ใกล้ๆวันสุดท้ายที่จะกลับเมืองไทย ข้าพเจ้าและเหล่ากัลยาณมิตร ก็ได้มีโอกาสไปที่วัดอีกแห่งหนึ่งของสิกขิม เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญอีกเช่นกัน วัดนี้ชื่อวัด Pemayangtse
ตอนเราไปถึงที่ประตูทางเดินเข้าวัด ท่านลามะวัยชราอายุน่าจะประมาณ 80 กว่าๆ ยืนอยู่ที่นั่น เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นพระลามะสูงวัยขนาดนี้ เพราะตลอดหลายวันที่ผ่านมา ในการไปเยี่ยมชมวัดต่างๆ เราพบแต่พระลามะตัวน้อยๆ วัยเยาว์ หรือไม่ก็เป็นพระลามะที่อยู่ในวัยรุ่นๆ ซึ่งมักจะมาแนะนำสถานที่ภายในวัดให้เราทราบ และตอบข้อซักถามที่เราสนใจ
ที่นี่เราได้พบกับพระลามะอาวุโสสูงวัย และท่านมีท่าทางเมตตามาก พร้อมกับพระลามะวัยกลางคนอีกรูปที่พูดภาษาอังกฤษได้คล่องทีเดียว ท่านทั้งสองพอรู้ว่าเรามาจากเมืองไทยต่างมีท่าทางดีใจมาก ท่านยิ้มกว้างและเชื้อเชิญเราเข้าไปเยี่ยมชมวัด
ช่วงเวลาที่เราไปถึง เป็นช่วงเวลาที่ท่านกำลังจะทำวัตรเช้า เราได้รับโอกาสให้เข้าไปนั่งในที่นั้นด้วย แต่น่าเสียดายที่เวลาเรามีน้อยไป จึงอยู่ตรงนั้นได้ไม่นานนัก
เสียงสวดมนต์แบบธิเบตประกอบกับมีเสียงเครื่องเป่าเป็นระยะนั้น อาจจะแตกต่างไปจากการสวดมนต์แบบบ้านเรา แต่โทนเสียงสวดมนต์นั้นให้ความรู้สึกผ่อนคลายและสงบเย็นได้ดีทีเดียว
ท่านลามะวัยกลางคนบอกเราว่า ปีก่อนนั้นท่านเพิ่งไปประชุมที่เมืองไทยมา ท่านไปประชุมกับกลุ่มสังฆะนานาชาติที่อยุธยา ในหัวข้อ Cultural Survival and Revival in the Buddhist Sangha และได้นำรูปที่ท่านได้ไปประชุมและโปสเตอร์มาให้เราดูด้วย ท่านเล่าติดตลกหน่อยๆว่า การไปหนนั้นทำให้ท้องไส้ท่านปั่นป่วนไปไม่น้อยเนื่องจากอาการท้องเสีย เพราะปกติที่นี่ท่านทานมังสะวิรัต แต่พอไปอยู่เมืองไทยช่วงนั้น ท่านเลยได้ทานอาหารแบบที่เราทานกัน ปรากฏว่าท้องไส้ท่านยังปรับตัวไม่ได้เลยท้องเสีย
วัดนี้ให้ความรู้สึกที่ดีๆ กับข้าพเจ้าหลายอย่าง ข้าพเจ้ารับรู้ถึงความจริงใจและเป็นมิตร ความรู้สึกยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง เหมือนชาวพุทธกับชาวพุทธได้มาพบกัน แม้จะต่างนิกาย ต่างวิถีแห่งการปฎิบัติ แต่เราต่างรับรู้ว่าเราคือศิษย์ของพระศากยมุนีพุทธเจ้า เช่นเดียวกัน
แต่อย่างไรไม่รู้ ข้าพเจ้าคิดเห็นไปว่า พระลามะผู้อาวุโสที่วัดนี้ เหมือนจะรู้ล่วงหน้าว่าเราจะมาเยี่ยม เพราะท่านยืนรออยู่ตรงนั้นพอดี ตอนที่เราไปถึงและกำลังจะเดินเข้าไป
ใครจะรู้..อาจจะนานมากๆแล้ว ที่เราอาจเคยอยู่ที่นี่มาก่อน และนี่ก็คือการกลับมาเยี่ยมบ้านของเรา
สวัสดีค่ะ รออ่านมาหลายวันแล้ว ได้อ่านแล้วรู้สึกอยากมีโอกาสได้ไปเยือนดินแดนแห่งนี้บ้าง เพราะรู้สึกว่าได้สัมผัสบรรยากาศที่น่าประทับใจหหลายอย่าง พี่เคยอ่านหนังสือชื่อโอมณีปัทเมหุมเมื่อหลายปีมาแล้วเคยวาดฝันไว้ว่าอยากมีโอกาสไปสัมผัสดินแดนมหัศจรรย์แห่งนี้สักครั้ง บรรยากาศคงจะคล้ายๆกับที่ได้อ่านและได้ชมภาพต่างๆที่หมอยานำมาแบ่งปัน ขอบคุณนะคะที่นำสิ่งดีๆกับจิตใจ และชีวิตมาแบ่งปัน
สวัสดีค่ะพี่เตือน
ดีใจที่พี่เตือนชอบ ถือว่าเราได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกรอบ ทางตัวหนังสือนะคะ
ที่จริงมีรูปวิวสวยๆมากมาย แต่กำลังรอกัลยาณมิตรที่ไปด้วยกัน write มาแบ่งปันอยู่ค่ะ