14.เติมฮักเติมแฮงกับค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งและผู้ดูแล


เติมฮักเติมแฮงกับค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งและผู้ดูแล

เก็บมาเล่าจากคอลัมน์ประจำ..... เรื่องเล่าจากงานบริการสุขภาพจากเว็ปไซต์ romklao.info

เติมฮักเติมแฮง..กับค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งและผู้ดูแล

ดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่บันทึกนี้ของพี่เกศ

ซำบายดีบ่..บ่ได้พ้อกันโดน หายเจ็บหายจน ทุกคนเป็นจั่งได๋ ถามข่าวด้วยฮัก คึดฮอดและห่วงใย เอิ้นขวัญสู่ใจ ขอให้อยู่ดีมีแฮงเด้อ...ขอให้อยู่ดีมีแฮง..............

            เสียงเพลงเติมฮักเติมแฮงดังขึ้นพร้อมกับท่วงทำนองอันไพเราะของเพลงพื้นบ้านสำเนียงอีสาน  ทันใดนั้นเสียงปรบมือจากชาวค่ายก็ดังขึ้นพร้อมกันอย่างเป็นจังหวะราวกับว่าได้นัดหมายไว้ ทั้งๆที่ฉันและทีมสันทนาการค่ายไม่ได้เตรียมการหรือนัดหมายใดใด เป็นเสมือนเสียงสัญญาณบอกให้ชาวค่ายได้รับรู้ว่าเราทั้งหลายในที่นี้มารวมตัวกันเพื่อร่วมขับขาน เพลงแห่งพลังชีวิต ร่วมกันท่ามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ อากาศที่หนาวเย็น และแมกไม้สีเขียวอันร่มรื่นกลางเทือกเขาภูพาน ฉันเลือกที่จะร้องเพลงเติมฮักเติมแฮงเพื่อบอกเป็นนัยนัยถึงวัตถุประสงค์ของการมาของเราในวันนี้ ซึ่งฉันเชื่อว่ามันเป็นเพลงเดียวที่ฉันนึกได้ในตอนนั้น ที่จะสื่อความหมายของการมาของพวกเราทั้ง 60 ชีวิตที่ได้ดีสุด  เพราะการเดินทางของพวกเรามีจุดหมายเดียวกันคือเพื่อตามหาและเติมพลังให้กับชีวิตที่วันหนึ่งได้ขาดหายไปพร้อมกับข่าวร้ายที่หมอบอกว่า “ คุณแม่ คุณพ่อ หมอมีข่าวไม่ค่อยดีจะบอก  ลูกของคุณพ่อคุณแม่เป็นมะเร็งนะคะ ” ถึงแม้จะเข้มแข็งขนาดไหนเชื่อว่าวินาทีนั้นเป็นใครก็คงหมดเรี่ยวแรงพลัง

เมื่อเพลงจบลง ฉันกล่าวทักทายและต้อนรับชาวค่ายและแจ้งวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตผู้ป่วยเด็กและผู้ดูแลของทีมนำทางคลินิกกุมารเวชกรรมอีกครั้ง และเพื่อให้ชาวค่ายได้มีส่วนร่วมมากที่สุดฉันทักทายชาวค่ายอีกครั้งด้วยเพลงเพลงนี้ “ สวัสดีน้องสาว ผิวเจ้าขาวผ่องพรรณดังสวรรค์ ลงมาแต่ง มาแต่ง มาแต่ง มาแต่ง เชิญเข้ามาน้องสาว เชิญเข้ามาน้องสาวเจ้าอย่าได้เอียงอาย เจ้าอย่าได้เอียงอาย มาให้อ้ายชื่นหัวใจ มาให้อ้ายชื่นหัวใจ” และที่สำคัญฉันได้เชิญชวนให้ชาวค่ายลุกขึ้นแสดงท่าประกอบเพลงสวัสดีน้องสาวและทุกคนทำได้อย่างน่ารักและสวยงาม แต่กว่าที่จะได้ท่าประกอบที่สวยงามต้องขอขอบคุณชุดสาธิตทั้งสามสาวที่ออกหน้ามาทำให้ดูเป็นตัวอย่างอยู่หลายรอบ นั่นก็คือ เก๊าะ แก้ว และใยซึ่งวันนี้ถอดหมวกขาว ชุดขาวเพื่อมาเป็นชุดสาธิตด้วยจิตอาสาเต็มร้อย  และชาวค่ายทุกคนต่างก็สนุกสนานกับกิจกรรมแรกที่เรียกว่ากิจกรรมละลายพฤติกรรม  ก่อนที่กิจกรรมดีดีอีกมากมายจะดำเนินต่อไปตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ที่เราจะอยู่ร่วมกัน ไร่ภูพานรีสอร์ทแห่งนี้ เสร็จสิ้นจากการทักทายกันแล้ว หน้าที่ต่อไปของฉันก็คือทำให้ชาวค่ายได้รู้จักกัน ซึ่งสมาชิกชาวค่ายในวันนี้ประกอบไปด้วยผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งและผู้ปกครอง พี่ๆพยาบาล  นักสังคมสงเคราะห์ และที่ดีใจที่สุดคืออาจารย์หมอสุรพล ท่านมาด้วย อาจารย์เป็นประธานค่ายและเป็นผู้ริเริ่มให้มีโครงการค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งและผู้ดูแลนี้ขึ้นโดยเราจัดครั้งแรกไปแล้วที่อินเตอร์รีสอร์ท  อุดรธานี ครั้งที่ 2 จัดที่แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สถานีวิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช นครราชสีมา ซึ่งครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่ 3 แล้ว ที่ดีใจมากไปกว่านั้น คืออาจารย์ได้ชวนจิตอาสาที่เป็นนักศึกษาแพทย์ปี 5 ทั้งหมดสิบกว่าคนมาช่วยในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ด้วย  ซึ่งฉันเชื่อเหลือเกินว่าในอนาคตเขาเหล่านี้จะจบเป็นหมอที่ดีดังเจตนารมย์ของ ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ที่ต้องการให้หมอทุกคนมีศิลปะในการเยียวยารักษาโรคที่ต้องการความเข้าใจชีวิตและมีความละเอียดอ่อนต่อความเป็นมนุษย์

