าไว้จริงๆ ค่ะ ...
• ขอบคุณค่ะสำหรับคำอวยพร ขอให้คุณเล็กมีสุขภาพกาย และใจที่ดีตลอดไปเช่นกันค่ะ =)

สวัสดีค่ะอาจารย์ณัฐพัชร์

มาสวัสดีปีใหม่ คงยังไม่ช้าเกินไป

ที่ร้านเบิกม่าน แค่พบกันแป๊บเดียวก็ประทับใจในตัวอาจารย์แล้วค่ะ

เสียดายมากค่ะที่มีภารกิจต้องไปทำต่อ ไม่งั้นคงได้ทานอาหารกลางวันร่วมกัน

มีโอกาสคงได้นั่งเสวนาและรับความรู้จากอาจารย์นะคะ

---------

ได้ดูข่าวในพระราชสำนักด้วยค่ะ

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชทานเพลิงศพ

สวัสดีค่ะ คุณครูจุฑารัตน์

• ยินดีต้อนรับ และดีใจที่คุณครูมาเยือนที่บันทึกนี้นะค่ะ
• เสียดายเช่นกันค่ะ แม้ได้เห็นคุณครูเพียงแว๊บเดียว และได้รับทราบข้อมูลบางส่วนจากท่านอาจารย์วิรัตน์บ้างแล้วก็ประทับใจในความมุ่งมั่น และตั้งใจจริงของคุณครูจุฑารัตน์มากๆ ค่ะ ปลื้มใจและดีใจแทนเด็กๆ ที่คุณครูดูแลอยู่มากๆ เลยค่ะ ..
• ก็หวังว่าจะได้มีโอกาสพบปะกันอีกนะค่ะ ..
• งั้นขออัญเชิญ ส.ค.ส. ๒๕๕๓ ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แด่คุณครูจุฑารัตน์ มา ณ ที่นี้ด้วยนะค่ะ ...