8.เก็บมาเล่าจากคอลัมน์ประจำ( เรื่องที่ 1)


เรื่องเล่าจากงานบริการสุขภาพ

จากที่เคยบันทึกไว้ในบันทึกนี้ วันนี้จึงอยากหยิบงานเขียนที่เขียนลงในเว็ปไซต์romklao.info จากคอลัมน์เรื่องเล่าจากงานบริการสุขภาพมาเล่าให้ชาว g2k ได้อ่านกันนะคะ ตามมาทางนี้เลยค่ะ

เรื่องที่ 1 ความฝันสุดท้ายของติ๊ก

 

วันก่อนฉันมีโอกาสได้พาครอบครัวคนไข้เด็กระยะสุดท้ายที่อยู่ในโปรแกรมการดูแลของทีมนำทางคลินิกกุมารเวชกรรมของเราไปทำบุญถวายสังฆทานที่หอผู้ป่วยสงฆ์อาพาธ  “ ทำไมจึงคิดอยากจะมาทำบุญ”  นี่คือประโยคแรกที่พระอาจารย์ถามพวกเรา ฉันจึงตอบไปว่า “ ดิฉันพาพ่อแม่คนไข้เด็กโรคมะเร็งระยะสุดท้ายมาทำบุญเพื่อความสบายใจ และอยากอุทิศบุญนี้ให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังเบียดเบียนลูกหลานของเราอยู่เจ้าค่ะ” ฉันแจ้งความประสงค์ของการมาครั้งนี้ให้พระอาจารย์ทราบตามความเป็นจริง และท่านก็อนุญาตให้เราเริ่มทำพิธีถวายสังฆทาน ถวายเสร็จ ท่านบอกกับพวกเราว่าไหนๆก็มากันแล้วฟังเทศน์ก่อนแล้วค่อยกลับนะโยม  “ ในโลกของความเป็นมนุษย์ เกิด เเก่ เจ็บ ตาย ความพลัดพรากเป็นของธรรมดา โยมเคยเห็นต้นมะม่วงมั๊ย มะม่วงดิบร่วงก่อนมะม่วงสุกก็ยังมี ดอกมะม่วงร่วงก่อนที่จะเป็นผลก็มี เพราะฉะนั้นหากเด็กจะตายก่อนผู้ใหญ่ก็ไม่แปลก แต่ขอให้พึงระลึกนึกถึงเราเองว่าวันหนึ่งก็ต้องร่วงไปเหมือนกับผลมะม่วง

คำสอนของพระอาจารย์ทำให้ฉันนึกถึงคนไข้เด็กคนหนึ่ง “น้องติ๊ก”  ย้อนกลับไปเมื่อ10ปีที่แล้วขณะที่ติ๊กมีอายุเพียงแค่ 4 ขวบแม่พาติ๊กมาพบหมอด้วยอาการไข้และซีดเรื้อรัง แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดและข่าวร้ายที่แม่ได้รับฟังจากปากหมอก็คือ “คุณแม่น้องติ๊ก หมอมีข่าวไม่ค่อยดีที่ต้องบอกคุณแม่ คุณแม่ทำใจดีดีไว้นะคะ น้ำเสียงอ่อนโยน นุ่มนวล มีเมตตาของอาจารย์หมออรุณีที่เด็กหลายคนมักเรียกอาจารย์ว่าเป็นอาจารย์แม่    ทำให้แม่น้องติ๊กมีกำลังใจและมีสติพอที่จะรับฟังข่าวที่ไม่ดีตามที่อาจารย์หมอบอก “จากการตรวจเลือดพบว่ามีเซลล์ตัวอ่อนของเม็ดเลือดในร่างกายที่มากผิดปกติและเมื่อตรวจดูไขกระดูกแล้วทำให้แน่ใจว่าน้องเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว” สิ้นเสียงอาจารย์หมออรุณี น้ำตาของคนเป็นแม่หลั่งไหลพรั่งพรูออกมา แต่เมื่อรวบรวมสติได้ แม่น้องติ๊กจึงบอกกับตัวเองว่า “เราต้องสู้ ลูกเราต้องหาย แม่จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาลูกของแม่ จะหมดเงินหมดทองเท่าไหร่ แม่ก็ยอม”