            เสร็จสิ้นจากกิจกรรมภาคกลางวันของค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตผู้ป่วยเด็กมะเร็งและผู้ดูแลสิ่งที่ฉันเห็นก็คือรอยยิ้ม ความสุข ความสนุกสนาน ผ่อนคลาย และฉันเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ชาวค่ายทุกคนได้รับแน่นอนคือกำลังใจ พลังใจไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมกลุ่มสารทุกข์สุกดิบแบ่งปันประสบการณ์ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละคนแต่ละครอบครัวซึ่งทำให้ทีมเห็นความเป็นไป ความทุกข์ยาก ปัญหา และการเผชิญปัญหาของแต่ละครอบครัวว่ามีความยากลำบากเพียงใด บางทีเราไม่เคยรู้มาก่อนด้วยซ้ำ เพราะเห็นหน้ากันในโรงพยาบาลก็จะมีแต่ฉีดยาเคมีบำบัด ฉีดยาฆ่าเชื้อ เจาะเลือด แทงน้ำเกลือ  ทุกอย่างล้วนแต่เป็นความเครียดที่ไม่อาจเลี่ยงได้ แม้กระทั่งในที่กลุ่มสูญเสียลูกจากโรคมะเร็งซึ่งในครั้งนี้มาร่วมกิจกรรมกับเรา 4 ครอบครัวเราก็ได้เห็นความยากลำบากในการเผชิญกับความเศร้าโศกจากที่ต้องสูญเสียลูก  อย่างน้อยการมาร่วมกิจกรรมในคราวนี้เราก็ได้ทำให้เขามีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ และอีกกิจกรรมหนึ่งที่ต้องบอกว่าชาวค่ายทุกคนประทับใจก็คือ ฐานแสดงบทบาทสมมุติ ซึ่งฐานนี้พี่เกศหรือป้าเกศของเด็กๆเป็นผู้รับผิดชอบต้องขอยกนิ้วให้เพราะสร้างเสียงหัวเราะและแง่คิดอะไรดีดีหลายอย่างในการให้การบริการคนไข้เด็กโรคมะเร็งและครอบครัว โดยให้โจทย์การแสดงที่เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เกิดขึ้นในหอผู้ป่วยเด็ก ให้พยาบาลแสดงเป็นพยาบาลก็คงจะธรรมดาไป ดังนั้นจึงแลกบทบาทกัน ให้คนไข้แสดงเป็นหมอบ้าง ส่วนพี่พยาบาลก็แสดงเป็นคนไข้ และเป็นญาติคนไข้บ้าง ประเด็นเป้าหมายของกิจกรรมนี้ก็คือให้เข้าถึงจิตใจและความรู้สึกที่แต่ละคนเป็นทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจกันระหว่างทีมการดูแลกับผู้ป่วยเด็กผู้ปกครอง แหม ! เยี่ยมยอดจริงๆ และกิจกรรมหนึ่งที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้นั่นคือฐานศิลปะและดนตรีทั้งสองฐานนี้ฉันได้เห็นความมีส่วนร่วมของชาวค่ายทุกคนและเป็นไปตามความรู้และทฤษฎีการเบี่ยงเบนความสนใจ ( Distraction) เพราะศิลปะกับดนตรีถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่เราใช้ในการเบี่ยงเบนความสนใจคนไข้ของเรา เพราะการจดจ่ออยู่กับการเพ้นกระเป๋าผ้า การมุ่งมั่นในการแข่งขันทายเพลงและร่วมกันร้องเพลงในแต่ละกลุ่มทำให้ฉันเชื่อว่าพวกเขาสามารถลืมความทุกข์จากความเจ็บป่วยไปชั่วขณะเลยทีเดียว

       และเมื่อทุกคนต่างก็ได้พักผ่อนตามอัธยาศัยไม่ว่าจะเป็นปั่นจักรยานเสือภูเขา ชมฟาร์มนกกระจอกเทศ ชมสวนผลไม้ตามฤดูกาล  ชมฟาร์มเลี้ยงกวาง  บางส่วนก็ออกกำลังกายโดยการแข่งขันตีปิงปอง แข่งขันตีแบดมินตัน ก็ได้เวลาอาหารเย็นและกิจกรรมในช่วงกลางคืนเสียที  กิจกรรมแรกในช่วงค่ำ ก็คือเล่าเรื่องราวค่ายที่ผ่านมาทั้งสองครั้งผ่าน Multivision  จากนั้นก็เป็นความซาบซึ้งของกิจกรรมบอกรักแม่ผ่านจดหมายของเด็กๆ ซึ่งเป็นผลงานจากการทำกลุ่มในช่วงเช้า  ทำเอาแม่ แม่ทั้งหลายน้ำตาซึมไปตามตามกัน จากนั้นเข้าสู่การประกวดเทพบุตรและเทพธิดาค่าย ซึ่งผู้เข้าประกวดแต่ละคนต่างก็งัดทีเด็ด ลีลาต่างๆเพื่อให้ชนะใจกรรมการ สร้างความครื้นเครงและเสียงหัวเราะไม่น้อย ผลการประกวดผู้ชนะเลิศและได้รับรางวัลเป็นสายสะพายและมงกุฎสำหรับเทพธิดาค่ายก็คือแม่น้องติ๊ก ส่วนเทพบุตรค่ายผู้ที่ชนะใจกรรมการคือน้องจอร์นนี่รับสายสะพายจากท่านประธานด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข 

 งานในค่ำคืนนี้จบลงด้วยความสนุกสนานกับการร่วมร้องคาราโอเกะก่อนที่จะส่งทุกคนเข้านอนพร้อมกับความประทับใจของทุกๆกิจกรรมในวันนี้

            เข้าสู่วันที่สองของกิจกรรมค่ายและถือเป็นวันสุดท้ายที่ชาวค่ายจะได้ร่วมแบ่งปันความสุขให้แก่กันและกัน ทุกคนกระวีกระวาดตื่นแต่เช้าเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้า  เมื่อได้เวลาอาหารฉันรีบประชาสัมพันธ์แจ้งกำหนดการให้ชาวค่ายได้รับทราบถึงกิจกรรมของวันนี้  และหลังจากรับประทานอาหารเสร็จ ทุกคนต่างก็มาพร้อมเพรียงกันตามกำหนดนัดหมายที่ห้องประชุมเพื่อทำพิธีปิดค่าย ท่ามกลางความเงียบ.............เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นพร้อมกับลำนำแห่งค่ายสร้างเสริมพลังชีวิตประหนึ่งบอกให้ชาวค่ายได้รับรู้ว่า  บัดนี้ได้เวลาที่เราจะจากกันแล้ว......................

            ค่ายสร้างเสริมเติมพลังในครั้งนี้         เรายินดีปรีดิ์เปรม เกษมสันต์

            เดินทางไกลสู่จุดหมายไร่ภูพาน         เพื่อเติมฝันเติมไฟให้ลุกโชน

            เพื่อน้องๆเด็กน้อยที่เรารัก                 เพื่อหยุดพักโรคร้ายคลายหมองหม่น

            ผ่านคืนวันอันโหดร้ายหายทุกข์ทน    เปลี่ยนฟ้ามืดมัวหม่นของวันวาน

            ให้เป็นฟ้าสีทองของวันใหม่              ยิ้มสดใสก้าวไปให้พ้นผ่าน

            ขอคุณพระคุ้มครองปกป้องพลัน       บูรพาจารย์ทั่วหล้าโปรดมาดล 

            ไร่ภูพานรีสอร์ทที่แห่งนี้                      ได้มาพบสิ่งดีดีมีมรรคผล

            ขอทุกท่านจารึกไว้ในกมล      โบกมือลาให้ทุกคนจงโชคดี

จบจากเสียงขับลำนำ...เสียงเพลงกำลังใจก็ดังขึ้น ต่อด้วยเพลงเก็บตะวัน เราทุกคนต่างจับมือล้อมรอบเป็นวงกลมและรวมพลังขับขานเพลงอำลา ฉันแอบเห็นหลายคนร้องไห้แต่คงเป็นน้ำตาแห่งความสุขความปลื้มปิติ และน้ำตาแห่งความคิดถึงมากกว่า และแล้วเราก็ได้ปลูกต้นไม้แห่งความสุขร่วมกันภายในเวลาเพียงแค่ 2 วัน  ต้นไม้ต้นนี้ได้แผ่กิ่งก้านสาขางดงามท่ามกลางต้นไม้เขียวชอุ่มที่ล้อมรอบอยู่ ณ ไร่ภูพานรีสอร์ทแห่งนี้ อากาศหนาวแต่อบอุ่นมาก  โครงการนี้ดีมากเพราะเป็นการบรรเทาความทุกข์ทางใจทั้งญาติและผู้ป่วย” ถ้ามีกิจกรรมอีกจะติดตามไปเรื่อยๆ ประทับใจเจ้าหน้าที่ทุกคน ” รูปแบบกิจกรรมเป็นกันเอง มีการแบ่งปันความคิดเห็นความสนุกสนานไม่เน้นวิชาการ มีแต่ความสบายทำให้เกิดความผ่อนคลาย” และนี่คือส่วนหนึ่งของก้านใบที่เด็ดมาจากต้นไม้แห่งความสุข  แสดงให้เห็นว่าชาวค่ายทุกคนทั้งผู้ป่วยเด็ก ผู้ปกครอง ตลอดทั้งเจ้าหน้าที่ ที่มาได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการมาในครั้งนี้แล้วนั่นก็คือได้มา เติมฮักเติมแฮง เพื่อวันพรุ่งนี้จะได้มีแรงพลังในการต่อสู้กับโรคร้ายต่อไป

 

หมายเลขบันทึก: 267239เขียนเมื่อ 10 มิถุนายน 2009 20:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (13)

มาติดตามผลงานน้องกุ้ง เติมฮักเติมแฮงให้กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

มีแฮงทั้งคนอ่าน คนเขียน พี่ไก่ชอบมากคะ

P ขอบคุณพี่ไก่ที่มาเป็นกำลังใจให้คนเเรก เติมฮัก เติมเเองให้กันเเละกันนะคะชาวเรา g2k พี่ไก่ขากุ้งอยากฉีดวัคซีนค่ะไปฉีดได้มั๊ยคะพรุ่งนี้

  • มาให้กำลังใจในการทำงานค่ะ
  • ฝันดีนะคะ
  • โอ้ววววว
  • กิจกรรมน่าส่งเสริม ๆ อิอิ
  • ตามน้องมะเดี่ยวมา
  • อยากเห็นภาพกิจกรรมจัง
  • มาให้กำลังใจพี่ๆครับ

P มะเดี่ยว ค่ายครั้งต่อไปพี่กุ้งเชิญนะ จองตัวไว้ทำตัวให้ว่าง

วันที่ 15 มีกิจกรรมกลุ่มสนับสนุนผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งและผู้ดูแลจัดที่ข้างศาลเจ้าพ่อมอดินเเดง มะเดี่ยวเเวะมาขอนเเก่นหรือเปล่ามาช่วยหน่อยนะ

P อาจารย์ขจิตหายไปนานงานคงยุ่งขอบคุณที่เเวะมาเป็นกำลังใจ

ภาพกิจกรรมตามมาชมได้ที่บันทึกนี้ของพี่เกศค่ะ

 

สวัสดีค่ะ  ทักทายวันหยุดค่ะ  มีความสุขนะคะ

มี love มาฝาก

สวัสดีค่ะ  มีความสุขนะคะ

ห่วงใย

สวัสดีค่ะ พี่กุ้ง

พอลล่ามาแน่ๆ ค่ะ

มาซื้อที่แถวๆ ขอนแก่น อิอิ

ขอโทษที่ไม่ได้ไปทักทายนะคะ

ยุ่ง ๆ ค่ะ 

หลังประเมินสมศ.  ก็ญาติไม่สบาย

วันนี้พอมีเวลาก็เลยมาลุย...สร้างบล็อกค่ะ

ขอให้พี่สาวสุขภาพแข็งแรงนะคะ

มาส่งกำลังใจให้ผู้ป่วย...และคนดูแลด้วยนะคะ

—•ï¡÷¡ï• น้ำพริกอ่อง •ï¡÷¡ï•—

มาช้ายังดีกว่าไม่มาค่ะน้องปลายฟ้า

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท