การปฏิรูปสังคมไทย ที่ควรเคลื่อนไปกันทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา ซึ่งทุกคนย่อมรับรู้กันอยู่แล้วว่ามันต้องใช้เวลา จะ ๕ ปี ๑๐ ปี หรือ ๒๐ ปี แต่เราก็ควรจะพัฒนาต่อไป เส้นชัย หรือหมุดหมายของคนเราสามารถเคลื่อนได้ตลอดเวลา ชีวิตคนเราไม่ได้ประสบความสำเร็จเพียงแค่อกแตะเส้นชัยแล้วจะหยุดเพียงแค่นั้น ทุกสิ่งอย่างต้องมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาเช่นกัน ..
การปฏิรูประบบทางสังคม และโดยเฉพาะหน่วยเล็กๆ ทางสังคมที่เรียกว่าครอบครัว ซึ่งในปัจจุบันได้กลายเป็นครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวกันมากขึ้น จนทำให้การเลี้ยงดูลูกๆ ในลักษณะของ Role Model หาได้ยากเต็มที เมื่อเด็กๆ ไม่มีตัว Role Model โดยเฉพาะ good role model จึงทำให้ต้นทุนชีวิตของเด็กมีน้อยลง ทักษะต่างๆ อย่างเช่น ทักษะการปฏิเสธ ค่านิยมในการทำความดี การรู้เท่าทันสื่อ นิสัยการรักการอ่าน หรือการมีภูมิปัญญา ...
เมื่อ Role Model หาไม่ได้ให้ครอบครัว จึงมองหา Role Model จากสังคมภายนอกที่เด็กๆ ตีค่าเป็นค่านิยมที่ชิล ชิล ใครๆ ก็มีกัน และเมื่อความรู้เท่าทันของเด็กยังอ่อนเยาว์ ทักษะการแก้ไขปัญหาต่างๆ ยังไม่ดีพอ ปัญหาทางสังคมก็จะเกิดตามมาอีกเป็นพรวน .. หลายๆ คนอาจตีค่าว่ามันจะเป็นประสบการณ์ แต่ถ้ามันเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายที่น่าเจ็บปวด เด็กๆ อาจลดคุณค่าของตัวเอง ยิ่งจะส่งผลและทำร้ายเด็กซ้ำเข้าไปอีก ..
อาจารย์หมอสุริยเดว ทรีปาตี ผู้เชี่ยวชาญกุมารเวชกรรม และผู้เชี่ยวชาญด้านวัยรุ่น ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้แนวทางในการแก้ไขปัญหาการเลี้ยงดูลูกๆ ว่าควรปล่อยให้มีปฏิสัมพันธ์ต่อครอบครัวให้มากขึ้น สอนให้รู้จักการฟัง และให้มีการเป็น อยู่ อย่างมีส่วนร่วมกับครอบครัว และสังคมให้ได้มากที่สุด การพาทำกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างการพัฒนาเด็ก ที่มิใช่ทำกิจกรรมเพื่อแค่ได้ทำกิจกรรม แต่ต้องเป็นกิจกรรมที่มีความหมาย การหาโอกาสได้ทำกิจกรรมในลักษณะจิตอาสา หรือให้เป็นคนมีจิตสำนึกที่จะเป็นคนจิตอาสา เพราะในปัจจุบัน เยาวชนหาโอกาสที่จะได้ทำงานจิตอาสานั้นน้อยเหลือเกิน ..
การกล่อมเกลาสังคมซึ่งในอนาคตจะสามารถขยับความห่างของความคาดหวังที่ถูกมองว่าเป็นเพียงความเพ้อฝันให้เข้าใกล้กับความเป็นจริงให้ได้มากที่สุด .. ได้ไหม? หน่วยเล็กๆ ที่เรียกว่าครอบครัวอาจจะช่วยตอบคำถามได้ .. เพียงแค่ขอให้มีต้นทุนชีวิตที่ดี ...
----------------------------------------------------------
จาก เวทีการประชุมวิชาการประจำปีสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศึกษาศาสตร์
คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
part หนึ่งของ section "ปฎิรูปสังคมไทย : ความคาดหวังกับความเป็นจริง"
วันศุกร์ที่ ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๓
ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ
สวัสดีค่ะ คุณpa_daeng
สวัสดีค่ะ
ชีวิตคนเราไม่ได้ประสบความสำเร็จเพียงแค่อกแตะเส้นชัยแล้วจะหยุดเพียงแค่นั้น ทุกสิ่งอย่างต้องมีการพัฒนาขึ้นไปเรื่อยๆ ให้ทันกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ..
เห็นด้วยค่ะว่านอกจากนี้จะต้องพัฒนาตนเองให้เป็นพลเมืองไทยที่ดี และพลเมืองโลกในการปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลง รอดพ้นจากความวิบัติ ไม่สร้างความหายนะ
ต้นทุนชีวิตของเด็กมีน้อยลง ทักษะต่างๆ อย่างเช่น ทักษะการปฏิเสธ ค่านิยมในการทำความดี การรู้เท่าทันสื่อ นิสัยการรักการอ่าน หรือการมีภูมิปัญญา ...
นอกจากทักษะชีวิตอ่อนด้อยในเด็กแล้ว เด็กในปัจจุบันขาดจริยธรรม และไม่มีความอดทน ไม่มีสำนึกกตัญญูรู้คุณ ขาดจิตสาธารณะ
หลายๆ คนอาจตีค่าว่ามันจะเป็นประสบการณ์ แต่ถ้ามันเป็นประสบการณ์อันเลวร้ายที่น่าเจ็บปวด เด็กๆ อาจลดคุณค่าของตัวเอง ยิ่งส่งผลและทำร้ายเด็กซ้ำเข้าไปอีก ..
นี่คือค่านิยมผิด ๆ แล้วลงท้ายเป็นปัญหาที่ไม่อาจแก้ไขได้ และทำไมเด็กต้องรับกรรมจากความอ่อนแอของสถาบันครอบครัว อย่างข่าวครึกโครมทุกวันนี้
ครอบครัวอาจจะช่วยตอบคำถามได้....ขอเชียร์ค่ะ
อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่คิม
ขอบคุณค่ะ..สำหรับข้อคิดเห็นดีๆ ปัจจุบันหลายฝ่ายช่วยกันเสริมแต่งตามความรับผิดชอบ วิชาทางการพยาบาลก็พยายามที่สุดที่จะผลิตพยาบาลที่เข้าใจความเป็นมนุษย์ทั้งของตนเองและผู้อื่น ขอบคุณสังคมที่ยังมีกันอยู่..
สวัสดีค่ะ อาจารย์เพชร
วิชาทางการพยาบาลก็พยายามที่สุดที่จะผลิตพยาบาลที่เข้าใจความเป็นมนุษย์ทั้งของตนเองและผู้อื่น ขอบคุณสังคมที่ยังมีกันอยู่..
สวัสดีค่ะ...
สวัสดีปีใหม่คะ