คำถามที่ ๑

              กรณีตามคำถามเห็นว่า จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แรงบันดาลใจที่ทำให้ต้องทุ่มเทพลังต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ต่าง ๆ เนื่องจากขาดโอกาสในการศึกษาในระบบ และได้ศึกษามานอกระบบตลอดมา โดยเกิดจากแรงบันดาลใจ ดังนี้

               (๑) มีความอยาก (ฉันทะ) คงไม่มีใครปฏิเสธ ที่ทุกคนต้องการทุกอย่างนั้น เริ่มต้นจะต้องมีความอยากมาก่อน จะอยากได้มากหรือน้อยเท่านั้น หากเรามีความอยากเป็น อยากได้ อยากมี อยากเห็นมาก จะทำให้เรามีความกระตือรือร้นที่จะหาสิ่งที่เราต้องการมา การต้องการความรู้ก็เช่นกัน จึงเกิดการกระทำบ่อย ๆ และรักที่จะทำ รักที่จะหา จะค้น เพื่อสนองความต้องการนั้น(เกิดฉันทะ)

              (๒) มากความพากเพียร (วิริยะ) เมื่อคนเรามีความอยาก ความพอใจในสิ่งใดแล้ว สิ่งที่จะได้มาก็คงต้องลงแรงทั้งกายและใจ เพื่อให้ได้ความรู้ที่เราต้องการมา..สิ่งใดที่เราได้มาโดยไม่ได้ลงแรงกาย แรงใจ ด้วยความวิริยะอุตสาหะ สิ่งนั้นมักจะไม่มีคุณค่าในสายตาของเราเสมอ...ดังนั้น สิ่งที่ลงแรง กับ สิงท่ได้มีความคุ้มค่า หรือไม่

              (๓) เวียนทบทวน(จิตตะ) เมื่อได้ลงแรงกาย แรงใจ ได้ความรู้มา ทุกคนคงจะมาทบทวนถึงวิธีการ ขั้นตอนการได้ความรู้มานั้น และกลั่นความรู้ต่าง ๆ เพื่อนำมาพัฒนาในการงานและชีวิต สิ่งใดเป็นแก่น สิ่งใดเป็นกระพี้ ผู้ต้องการความรู้คงจะต้องไปพิจารณาไตร่ตรองและทบทวน

              (๔) ควรปรับปรุง(วิมังสา) การหาความรู้จะต้องมีการใคร่ครวญ หลังจากนั้นจะต้องมาทบทวนแผนงาน วิธีการที่ทำมาควรปรับปรุงหรือไม่อย่างไร และจะนำความรู้ไปใช้อย่างไร จะเก็บไว้ที่ไหน การหาความรู้ที่ผ่านมาควรปรับปรุงอย่างไร แล้วจะนำความรู้ที่ได้ไปเผยแพร่ตามแต่โอกาสจะอำนวยให้ โดยยึดหลักที่ว่า..การให้วิทยาธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง..

   คำถามที่ ๒

  เห็นว่าองค์กรที่จะประสบผลสำเร็จตามวิสัยทัศน์ และพันธกิจ บุคลากรจะต้องมีความรู้ ความเข้าใจในภารกิจขององค์กร มีความรัก ความศรัทธาในองค์กรที่ตนอยู่และรักที่จะเรียนรู้ เมื่อมีความรักในองค์กร และรักในการเรียนรู้แล้ว ควรที่จะจัดกิจกรรม KM ในทุกสายงาน และให้เป็นเรื่องเดียวกันกับการทำงาน ไม่ควรทำในรูปแบบพิธีการ หรือแบบราชการ กลายเป็นรูปแบบหรือเป็นการบังคับไปในตัว

  คำถามที่ ๓

 เห็นว่า หลังจากได้ความรู้ ความเข้าใจจากการสนนา ได้นำความรู้ดังกล่าวมาใช้ในองค์กร โดยได้จัดทำหลักสูตรการอบรมของสำนักงาน จะเน้นให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการองค์ความรุ้มากขึ้น จะมีกิจกรรมแลกเปลี่ยน เรียน รู้ ในทุกหลักสูตร และมีเวทีให้ผู้เข้ารับการอบรม/สัมมนา ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อนำไปจัดเก็บเป็นคลังความรู้ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติงาน และพัฒนาองค์กรให้พัฒนายิ่งขึ้นต่อไป และได้เผยแพร่องค์ความรู้ในช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้บุคลากรได้แลกเปลี่ยน เรียน รู้ ร่วมกันตลอดมา