น้องติ๊กกับพี่ตุ้ยธีรภัทร

การรักษาน้องติ๊กเริ่มต้นขึ้นและสิ่งที่ติ๊กต้องเผชิญและตั้งรับอย่างเลี่ยงไม่ได้คือฤทธิ์เดชของยาเคมีบำบัด ขึ้นชื่อว่ายาเคมีบำบัดใครๆต่างก็กลัว มันรุนแรงถึงขั้นทำลายนอกจากมันจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว มันยังทำลายเซลล์ที่ดีของร่างกายเราไปด้วย การรักษาติ๊กเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากโรคมีการกลับซ้ำอยู่หลายครั้งหรือทางการแพทย์เราเรียกกันว่า relapse แม่พาติ๊กเดินเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นจนติ๊กกลายเป็นขวัญใจพี่พี่พยาบาลทั้งตึกไปแล้ว ติ๊กเป็นเด็กน่ารัก ยิ้มเก่ง รู้เรื่องเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่โรคมะเร็งก็ไม่เลือกว่าใครเป็นใคร ไม่เคยปราณีแม้กระทั่งเด็กตัวเล็กน่ารักอย่างติ๊ก

   การรักษาติ๊กใช้เวลายาวนานอยู่ถึง 10 ปี กระทั่งในเช้าวันหนึ่งขณะที่ติ๊กกลับเข้ามารับการรักษาในโรงพยาบาลอีกครั้งด้วยอาการมีก้อนที่ลูกอัณฑะ นี่เป็นอีกหนึ่งสัญญาณบอกเหตุว่าโรคมีการกำเริบและได้ลุกลามไปอวัยวะอื่นแล้ว “สงสารน้องติ๊กจังเลยเน๊าะ อยากให้น้องติ๊กหาย” พยาบาลคนหนึ่งพูดขึ้นขณะส่งต่อข้อมูลผู้ป่วยที่ตัวเองดูแลให้กับพยาบาลอีกคนหรือที่พวกเราเรียกกันง่ายๆว่าส่งเวร  อาจารย์หมออรุณีมีจำเป็นอีกครั้งที่ต้องบอกข่าวร้ายกับติ๊กและแม่ วันนั้นฉันมีโอกาสเข้าไปนั่งฟังเป็นเพื่อนแม่ติ๊กในฐานะที่ฉันเป็นพยาบาลเจ้าของไข้ ส่วนติ๊กนั่งรอแม่อยู่ที่เตียงคนไข้ หลังรับฟังข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน และหมอทุกคนก็เดินออกไปจากห้อง เหลือเพียงฉันกับแม่ติ๊กที่ต้องคุยกันต่อ แม่ติ๊กทำอะไรไม่ถูกพร้อมกับคำถามมากมายที่พรั่งพรูออกมา“ ทำไมทั้งๆที่เราเต็มที่แล้วแต่ลูกเราทำไมไม่หาย ติ๊กบอกกับหนูเสมอว่าเขารู้ว่าโรคจะไม่หาย แต่เขาบอกว่าเขายังไม่อยากตาย” แม่ติ๊กระบายความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่ต้องรับฟังข่าวร้ายที่เกี่ยวกับลูกอีกเป็นครั้งที่ 2ให้ฉันฟัง ฉันจับมือแม่ติ๊กไว้แล้วก็บอกว่า เรายังไม่หมดหวังซะทีเดียวเรายังมีทางเลือกในการรักษานั่นคือการรักษาแบบประคับประคอง โดยเน้นให้น้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่ทุกข์ทรมาน ฉันเล่าให้แม่ติ๊กฟังว่าเร็วๆนี้ทางทีมนำทางคลินิกกุมารเวชกรรมร่วมกับ Wishing well foundation  หรือมูลนิธิสายธารแห่งความหวัง จะจัดกิจกรรมพาน้องเที่ยวทะเลโดยกิจกรรมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ที่จะเติมฝันให้กับเด็กมะเร็งระยะสุดท้ายให้ฝันเป็นจริง  “ ติ๊กเขาเคยใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งอยากไปเห็นทะเลแต่หนูคิดว่าชีวิตนี้คงไม่มีปัญญาพาลูกไป” แม่ติ๊กบอกกับฉัน เมื่อได้ยินดังนั้นฉันจึงไม่รอช้าที่จะให้ติ๊กและแม่เป็นหนึ่งในคนไข้ที่จะร่วมเดินทางไปกับทริปนี้ และทั้งทีมการดูแลรักษาไม่มีใครขัดข้องโดยเฉพาะอาจารย์หมออรุณี    และอีกท่านหนึ่งที่เป็นเหมือนอาจารย์พ่อของเด็กๆคืออาจารย์หมอสุรพล ต่างก็มีความเห็นตรงกันว่าอยากให้ติ๊กไป

                    เมื่อถึงกำหนดวันเดินทาง แม่บอกว่าติ๊กตื่นเต้นจนนอนไม่หลับ เราออกเดินทางจากขอนแก่นเวลา ประมาณ 5 ทุ่มโดยจุดหมายปลายทางของเราคือหาดจอมเทียนพัทยา เราไปกันทั้งหมดสิบกว่าชีวิตมีเจ้าหน้าที่ 3 คนคือฉัน พี่แดงพยาบาลในทีมเดียวกัน และอาร์ม นักสังคมสงเคราะห์ เราเดินทางไปถึงที่พักคือโรงแรมแอมบาสเดอร์ หาดจอมเทียนพัทยา 8 โมงเช้า กิจกรรมที่เราพาเด็กๆเข้าร่วมคือกิจกรรมโครงการคนหล่อขอทำดี ที่นิตยสารสุดสัปดาห์ร่วมกับคลื่น Seed  radio นำโดยคุณตุ้ย ธีรภัทร์ สัจจกุล และเหล่าดีเจหนุ่มหล่อจัดขึ้นเพื่อให้กำลังใจกับน้องๆที่ป่วยด้วยโรคมะเร็งโดยจัดให้มีขึ้นถึง 2วัน วันนั้นติ๊กเข้าร่วมกิจกรรมทุกกิจกรรมโดยไม่แสดงท่าทีเหน็ดเหนื่อยไม่ว่าจะเป็นการเพ้นเสื้อ เล่นน้ำทะเล ฉันแอบเห็นรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขของติ๊กขณะที่ลงเล่นน้ำทะเล ตกเย็นติ๊กยังร่วมสนุกบนเวทีกับนักร้องชื่อดัง ลีเดีย ศรัณรัตน์ ที่สำคัญมีโอกาสได้หอมแก้มลีเดียด้วย ติ๊กกลายเป็นขวัญใจของทุกคนและสร้างสีสันตลอดงานสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่มาร่วมงานในค่ำคืนนั้นโดยเฉพาะรอยยิ้มและท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์ของติ๊ก

เสร็จจากการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้สิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันได้คิดก็คือการที่ทีมการดูแลรักษาได้ให้โอกาสเด็กคนหนึ่งที่รู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่าเวลาแห่งชีวิตของเขาเหลือน้อยเต็มทน ได้ทำในสิ่งที่เขาใฝ่ฝัน ได้ทำในสิ่งที่เขาไม่คิดว่าชีวิตนี้จะมีโอกาส และสิ่งที่ติ๊กบอกกับเราก็คือ “ ติ๊กได้มาเห็นทะเล ได้มานอนโรงแรมห้าดาว กินอาหารอร่อยได้กระทบไหล่ดาราชื่อดัง ถึงแม้ ติ๊กจะตายก็ไม่เสียดายชีวิต ”มันเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งกว่าการให้ทรัพย์สินเงินทอง นั่นคือค่าของการที่เราได้ดูแลจิตวิญญาณของเด็กคนหนึ่งให้เขารู้สึกว่าคุณค่าและความหมายของชีวิตนั้นเราสามารถค้นหาให้กับตัวเองได้อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งในเวลาที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด ก่อนวาระสุดท้ายจะมาถึง ........วันนี้ติ๊กได้จากพวกเราไปแล้ว จากไปอย่างสงบในอ้อมกอดของครอบครัวและบ้านที่ติ๊กรักที่จังหวัดหนองบัวลำภู.........หลับให้สบายนะน้องติ๊ก

สุธีรา  พิมพ์รส

16 มีนาคม 2552

หมายเลขบันทึก: 262189เขียนเมื่อ 19 พฤษภาคม 2009 23:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 10:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีค่ะ มาเป็นกำลังใจค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท