มีหลายท่านกล่าวว่า อายุเป็นเพียงตัวเลข แต่หัวใจไม่มีวันแก่
วันวาเลนไทม์ ที่ผ่านมา ไม่เห็นจะอาย คุณตาคุณยาย ชาวจังหวัดสุรินทร์ อายุ 75 และ 74 ปี ตามลำดับ ยังตกลงแต่งงานกันในวันวาเลนไทม์ปี่ที่ผ่านมา
อายุจึงไม่เป็นสิ่งต้องห้ามในเรื่องของความรักแต่อย่างใด ไฉนเลยตามกฎหมายไทย ใยจะต้องมาหวงห้ามในสิ่งที่ผู้สูงอายุต้องการจะเป็นด้วยเล่า
คุณยุพินกับคุณยุทธนา อยู่กินด้วยกันโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่มีบุตรที่ยังมีชีวิตอยู่ ขณะที่อยู่ด้วยกันมีที่ดินอยู่ 3 แปลง มีชื่อบุคคลทั้งสองถือกรรมสิทธิ์ และอีกแปลงมีชื่อคุณยุพาน้องสาวของคุณยุพินมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ร่วมกัน
ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2542 คุณยุพินขี้เกียจหายใจ จึงขอลาลับกลับบ้านเก่าไปเสียก่อน ปล่อยทิ้งให้คุณยุทธนา นอนห่อเหี่ยวเปลี่ยวเอกาอยู่คนเดียวในบั้นปลายของชีวิต อย่างน่าสงสาร
ส่วนคุณยุพา เมื่อพี่สาวลาลับไปแล้ว จะหันมาร่วมหอลงโลง.. เอ้ย.. ลงเรือนด้วยกันกับคุณยุทธนา ดูจะไม่ไหว สู่จะขอเอาที่ดินทั้ง 3 แปลงเป็นของตนดีกว่า ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ดิน เพื่อดำเนินการ แต่กลับได้รับคำแนะนำว่า ทำไม่ได้ เพราะคุณยุพิน ไม่ได้ตั้งผู้ใดเป็นผู้จัดการมรดกและไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ขอให้ไปร้องต่อศาลตั้งผู้จัดการมรดกของผู้ตายเสียก่อน
คุณยุพาจึงต้องไปยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลตั้งตนเองเป็นผู้จัดการมรดกของคุณยุพินพี่สาว โดยอ้างว่าการจัดการมรดกขัดข้อง และตนเองเป็นพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันกับผู้ตาย เป็นผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดก
คุณยุทธนาพี่เขย เมื่อได้ทราบก็ไม่รอช้า รีบยื่นคำร้องขอคัดค้านต่อศาลทันที่ ขอเข้าร่วมเป็นผู้จัดการมรดกของนางยุพาผู้ตายด้วย
คุณยุพาก็คัดค้านทันทีเช่นกัน โดยคัดค้านว่าคุณยุทธนาเป็นสามีที่มิชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่ได้จดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ใช่ทายาท และแถมคัดค้านว่าแก่เกินแกง เพราะมีอายุมากกว่า 90 ปี แล้ว ทำอะไรก็ไม่ไหว ยังจะมาขอเป้นผู้จัดการมรดกอีก ไม่มีส่วนได้เสีย และไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดก
ตามกฎหมาย “กองมรดก” ได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย ตลอดทั้งสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่าง ๆเว้นแต่โดยสภาพและ เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้
“กองมรดก ” จะตกทอดแกทายาทโดยธรรมหรือผู้รับพินัยกรรม หากไม่มีก็ตกแก่แผ่นดิน
ผู้มีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้แก่ทายาท หรือผู้มีส่วนได้เสีย หรือพนักงานอัยการ
สาเหตุที่จะร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ได้แก่ทายาทหรือผู้รับพินัยกรรมสูญหาย หรืออยู่ต่างประเทศหรือเป็นผู้เยาว์ หรือมีเหตุขัดข้องในการจัดการมรดก
บุคคลที่กฎหมายห้าม ไม่ให้เป็นผู้จัดการมรดก ได้แก่ผู้ยังไม่บรรลุนิติภาว ะหรือ บุคคลวิกลจริต หรือ เ ป็นบุคคลล้มละลาย
เมื่อดูตามกฎหมายแล้ว เห็นว่าผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ต้องเป็นทายาทหรือผู้รับพินัยกรรมโดยตรงทุกกรณี การที่คุณตายุทธนาอยู่กินกับคุณยายยุพิน ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และมีชื่อถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้ง 3 แปลงร่วมกัน จึงมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องในที่ดินดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสีย
ส่วนที่คัดค้านว่าคุณตายุทธน า มีอายุ 90 ปี แล้ว ไม่สมควรเป็นผู้จัดการมรดกนั้น เมื่อคุณตาสามารถมายื่นคำร้องและมาเบิกความต่อศาลได้ แถมยังมีสติสัมปชัญญะดี มีความูร้สึกรับผิดชอบและสามารถทำนิติกรรมได้ ก็ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย จึงเป็นผู้จัดการมรดกได้
ศาลจึงมีคำสั่งให้บุคคลทั้งสองเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันได้ ... อายุจึงเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้น
... หากมีปัญหาคราใด อย่าลืมไปปรึกษาอัยการ หรือ โทรไปที่ 1157 ...!!!
มาอ่านเรียนรู้ค่ะ
ขอบคุณมากมายค่ะ
มีความสุข ในการทำงาน นะคะ
เอาส้มมาฝากค่ะ
ขอบคุณมาก ๆ เลยครับ
อายุเป็นเพียงตัวเลขจริงๆค่ะ..
ขอบคุณค่ะ
@ เพิ่งจะถึงบางอ้อเกี่ยวกับคุณสมบัติ "ผู้จัดการมรดก"
@ พ่อแม่เสียชีวิต มีลูก ๙ คน ท่านทิ้งมรดกไว้ให้ลูกๆ แต่มีข้อแม้ว่าที่ดินจะต้องแบ่งให้ลูกๆ เพียง ๕ คนเท่านั้น อีก ๔ คนจะไม่ได้รับส่วนแบ่งในกองมรดก เรียนถามว่า ถ้าหากจะทำการแบ่งและโอนมรดกเป็นชื่อลูกๆ ทั้ง ๕ คน โดยลูกทั้ง ๙ คนขาดคุณสมบัติของผู้จัดการมรดก จำเป็นที่จะต้องจ้างทนายให้ดำเนินการให้หรือไม่ครับ แล้วกรณีการฟ้องผี(ปิดประกาศ ๓๐ วัน)ถ้าไม่มีลูกๆ คนไหนคัดค้านจึงจะสามารถทำการโอนได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า
@ ขอบพระคุณครับ
ยังงี้เสนอ อจ.สคช.ให้พิมพ์เป็นรูปเล่มแจกจ่ายได้เลยครับ อ่านเข้าใจง่ายดีกว่ามีแต่เรื่องตัวบท เพราะเราหยิบมาอ่านเองยังไม่ค่อยอยากอ่านเลย แจกไปแล้วชาวบ้านเขาก็คงไม่อยากอ่านเหมือนเรา แต่ถ้าเขียนแบบนี้ เข้าท่าครับ...หนับหนุน อิอิ
@ เห็นด้วยอย่างยิ่งกับท่านอัยการชาวเกาะ
@ ขอบขอบพระคุณอย่างสูงที่ให้ความกระจ่างครับ